เรือเฟอร์รีอินโดนีเซียล่มกลางทะเล ตาย 9 คน

จาการ์ตา 21 ก.ค. – หน่วยค้นหาและกู้ภัยอินโดนีเซีย ระบุว่า พบศพผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คนจากเหตุเรือเฟอร์รีล่มนอกชายฝั่งเกาะเตอร์นาเต ทางตะวันออกของอินโดนีเซีย เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ เนื่องจากประสบปัญหาสภาพอากาศย่ำแย่ หน่วยค้นหาและกู้ภัยอินโดนีเซียเผยวันนี้ว่า เกิดเหตุเรือเฟอร์รีล่มนอกชายฝั่งเกาะเตอร์นาเตเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ ทำให้มีผู้สูญหาย 13 คน ขณะนี้ เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิต 4 คนเมื่อช่วงค่ำวันพุธ และอีก 5 คนในวันนี้ ทำให้ยังเหลือผู้สูญหายอีก 4 คน เรือเฟอร์รีลำดังกล่าวได้บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือ 77 คนออกเดินทางจากเกาะเตอร์นาเตไปยังเกาะฮัลมาเฮราที่ตั้งอยู่ใกล้กัน เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือผู้รอดชีวิต 64 คนหลังเกิดเหตุเรือล่ม และส่งตัวไปพักที่ชุมชนใกล้เคียง นอกจากนี้ ชาวบ้านท้องถิ่นยังช่วยกันออกเรือหางยาวไปในทะเลเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ค้นหาผู้สูญหายอีกด้วย อินโดนีเซีย ซึ่งมีหมู่เกาะราว 17,000 เกาะ มักเกิดอุบัติเหตุทางทะเลอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากประชาชนจำเป็นต้องพึ่งการเดินทางด้วยเรือเฟอร์รีและเรือเล็กที่มักขาดมาตรฐานด้านความปลอดภัย ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียเคยเกิดเหตุเรือเฟอร์รีชนกองหินในทะเลลึกนอกฝั่งของจังหวัดนูซาเติงการาตะวันออก ทางใต้สุดของอินโดนีเซีย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จนทำให้เรือติดอยู่กลางทะเล 2 วันก่อนได้รับความช่วยเหลือ ทั้งนี้ เรือลำดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารกว่า 800 คน แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ.-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียปัดตกคำร้องแก้ กม. ปลดล็อกกัญชาเพื่อการแพทย์

ศาลรัฐธรรมนูญของอินโดนีเซียปฏิเสธคำร้องให้พิจารณาแก้ไขกฎหมายยาเสพติดเพื่อเปิดทางให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ได้อย่างถูกกฎหมาย

เกาหลีใต้ทดสอบบินเครื่องบินขับไล่พัฒนาเอง

เกาหลีใต้แจ้งว่า เครื่องบินขับไล่ที่เกาหลีใต้พัฒนาเองในประเทศผ่านการทดสอบบินเที่ยวแรกในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายทดแทนเครื่องบินทหารเก่าแก่ในช่วงที่เกาหลีใต้เผชิญภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ

อินโดนีเซียระงับการส่งแรงงานไปมาเลเซียชั่วคราว

อินโดนีเซียกล่าววันนี้ว่า รัฐบาลสั่งระงับการส่งพลเมืองอินโดนีเซียไปทำงานในมาเลเซียเป็นการชั่วคราว ซึ่งรวมถึงแรงงานหลายพันคนที่ได้รับคัดเลือกให้ไปทำงานในภาคเกษตรกรรม โดยได้อ้างว่า มาเลเซียละเมิดข้อตกลงจัดหาแรงงานที่ทั้งสองประเทศลงนามร่วมกัน

ประเด็นยูเครนเป็นวาระสำคัญประชุม รมต. ต่างประเทศ G20

บาหลี 8 ก.ค. – คณะรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มจี 20 ได้เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมที่มีอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพและจัดขึ้นในวันนี้บนเกาะบาหลี โดยมีนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย เข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรกของทั้งสองคนนับตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครน นายบลิงเคนและนายลาฟรอฟได้เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มจี 20 ในวันนี้ โดยที่สหรัฐตั้งเป้าเดินหน้าหาเสียงสนับสนุนจากประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลกเพื่อกดดันรัสเซียจากการบุกโจมตียูเครน นอกจากนี้ นายบลิงเคนจะพยายามรื้อฟื้นการหารือเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน เกี่ยวกับปัญหาตึงเครียดระหว่างสหัฐกับจีนในหลายประเด็น เช่น ไต้หวัน ในขณะเดียวกัน นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอินโดนีเซีย ได้กล่าวเปิดการประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มจี 20 โดยที่มีนายลาฟรอฟนั่งอยู่ด้วยว่า กลุ่มจี 20 ต้องทำหน้าที่ช่วยยุติสงครามให้ได้โดยเร็ว และต้องยุติความขัดแย้งบนโต๊ะเจรจา ไม่ใช่ในสนามรบ ทั้งนี้ การประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มจี 20 ในครั้งนี้ มุ่งเป้าไปที่การรับมือกับผลกระทบจากสงครามที่ทำให้เกิดความไม่มั่นคงด้านอาหารและพลังงาน รวมถึงการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกจากการระบาดของโรคโควิด-19 และปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่รุนแรง โดยมีขึ้นก่อนที่อินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำของกลุ่มจี 20 ในเดือนพฤศจิกายนนี้.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำอินโดนีเซียเผยส่งสารจาก “เซเลนสกี” ถึง “ปูติน” แล้ว

มอสโก 1 ก.ค. – ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย เผยว่า เขาได้ส่งสารจากประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ไปถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ในขณะที่เดินทางเยือนกรุงมอสโกและพบกับผู้นำรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีวิโดโด กล่าวหลังเสร็จสิ้นการหารือกับประธานาธิบดีปูตินว่า เขาได้ส่งสารจากประธานาธิบดีเซเลนสกีไปถึงประธานาธิบดีปูตินแล้ว และพร้อมเป็นตัวกลางในการสื่อสารระหว่างผู้นำรัสเซียกับยูเครน แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารดังกล่าว ผู้นำอินโดนีเซียยังระบุว่า แม้สถานการณ์ของรัสเซียกับยูเครนยังคงเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่เขามองว่าการทำข้อตกลงและการเปิดเจรจาเป็นแนวทางสำคัญในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง อินโดนีเซียต้องการให้สงครามยุติลงโดยเร็ว และขอเรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลกร่วมมือกันเพื่อยุติสงครามครั้งนี้เช่นกัน ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่า การหารือกับประธานาธิบดีวิโดโดมีความคืบหน้าในข้อตกลงร่วมกันหลายประเด็น และจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับอินโดนีเซียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ผู้นำรัสเซียปฏิเสธว่า รัฐบาลรัสเซียไม่ได้ขัดขวางการส่งออกธัญพืชของยูเครน และตั้งคำถามเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากผลผลิตทางการเกษตรของยูเครนที่ขาดหายไปในตลาดโลก ทั้งยังเน้นย้ำว่า ปัญหาตลาดอาหารโลกและราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นเป็นผลมาจากการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียของชาติตะวันตก นอกจากนี้ ประธานาธิบดีปูตินระบุว่า เขาต้องการให้รัสเซียเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลกดังเดิม ขณะนี้ รัสเซียส่งออกข้าวสาลีคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ในตลาดโลก.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำอินโดนีเซียเสนอส่งสารจาก “เซเลนสกี” ถึง “ปูติน”

เคียฟ 30 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย เสนอตัวเป็นผู้ส่งสารจากประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ไปถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เพื่อหวังสร้างสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน ประธานาธิบดีวิโดโดกล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมกับประธานาธิบดีเซเลนสกีในขณะที่เดินทางเยือนยูเครนเมื่อวันพุธว่า แม้การประกาศหยุดยิงเป็นเรื่องยากที่จะสำเร็จ แต่เขาเล็งเห็นถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาเพื่อสันติภาพ เขาได้เสนอตัวเป็นผู้ส่งสารจากประธานาธิบดีเซเลนสกีไปยังประธานาธิบดีปูติน ซึ่งจะมีกำหนดพบกันในขณะที่เขาเดินทางเยือนรัสเซียเป็นลำดับต่อไป ทั้งยังระบุว่า ทั่วโลกต้องช่วยกันทำให้ยูเครนกลับมาส่งออกอาหารได้อีกครั้ง และเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องรับประกันความปลอดภัยในการจัดส่งอาหารของยูเครน โดยเฉพาะการขนส่งทางทะเล ประธานาธิบดีวิโดโด ซึ่งขณะนี้เป็นประธานกลุ่มจี 20 ยังได้เชิญให้ประธานาธิบดีเซเลนสกีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพและมีกำหนดจัดขึ้นที่เกาะบาหลีในเดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้ตอบรับคำเชิญดังกล่าว แต่ระบุว่า เขาจะเข้าร่วมการประชุมผ่านระบบออนไลน์แบบเสมือนจริง หากยูเครนยังคงตกอยู่ในภาวะสงคราม ทั้งนี้ ประธานาธิบดีวิโดโดมีกำหนดเดินทางเยือนกรุงมอสโกเพื่อพบกับประธานาธิบดีปูตินเป็นลำดับต่อไป และเคยระบุก่อนหน้านี้ว่า เขาจะเรียกร้องให้ผู้นำรัสเซียประกาศหยุดยิงในยูเครน.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำอินโดนีเซียจะเยือนยูเครน-รัสเซียสร้างสันติภาพ

จาการ์ตา 26 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียเผยว่า จะใช้ภารกิจเยือนยูเครนและรัสเซียเพื่อสร้างสันติภาพขอให้ผู้นำทั้งสองประเทศเปิดโอกาสให้มีการเจรจา และจะขอให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียสั่งให้หยุดยิงทันที ประธานาธิบดีวิโดโดกล่าววันนี้ก่อนออกเดินทางไปเยอรมนีเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) ในวันจันทร์ว่า สงครามจะต้องยุติ และห่วงโซ่อาหารโลกจะต้องได้รับการฟื้นฟูกลับมาดังเดิม นอกจากนี้เขายังจะชักชวนให้จี 7 ร่วมกันสร้างสันติภาพในยูเครน และหาทางออกที่จะสามารถแก้ไขวิกฤตอาหารและพลังงานโลกได้ทันที ก่อนหน้านี้ผู้นำอินโดนีเซียเผยเมื่อเดือนเมษายนว่า เขาไม่ตอบรับคำขออาวุธจากประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ด้านนางเรตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียกล่าวว่า จะต้องสร้างเส้นทางนำธัญพืชออกมาจากยูเครน และเปิดทางให้มีการส่งออกอาหารและปุ๋ยจากรัสเซีย เพื่อนำสิ่งเหล่านี้กลับเข้าสู่ตลาดโลกอีกครั้งแม้ว่ายังมีสงครามอยู่ก็ตาม และทุกประเทศจะต้องงดการกระทำใด ๆ ที่จะทำให้วิกฤตอาหารเลวร้ายลงไปอีก.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำอินโดนีเซียจะพบกับ “ปูติน” เดือนนี้

ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนของกลุ่มจี 20 มีกำหนดจะเดินทางไปเยือนกรุงมอสโก ของรัสเซียในเดือนนี้เพื่อพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน

อินโดนีเซียเปลี่ยน รมว.การค้า ที่ห้ามส่งออกน้ำมันปาล์ม

จาการ์ตา 15 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซียประกาศปรับคณะรัฐมนตรีในวันนี้ หนึ่งในนั้นเป็นการแต่งตั้งรัฐมนตรีการค้าคนใหม่แทนคนเก่าที่ถูกกดดันอย่างหนักจากการออกนโยบายห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มจนเกิดผลกระทบใหญ่ ประธานาธิบดีวิโดโดซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2 ประกาศปรับคณะรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรีคนใหม่ที่ทำเนียบประธานาธิบดีในวันนี้ ประกอบด้วยรัฐมนตรีการค้า รัฐมนตรีกิจการการเกษตรและการวางแผนที่ดิน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกิจการการเกษตรและการวางแผนที่ดิน และรัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายซูลกิฟลี ฮาซัน วัย 60 ปี ประธานพรรคอาณัติแห่งชาติที่เพิ่งลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาที่ปรึกษาประชาชนหรือรัฐสภาในวันนี้ ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีการค้าคนใหม่ แทนนายมูฮัมหมัด ลุตฟี วัย 52 ปี ที่ถูกกดดันทางการเมืองอย่างหนักจากการดำเนินนโยบายควบคุมราคาน้ำมันปรุงอาหารในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น หนึ่งในนั้นคือการห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มเมื่อปลายเดือนเมษายนก่อนยกเลิกเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม คำสั่งดังกล่าวที่บังคับใช้นาน 3 สัปดาห์ส่งผลกระทบไปทั่วโลก เนื่องจากอินโดนีเซียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดในโลก และนำมาซึ่งการจับกุมกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาว่าทุจริตรับสินบนในเรื่องนี้ นายลุตฟีกล่าวโทษ “มาเฟียน้ำมันปาล์ม” ว่า บ่อนทำลายความพยายามควบคุมราคาน้ำมันพืชสำหรับปรุงอาหาร หลังจากรัฐบาลประกาศห้ามส่งออก.-สำนักข่าวไทย

อินเดียนำเข้าน้ำมันปาล์มลดลงช่วงอินโดนีเซียห้ามส่งออก

มุมไบ 14 มิ.ย.- อินเดียซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันพืชรายใหญ่ที่สุดในโลก นำเข้าน้ำมันปาล์มลดลงร้อยละ 10 ในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากเป็นช่วงที่อินโดนีเซีย ผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มอันดับ 1 ของโลกห้ามการส่งออก สมาคมตัวทำละลายแห่งอินเดียแจ้งว่า เดือนพฤษภาคมปีนี้อินเดียนำเข้าน้ำมันปาล์ม 514,022 ตัน ลดลงร้อยละ 10 จาก 572,508 ตันในเดือนเมษายน โดยต้องนำเข้าจากมาเลเซีย ไทย และปาปัวนิวกินีเพิ่มเติม เนื่องจากอินโดนีเซียมีคำสั่งห้ามส่งออกตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน นักค้ารายหนึ่งคาดว่า อินเดียจะนำเข้าน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 600,000 ตันในเดือนมิถุนายน เพราะอินโดนีเซียได้ยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม แม้ว่ายังคงมีนโยบายปกป้องปริมาณน้ำมันปาล์มในประเทศอยู่ก็ตาม ขณะเดียวกันอินเดียได้นำเข้าน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม โดยนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 เป็น 373,043 ตัน และเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 เป็น 118,482 ตันตามลำดับ อินเดียซื้อน้ำมันถั่วเหลืองจากบราซิล และซื้อน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันจากยูเครนและรัสเซีย คาดว่าอินเดียจะนำเข้าน้ำมันถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนหน้า เนื่องจากรัฐบาลอนุญาตให้นำเข้าโดยปลอดภาษีได้ในปริมาณ 2 ล้านตัน.-สำนักข่าวไทย

1 28 29 30 31 32 141
...