โคราช

ทำเนียบฯ 11 ก.พ. –  นายเทวัญ ลิปตพัลลภ  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ว่า ขณะนี้ กองทุนมีเงินอยู่ประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท ที่ประชุมได้พิจารณาเตรียมนำเงินกองทุนไปช่วยเหลือญาติของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ จากกรณีที่คนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิง ที่ จ.นครราชสีมา คาดว่า นายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการทำงานเฉพาะกิจ วันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.) เพื่อติดตามและมอบเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม จากการให้ความช่วยเหลือของกระทรวงยุติธรรม กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานต่างๆ ที่เป็นกฏระเบียบเดิมอยู่แล้ว  มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน  “เมื่อมีคำสั่งแตงตั้งแล้ว จะมีการเรียกประชุมทันที คาดว่าเงินที่จะจ่ายให้เพิ่มจะเป็นจำนวนที่สูง   หากพิจรารณาจากกรอบการเยียวยาก่อนหน้านี้  อาจคล้ายกับเงินเยียวยาเหตุการณ์ทางการเมืองที่ราชประสงค์ รายละ 1 ล้านบาทสำหรับผู้เสียชีวิต  แต่ต้องรอที่ประชุมพิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบ   และไม่จำเป็นต้องเปิดรับบริจาคเพิ่ม เพราะจังหวัดเปิดรับบริจาคอยู่แล้ว มั่นใจว่าคณะกรรมการจะเร่งดำเนินการได้เร็ว เพราะต้องการที่จะให้เงินถึงมือผู้ได้รับผลกระทบให้เร็วที่สุด” นายเทวัญ กล่าว .- สำนักข่าวไทย  

ที่ประชุม ครม.ตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษเพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุกราดยิง จ.นครราชสีมา นอกเหนือจากสิทธิที่ได้รับตามกฎหมายทั้งข้าราชการ กลุ่มแรงงาน และประชาชน นายกฯ ย้ำวางมาตรการดูแลให้ครบถ้วนทุกด้าน รวมถึงผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบด้วย

รัฐสภา 11 ก.พ.-  นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ข้าราชการ พนักงานและลูกจ้าง ในสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แต่งกายชุดดำในวันพุธ ที่ 12 กุมภาพันธ์ เพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์กราดยิงบริเวณห้างสรรพสินค้าเทอมินอล 21 จ.นครราชสีมา นพ.สุกิจ ยังชี้แจง กรณี ส.ส.อนาคตใหม่ระบุว่า ประธานสภาฯ ไม่เป็นกลาง และพยายามยื้อญัตติขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาเรื่องการเสียบบัตรแทนกันเป็นเรื่องด่วน ว่า  การยื่นญัตติต้องผ่านกลุ่มงานพระราชบัญญัติ และญัตตติ และเมื่อตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่าไม่เข้ากับการเป็นญัตติด่วนตามข้อบังคับการประชุมสภาที่ 50 จึงบรรจุเป็นญัตติธรรมดา ซึ่งตอนนี้อยู่ในระเบียบวาระการประชุมที่ 6.1 ขณะเดียวกัน นายชวนยังได้ให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรสรุปข้อมูล การตรวจสอบเรื่องการกดบัตรแทนกัน  เมื่อได้ข้อมูลแล้วจะส่งให้คณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎรรับไปศึกษาและตรวจสอบต่อไป .- สำนักข่าวไทย