เผยแฟนบอลอินโดฯ หนีออกนอกสนามไม่ได้เพราะประตูล็อก

จาการ์ตา 5 ต.ค.- สมาคมฟุตบอลแห่งอินโดนีเซียเผยว่า ความล่าช้าในการเปิดประตูทางออกที่สนามฟุตบอลซึ่งเกิดจลาจลหลังจบการแข่งขันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก สมาคมฯ แถลงเมื่อวันอังคารว่า ยอดผู้เสียชีวิตมีไม่ต่ำกว่า 130 คน สมาคมฯ มีคำสั่งแบนเป็นการถาวรกับประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ประสานงานความปลอดภัยของสโมสรอาเรมา เอฟซี ซึ่งเป็นเจ้าบ้านนัดที่เกิดเหตุแล้ว โทษฐานไม่ดูแลความปลอดภัยของสนามแข่งขันและไม่รีบสั่งเปิดประตูทางออกอย่างทันท่วงที ประตูทั้งหมดควรต้องเปิดล่วงหน้า 10 นาทีก่อนจบการแข่งขัน แต่ในวันที่เกิดเหตุ หลายประตูยังคงปิดอยู่ทั้งที่กรรมการเป่านกหวีดจบการแข่งขันไปแล้ว 7 นาที คนเปิดประตูมีไม่กี่คนและไปไม่ถึงหลายประตูในช่วงที่ผู้ชมเริ่มยื้อแย่งกันหนีแก๊สน้ำตาที่ตำรวจยิงสกัดแฟนฟุตบอลที่พยายามลงไปในสนาม ด้านตำรวจยังคงยืนยันในวันเดียวกันโดยอ้างภาพจากกล้องวงจรปิดที่ประตูทางออก 6 ประตูจากทั้งหมด 14 ประตู ซึ่งเป็นจุดที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดว่า ประตูไม่ได้ปิดแต่แคบมาก สามารถออกได้คราวละ 2 คน แต่มีคนพยายามหนีออกพร้อม ๆ กันจำนวนมาก ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้จัดการแข่งขัน สำนักข่าวเอพีรายงานอ้างภาพถ่ายจากสนามมาลัง จังหวัดชวาตะวันออกที่เกิดเหตุจลาจลว่า ประตูทางออก 1 ประตู ประกอบด้วยบานประตู 4 บาน สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า (FIFA) และสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียหรือเอเอฟซี (AFC) มีคำแนะนำไว้ว่า ควรต้องปิดประตูทางออกตลอดการแข่งขันเพื่อความปลอดภัย และห้ามใช้แก๊สน้ำตาเป็นเครื่องมือควบคุมฝูงชน อย่างไรก็ดี มาตรฐานความปลอดภัยนี้ไม่ได้บังคับใช้กับการแข่งขันภายในประเทศหรือลีกระดับประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ไว้อาลัยเหยื่อจลาจลสนามบอลอินโดฯ

ชาวอินโดฯ วางดอกไม้ไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต จากเหตุผู้ชมเหยียบกันตายในสนามฟุตบอล สโมสรอารีมา เอฟซี ขณะที่ตำรวจระดับผู้บัญชาการถูกปลดแล้ว 1 ตำแหน่ง

อินโดนีเซียสอบตำรวจเหตุจลาจลที่สนามฟุตบอล

จาการ์ตา 4 ต.ค.- อินโดนีเซียเปิดการสอบสวนตำรวจที่เกี่ยวข้องในเหตุจลาจลที่สนามฟุตบอล ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากถึง 125 คน และเป็นโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งว่า มีการย้ายนายตำรวจท้องถิ่นเมืองมาลัง จังหวัดชวาตะวันออก สั่งพักงานตำรวจ 9 นาย และสอบสวนตำรวจอีก 19 นาย การลงโทษนี้มีขึ้นหลังจากกระแสสังคมเริ่มไม่พอใจมากขึ้น เมื่อผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า เหตุจลาจลที่ทำให้คนเบียดและเหยียบกันเสียชีวิตเกิดจากเจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาไปยังอัฒจรรย์ที่มีผู้ชมนั่งอยู่เป็นจำนวนมากเพื่อสกัดไม่ให้แฟนฟุตบอลลงมาที่สนาม แฟน ๆ สโมสรอาเรมา เอฟซี ซึ่งเป็นทีมเจ้าบ้านนัดที่เกิดเหตุได้ตั้งศูนย์ชั่วคราวในเมืองมาลังเมื่อวันจันทร์เพื่อรับเรื่องร้องเรียนและจะยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ว่าทำให้คนจำนวนมากเสียชีวิต เพราะยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชมที่อยู่ในพื้นที่จำกัดอย่างไม่เลือกหน้า ตำรวจระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุจลาจล และมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ 2 นาย แต่ผู้อยู่ในเหตุการณ์แย้งว่า ตำรวจควรยิงแก๊สน้ำตาไปที่สนามที่กำลังเกิดการจลาจล ไม่ใช่ยิงมาที่คนดูบนอัฒจรรย์ ผู้เสียชีวิตหลายคนคือคนบนอัฒจรรย์ที่วิ่งหนีแก๊สน้ำตาอย่างแตกตื่นจนเกิดการเบียดกันตาย กระทรวงคุ้มครองเด็กและสตรีแจ้งว่า มีเด็ก 32 คนรวมอยู่ในผู้เสียชีวิต ในจำนวนนี้มีทารกวัยเพียง 3-4 ปีด้วย ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขแถลงว่า สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิตได้ครบหมดแล้ว.-สำนักข่าวไทย

โลกฟุตบอลไว้อาลัยเหยื่อโศกนาฏกรรมที่อินโดนีเซีย

ปารีส 3 ต.ค.- สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า (FIFA) นำทีมแสดงความไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นหลังการแข่งขันที่อินโดนีเซียเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายร้อยคน ทางการอินโดนีเซียแจ้งยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดที่ 125 คน เป็นเด็ก 17 คน และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 300 คน นายจานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่าแถลงว่า เป็นวันแห่งความมืดมน และเป็นโศกนาฏกรรมที่เกินความเข้าใจ ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับญาติมิตรของผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมดังกล่าว ฟีฟ่าและชุมชนฟุตบอลโลกขอเป็นกำลังใจให้ผู้ได้รับผลกระทบ ประชาชนชาวอินโดนีเซีย สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียหรือเอเอฟซี (AFC) สมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย และลีกฟุตบอลอินโดนีเซีย ด้านลาลีกา ลีกฟุตบอลระดับสูงสุดของสเปนแถลงว่า จะสงบนิ่งไว้อาลัย 1 นาทีในการแข่งขัน 5 นัดของวันอาทิตย์และวันจันทร์ และอีก 10 นัดในสัปดาห์ถัดไป ขณะที่สโมสรฟุตบอลระดับพรีเมียร์ลีกของอังกฤษพากันทวีตแสดงความไว้อาลัยและให้กำลังใจ นายกิลัง วิดยา ปรามานา ประธานสโมสรอาเรมา เอฟซี ทีมเจ้าบ้านนัดที่เกิดโศกนาฏกรรมแถลงในเว็บไซต์ของสโมสรขอโทษชาวเมืองมาลังทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อแฟน ๆ ของอาเรมาที่บาดเจ็บและเสียชีวิต เขาได้สั่งการให้ทีมบริหารของสโมสรประสานกับศูนย์สาธารณสุขที่กำลังรักษาผู้บาดเจ็บแล้ว และสนับสนุนการสอบสวนของตำรวจอย่างเต็มที่ ขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นจนกว่าจะพบต้นตอของปัญหาอย่างชัดเจน.-สำนักข่าวไทย

แฟนบอลอินโดฯ ไว้อาลัยเหตุจลาจลในสนามฟุตบอล เสียชีวิต 125 ราย

ชาวอินโดนีเซียจำนวนมากร่วมจุดเทียนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุจลาจลและเหยียบกันตายในสนามฟุตบอลที่จังหวัดชวาตะวันออก เมื่อค่ำวันเสาร์ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ถูกปรับลดลงมาเหลือ 125 ราย

จลาจลที่สนามฟุตบอลอินโดนีเซียตายเพิ่มเป็น 174 คนแล้ว

จาการ์ตา 2 ต.ค.- เหตุจลาจลที่สนามฟุตบอลอินโดนีเซียหลังจบการแข่งขันเมื่อคืนวันเสาร์มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 174 คนแล้ว ส่วนใหญ่เสียชีวิตเพราะถูกเบียดและเหยียบ หลังจากตำรวจยิงแก๊สน้ำตาสลายฝูงชนจนผู้คนวิ่งหนีกันอย่างโกลาหล เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อแฟนฟุตบอลทีมอาเรมา เอฟซี ของเมืองมาลัง ที่เป็นเจ้าบ้าน ผิดหวังที่ทีมพ่ายให้แก่ทีมเปอร์เซบายา สุราบายาไป 2 ต่อ 3 ประตู จึงพากันขว้างปาขวดน้ำและสิ่งของใส่นักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ แล้วลงไปประท้วงเต็มสนามคันจูรูฮัน เรียกร้องให้คณะบริหารของทีมชี้แจงว่า เหตุใดทีมที่ไม่เคยแพ้ในบ้านมาตลอด 23 ปี จึงจบเกมด้วยสกอร์ดังกล่าว เหตุจลาจลลุกลามออกไปนอกสนาม มีการเผาทำลายรถตำรวจอย่างน้อย 5 คัน ด้านตำรวจปราบจลาจลตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตา และมีการยิงไปยังผู้คนที่อัฒจรรย์ด้วย ทั้งที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า (FIFA) มีกฎห้ามใช้แก๊สน้ำตาในสนามฟุตบอล ทำให้คนในสนามแห่วิ่งหนีไปยังทางออกเพื่อหนีแก๊สน้ำตา จนเกิดการเบียดกันมีทั้งคนหายใจไม่ออกและคนถูกเหยียบ รายงานระบุว่า มีคนเสียชีวิตในสนามฟุตบอล 34 คน บางรายงานระบุว่ามีเด็กรวมอยู่ด้วย ผู้บัญชาการตำรวจชวาตะวันออกแถลงข่าวในเช้าวันนี้ว่า ตำรวจได้ดำเนินมาตรการป้องกันแล้ว ก่อนตัดสินใจใช้แก๊สน้ำตาในที่สุด เนื่องจากแฟนฟุตบอลเริ่มทำร้ายตำรวจ กระทำการอย่างไร้ขื่อแป และเผายวดยาน ผู้บาดเจ็บมากกว่า 300 คนถูกส่งไปรักษาตัวตามโรงพยาบาลใกล้เคียง แต่หลายคนเสียชีวิตระหว่างทางและระหว่างการรักษา ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดชวาตะวันออกเผยกับคอมปาสทีวีว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 174 คนแล้ว […]

ย้อนรอยเส้นทางความรุนแรงของฟุตบอลอินโดนีเซีย

จาการ์ตา 2 ต.ค.- ภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสนามฟุตบอลจังหวัดชวาตะวันออกของอินโดนีเซียเมื่อคืนวันเสาร์ที่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 129 คน สะท้อนถึงความรุนแรงและความล้มเหลวที่ผ่านมาในการบริหารจัดการกีฬาฟุตบอลของอินโดนีเซีย รอยเตอร์ย้อนรอยเส้นทางกีฬาฟุตบอลของอินโดนีเซียว่า ฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมที่สุดของประเทศนี้ที่มีประชากรมากเกือบ 275 ล้านคน แต่ไม่สามารถนำศักยภาพมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ และไม่เคยได้เข้ารอบคัดเลือกฟุตบอลโลก ยกเว้นปี 2481 ที่เข้ารอบในฐานะที่เป็นอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์ในชื่อ หมู่เกาะอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ กีฬาฟุตบอลของอินโดนีเซียมีปัญหารุมเร้าทั้งในสนามและนอกสนาม รัฐบาลเคยเข้าไปแทรกแซงจนถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า (FIFA) ลงโทษด้วยการสั่งห้ามทีมชาติอินโดนีเซียเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติทุกรายการในปี 2558 ก่อนที่ฟีฟ่าจะยกเลิกโทษแบนในอีกหนึ่งปีถัดมา หลังจากอินโดนีเซียดำเนินการปฏิรูปหลายอย่าง รอยเตอร์ระบุว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันฟุตบอลในอินโดนีเซียยังคงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ เมื่อแฟนฟุตบอลของทีมที่เป็นคู่แข่งมาเจอกันและจบลงด้วยเหตุนองเลือด พร้อมกับอ้างรายงานของบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงออสเตรเลียหรือเอบีซี (ABC) ว่า ช่วงปี 2537-2557 อินโดนีเซียมีแฟนฟุตบอลเสียชีวิตเพราะความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลทั้งหมด 74 คน อินโดนีเซียเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ในเดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งถูกเลื่อนมา 2 ปีเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และได้สมัครขอเป็นเจ้าภาพฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 แข่งกับกาตาร์และเกาหลีใต้ เนื่องจากจีนขอถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพ คาดว่าคณะกรรมการบริหารของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียหรือเอเอฟซี (AFC) จะประกาศชื่อประเทศที่จะได้เป็นเจ้าภาพในวันที่ 17 ตุลาคมนี้.-สำนักข่าวไทย

จลาจลที่สนามฟุตบอลอินโดนีเซีย ตายเกือบ 130 คน

มาลัง 2 ต.ค.- ตำรวจเมืองมาลัง จังหวัดชวาตะวันออกของอินโดนีเซียแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 129 คน บาดเจ็บราว 180 คน จากเหตุแฟนฟุตบอลก่อเหตุจลาจลหลังจบการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศเมื่อค่ำวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตำรวจเผยว่า ต้องใช้แก๊สน้ำตายุติเหตุจลาจลที่สนามคันจูรูฮัน เมื่อแฟนฟุตบอลทีมอาเรมา เอฟซี ที่เป็นเจ้าบ้านพากันวิ่งกรูลงไปในสนาม หลังจากทีมแพ้ให้คู่แข่งอย่างทีมเปอร์เซบายา สุราบายา ไป 2 ต่อ 3 ประตู และเกิดการปะทะกัน ซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานว่า คลิปที่บันทึกจากในสนามและเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เห็นแฟนฟุตบอลปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงที่ดูเหมือนสวมชุดปราบจลาจล ด้านรอยเตอร์รายงานว่า ภาพที่ออกอากาศในสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเห็นถุงบรรจุศพภายในสนามด้วย สมาคมฟุตบอลอินโดนีเซียสั่งพักการแข่งลีกฟุตบอลสูงสุดในสัปดาห์หน้า และห้ามทีมเอเรมา เอฟซี เป็นเจ้าบ้านสำหรับการแข่งขันตลอดฤดูกาลนี้ สมาคมฯ แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นโดยทันทีแล้ว.-สำนักข่าวไทย

แผ่นดินไหวในอินโดนีเซีย-ตายแล้ว 1

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและธรณีฟิสิกส์แห่งชาติของอินโดนีเซีย หรือ บีเอ็มเคจี รายงานว่า เกิดแผนดินไหวขนาดความรุนแรง 5.8 ที่บริเวณจังหวัดสุมาตราเหนือของอินโดนีเซียในวันนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย

อินโดนีเซียอนุมัติใช้วัคซีน mRNA ของจีนเป็นกรณีฉุกเฉิน

จาการ์ตา 30 ก.ย. – อินโดนีเซียอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิดที่ใช้เทคโนโลยีเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทเวชภัณฑ์ของจีน เป็นกรณีฉุกเฉิน โดยถือเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุมัติใช้วัคซีนดังกล่าว สำนักงานอาหารและยาของอินโดนีเซียประกาศอนุมัติใช้วัคซีนโควิดที่ใช้เทคโนโลยีเอ็มอาร์เอ็นเอ ซึ่งพัฒนาโดยวัลแวกซ์ ไบโอเทคโนโลยี บริษัทเวชภัณฑ์ของจีน เป็นกรณีฉุกเฉิน วัคซีนดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เอดับเบิลยูคอร์นา (AWcorna) ได้รับการพัฒนามาเป็นเวลากว่า 2 ปี และมีประสิทธิภาพต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม ทั้งนี้ อินโดนีเซียถือเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุมัติใช้วัคซีนดังกล่าว ซึ่งเป็นการอนุมัติใช้ก่อนจีนที่เป็นประเทศผู้พัฒนาวัคซีนขนานนี้อีกด้วย สำนักข่าวรอยเตอร์สตั้งข้อสังเกตว่า การอนุมัติใช้วัคซีนดังกล่าวของอินโดนีเซียมีขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าประหลาดใจ เพราะวัลแวกซ์ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างทดสอบวัคซีนในหลายประเทศรวมถึงอินโดนีเซีย เม็กซิโก และจีน ยังไม่ได้เปิดเผยประสิทธิภาพของวัคซีนในการต้านทานเชื้อโควิดหรืออัตราป้องกันความเสี่ยงจากอาการป่วยหนักหรือเสียชีวิตในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อ อย่างไรก็ดี เพนนี ลูกิโต หัวหน้าสำนักงานอาหารและยาของอินโดนีเซีย เผยว่า วัคซีนเอดับเบิลยูคอร์นามีประสิทธิภาพต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้ร้อยละ 71.17 และต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์ทั่วไปได้ร้อยละ 83.58 ขณะที่วัลแวกซ์ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า อินโดนีเซียจะนำวัคซีนดังกล่าวมาใช้เป็นจำนวนเท่าใด เนื่องจากขณะนี้มีชาวอินโดนีเซียกว่าร้อยละ 63 ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดส ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจากทั่วโลกต่างแนะนำให้ประเทศต่าง ๆ ใช้วัคซีนโควิดชนิดไบวาเลนต์ (bivalent) ซึ่งเป็นวัคซีนที่พัฒนาขึ้นเพื่อต้านเชื้อโควิด 2 สายพันธุ์ที่แตกต่างกัน ได้แก่ […]

ตุรกีเผยมาเลเซีย-อินโดนีเซียสนใจซื้อโดรนติดอาวุธ

โตเกียว 26 ก.ย.- ตุรกีเผยวันนี้ว่า มาเลเซียและอินโดนีเซียได้แสดงความสนใจเรื่องซื้ออากาศยานไร้คนขับหรือโดรนติดอาวุธจากบริษัทของตุรกี ซึ่งจัดส่งไปให้หลายประเทศแล้ว หลังจากประสบความสำเร็จเมื่อนำไปใช้ในสมรภูมิ นายเมฟเลิต ชาวูโชลู รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีแถลงข่าวที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นก่อนเข้าร่วมรัฐพิธีศพอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นในวันอังคารนี้ว่า หลายประเทศในเอเชียโดยเฉพาะมาเลเซียและอินโดนีเซีย ได้แสดงความสนใจอย่างยิ่งต่อสินค้าด้านกลาโหมของไบคาร์ ซึ่งเป็นบริษัทของตุรกี โดยได้มีการลงนามข้อตกลงแล้ว และหากญี่ปุ่นต้องการโดรน ตุรกีก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะตอบสนองตามความต้องการ โดรนของตุรกีกลายเป็นที่ต้องการในระดับสากลมากขึ้น หลังจากมีส่วนสำคัญต่อการรบในซีเรีย ยูเครน และลิเบีย ล่าสุดไบคาร์ของตุรกีเพิ่งส่งมอบโดรนติดอาวุธจำนวน 20 ลำให้แก่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (UAE) เมื่อไม่กี่วันก่อน.-สำนักข่าวไทย

แผ่นดินไหว 6.2 ตอนเหนือเกาะสุมาตรา สะเทือนถึง 3 จังหวัดภาคใต้

เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.2 บริเวณตอนเหนือของหมู่เกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย รับรู้ได้ถึงสงขลา พังงา ภูเก็ต แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย ด้าน ปภ. สั่งแต่ละพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

1 25 26 27 28 29 141
...