รัสเซียเล็งรับบิตคอยน์จ่ายค่าก๊าซ-น้ำมันจากชาติเป็นมิตร

มอสโก 25 มี.ค. – รัสเซียกำลังพิจารณาให้ชาติที่เป็นมิตร เช่น จีนและตุรกี ชำระเงินค่านำเข้าก๊าซธรรมชาติหรือน้ำมันจากรัสเซียเป็นสกุลเงินบิตคอยน์ได้ นายพาเวล ซาวัลนี ประธานคณะกรรมการด้านพลังงานของสภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย เผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า รัสเซียกำลังหาวิธีให้ต่างชาติเลือกชำระเงินค่านำเข้าพลังงานจากรัสเซีย สำหรับประเทศที่รัสเซียจัดให้อยู่ในกลุ่มเป็นมิตร เช่น จีนและตุรกี ซึ่งไม่ได้ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย จะสามารถซื้อขายพลังงานด้วยสกุลเงินรูเบิลและหยวน ส่วนตุรกีจะสามารถซื้อขายด้วยสกุลเงินลีราและรูเบิล หรือทั้งสองประเทศจะเลือกชำระเงินด้วยสกุลเงินบิตคอยน์ก็ได้ ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียระบุในช่วงต้นสัปดาห์นี้ว่า เขาต้องการให้ประเทศที่รัสเซียจัดอยู่ในกลุ่มไม่เป็นมิตร ซึ่งประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ต้องซื้อขายพลังงานด้วยสกุลเงินรูเบิลเท่านั้น โดยที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า แนวทางดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายด้วยสกุลเงินรูเบิลที่ประสบปัญหาอ่อนค่าลงกว่าร้อยละ 20 ในปีนี้ ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญหลายรายให้ความเห็นว่า รัสเซียอาจได้รับผลประโยชน์จากการยอมรับสกุลเงินบิตคอยน์ แม้แนวทางดังกล่าวจะมีความเสี่ยงก็ตาม นายเดวิด บรอดสต็อก นักวิจัยระดับสูงของสถาบันพลังงานศึกษาในสิงคโปร์ ระบุว่า รัสเซียรับรู้ได้รวดเร็วถึงผลกระทบจากการถูกคว่ำบาตรรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รัสเซียจำเป็นต้องรักษาสภาพคล่องทางเศรษฐกิจไว้ และบิตคอยน์ก็ได้รับการจับตามองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีการเติบโตสูง อย่างไรก็ดี นายบรอดสต็อกตั้งข้อสังเกตว่า มูลค่าของบิตคอยน์มีความผันผวนมากถึงร้อยละ 30 ในปีนี้ ในขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมีความผันผวนไม่ถึงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการยอมรับบิตคอยน์นั้นมีความเสี่ยงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนจีนก็ยังคงสั่งห้ามการใช้สกุลเงินเข้ารหัสหรือคริปโตเคอเรนซี จึงอาจทำให้แนวทางดังกล่าวของรัสเซียเป็นไปได้ยาก.-สำนักข่าวไทย

สงครามยูเครนทำชาวอินเดียรัดเข็มขัดเพราะของแพง

นิวเดลี 23 มี.ค.- ชาวอินเดียจำนวนมากต้องลดค่าใช้จ่ายด้านอาหารลง เนื่องจากสงครามยูเครนทำให้ราคาสินค้าจำเป็นปรับขึ้นมาก กระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่พึ่งพาการบริโภคเป็นหลัก หลังจากต้องต่อสู้กับเชื้อไวรัสโคโรนามานาน 2 ปี ภาคธุรกิจผลักภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ให้แก่ผู้บริโภค ด้วยการขึ้นราคานม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไก่ และสินค้าจำเป็นอีกร้อยละ 5-20 ชาวอินเดีย 800 ล้านคนจากทั้งหมดเกือบ 1,400 ล้านคน ได้รับอาหารแจกฟรีจากรัฐบาลช่วงโควิดระบาด ราคาอาหารที่ปรับขึ้นแม้เพียงเล็กน้อยจึงเป็นเรื่องใหญ่ของประชาชน กระทบต่อการบริโภคภาคเอกชนที่ครองสัดส่วนในผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ของอินเดียเกือบร้อยละ 60 น้ำมันดิบโลกที่ปรับราคาเพิ่มขึ้นทำให้อินเดียซึ่งนำเข้าน้ำมันดิบถึงร้อยละ 85 ต้องขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินแล้ว 2 ครั้งในสัปดาห์นี้ รวมขึ้นไปเกือบร้อยละ 50 แล้วในปีนี้ ขณะที่น้ำมันปรุงอาหารที่อินเดียนำเข้าเกือบร้อยละ 60 ก็ปรับราคาเพิ่มขึ้น น้ำมันปาล์มที่ใช้กันมากที่สุดปรับขึ้นไปแล้วร้อยละ 45 ตั้งแต่ต้นปี ส่วนน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันที่รัสเซียและยูเครนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ก็ถูกกระทบ สมาพันธ์ผู้ค้าทั่วอินเดียประเมินว่า ผู้ผลิตสินค้าคงทนและสินค้าบริโภคในชีวิตประจำวันจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 10-15 ในเดือนนี้ เนื่องจากเชื้อเพลิงที่แพงขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ศรีลังกาส่งทหารดูแลปั๊มหลังคนประท้วงน้ำมันขาดแคลน

โคลัมโบ 22 มี.ค.- ศรีลังกาส่งทหารไปรักษาความเรียบร้อยตามสถานีบริการน้ำมันในวันนี้ หลังจากมีคนก่อเหตุประท้วงด้วยความไม่พอใจที่ต้องรอคิวซื้อน้ำมันยาวเหยียดทุกวันในช่วงที่น้ำมันขาดแคลน ศรีลังกากำลังประสบภาวะเศรษฐกิจล้มเหลวครั้งร้ายแรงที่สุดนับจากได้รับเอกราชในปี 2491 นอกจากต้องเวียนการดับกระแสไฟฟ้าแล้ว สินค้าจำเป็นอย่างอาหารและก๊าซหุงต้มก็กำลังขาดแคลน ทางการต้องส่งทหารไปรักษาความเรียบร้อยตามสถานีบริการน้ำมัน หลังจากมีฝูงชนปิดถนนสายพลุกพล่านในกรุงโคลัมโบ ทำให้การจราจรเป็นอัมพาตอยู่หลายชั่วโมง เนื่องจากไม่พอใจที่เมื่อวานนี้ไม่สามารถซื้อน้ำมันก๊าดสำหรับหุงต้มได้ เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมที่ขอสงวนนามเผยว่า คนไม่พอใจเพราะแถวรอซื้อน้ำมันก๊าดยาวขึ้นเรื่อย ๆ กระทรวงจึงตัดสินใจเมื่อคืนที่ผ่านมาให้ส่งทหารไปเสริมกำลังตำรวจ หวังให้คนเลิกก่อเหตุไม่สงบ นอกจากนี้ยังเกิดเหตุผู้ขับขี่คนหนึ่งแทงผู้ขับขี่อีกคนเสียชีวิต เพราะวิวาทกันเรื่องแซงคิวขณะรอเติมน้ำมันนอกกรุงโคลัมโบ ด้านตำรวจเผยว่า ตั้งแต่วันเสาร์เป็นต้นมามีผู้สูงอายุเสียชีวิตขณะรอคิวซื้อน้ำมันแล้ว 3 คน และมีประชาชนจำนวนมากปักหลักค้างคืนตามสถานีบริการน้ำมันเพื่อรอเติมน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซิน ทำเนียบประธานาธิบดีศรีลังกาประกาศเรียกประชุมทุกพรรคการเมืองในวันพุธนี้เพื่อหารือทางออกวิกฤตเศรษฐกิจ แต่พรรคฝ่ายค้านเผยว่าจะไม่เข้าร่วมประชุม วิกฤตการเงินของศรีลังกาที่มีประชากร 22 ล้านคนเกิดจากการขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ อันเป็นผลจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กระทบการท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศ และกระทบการส่งเงินกลับประเทศของชาวศรีลังกาที่เป็นแรงงานในต่างประเทศ ทำให้ภาคธุรกิจไม่มีเงินนำเข้าสินค้า สร้างความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า แม้แต่การสอบของนักเรียนหลายล้านคนก็ต้องเลื่อน เพราะขาดแคลนกระดาษและน้ำหมึกสำหรับทำข้อสอบ.-สำนักข่าวไทย

บ.น้ำมันซาอุฯ จะเพิ่มกำลังผลิตตลอด 5 ปีหน้า

ริยาด 21 มี.ค.- ซาอุดี อารามโก บริษัทน้ำมันของทางการซาอุดีอาระเบียมีแผนจะเพิ่มกำลังผลิตตลอดช่วง 5 ปีข้างหน้า หลังจากรายงานว่ามีกำไรเพิ่มขึ้น 2 เท่าในปี 2564 สงครามในยูเครนและความต้องการลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียทำให้หลายประเทศต้องหาแหล่งพลังงานเพิ่มเติม ซาอุดีอาระเบียเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก หากเพิ่มกำลังการผลิตก็จะช่วยให้ราคาพลังงานโลกลดลงจากที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 14 ปี แม้ว่าเป็นการเพิ่มในช่วง 5 ปีข้างหน้าก็ตาม ซาอุดี อารามโกเผยว่า จะเพิ่มค่าใช้จ่ายในการลงทุนเป็น 45,000-50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.50-1.67 ล้านล้านบาท) ในปีนี้ จากนั้นจะเพิ่มต่อไปจนถึงกลางคริสต์ทศวรรษนี้ ขณะเดียวกันจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ยั่งยืนสูงสุดเป็นวันละ 13 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 จากที่ผลิตวันละกว่า 10 ล้านบาร์เรลในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ จะเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซอีกมากกว่าครึ่งหนึ่งภายในปี 2573 จะพัฒนาการเพิ่มศักยภาพการส่งออกไฮโดรเจน และจะเป็นผู้นำโลกด้านเทคโนโลยีการดักจับและกักเก็บคาร์บอน ตลาดพลังงานผันผวนในช่วงที่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงฉับพลันส่งผลต่อทั้งอุปสงค์และอุปทานน้ำมัน ซาอุดี อารามโกมีกำไรลดลงมากในปี 2563 เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงอย่างมาก แต่เมื่อหลายประเทศเริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ราคาพลังงานก็ปรับเพิ่มขึ้นมากในปี 2564 ทำให้บริษัทพลังงานขนาดใหญ่มีกำไรกันถ้วนหน้า ซาอุดี […]

ซาอุฯ เพิ่มการลงทุนด้านน้ำมันหลังมีกำไรจากราคานำมันพุ่ง

อารามโก บริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถูกกดดันจากชาติตะวันตกให้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันท่ามกลางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้น

อินเดียแจงเรื่องนำเข้าน้ำมันรัสเซีย

นิวเดลี 19 มี.ค.- เจ้าหน้าที่อินเดียชี้แจงเรื่องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศว่า อินเดียจะนำเข้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ในปีนี้ หลังจากถูกวิจารณ์เรื่องนำเข้าจากรัสเซียที่ถูกหลายประเทศคว่ำบาตรเพราะรุกรานยูเครน เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดียที่ขอสงวนนามชี้แจงกับรอยเตอร์ว่า อินเดียนำเข้าน้ำมันจากตะวันออกกลางมากที่สุด ประกอบด้วยอิรักร้อยละ 23 ซาอุดีอาระเบียร้อยละ 18 และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ร้อยละ 11 ส่วนสหรัฐนั้น อินเดียนำเข้ามากเป็นอันดับ 4 โดยในปีนี้จะนำเข้าเพิ่มอีกร้อยละ 11 เป็นร้อยละ 8 ขณะที่รัสเซียครองส่วนแบ่งน้อยในตลาดน้ำมันอินเดีย แต่หลังจากรุกรานยูเครน รัสเซียได้เสนอขายน้ำมันแบบมีส่วนลดเพื่อลดผลกระทบจากการถูกคว่ำบาตร อินเดียนออยล์คอร์ปที่เป็นโรงกลั่นอันดับหนึ่งของอินเดียเพิ่งสั่งซื้อน้ำมันจากรัสเซีย 3 ล้านบาร์เรลผ่านการประมูล และฮินดูสถานปิโตรเลียมคอร์ปสั่งจอง 2 ล้านบาร์เรลให้ส่งมอบเดือนพฤษภาคม เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดียอีกคนกล่าวว่า อินเดียพร้อมรับข้อเสนอที่มีการแข่งขันจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่ราคาน้ำมันโลกทะยานขึ้น จนทำให้อัตราเงินเฟ้ออินเดียสูงขึ้น ฐานะการคลังตึงตัว และกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เจ้าหน้าที่อินเดียกล่าวด้วยว่า แม้แต่ยุโรปเองก็ยังนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซียอยู่ มาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย และไม่ตัดธนาคารรัสเซียที่ทำธุรรรมด้านนี้ออกจากสมาคมโทรเลขทางการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลกหรือสวิฟต์ (SWIFT) ดังนั้นการทำธุรกรรมด้านพลังงานที่ชอบด้วยกฎหมายจึงไม่ควรถูกนำมาเป็นเรื่องทางการเมือง.-สำนักข่าวไทย

แม่ค้าโอด! LPG ทยอยขึ้นราคารวมเป็น 3 บาท/กก. ช่วง 3 เดือนหน้า

คนไทยค่าครองชีพพุ่ง ราคาก๊าซหุงต้มทยอยขึ้น 1 บาท/กก./เดือน รวม 3 เดือน ขึ้นรวม 3 บาท/กก. จาก 318 บาท/ถัง 15 กก. เป็น 363 บาท/ถัง ในเดือน มิ.ย. ส่วนดีเซลพรีเมียม เตรียมเลิกอุดหนุน

รัฐบาลยันพยายามตรึงราคาน้ำมันลดภาระะปชช.

โฆษกรัฐบาลสยบข่าวลือราคาน้ำมัน “แพงที่สุด” เตือนมีผู้ไม่หวังดีพยายามบิดเบือนหวังให้ประชาชนเข้าใจผิด ยืนยันนายกรัฐมนตรี ทำทุกวิถีทางดูแลประชาชน ยังคงตรึงราคาน้ำมันดีเซล ลดภาษีสรรพสามิต ลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชนในขณะนี้ 

เตือนโลกเสี่ยงเจอภาวะ “ออยล์ ช็อก” ครั้งใหญ่

นิวยอร์ก 10 มี.ค.- วาณิชธนกิจใหญ่เตือนว่า การที่รัสเซียรุกรานยูเครนและชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้เศรษฐกิจโลกเสี่ยงเผชิญภาวะ “ออยล์ ช็อก” หรือราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นมากจนกระทบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้านผู้นำยูเครนช่วยให้ราคาน้ำมันโลกลดลงหลังจากเผยว่าพร้อมประนีประนอมกับรัสเซีย นักยุทธศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ แจ้งลูกค้าว่า ไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่า ความขัดแย้งนี้และภาวะขาดแคลนน้ำมันจะแก้ไขได้อย่างไร เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำเนียบขาวสหรัฐเพิ่งประกาศคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันรัสเซียเมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐ ขณะที่สหราชอาณาจักรจะทยอยยกเลิกนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียภายในสิ้นปีนี้ หากชาติตะวันตกอื่น ๆ ดำเนินรอยตาม ราคาน้ำมันดิบโลกอาจแตะบาร์เรลละ 240 ดอลลาร์สหรัฐ ในฤดูร้อนนี้ เพราะน้ำมันรัสเซียจะหายไปจากตลาดโลกวันละ 4.3 ล้านบาร์เรล และไม่สามารถหาทดแทนจากแหล่งอื่นได้อย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจโลกอาจเผชิญภาวะ “ออยล์ ช็อก” ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่ง โกลด์แมน แซคส์คาดว่า วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนอาจทำให้น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันที่รัสเซียส่งออกทางทะเลหายไปวันละ 3 ล้านบาร์เรล หากสถานการณ์ยืดเยื้อ โลกจะประสบภาวะพลังงานสะดุดในรอบ 1 เดือนร้ายแรงเป็นอันดับ 5 รองจากเหตุพลังงานสะดุดเพราะการคว่ำบาตรน้ำมันอาหรับปี 2516 การปฏิวัติอิสลามอิหร่านปี 2521 สงครามอิรัก-อิหร่านปี 2523 และสงครามอิรัก-คูเวตปี 2533 ตลาดน้ำมันโลกจะไม่มีสิ่งรองรับผลกระทบ แม้ว่าหลายประเทศจะปล่อยน้ำมันสำรองฉุกเฉิน และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปกจะเพิ่มกำลังการผลิต โลกจะถูกบีบให้ลดการใช้น้ำมัน […]

พรุ่งนี้เบนซินโซฮอล์ขยับขึ้นอีก 80 สตางค์

ผู้ค้าแจ้งพรุ่งนี้ปรับขึ้นราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินโซฮอล์ 80 สตางค์/ลิตร ส่วนดีเซลคงเดิม มีผล 10 มี.ค. 65 ตั้งแต่เวลา 05.00 เป็นต้นไป

ธนาคารโลกชี้ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงจากสงครามกระทบเศรษฐกิจ

เจ้าหน้าที่ของธนาคารโลก กล่าววานนี้ว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องที่เป็นผลมาจากการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน จะกระทบกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาที่นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลก

สหรัฐ-อังกฤษประกาศแบนน้ำมันจากรัสเซียแล้ว

วอชิงตัน 9 มี.ค. – สหรัฐกับอังกฤษประกาศคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันของรัสเซียแล้ว ขณะที่สหภาพยุโรป หรืออียู ประกาศจะค่อย ๆ ยุติการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการยกระดับการใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ของชาติตะวันตกเพื่อตอบโต้รัสเซียที่นำกำลังทหารบุกโจมตียูเครน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ประกาศว่า สหรัฐจะหยุดนำเข้าน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานของรัสเซีย ซึ่งหมายความว่าท่าเรือของสหรัฐจะไม่ต้อนรับเรือบรรทุกน้ำมันของรัสเซียอีกต่อไป เขายอมรับว่าการใช้มาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในประเทศ แต่การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ได้หารืออย่างใกล้ชิดกับชาติพันธมิตร ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ก็ได้ประกาศระงับการนำเข้าน้ำมันของรัสเซียทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ โดยยอมรับว่ามาตรการนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อรัสเซียในทันที แต่จะสร้างแรงกดดันและผลกระทบรุนแรงทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียอย่างแน่นอน ทั้งนี้ สหรัฐนำเข้าน้ำมันและน้ำมันกลั่นราวร้อยละ 8 จากรัสเซีย ส่วนอังกฤษนำเข้าน้ำมันร้อยละ 6 จากรัสเซีย อย่างไรก็ดี อียูยังไม่ได้ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานของรัสเซียในทันที เนื่องจากต้องพึ่งพาการนำเข้าด้านพลังงานส่วนใหญ่จากรัสเซีย แต่คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรฝ่ายบริหารของอียู ระบุว่า อียูจะค่อย ๆ เปลี่ยนไปนำเข้าพลังงานจากประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหม่และขยายการใช้พลังงานสะอาดให้เร็วยิ่งขึ้นเพื่อทดแทนปริมาณน้ำมันที่ขาดหายไป เพื่อตั้งเป้าให้อียูไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานฟอสซิลจากรัสเซียภายในปี 2573.-สำนักข่าวไทย

1 13 14 15 16 17 51
...