กรุงคาบูลสั่งผู้หญิงให้อยู่บ้านเว้นผู้ทำงานล้างห้องน้ำสตรี

คาบูล 20 ก.ย. – รัฐบาลกรุงคาบูลของอัฟกานิสถานสั่งให้พนักงานผู้หญิงอยู่แต่ในบ้าน และอนุญาตให้ผู้หญิงที่มีหน้าที่ทำงานที่ผู้ชายไม่ได้รับอนุญาตให้ทำ เช่น งานล้างห้องน้ำหญิง มาทำงานได้เท่านั้น


นายฮัมดุลเลาะห์ โนห์มานี รักษาการนายกเทศมนตรีกรุงคาบูลประกาศเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า คำสั่งดังกล่าวส่งผลให้ผู้หญิงถูกห้ามทำงานในหน่วยงานรัฐบาลของกรุงคาบูล และหนึ่งในงานที่ผู้หญิงทำได้ก็คือ งานล้างห้องน้ำหญิง เขาเผยด้วยว่า คำสั่งนี้จะทำให้ผู้หญิงหลายร้อยคนต้องออกจากงาน เพราะในขณะนี้รัฐบาลกรุงคาบูลมีพนักงานทั้งหมด 2,930 คน ในจำนวนนี้ มีร้อยละ 27 ที่เป็นผู้หญิง

ในขณะเดียวกัน ผู้หญิงและเด็กหญิงในอัฟกานิสถานเริ่มรู้สึกหวั่นวิตกมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังกลุ่มตาลีบันยึดอำนาจการปกครองประเทศตั้งแต่เมื่อเดือนก่อน แม้กลุ่มตาลีบันได้ให้คำมั่นว่าจะเคารพสิทธิสตรี แต่คำสั่งเกี่ยวกับพนักงานหญิงของรัฐบาลกรุงคาบูลถือเป็นสัญญาณล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าอิสรภาพของผู้หญิงในอัฟกานิสถานตลอด 20 ปีที่ผ่านมาใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว นอกจากนี้ นับตั้งแต่ที่กลุ่มตาลีบันยึดอำนาจการปกครองอัฟกานิสถาน ผู้หญิงชาวอัฟกันก็ถูกสั่งให้ออกจากที่ทำงานในบางแห่ง มีการประกาศใช้ข้อกำหนดทางการศึกษาของผู้หญิงและเด็กหญิง รวมถึงการกีดกันผู้หญิงไม่ให้มีบทบาทในรัฐบาลชุดใหม่ของอัฟกานิสถานอีกด้วย. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]