กูเตียร์เรสแวะตุรกีก่อนไปรัสเซีย-ยูเครน
เลขาธิการสหประชาชาติ จะเยือนตุรกี ก่อนเริ่มภารกิจเดินทางไปรัสเซียและยูเครน เพื่อพยายามผลักดันให้เปิดเส้นทางอพยพ และเจรจาสันติภาพ
เลขาธิการสหประชาชาติ จะเยือนตุรกี ก่อนเริ่มภารกิจเดินทางไปรัสเซียและยูเครน เพื่อพยายามผลักดันให้เปิดเส้นทางอพยพ และเจรจาสันติภาพ
นิวยอร์ก 8 เม.ย. – สมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ลงมติระงับสถานะสมาชิกภาพของรัสเซียในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) หลังได้รับรายงานว่ารัสเซียได้กระทำการข่มเหงและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบในยูเครน และรัสเซียก็ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในทันที สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ซึ่งมีประเทศสมาชิก 47 ประเทศ ลงมติระงับสถานะสมาชิกภาพของรัสเซียในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ด้วยเสียงสนับสนุน 93 เสียง ขณะที่มี 24 ประเทศลงมติคัดค้าน และมี 58 ประเทศงดออกเสียง ประเทศที่ลงมติสนับสนุนการระงับสถานะสมาชิกภาพของรัสเซียในครั้งนี้นำโดยสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเมียนมา ส่วนประเทศที่คัดค้าน เช่น จีน ลาว และเวียดนาม ด้านไทยลงมติงดออกเสียงร่วมกับประเทศต่าง ๆ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา อินโดนีเซีย และอินเดีย นายเยนนาดี คุซมิน ผู้ช่วยทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ หรือยูเอ็น กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการลงมติในครั้งนี้ว่า มติดังกล่าวเป็นขั้นตอนที่ผิดกฎหมายและมีแรงจูงใจทางการเมือง ก่อนที่จะประกาศว่า รัสเซียได้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกภาพของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ขณะที่นายเซอร์กี คิสลิสยา […]
เคียฟ 7 เม.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน รู้สึกยินดีที่ชาติตะวันตกได้ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย แต่ระบุว่ามาตรการเหล่านี้ยังคงไม่เพียงพอ และต้องการให้ชาติตะวันตกสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ประธานาธิบดีเซเลนสกีแถลงผ่านคลิปวิดีโอล่าสุดว่า เขาขอเรียกร้องให้ชาติตะวันตกใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้นและสั่งห้ามการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันมากเป็นอันดับสามของโลกและส่งออกน้ำมันกว่าครึ่งไปยังทวีปยุโรป การที่ชาติตะวันตกประสบความล้มเหลวในการลงมติร่วมกันเพื่อสั่งห้ามค้าขายกับรัสเซียจะยิ่งทำให้มีชาวยูเครนเสียชีวิตมากขึ้น ทั้งยังระบุว่า รัสเซียมีรายได้เข้าประเทศเป็นกอบเป็นกำจากการส่งออกน้ำมันจนทำให้รัสเซียไม่เห็นความจำเป็นของการเจรจาเพื่อสันติภาพอย่างจริงจัง และเขาขอยืนกรานให้ใช้มาตรการตัดธนาคารของรัสเซียออกจากระบบการเงินระหว่างประเทศโดยสิ้นเชิง ในขณะเดียวกัน องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น จะเปิดประชุมในวันนี้เพื่อลงมติว่า ควรขับรัสเซียพ้นการเป็นสมาชิกของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) หรือไม่ หลังมีรายงานระบุว่ากองทัพรัสเซียสังหารพลเรือนยูเครนอย่างโหดร้ายทารุณในหลายเมืองของยูเครนที่รัสเซียยึดไว้ โดยมีสหรัฐเป็นผู้เสนอให้ใช้แนวทางนี้หลังได้รับหลักฐานที่ชี้ว่ากองทัพรัสเซียได้สังหารพลเรือนหลายร้อยรายในเมืองบูจา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างจดหมายที่ส่งถึงนักการทูตของประเทศสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่ระบุว่า หากมีประเทศใดในประเทศสมาชิกคณะมนตรีฯ ทั้ง 47 ประเทศที่ต้องการขับรัสเซียพ้นจากการเป็นสมาชิก รัสเซียจะขึ้นบัญชีประเทศเหล่านั้นเป็นประเทศที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซียทันที ขณะที่สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานอ้างแถลงการณ์ของหัวหน้าภารกิจสหประชาชาติของรัสเซียว่า หากประเทศสมาชิกลงมติขับรัสเซียพ้นจากการเป็นสมาชิกคณะมนตรีฯ กลุ่มชาติตะวันตกจะสามารถกำหนดแนวคิดและวิสัยทัศน์ด้านสิทธิมนุษยชนต่อประเทศอื่น ๆ ได้อย่างอิสระ ซึ่งจะส่งผลดีต่อกลุ่มชาติตะวันตกและผู้สนับสนุนที่เป็นพวกเดียวกันเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย
นิวยอร์ก 30 มี.ค. – รัสเซียถูกกล่าวหาในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตการณ์อาหารโลก และทำให้ผู้คนทั่วโลกเสี่ยงต่อภาวะอดอยากจากการเปิดฉากทำสงครามในยูเครน ซึ่งได้รับสมญานามว่าเป็นตะกร้าขนมปังของยุโรป (breadbasket of Europe) นางเวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ กล่าวในระหว่างการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าด้วยสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในยูเครนว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เป็นผู้ริเริ่มสงครามในยูเครนและทำให้เกิดวิกฤตการณ์อาหารโลก รัสเซียและประธานาธิบดีปูตินต้องเป็นผู้รับผิดชอบจากการนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครนที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของอาหารโลก ในขณะเดียวกัน นายนิโคลัส เดอ ริวิแยร์ ผู้แทนถาวรฝรั่งเศสประจำสหประชาชาติ ระบุว่า การบุกโจมตียูเครนอย่างหนักหน่วงของรัสเซียทำให้ทั่วโลกเสี่ยงเกิดภาวะอดอยากมากขึ้น และประชากรของประเทศกำลังพัฒนาจะได้รับผลกระทบเป็นอันดับแรก แต่รัสเซียจะอ้างว่าปัญหาเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นจากการถูกนานาชาติคว่ำบาตรที่ทำให้เกิดความไม่สมดุลต่อภาวะความมั่นคงอาหารโลก ด้านนายวาสซิลี นีเบนเซีย ผู้แทนถาวรรัสเซียประจำสหประชาชาติ แย้งว่า แท้จริงแล้ว ภาวะผันผวนของตลาดอาหารโลกเกิดขึ้นจากการที่ชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างไม่รู้จักควบคุมต่อรัสเซีย ทั้งนี้ นางเชอร์แมนและนายเดวิด บีสลีย์ ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลก รายงานว่า ยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตธัญพืชรายใหญ่ของโลก มีอัตราส่งออกข้าวสาลีร้อยละ 30 ข้าวโพดร้อยละ 20 และน้ำมันทานตะวันร้อยละ 75 ของโลก. -สำนักข่าวไทย
สหรัฐจะผลักดัน ให้สหประชาชาติเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือมากขึ้นอีก หลังเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธเมื่อวานนี้
สหประชาชาติ ระบุมีผู้อพยพจากยูเครนข้ามพรมแดนไปยังโปแลนด์แล้วกว่า 1.8 ล้านคน ซึ่งสหประชาชาติได้ส่งเจ้าหน้าที่และสิ่งของช่วยเหลือเพิ่มเติมไปยังโปแลนด์
สหประชาชาติ เผยปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน เป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 549 คน
ผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติ เผยไม่พบว่ายูเครนมีอาวุธชีวภาพ หลังรัสเซียกล่าวหาว่ายูเครนมีห้องทดลองอาวุธชีวภาพที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐ
เคียฟ 7 มี.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ยืนยันว่าจะเดินหน้าปฏิบัติการบุกโจมตียูเครนต่อไปยกเว้นยูเครนจะประกาศยอมแพ้ ขณะที่การโจมตีของรัสเซียทำให้ชาวยูเครนราว 200,000 คนไม่สามารถอพยพออกจากเมืองมารีอูปอล ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียระบุในแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีปูตินกล่าวในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกี ว่า รัสเซียพร้อมเจรจาเพื่อยุติการต่อสู้ในยูเครน แต่ความพยายามที่จะยืดการเจรจาออกไปทำให้ผลการเจรจาไม่ประสบความสำเร็จ รัสเซียจะยุติปฏิบัติการพิเศษในยูเครนโดยมีข้อแม้ว่ายูเครนต้องประกาศหยุดปฏิบัติการทางทหารและทำตามข้อเรียกร้องของรัสเซียเท่านั้น ในขณะเดียวกัน ทางการยูเครนรายงานว่า ชาวยูเครนส่วนใหญ่ในเมืองมารีอูปอล ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญของยูเครน ต้องหลบภัยกระสุนและใช้ชีวิตอยู่ในห้องใต้ดิน เนื่องจากไม่สามารถอพยพออกจากเมืองดังกล่าวที่ถูกกองทัพรัสเซียปิดล้อมมาเป็นเวลากว่า 6 วัน จนทำให้ชาวเมืองถูกตัดอาหาร น้ำดื่ม ไฟฟ้า และเครื่องทำความร้อน องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุเมื่อวันอาทิตย์ว่า ขณะนี้ มีพลเรือนยูเครนเสียชีวิต 364 ราย ในจำนวนนี้ มีเด็กเสียชีวิตกว่า 20 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคน ขณะที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเผยว่า ผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ถูกโจมตีด้วยอาวุธระเบิดที่หวังผลเป็นวงกว้าง เช่น การยิงปืนใหญ่ การใช้ระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง การโจมตีด้วยขีปนาวุธ และการโจมตีทางอากาศ.-สำนักข่าวไทย
เคียฟ 3 มี.ค. – องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า มีประชาชนอย่างน้อย 1 ล้านคนอพยพออกจากยูเครนนับตั้งแต่รัสเซียนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พร้อมเตือนว่าคลื่นผู้อพยพในระดับนี้อาจทำให้เกิดปัญหาวิกฤติผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบศตวรรษ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติเผยว่า มีประชาชนอย่างน้อย 1 ล้านคนอพยพออกจากยูเครนตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 2 จากประชากรทั้งหมด 44 ล้านคนของยูเครน และเกิดขึ้นภายในระยะเวลาเพียง 7 วัน ทั้งยังคาดการณ์ว่าคลื่นผู้อพยพจะพุ่งขึ้นเป็น 4 ล้านคน และอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่านั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ของยูเอ็นและหน่วยงานอื่น ๆ กล่าวชื่นชมประเทศเพื่อนบ้านของยูเครนในการเตรียมความพร้อมรองรับคลื่นผู้อพยพระลอกใหม่ด้วยการให้ที่พักพิงในบ้านเรือน โรงกีฬา และอาคารต่าง ๆ ในขณะเดียวกัน โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า คลื่นผู้อพยพจากยูเครนที่มีจำนวนสูงในระดับนี้อาจทำให้เกิดปัญหาวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบศตวรรษ ข้อมูลของยูเอ็นยังระบุว่า มีชาวยูเครนกว่า 500,000 คนที่อพยพไปยังโปแลนด์ ตามมาด้วยฮังการี 116,000 คน มอลโดวา 79,000 คน และสโลวะเกีย 71,200 คน.-สำนักข่าวไทย
นิวยอร์ก 2 มี.ค. – องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า มีพลเรือนยูเครนเสียชีวิตอย่างน้อย 136 ราย ซึ่งรวมถึงผู้เสียชีวิตที่เป็นเด็ก 13 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 400 คน นับตั้งแต่รัสเซียนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครนนับตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่แล้ว ยูเอ็นเผยว่า ขณะนี้ มีพลเรือนยูเครนเสียชีวิตอย่างน้อย 136 ราย ซึ่งรวมถึงผู้เสียชีวิตที่เป็นเด็ก 13 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 400 คน นับตั้งแต่วันพฤหัสบดีก่อน ขณะที่ลิซ ทรอสเซลล์ โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงอาจสูงกว่าที่ยูเอ็นรายงาน ผู้เสียชีวิตหรือผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกโจมตีด้วยระเบิด การโจมตีทางอากาศ และเหตุระเบิดอื่น ๆ ที่มีความรุนแรงเป็นวงกว้าง อย่างไรก็ดี ข้อมูลของรัฐบาลยูเครนระบุว่า ขณะนี้มีพลเรือนยูเครนเสียชีวิต 352 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1,684 คน.-สำนักข่าวไทย
สหประชาชาติ 22 ก.พ.- เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN ) ระบุว่า ประธานาธิบดีรัสเซียรับรอง 2 แคว้นทางตะวันออกของยูเครนให้เป็นรัฐอิสระ หวังหาข้ออ้างเพื่อเดินหน้ารุกรานยูเครน และ “ไร้เหตุผลมาก” ที่อ้างว่าสั่งให้ส่งกำลังทหารเข้าไปรักษาสันติภาพใน 2 แคว้นนี้ นางลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐกล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นที่จัดขึ้นอย่างฉุกเฉินเมื่อค่ำวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียออกกฤษฎีกาในเช้าวันเดียวกัน รับรองแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ของยูเครนให้เป็นรัฐอิสระ ตามที่ทั้งสองแคว้นนี้ประกาศแยกตัวจากยูเครนตั้งแต่ปี 2557 และสั่งการให้ส่งทหารรัสเซียเข้าไปประจำการ นางโทมัส-กรีนฟิลด์กล่าวว่า ปูตินได้ทำให้โลกต้องตัดสินใจเลือกและห้ามเบือนหน้าหนี เพราะประวัติศาสตร์ได้สอนแล้วว่า หากเบือนหน้าหนีในยามที่กำลังเผชิญกับความเป็นศัตรูเช่นนี้จะเกิดความเสียหายร้ายแรงติดตามมา เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็นกล่าวว่า ปูตินกล่าวอ้างผิด ๆ อย่างร้ายแรงเกี่ยวกับยูเครนมาโดยตลอด หวังหาข้ออ้างทำสงคราม และหลังจากนั้นก็ประกาศทันทีว่าได้ส่งทหารเข้าไปในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งหมายถึงพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนที่มีบางส่วนอยู่ในแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ ปูตินอ้างเรื่องไม่จริงว่า ยูเครนต้องการอาวุธนิวเคลียร์จากชาติตะวันตก และอ้างว่ารัสเซียมีสิทธิเหนือดินแดนทั้งหมดที่เคยอยู่ในจักรวรรดิรัสเซียเมื่อ 100 ปีก่อน ซึ่งอาจรวมไปถึงฟินแลนด์ เบลารุส จอร์เจีย และมอลโดวา เป็นการย้อนเวลากลับไปตั้งแต่เมื่อครั้งที่โลกยังไม่มียูเอ็น ซึ่งก่อตั้งขึ้นบนหลักการของการปลดปล่อยอาณานิคม ไม่ใช่การรวบกลับมาเป็นอาณานิคมอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย