“ชัยวุฒิ” แนะเด็กรุ่นใหม่มองโลกความจริง อย่าเสพสื่อโซเชียลมากเกิน

กรุงเทพฯ 4 พ.ค. – “ชัยวุฒิ” ลงพื้นที่ตลาดวัดแขก ช่วย “สฤษดิ์” หาเสียง แนะเด็กรุ่นใหม่ให้มองโลกความเป็นจริง ไม่เสพสื่อมีเดียมากจนเกินไป และพิจารณาให้รอบคอบ


วันที่ 4 พ.ค.66 ที่ตลาดวัดแขก ถนนสีลม ซอย 20 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงให้ ดร.สฤษดิ์ ไพรทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 1 เบอร์ 11 มีประชาชนขอถ่ายรูปและรับฟังปัญหา พร้อมชูนโยบายลดค่าครองชีพ การฟื้นตัวของการค้าขาย เศรษฐกิจ และปรับโครงสร้างพลังงาน

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า วันนี้มาเดินตลาดวัดแขก พบว่าประชาชนสนับสนุนนโยบายพรรค พปชร. ในเรื่องการลดค่าครองชีพ ค่าแก๊สหุงต้ม จะลดให้เหลือ 250 บาท/ถัง ซึ่งเป็นนโยบายที่ประชาชนชอบมาก เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าต้องใช้แก๊สในการประกอบอาหาร และมีเรื่องของค่าไฟฟ้า ที่เป็นปัญหาใหญ่ ทุกคนต้องคอยติดตามเรื่องการปรับลดและปรับโครงสร้างราคาพลังงาน โดยจะทำให้เหลือ 2.50 บาท/หน่วย สำหรับครัวเรือน รวมถึงค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่สำคัญจะต้องมีนโยบายเติมเงินให้กับประชาชน เพราะตอนนี้ประเทศไทยพบกับปัญหาสินค้าราคาแพง ประชาชนก็อยากได้เงินลงทุน เพื่อไปทำทุนเพิ่ม โดยทางพรรค พปชร.จะช่วยเหลือคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนละ 30,000 บาท เพื่อไปทำทุนประกอบอาชีพ


นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า ในส่วนนโยบายที่จะทำเร่งด่วนที่สุด คือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และลดราคาพลังงาน เพื่อลดค่าใช้จ่ายของประชาชน เรื่องนี้ประชาชนได้ประโยชน์ทุกคน ในเรื่องลดค่าใช้จ่าย และจะทำให้สินค้าราคาถูก ลดภาวะเงินเฟ้อ และแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อไปในตัว ที่สำคัญความสงบสุขและเสถียรภาพในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และขอให้ประชาชนดูเรื่องนี้ด้วย เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ หากประชาชนเลือก “ผู้แทน” แล้วไปทำนโยบายที่ไกลเกินไป ทำไม่ได้และทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองมีปัญหาได้ นี่คือสิ่งที่พรรค พปชร. เป็นห่วงมาก อยากให้บ้านเมืองสงบสุข พร้อมหาทางออกให้ทุกคนมาร่วมพูดคุยกัน ต้องการแก้ไขปัญหาด้านไหนก็มาพูดคุยกันดีๆ เพื่อหาทางออก ส่วนตัวเชื่อว่า คนไทยที่คิดต่างกัน สามารถหาทางออกด้วยกันได้แน่นอน และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะมาช่วยประสานให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้

ส่วนประเด็นไข่ต้ม ที่มีบางพรรคการเมืองนำมาใช้โจมตีในเวทีดีเบต เรื่องนี้มองว่าเป็นการบูลลี่หรือไม่ นายชัยวุฒิ ตอบว่า เราไม่สามารถห้ามคนให้คิดได้ ทุกคนมีความเชื่อที่ต่างกัน แม้ความจริงจะมีหนึ่งเดียว ซึ่งความเชื่อของสิ่งนั้นมองต่างกันได้ เนื่องจากได้ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องคุยกัน ที่จริงแล้วเรื่องไข่ต้ม ส่วนตัวอยากสะท้อนให้เห็นว่า ความจริงมีหนึ่งเดียว ทุกคนรับประทานไข่ต้มทุกวัน และไข่ต้มเป็นอาหารทั่วไป ไม่มีชนชั้น แต่ก็มีการไปบูลลี่ ทำให้ไข่ต้มกลายเป็นสิ่งไม่ดี “ผมจึงออกมาเซฟไข่ต้ม” ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องการเมืองอะไร เพียงแต่ต้องการสะท้อนให้เด็กรู้จักความพอเพียง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักชีวิตที่ไม่ต้องหรูหราหรืออยู่สบายทุกวัน อยู่ง่ายกินง่าย ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ควรจะสอนกัน ถูกไหม แต่บางคนไปบูลลี่ ทำให้มันเป็นสิ่งที่เสียหาย ส่วนตัวอยากให้มองที่หลักคิดความเป็นคนไทย และนี่คือคอนเซปต์ของไข่ต้มที่อยากให้ทุกคนเข้าใจ

“เด็กรุ่นใหม่ไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ ติดค่านิยม วัตถุนิยมมากเกินไป เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัวมากเกินไป แล้วไม่ทำหน้าที่ตัวเองให้ดี เกิดปัญหาอะไร ได้แต่โทษฟ้าโทษดิน โทษสิ่งรอบตัว แต่ไม่เคยนึกถึงว่าตัวเราทำอะไรดีพอหรือยัง นี่คือสิ่งที่อยากให้ทุกคนช่วยกันคิดให้ประเทศชาติดีขึ้น ถ้าทุกคนช่วยกันทำหน้าที่ให้ดี ประเทศเดินหน้าได้แน่นอน เนื่องจากคนไทยมีทรัพยากรที่พร้อมทุกๆ อย่าง พร้อมเป็นประเทศที่ทำให้ทุกคนอยู่อย่างมีความสุขได้แน่นอน” นายชัยวุฒิ กล่าว


ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า พรรคการเมืองบางพรรคต้องการยกเลิกมาตรา 112 แต่ปัจจุบันกลับบอกว่า แค่ต้องการแก้ไขมาตรา 112 เรื่องนี้มีความคิดเห็นอย่างไร นายชัยวุฒิ มองว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อประชาชน และคนส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องเหล่านี้ เพียงแต่ไม่ควรนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง ส่วนในระยะต่อไป การเมืองหลังเลือกตั้ง ต้องมาพูดคุยกันกับเรื่องนี้ว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ที่สำคัญการที่มีประเด็นทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง จะทำให้รู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจของหลายฝ่าย

ทั้งนี้ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การลงพื้นที่หาเสียง มันก็ต้องโจมตีกันเป็นเรื่องปกติ บางคนทำธุรกิจประสบความสำเร็จ ร่ำรวย ธุรกิจไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่เวลาลงพื้นที่หาเสียงไปบอกว่า ธุรกิจไม่ดีๆ รัฐบาลทำล้มเหลว ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา หาเสียงต้องพูดจาดราม่า พูดจริงบ้าง เท็จบ้าง มั่วบ้าง เพื่อเรียกคะแนนนิยม ส่วนตัวเชื่อว่า คนไทยเวลาติดตามสื่อโซเชียลมีเดีย ต้องใช้วิจารณญาณ ประกอบกับดูข้อเท็จจริงด้วย ไม่ใช่ดูแต่สื่อ ต้องดูโลกความเป็นจริงด้วย อย่างที่ตนมาเดินตลาดวัดแขก พ่อค้าแม่ค้าขายของกัน ขายหมดกันแล้วมั้ง ประชาชนมาซื้อของเต็มไปหมด มันไม่ได้มีปัญหาขนาดนั้นหรอก นักท่องเที่ยวก็เข้ามาแล้ว คนรักเมืองไทย อยากมาเที่ยวเมืองไทย มีแต่คนบอกว่ามาเที่ยวเมืองไทยดี สวยงาม สงบสุข และค่าครองชีพไม่ได้แพง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ตนว่าเราต้องมองความเป็นจริง อย่าไปดูในโซเชียล หรือไปฟังอะไรที่มันเป็นดราม่ามากเกินไป โดยเฉพาะดราม่าการเมือง น่ากลัวกว่าดราม่าในละครชีวิตจริงเสียอีก

อย่างไรก็ตาม อยากฝากความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในกรุงเทพมหานครว่า พรรค พปชร.จะเป็นพรรคหลัก ที่จะมาดูแลชาวกรุงเทพฯ ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น มีนโยบายดีๆ หลายอย่างที่จะมาช่วยประชาชน ซึ่งมั่นใจได้ว่า พรรค พปชร.จะดูแลบ้านเมืองนี้ให้สงบสุข ประชาชนอยู่ดีกินดี และสามารถเดินหน้าไปได้อย่างแน่นอน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งเมียนมา เกิดจากรอยเลื่อนสะกาย ย้ำ กทม.ไม่กระทบโครงสร้าง

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – กรมทรัพยากรธรณี เผยเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.4 ความลึก 10 กม. เกิดจากการเคลื่อนตัวแนวระนาบของรอยเลื่อนสะกาย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของเมียนมา ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 500 กม. ด้านสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ เตือนอย่าตื่นตระหนก คนกรุงบนตึกสูงรู้สึกสั่น แต่ไม่กระทบโครงสร้าง กรมทรัพยากรธรณีชี้แจงกรณีแผ่นดินไหวขนาด 5.4 ความลึก 10 กิโลเมตร เมื่อเวลา 09.58 น. ตามเวลาประเทศไทย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 500 กิโลเมตร การตรวจสอบพบว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดจากการเคลื่อนตัวของ “รอยเลื่อนสะกาย” แนวระนาบเหลื่อมขวา (right-lateral strike-slip fault) ซึ่งมีอัตราการเคลื่อนที่เฉลี่ยปีละ 2 เซนติเมตร รอยเลื่อนนี้เคยสร้างแผ่นดินไหวใหญ่หลายครั้ง อาทิ ปี 2473 ขนาด 7.3 มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน และเมื่อ 28 […]

นายกฯ พยักหน้ารับกำลังใจดี ศาล รธน.นัดชี้ชะตา 29 ส.ค.

ศาลรัฐธรรมนูญ 21 ส.ค.- นายกฯ พยักหน้ารับกำลังใจดี หลังไต่สวนคดีคลิปเสียงเสร็จ ประชาชนตะโกน “นายกฯ สู้ๆ” ด้านศาล รธน. นัดอ่านคำวินิจฉัยคดี 29 ส.ค. ย้ำ ห้ามเผยแพร่ข้อมูลและห้ามบิดเบือน ภายหลังการไต่สวนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที คดีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง โดยนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ศาลได้บันทึกเสียงและภาพการไต่สวนแล้ว และย้ำอีกครั้งว่า ห้ามผู้เข้าฟังการไต่สวน นำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามมิให้บิดเบือนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน ศาลได้สั่งให้คู่กรณียื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันจันทร์ที่ 25 ส.ค. จากเดิมให้ยื่น 27 ส.ค. ซึ่งหากไม่ยื่นจะถือว่าไม่ติดใจ และนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือและลงมติ วันที่ 29 ส.ค. เวลา 09.30 น. นัดอ่านคำวินิจฉัยในวันเดียวกัน เวลา 15.00 […]

แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งคุมเข้ม หลังเหตุคาร์บอมบ์ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

นราธิวาส 21 ส.ค. – ความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์ ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อคืนที่ผ่านมา อส.บาดเจ็บ 6 นาย แม่ทัพภาคที่ 4 รุดตรวจที่เกิดเหตุ สั่งปิดช่องทางหลบหนี คุมเข้มแนวชายแดน ภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุคาร์บอมบ์เมื่อคืนนี้ ช่วงเวลา 20.20 น. บริเวณหน้า จุดตรวจ/จุดสกัด ฐาน ชคต.ศาลาใหม่ ม.1 บ้านโคกมะเฟือง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ก่อนคนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปทางซอยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเล จังหวัดนราธิวาส โดยคนร้ายไม่ทราบจำนวนก่อเหตุใช้รถยนต์ Toyota Yaris สีดำ บรรทุกวัตถุระเบิด ขับเข้าพุ่งชนแนวกระสอบทรายบริเวณดังกล่าว ก่อนคนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปทางซอยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเล จังหวัดนราธิวาส แรงระเบิดส่งผลให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร (อส.) ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ในฐานได้ยิงตอบโต้เพื่อสกัดกั้นเส้นทางของคนร้าย หลังเกิดเหตุ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผอ.รมน.ภาค 4 สั่งการเร่งด่วนให้หน่วยกำลังในพื้นที่ปฏิบัติตามแผนสกัดกั้น ประสานทุกภาคส่วนร่วมปิดล้อมตรวจสอบเส้นทาง […]

รองแม่ทัพภาค 2 โพสต์เล่าที่มาปัญหา “ช่องอานม้า”

21 ส.ค. – รองแม่ทัพภาค 2 โพสต์เล่าที่มาปัญหา ‘ช่องอานม้า’ เป็นบทเรียนของไทย ชี้ความเพิกเฉยต่อประเด็นความมั่นคง ส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ระยะยาว พลตรีณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์เล่าเกี่ยวกับพื้นที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน ว่าความจริงมีหนึ่งเดียว โดยช่องอานม้าเป็นช่องเขาลักษณะคล้ายอานม้า เป็นช่องทางธรรมชาติใช้ชักลากไม้นำเข้าจากกัมพูชา ห้วงสงครามกลางเมืองชาวกัมพูชาได้หนีภัยสู้รบเข้ามา ไทยได้เอื้อเฟื้อ ตั้งศูนย์อพยพตามหลักมนุษยธรรม โดยมีหน่วยงานสหประชาชาติอำนวยการ หลังการสู้รบ ได้ส่งคืนผู้อพยพกลับประเทศ แต่มีส่วนหนึ่งยังคงปักหลักตั้งถิ่นฐานไม่ยอมกลับ ด้วยหลักมนุษยธรรมที่สากลนำมากล่าวอ้างและความไม่เด็ดขาดของเรา ทำให้ไม่สามารถผลักดันกลุ่มคนเหล่านี้ออกจากพื้นที่ได้หมดและยืดเยื้อจนเป็นปัญหาถึงปัจจุบัน ปี 2542 ไทยและกัมพูชา เห็นชอบเปิดช่องอานม้าเป็นจุดผ่อนปรนเพื่อการค้า กำหนดให้ตลาดฝั่งกัมพูชาอยู่ชุมชนเดิม แต่กัมพูชาจับจองพื้นที่ขยายชุมชนจาก 30 หลังเป็นกว่า 100 หลัง ขณะที่ตลาดฝั่งไทยกลับลึกเข้ามาจากแนวเขตแดน 300 เมตร ปี 2554 ในขณะมีข้อขัดแย้งพื้นที่เขาพระวิหาร กัมพูชาใช้ห้วงเวลาที่เราตรึงการรบแอบสร้างอนุสาวรีย์ตาอม และปรับปรุงมาเรื่อยๆ จากแบบชั่วคราว จนเป็นแบบถาวรและขยายบ้านเรือน ฝ่ายทหารได้พยายามแก้ไขด้วยการเจรจาและประท้วง ผ่านกลไกทางทหารและกระทรวงการต่างประเทศ รวม 65 ครั้ง แต่ฝ่ายกัมพูชาเพิกเฉย ซึ่งสร้างความอึดอัดแก่ทหารในพื้นที่เป็นอย่างมาก […]