มจพ. แถลงสร้างดาวเทียมเตรียมวิศวะฯ ไทย-เยอรมัน

20 พ.ค. – มจพ. แถลงข่าวสร้างดาวเทียมของนักเรียนโรงเรียนเตรียมวิศวกรรมศาสตร์ ไทย-เยอรมัน เตรียมส่งดาวเทียมเพื่อการศึกษาสู่อวกาศ


มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) จัดงานแถลงข่าวสร้างดาวเทียมของนักเรียนโรงเรียนเตรียมวิศวกรรมศาสตร์ ไทย-เยอรมัน วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (KNACKSAT-2 TGPS) ในวันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม 2565 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมราชพฤกษ์ อาคารนวมินทรราชินี มจพ. โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน อธิการบดี มจพ. เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว พร้อมด้วยทีมนักวิจัยโครงการดาวเทียมแนคแซท

มจพ. เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านการวิจัยหลากหลายสาขาวิชา หนึ่งในนั้นคือด้านเทคโนโลยีอวกาศ เป็นที่ประจักษ์จากการออกแบบส่งดาวเทียมขนาดเล็กเพื่อการศึกษา “KNACKSAT” ขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2561 เวลา 18:34 UTC จากฐานทัพอากาศ Vandenberg ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.สุวัฒน์ กุลธนปรีดา เป็นหัวหน้าโครงการ และ ดร.พงศธร สายสุจริต เป็นผู้จัดการโครงการ ทีมวิจัยประกอบด้วย บุคลากรและนักศึกษาจากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและการบิน-อวกาศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และบัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย-เยอรมัน เป็นดาวเทียมดวงแรกที่ถูกสร้างและพัฒนาโดยฝีมือคนไทย 100% เป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศในประเทศไทย แสดงถึงศักยภาพของนักวิจัยไทยในการออกแบบและสร้างดาวเทียมด้วยตนเอง


ในปี 2565 มจพ. ได้สนับสนุนโครงการโรงเรียนเตรียมวิศวกรรมศาสตร์ ไทย-เยอรมัน กับภารกิจส่งดาวเทียมเพื่อการศึกษาสู่อวกาศ โดยนักศึกษาระดับต่ำกว่าระดับปริญญาตรี ซึ่งถือว่าเป็นก้าวเล็กๆ ก้าวแรกที่สำคัญในการพัฒนาศักยภาพของนักเรียนสู่ความเป็นเลิศทางด้านเทคโนโลยีอวกาศ

ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน อธิการบดี และผู้บริหาร มจพ. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการเรียนการสอนและการวิจัยในด้านเทคโนโลยีอวกาศ เป็นอีก 1 สาขาที่เป็นจุดเด่นของ มจพ. เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในปัจจุบันและในอนาคต มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต รวมทั้งต่อยอดสร้างสิ่งประดิษฐ์หรือนวัตกรรม เชิงพาณิชย์ช่วยสร้างความมั่นคงและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ในอนาคต ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีอวกาศของ มจพ. ไม่จำกัดอยู่แค่การเรียนการสอนและการวิจัยในระดับอุดมศึกษาเท่านั้น ได้นำมาเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเสริมหลักสูตรของโรงเรียนเตรียมวิศวกรรมศาสตร์ ไทย-เยอรมัน (โรงเรียนเทคนิคไทย-เยอรมัน เดิม) เป็นสถาบันการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรี สังกัดวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มีชื่อเสียง โดดเด่นด้านการฝึกหัดนักเรียนให้มีทักษะ ความชำนาญในงานปฏิบัติ (วิศวกรมือเปื้อน) มายาวนานกว่า 60 ปี การจัดการเรียนการสอนต้องปรับเปลี่ยนให้ทันกับโลกปัจจุบัน การเรียนการสอนของโรงเรียนเตรียมวิศวกรรมศาสตร์ ไทย-เยอรมัน ปัจจุบันส่งเสริมการจัดการศึกษาในรูปแบบ STEM มุ่งเน้นการบูรณาการความรู้ใน 4 สาขาวิชา ได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เพื่อประยุกต์ให้เป็นรูปธรรม นำมาใช้แก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ การออกแบบและสร้างดาวเทียมต้องใช้องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์

ดังนั้น กิจกรรมดังกล่าวเป็นการท้าทายศักยภาพ ความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียน เปิดโอกาสให้นักเรียนได้มีประสบการณ์จริงในการบูรณาการองค์ความรู้ เชื่อมโยงของทั้ง 4 สาขาวิชา สอดคล้องกับปณิธานของโรงเรียนที่ยึดถือมาโดยตลอด จัดการเรียนรู้ด้วยการสร้างประสบการณ์จริงจากการปฏิบัติ นักเรียนของโรงเรียนเตรียมวิศวกรรมศาสตร์ ไทย-เยอรมัน ไม่ได้มีแต่ความชำนาญในทักษะทางวิศวกรรมทั่วไปเท่านั้น แต่ได้ประสบการณ์ตรงด้านเทคโนโลยีอวกาศ มีความสำคัญและมีบทบาทมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ นักเรียนต้องทำงานเป็นทีม พัฒนาทักษะอื่นๆ ที่สำคัญอีกหลากหลายในศตวรรษที่ 21 ต่อการดำเนินชีวิตและการทำงานในอนาคต


ปัจจุบันมีนักเรียน จำนวน 22 คน ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ การฝึกอบรมการสร้างดาวเทียม สำหรับนักเรียนโรงเรียนเตรียมวิศวกรรมศาสตร์ ไทย-เยอรมัน (KNACKSAT-2 TGPS) ทีมงานของ ดร.พงศธร สายสุจริต อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและการบินอวกาศ มจพ. และรักษาการผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีอวกาศนานาชาติเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย (INSTED) และทีมงานโรงเรียนเตรียมวิศวกรรมศาสตร์ ไทย-เยอรมัน เป็นผู้ฝึกอบรมและให้คำปรึกษา เพื่อให้นักเรียนสามารถออกแบบพันธกิจในอวกาศ พัฒนาเพย์โหลด ระหว่างเดือนมีนาคม-กรกฎาคม 2565 โดยเพย์โหลดที่พัฒนาขึ้นนี้จะถูกนำไปติดในดาวเทียม และนำไปทดสอบในอวกาศภายในไตรมาสที่ 2 ของปี พ.ศ.2566 ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง มจพ. และ Kyushu Institute of Technology ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางวิชาการที่สำคัญของ มจพ. ได้ร่วมมือและพัฒนาเทคโนโลยีด้านอวกาศมาอย่างต่อเนื่อง

การที่ มจพ. ขยายการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีอวกาศจากระดับอุดมศึกษาสู่ระดับเตรียมอุดมศึกษา เป็นการส่งเสริมให้เยาวชนเห็นคุณค่าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จุดประกายความสนใจและสร้างแรงบันดาลใจในการศึกษาต่อหรือก้าวเข้าสู่อาชีพด้านเทคโนโลยีอวกาศ เตรียมนักเรียนให้มีความพร้อมที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเองในสาขานี้ต่อไป เพื่อศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย โครงการดังกล่าวจึงเป็นการวางรากฐานการพัฒนาด้านเทคโนโลยีอวกาศ ผ่านการจัดกิจกรรมให้กับเยาวชนที่เป็นกำลังหลักของประเทศไทยในอนาคตต่อไป อีกทั้งเป็นการสร้างความต่อเนื่องในการจัดการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีอวกาศตั้งแต่ระดับเตรียมอุดมศึกษาสู่ระดับอุดมศึกษา โดยภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและการบิน-อวกาศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ. ได้จัดการศึกษาและทำการวิจัยในสาขาดังกล่าวมาโดยตลอด . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ฤทธิ์พายุหนองฟ้าทำหลายจังหวัดอ่วม ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

31 ส.ค. – พายุหนองฟ้าทำพิษ สุโขทัยเจอน้ำท่วมไหลเชี่ยวกรากหลายอำเภอ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ขณะที่ จ.พิษณุโลก น้ำป่าหลากท่วมหลายจุด ต้นพะยอม 100 ปี โค่นขวางถนนกลางเมือง ส่วน จ.สกลนคร พายุกระหน่ำกระทบงานไหว้สาพญาเต่างอย พายุหนองฟ้าทำพิษ จ.สุโขทัย น้ำท่วมหลายอำเภอ โดยพื้นที่ที่กระทบหนักคือ อ.ศรีสัชนาลัย อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมือง อ.กงไกรลาศ อ.บ้านด่านลานหอย และ อ.คีรีมาศ ซึ่งเช้าวันนี้ ปภ.แจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast ไปยังโทรศัพท์มือถือของประชาชนให้รับมือ นอกจากนี้พบว่าพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว อ.เมือง มวลน้ำล้นตลิ่งจากแม่น้ำยม ไหลบ่าเข้าท่วมอย่างรุนแรงและเชี่ยวกราก บ้านเรือนได้รับผลกระทบเกือบ 100 หลัง น้ำป่าเข้าท่วมหลายจุดในพิษณุโลกที่ จ.พิษณุโลก น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ลงสู่ อ.วังทอง และ อ.เนินมะปราง หลังเกิดฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตรเสียหาย โดยถนนทางหลวงช่วงบ้านกกไม้แดง ต.ดินทอง […]

ปชป.ยังไม่มีมติร่วมรัฐบาล กก.บห.มอบหัวหน้าพรรคตัดสินใจ

ปชป. 31 ส.ค. – “เฉลิมชัย” บอก​ ปชป. ยังไม่มีมติเข้าร่วมรัฐบาล ที่ประชุม กก.บห. มอบอำนาจหัวหน้าพรรคตัดสินใจ แจง​จับมือแถลงร่วมเพื่อไทย​ เป็นมารยาท​ เหตุยังร่วม ครม.​ ลั่นสถานการณ์​ปัจจุบัน​ยังไม่มีใครตัดสินใจได้​ ต้องรอฝุ่นจางจะเห็นภาพชัด​ ถ้าด่วนตัดสินใจอาจพลาด​ ย้ำทุกอย่างต้องผ่านมติพรรค ไม่เช่นนั้นเป็นของเถื่อน​ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยใช้เวลากว่า​ 1 ชั่วโมง​ ว่า ต้องบอกว่าวันนี้การเมืองยังไม่มีข้อยุติ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ จึงต้องเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อพูดคุยสถานการณ์การเมืองทั้งหมด และกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนตามข้อบังคับพรรค ซึ่งเมื่อ น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง เท่ากับว่ารัฐบาลได้หมดสิ้นไป การดำเนินการของพรรคประชาธิปัตย์จะต้องมาเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมดตามข้อบังคับพรรค เพื่อให้สามารถบริหารงานได้ทันการ ซึ่งที่ประชุมมีมติ ใช้ข้อบังคับ 1 3 และ 4 ยกเว้นการใช้ข้อบังคับพรรค โดยใช้เสียงไม่เกิน 3 ใน 5 ของกรรมการบริหารพรรคที่เข้าร่วมประชุม […]

“ภูมิธรรม” ลาประชุม ก.ตร. มอบ “บิ๊กต่าย” ปธ.เคาะโผนายพล

31 ส.ค.- ก.ตร. ประชุมครั้งที่ 8/2568 จับตาแต่งตั้งโยกย้ายใหญ่ ขณะที่ “ภูมิธรรม” ติดภารกิจ มอบ ผบ.ตร. นั่งประธานแทน วันที่ 31 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จัดประชุมครั้งที่ 8 ประจำปี 2568 โดยมีวาระสำคัญว่าด้วยการบริหารงานบุคคลและการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นการประชุมใหญ่ที่ถูกจับตามองจากทุกฝ่าย ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 7/2568 มีมติเลื่อนการพิจารณามายังวันนี้ เนื่องจากมีหนังสือร้องเรียนหลายประเด็น รวมถึงกรณีที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ทำให้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม เวชยชัย ประธาน ก.ตร. ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้เนื่องจากติดภารกิจสำคัญเร่งด่วน จึงมีหนังสือถึงที่ประชุมให้ดำเนินการตามข้อบังคับ ก.ตร. ว่าด้วยการประชุมและการลงมติของ ก.ตร. และคณะอนุกรรมการ […]

พรรคร่วมรัฐบาลตอบรับทุกข้อเสนอ “ปชน.” รอเคาะ

พรรคประชาชน 31 ส.ค.- “ภูมิธรรม” เผย พรรคร่วมรัฐบาล ตอบรับทุกข้อเสนอ “ปชน.” รอพรรคประชาชนตัดสินใจ ลั่นทำเร็ว ยุบสภาได้ก่อน 4 เดือน ขณะม็อบหนุน พท. โผล่ให้กำลังใจ “เพื่อไทยสู้ๆ” ภายหลังแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เข้าหารือกับแกนนำพรรคประชาชนประมาณ 1 ชั่วโมง นายภูมิธรรม ได้นำแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลมา แถลงข่าวด้านล่างพรรคประชาชน ขาดเพียงนายเดชอิศม์ ขาวทอง และนายชัยชนะ เดชเดโช แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่ารีบไปประชุม กรรมการบริหารพรรค จึงไม่ได้ร่วมวงสัมภาษณ์ได้ โดยนายภูมิธรรม ระบุว่า ในนามพรรคร่วมรัฐบาล ได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในการประสานจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาชน ซึ่งตัวแทนที่มาวันนี้ (31 ส.ค.) ก็ครบทุกพรรค ส่วนตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติไม่สบาย แต่เขาพร้อม หากไม่สบายใจหรือมีข้อสงสัยก็พร้อมจะซูมเข้ามา ซึ่งข้อเสนอของพรรคร่วมรัฐบาลมีความเป็นเอกภาพ เนื่องจากเห็นว่าการเมืองขณะนี้เป็นช่วงวิกฤต เป็นเรื่องที่ควรจะหาทางออกร่วมกัน ดังนั้นหลังจากที่พูดคุยกันแล้วพรรคร่วมรัฐบาลจึงได้มาพูดคุยกับพรรคประชาชน เนื่องจากพรรคประชาชนเป็นพรรคที่เสนอว่า หากใครรับข้อเสนอของพรรคประชาชนได้ ก็จะนำมาตัดสินใจว่าจะให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้(31 […]