ระเบิดในอัฟกานิสถาน เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน
เกิดเหตุระเบิดที่สุเหร่าแห่งหนึ่งในกรุงคาบูล ของอัฟกานิสถาน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน บาดเจ็บอีก 25 คน
เกิดเหตุระเบิดที่สุเหร่าแห่งหนึ่งในกรุงคาบูล ของอัฟกานิสถาน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน บาดเจ็บอีก 25 คน
คาบูล 30 ก.ย. – เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในกรุงคาบูล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 คน และผู้บาดเจ็บ 27 คน โดยที่ยังไม่มีฝ่ายใดออกมาอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว โฆษกสำนักงานตำรวจของกรุงคาบูลในอัฟกานิสถานเผยวันนี้ว่า เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 คน และผู้บาดเจ็บ 27 คน เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่นักเรียนกำลังทำข้อสอบคัดเลือกเข้าสถาบันอุดมศึกษา โดยที่ไม่มีการเรียนการสอนในวันนี้ เนื่องจากโรงเรียนและสถาบันการศึกษาในอัฟกานิสถานปิดการเรียนการสอนทุกวันศุกร์ โฆษกคนดังกล่าวยังระบุว่า การมุ่งเป้าโจมตีพลเรือนสะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายทารุณและไร้ซึ่งศีลธรรมของผู้ก่อเหตุ แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าใครเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีในครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นในย่านชุมชนทางตะวันตกของกรุงคาบูล ซึ่งเป็นพื้นที่อาศัยของชาวแฮซอเร กลุ่มชาติพันธุ์ที่พูดภาษาเปอร์เซียในอัฟกานิสถาน และมักตกเป็นเป้าโจมตีจากกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส อยู่หลายครั้ง ก่อนหน้านี้ กลุ่มตาลีบันได้เน้นย้ำถึงความพยายามในการป้องกันความมั่นคงของประเทศมาโดยตลอด นับตั้งแต่ยึดอำนาจการปกครองในเดือนสิงหาคมปีก่อน อย่างไรก็ดี อัฟกานิสถานกลับเกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายครั้งที่มัสยิดและเขตชุมชนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา. -สำนักข่าวไทย
คาบูล 5 ก.ย. – เกิดเหตุมือระเบิดฆ่าตัวตายจุดชนวนระเบิดใกล้ประตูทางเข้าสถานทูตรัสเซียประจำอัฟกานิสถานในกรุงคาบูล ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน และผู้บาดเจ็บ 11 คน โดยที่มือระเบิดฆ่าตัวตายถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยิงเสียชีวิต หัวหน้าสำนักงานตำรวจย่านดารุล อามาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงคาบูล เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สวันนี้ว่า เกิดเหตุมือระเบิดฆ่าตัวตายจุดชนวนระเบิดใกล้ประตูทางเข้าสถานทูตรัสเซียประจำอัฟกานิสถานในกรุงคาบูล ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน และผู้บาดเจ็บ 11 คน แต่มือระเบิดฆ่าตัวตายถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรัฐบาลตอลิบานประจำสถานทูตรัสเซียยิงเสียชีวิตในขณะที่กำลังวิ่งไปยังประตูทางเข้าสถานทูต ขณะที่กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียระบุว่า มีเจ้าหน้าที่สถานทูตรัสเซียเสียชีวิต 2 คน สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่นักการทูตรัสเซียกำลังเดินออกมาเรียกชื่อผู้มายื่นขอวีซ่า ขณะที่ชาวบ้านหลายคนระบุว่า มีผู้คนจำนวนมากอยู่ในที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ดี รัฐบาลกลุ่มตอลิบานยังไม่ได้ออกมายืนยันเกี่ยวกับเหตุระเบิดในครั้งนี้ รวมถึงแจ้งยอดผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ รัสเซียเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ยังคงเปิดสถานทูตในกรุงคาบูลนับตั้งแต่กลุ่มตอลิบานประกาศยึดอำนาจการปกครองอัฟกานิสถานในเดือนสิงหาคมปีก่อน แม้รัฐบาลรัสเซียไม่ได้ยอมรับสถานะรัฐบาลของกลุ่มตอลิบานอย่างเป็นทางการ แต่ทั้งสองฝ่ายก็ได้เปิดการเจรจาระดับเจ้าหน้าที่หลายครั้งเกี่ยวกับข้อตกลงด้านการจัดหาน้ำมันและสินค้าอื่น ๆ. -สำนักข่าวไทย
คาบูล 18 ส.ค. – เหตุระเบิดมัสยิดในกรุงคาบูลของอัฟกานิสถานเมื่อช่วงค่ำวันพุธ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 21 คน และมีผู้บาดเจ็บ 33 คน โฆษกสำนักงานตำรวจกรุงคาบูลของอัฟกานิสถาน เผยวันนี้ว่า เหตุระเบิดมัสยิดในกรุงคาบูลขณะที่กำลังประกอบพิธีสวดมนต์ช่วงค่ำวันพุธ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 21 คน ซึ่งรวมถึงอิหม่ามของมัสยิดแห่งนี้ และมีผู้บาดเจ็บ 33 คน ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังรุนแรงมาจากพื้นที่ทางเหนือของกรุงคาบูล แรงระเบิดทำให้หน้าต่างของอาคารที่อยู่ใกล้เคียงแตกละเอียด ขณะนี้ ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุระเบิดมัสยิดในครั้งนี้ และทางการอัฟกานิสถานก็ไม่ได้กล่าวหาว่ากลุ่มใดเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ อย่างไรก็ดี เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่กลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ได้ลงมือสังหารนักบวชที่สนับสนุนกลุ่มตอลิบานด้วยระเบิดฆ่าตัวตายในกรุงคาบูลเมื่อสัปดาห์ก่อน ในขณะเดียวกัน โรงพยาบาลอีเมอร์เจนซี (Emergency Hospital) ในกรุงคาบูล ระบุในแถลงการณ์ว่า โรงพยาบาลกำลังรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดมัสยิด 27 คน ซึ่งมีเด็ก 5 คนรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ ยังได้รับศพผู้เสียชีวิต 2 คน และมีผู้บาดเจ็บ 1 คนเสียชีวิตในห้องฉุกเฉิน.-สำนักข่าวไทย
คาบูล 18 ส.ค. – เกิดเหตุระเบิดที่มัสยิดแห่งหนึ่งในกรุงคาบูลของอัฟกานิสถานในขณะที่กำลังประกอบพิธีสวดมนต์เมื่อช่วงค่ำวันพุธ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน รวมถึงผู้นำในการทำพิธีกรรมคนสำคัญ และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 27 คน สำนักข่าวเอพีรายงานอ้างผู้อยู่ในเหตุการณ์ระเบิดที่ระบุว่า ผู้ก่อเหตุระเบิดในครั้งนี้เป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย โดยมุ่งเป้าทำลายมัสยิดซิดดิกียา (Siddiquiya Mosque) และประชาชนในชุมชนเคอร์คันนา ทางตอนเหนือของกรุงคาบูล จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน รวมถึงผู้นำในการทำพิธีกรรมคนสำคัญ และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 30 คน ขณะที่โรงพยาบาลอิตาเลียน อีเมอร์เจนซี ในกรุงคาบูล เผยว่า มีพลเรือนได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดอย่างน้อย 27 คน มีเด็กรวมอยู่ด้วย 5 คน ทั้งหมดได้รับการส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาลแล้ว ขณะที่หลายฝ่ายวิตกกังวลว่าอาจมีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้น โฆษกของหัวหน้าสำนักงานตำรวจกรุงคาบูล ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากกลุ่มตอลิบาน ยืนยันว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นภายในมัสยิดซิดดิกียาจริง แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเลขผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บ ขณะที่โฆษกของกลุ่มตอลิบานออกมาประณามผู้ก่อเหตุระเบิดในครั้งนี้ และให้คำมั่นว่าจะเร่งจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม.-สำนักข่าวไทย
คาบูล 19 เม.ย. – เจ้าหน้าที่ของอัฟกานิสถานระบุว่า เกิดเหตุระเบิด 3 ครั้งที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในพื้นที่ทางตะวันตกของกรุงคาบูลในวันนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และผู้บาดเจ็บ 14 คน โฆษกผู้บังคับการความมั่นคงกรุงคาบูลของอัฟกานิสถานเผยว่า เกิดเหตุระเบิด 3 ครั้งที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในพื้นที่ทางตะวันตกของกรุงคาบูล ทำให้กลุ่มชาติพันธุ์ชีอะห์ แฮซอเร (Shia Hazara) เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ โดยที่ชนกลุ่มนี้ตกเป็นเป้าหมายโจมตีจากกองกำลังฝักใฝ่นิกายซุนหนี่ ซึ่งรวมถึงกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ขณะที่หัวหน้าแผนกพยาบาลที่ไม่เผยนามของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งระบุว่า เหตุระเบิดดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 14 คน ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดในครั้งนี้ หลังจากเหตุความรุนแรงได้ลดน้อยลงตลอดฤดูหนาวที่ผ่านมา และหลังจากที่กองทัพต่างชาติได้ประกาศถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานไปตั้งแต่เมื่อปีก่อน ก่อนหน้านี้ กลุ่มตอลิบานได้ประกาศว่าสามารถปกป้องอัฟกานิสถานไว้ได้นับตั้งแต่ยึดอำนาจการปกครองประเทศในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ของนานาชาติและนักวิเคราะห์หลายรายตั้งข้อสังเกตว่า อัฟกานิสถานยังคงเสี่ยงต่อเหตุไม่สงบที่เกิดขึ้นจากฝีมือของกลุ่มติดอาวุธและกลุ่มไอเอสที่อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีครั้งใหญ่หลายครั้ง. -สำนักข่าวไทย
เหตุระเบิดฆ่าตัวตายและโจมตีโรงพยาบาลทหารในกรุงคาบูลของอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นฝีมือของกลุ่มรัฐอิสลามแห่งจังหวัดโคราซัน หรือไอเอส-เค เมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย ซึ่งรวมถึงผู้บัญชาการทหารระดับสูงของกลุ่มตอลิบาน 1 นาย
คาบูล 4 ต.ค.- ตอลิบานที่ปกครองอัฟกานิสถานแจ้งวันนี้ว่า สามารถทลายกลุ่มย่อยของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) ในกรุงคาบูลได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง หลังเกิดเหตุระเบิดมัสยิดเมื่อวานนี้ที่มีผู้เสียชีวิต 5 คน และสันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของกลุ่มไอเอส โฆษกตอลิบานทวีตว่า นักรบตอลิบานลงมือปฏิบัติการทางตอนเหนือของกรุงคาบูลเมื่อวันเย็นอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น สามารถจัดการได้อย่างเด็ดขาด ด้วยการทำลายศูนย์ของไอเอสอย่างสิ้นซากและสังหารสมาชิกทั้งหมด ผู้เห็นเหตุการณ์และผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดและเสียงยิงปืนดังในกรุงคาบูลในช่วงที่มีปฏิบัติการ ขณะที่ภาพในสื่อสังคมออนไลน์เห็นระเบิดขนาดใหญ่และไฟไหม้ ณ จุดที่มีปฏิบัติการ ชาวกรุงคาบูลคนหนึ่งเผยว่า เห็นกองกำลังพิเศษตอลิบานกลุ่มใหญ่บุกบ้านเรือนอย่างน้อย 3 หลังในย่านที่เขาอาศัยอยู่ จากนั้นเกิดการยิงต่อสู้อย่างหนักอยู่หลายชั่วโมง ทำให้เขาตื่นตลอดทั้งคืน ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังจากเกิดเหตุระเบิดที่มัสยิดแห่งหนึ่งขณะที่กำลังมีการสวดภาวนาให้แก่มารดาของโฆษกตอลิบานที่ถึงแก่กรรมเมื่อสัปดาห์ก่อน เจ้าหน้าที่รัฐบาลที่ขอสงวนนามเผยว่า เหตุระเบิดทำให้มีคนเสียชีวิต 5 คน บาดเจ็บ 11 คน โดยมีพลเรือนและสมาชิกตอลิบานรวมอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่จับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ 3 คน เป็นการวางระเบิดหน้าทางเข้ามัสยิด และปลดชนวนในช่วงที่คนกำลังจะเดินออกหลังเสร็จสิ้นการแสดงความเสียใจกับครอบครัวโฆษกตอลิบาน.-สำนักข่าวไทย
กรุงคาบูลของอัฟกานิสถานประสบปัญหาขาดแคลนน้ำสะอาดอย่างหนัก ชาวเมืองต้องซื้อน้ำจากที่ห่างไกลด้วยราคาที่สูงลิ่ว
ชาวอัฟกันที่อพยพเข้ามาอยู่ในกรุงคาบูล ตำหนิสหรัฐ เป็นรากเหง้าปัญหาทำให้ชาวอัฟกันต้องเดือดร้อน ขณะที่การปกครองของรัฐบาลตาลีบัน ตลอด 1 เดือน ชีวิตประชาชนไม่มีอะไรดีขึ้น
รัฐบาลกรุงคาบูลของอัฟกานิสถานสั่งให้พนักงานผู้หญิงอยู่แต่ในบ้าน และอนุญาตให้ผู้หญิงที่มีหน้าที่ทำงานที่ผู้ชายไม่ได้รับอนุญาตให้ทำ เช่น งานล้างห้องน้ำหญิง มาทำงานได้เท่านั้น
โรงพยาบาลในกรุงคาบูล ขาดแคลนเวชภัณฑ์ โดยเฉพาะสำหรับผู้ป่วยโควิด ด้านองค์การอนามัยโลกระบุสถานพยาบาลหลายแห่งในอัฟกานิสถาน เสี่ยงที่จะปิดตัวลง เนื่องจากผู้สนับสนุนด้านเงินทุนไม่ได้รับอนุญาตให้ทำข้อตกลงกับรัฐบาลตาลีบัน