
ยุทธพงศ์อัดรัฐยื้อถกงบเรือดำน้ำ
“ยุทธพงศ์” อัดรัฐบาล ยื้อถกงบเรือดำน้ำ หวั่นฆ่าเวลาผ่านงบอัตโนมัติ มั่นใจสภาฯล่มเรือดำน้ำได้ หาก ปชป.ไม่กลับมติ
“ยุทธพงศ์” อัดรัฐบาล ยื้อถกงบเรือดำน้ำ หวั่นฆ่าเวลาผ่านงบอัตโนมัติ มั่นใจสภาฯล่มเรือดำน้ำได้ หาก ปชป.ไม่กลับมติ
“ชาดา” เรียกร้องให้ใช้เหตุผลตัดสินใจงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำ ระบุพร้อมให้ผ่าน เพราะอนุมัติมาตั้งแต่งบปี 63 แฉ “ยุทธพงศ์” ให้ผ่านเองกับมือในตอนนั้น แต่ปีนี้มาค้าน สงสัยมีวาระซ้อนเร้นหรือไม่
รัฐสภา 27 ส.ค.- นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ในฐานะประธานวิปพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง งบประมาณการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วย ว่าพรรคมอบหมายให้กรรมาธิการฯ ในสัดส่วนของพรรค ไปหารือกับกรรมาธิการของพรรคร่วมรัฐบาล และรอฟังคำชี้แจงของกองทัพเรือ ที่จะมาให้ข้อมูลต่อที่ประชุมกรรมาธิการชุดใหญ่ วันพรุ่งนี้ (28 ส.ค.) เพื่อประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ที่ประชุมใหญ่จะให้ชะลอการจัดซื้อออกไปก่อน ส่วนที่นายกรัฐมนตรีส่งสัญญาณต้องการให้มีการจัดซื้อเรือดำน้ำนั้น นายชินวรณ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบ เพราะอย่างไรก็ต้องรอมติจากที่ประชุมกรรมาธิการงบประมาณชุดใหญ่ ที่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน .- สำนักข่าวไทย
กมธ.งบฯ มีมติเสียงข้างมากเลื่อนลงมติเรือดำน้ำ 31 ส.ค. – เรียก ทร.แจงเพิ่มพรุ่งนี้
“คมสัน โพธิ์คง” เผย สภาตัดหรือชลองบจัดซื้อเรือดำน้ำได้ แม้เคยอนุมัติงบปี 63 แต่เมื่อคืนกลับไป เท่ากับเป็นการเสนอใหม่ ระบุปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นข้อโต้แย้งถึงความเหมาะสม เพราะถูกโจมตีใช้เงินไม่เกิดประโยชน์ ถ้ามองด้านยุทธศาสตร์ การซื้อเรือดำน้ำ มีความจำเป็น
นายกฯ ชี้เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์จะลงมติเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำอย่างไร ทั้งหมดกมธ.งบประมาณฯ จะพิจารณาซึ่งมีอยู่หลายพรรคการเมือง ยันการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาลยังเป็นไปด้วยดี อย่าหยิบมาเป็นประเด็น
ปชป.ย้ำจุดยืนแก้รธน. ลดบทบาทส.ว.
รัฐสภา 26 ส.ค.-“เรืองไกร” ร้อง กมธ.กฎหมายฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงข้อโต้แย้งการซื้อเรือดำน้ำ “สิระ” รับเรื่องไว้ ก่อนมอบคณะทำงานตรวจสอบเข้าข่ายการตรวจสอบของ กมธ.กฎหมายฯ หรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 ส.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะอดีตกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายสิระ เจนจาคะ ในฐานะประธานกรรมมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ มูลค่า 22,500 ล้านบาท ระหว่างข้อกล่าวอ้างของนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจและทุนหมุนเวียน ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 กับข้อชี้แจงของกองทัพเรือ นอกจากนี้หนังสือดังกล่าวยังขอให้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงจากสำนักงบประมาณ ว่างบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำ 22,500 ล้านบาทเป็นงบประมาณปี พ.ศ.2563 ที่ผ่านการเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้วหรือไม่ และกรณีดังกล่าว ส.ส.หรือกรรมาธิการของพรรคเพื่อไทยเคยโต้แย้งเรื่องนี้ในงบประมาณปี 2563 และเคยโต้แย้งใน พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายปี 2563 […]
ทำเนียบฯ 26 ส.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ยันมีเอกสารมอบอำนาจกองทัพเรือลงนามสัญญาจีทูจีซื้อเรือดำน้ำ ปัดทบทวน-ชะลอจัดซื้อ ชี้เป็นยุทธศาสตร์กองทัพเรือ ขณะนี้ทำได้แค่ชะลอการจ่ายเงิน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์เห็นควรให้ชะลอเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำออกไปก่อน โดยจะนำวาระการจัดซื้อเรือดำน้ำออกจากการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 นั้น ว่า เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ ให้ไปถามพรรคประชาธิปัตย์ อย่ามาถามตน ส่วนท่าทีของกรรมาธิการฯ คนอื่นที่มาจากพรรคต่าง ๆ เป็นอย่างไรนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ทราบ ส่วนจะโหวตอย่างไร เป็นเรื่องของกรรมาธิการฯ ทั้งนี้เชื่อว่าจะไม่มีปัญหากับพรรคร่วมอย่างแน่นอน เมื่อถามว่า ควรจัดซื้อเรือดำน้ำถึง 2 ลำหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ได้ดำเนินการไปหมดแล้ว ทางด้านเอกสาร พร้อมถามกลับผู้สื่อข่าวควรซื้อหรือไม่ โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวแทนว่า เป็นยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือที่ได้เตรียมการมานานแล้ว เพราะเพื่อนบ้านก็มีเรือดำน้ำกันหมดแล้ว ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้เปิดเผยหนังสือมอบอำนาจ full power ที่ให้เสธกองทัพเรือ (ในขณะนั้น คือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์) ลงนามในสัญญาระหว่างรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า […]
“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์”เรียกร้องส.ส.ตีตกงบซื้อเรือดำน้ำ ไม่เชื่อป.ช.ป.จะไม่หนุน
“ชวน” ไม่ขอวิจารณ์กรณีประชาธิปัตย์จะไม่โหวตผ่านงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ เพราะเป็นเรื่องของกรรมาธิการ มองการหยิบยกกรณีเรือดำน้ำไปเปรียบเทียบกับกรณียกเลิกจัดซื้อเครื่องบินรบ F18 เมื่อปี 2541 สมัยนายชวนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นเหตุการณ์คนละอย่าง ต้องศึกษาข้อมูลเพราะเป็นข้อมูลที่ต่างกัน
หลังคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ เห็นชอบงบจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ จากจีน วงเงิน 22,500 ล้านบาท มีกระแสคัดค้านจนทำให้กองทัพเรือต้องออกมาแจง แต่งบประมาณจะผ่านหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินสินใจของคณะกรรมาธิการชุดใหญ่พรุ่งนี้