‘ทรัมป์’ เตรียมจัดศึก ยูเอฟซี ที่ทำเนียบขาว

วอชิงตัน 3 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปิดเผยวานนี้ว่า เขากำลังวางแผนที่จะนำการแข่งขันศิลปะป้องกันตัวของ อัลติเมท ไฟต์ติง แชมเปียนชิพ (Ultimate Fighting Championship) หรือ ยูเอฟซี มาจัดที่ทำเนียบขาวในปีหน้า เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 250 ปีของการประกาศอิสรภาพของสหรัฐ นายทรัมป์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน หรือ เอ็มเอ็มเอ ในฉายา “คอมแบ็ตแท็นท์ อิน ชีฟ” (Combatant in Chief) เขายกให้ ดานา ไวท์ ประธานยูเอฟซี เป็นเพื่อนสนิทของเขา และยังมองว่าแฟน ๆ กีฬาชนิดนี้เป็นส่วนหนึ่งของฐานเสียงทางการเมืองของเขา นายทรัมป์ยังเป็นผู้เข้าชมการแข่งขันของยูเอฟซีเป็นประจำ โดยครั้งล่าสุดได้เข้าร่วมงานที่รัฐนิวเจอร์ซีย์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายทรัมป์ประกาศเรื่องนี้ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่ไอโอวา สเตท แฟร์กราวด์ส ซึ่งงานนี้ถือเป็นการโหมโรงสำหรับงานเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐในวันที่ 4 กรกฎาคม.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เผยไม่คืบหน้าหลังคุย ‘ปูติน’

วอชิงตัน 4 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปิดเผยวานนี้ว่า การสนทนาทางโทรศัพท์กว่า 1 ชั่วโมง ระหว่างเขากับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ไม่คืบหน้าใดๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน นายทรัมป์ กล่าวว่า เขาหารือกับนายปูติน ทั้งเรื่องอิหร่าน และยูเครน โดยเขาพยายามผลักดันให้ยุติสงครามยูเครนอย่างรวดเร็ว ในขณะที่นายปูติน ย้ำว่า รัสเซียจะยังคงผลักดันเพื่อแก้ไขสาเหตุที่หยั่งรากลึกของความขัดแย้ง ทางด้านนายยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยนายปูติน กล่าวว่า นายปูตินและนายทรัมป์ ไม่ได้หารือเกี่ยวกับการระงับการส่งอาวุธบางส่วนของสหรัฐให้กับยูเครน เมื่อไม่นานมานี้ ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการโทรศัพท์ระหว่างผู้นำทั้งสอง เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่า การโจมตีด้วยโดรนของรัสเซีย ดูเหมือนจะทำให้เกิดเพลิงไหม้ในอาคารอพาร์ตเมนต์ในเขตชานเมืองทางเหนือของกรุงเคียฟ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทิศทางของความขัดแย้ง ไม่เปลี่ยนแปลงมากนักทันทีหลังจากการสนทนา ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเดนมาร์กว่า เขาหวังว่าจะได้พูดคุยกับนายทรัมป์โดยเร็วที่สุดในวันศุกร์นี้ เกี่ยวกับการที่สหรัฐระงับการส่งอาวุธบางส่วนให้กับยูเครน ซึ่งถูกเปิดเผยครั้งแรกเมื่อต้นสัปดาห์นี้.-813.-สำนักข่าวไทย

สส.สหรัฐ ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณ ‘ทรัมป์’

วอชิงตัน 4 ก.ค. – สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผ่านความเห็นชอบร่างงบประมาณรายจ่ายและลดภาษีจำนวนมหาศาลของรัฐบาลแล้วด้วยคะแนนเสียงเฉียดฉิว เตรียมส่งให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายในวันนี้ หลังจากการเจรจาและอภิปรายอย่างเข้มข้นดุเดือดนานเกือบ 24 ชั่วโมง ที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ผ่านความเห็นชอบร่างงบประมาณรายจ่ายและลดภาษีจำนวนมหาศาลของรัฐบาลด้วยคะแนนเสียงเฉียดฉิว 218 ต่อ 214 เสียง ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ต้องการผลักดันร่างกฎหมายนี้ให้ผ่านทั้งสองสภา หลังจากสมาชิกวุฒิสภา เพิ่งผ่านความเห็นชอบไปเมื่อสองวันก่อน ร่างกฎหมายฉบับนี้เตรียมถูกส่งต่อให้ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งทรัมป์บอกว่าเขาจะลงนามในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ ตรงกับวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐอเมริกาพอดิบพอดี ร่างกฎหมาย ‘วันบิ๊กบิวตีฟูล’ (One Big Beautiful Bill Act: OBBBA หรือ OBBA) ความหนา 869 หน้าฉบับนี้ จะต่ออายุกฎหมายลดภาษีและการจ้างงาน (Tax Cuts and Jobs Act) ปี 2560 ของรัฐบาลทรัมป์สมัยแรกที่จะหมดอายุในสิ้นปีนี้ มุ่งเน้นเพิ่มงบประมาณกลาโหมและการควบคุมคนเข้าเมือง โดยจะตัดงบโครงการสวัสดิการสังคม รวมถึงด้านอาหาร ค่ารักษาพยาบาลของประชาชน และงบอุดหนุนโครงการสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อมจำนวนมาก และจะทำให้สหรัฐมีหนี้สินเพิ่มขึ้นอีกจากหนี้สินปัจจุบันที่สูงถึง […]

น้ำหอมทรัมป์ น้ำหอมของคนรักชาติ

วอชิงตัน 3 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปิดตัวน้ำหอมรุ่นใหม่ “วิคตอรี 45-47 (Victory 45-47) โดยบอกว่าเป็นกลิ่นน้ำหอมของคนรักชาติ ใช้แล้วจะได้มีชัยชนะเหมือนทรัมป์ นายทรัมป์เปิดตัวน้ำหอมแบรนด์ใหม่ของตัวเองชื่อ “Victory 45-47” ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในอาณาจักรธุรกิจมูลค่ามหาศาลของเขา ทรัมป์โพสต์ผ่าน “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ว่าที่น้ำหอมนี้ใช้ชื่อว่า Victory 45-47 เพราะสะท้อนถึงชัยชนะ พละกำลัง และความสำเร็จ สำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง ซื้อขวดหนึ่งให้ตัวคุณเอง อีกขวดสำหรับคนที่คุณรัก น้ำหอมรุ่นนี้ตั้งชื่อตามลำดับประธานาธิบดีคนที่ 45 ซึ่งทรัมป์เคยดำรงตำแหน่ง และคนที่ 47 ที่เขากำลังดำรงตำแหน่งในปัจจุบัน โดยชูจุดขายเรื่องชัยชนะ พละกำลัง และความสำเร็จ สำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทรัมป์ยังกล่าวย้ำว่า น้ำหอมนี้ไม่ใช่แค่กลิ่นหอมธรรมดา แต่คือสัญลักษณ์ของการไม่ยอมแพ้ ขอให้ทุกคนสนุกกับน้ำหอมขวดนี้ และขอให้มีชัยชนะต่อไป เพราะนี่คือน้ำหอมของผู้รักชาติที่ไม่ยอมถอย เหมือนกับประธานาธิบดีทรัมป์ ขวดของน้ำหอม Victory 45-47 ถูกผลิตออกมาให้คล้ายกับรางวัลออสการ์ มีรูปปั้นขนาดเล็กสีทองของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์อยู่ด้านบน ส่วนที่ฐานด้านล่างมีลายเซ็นของทรัมป์อยู่ด้วยในทุกๆ […]

‘ทรัมป์’ เรียกร้องฮามาสยอมรับข้อเสนอหยุดยิงในกาซา

วอชิงตัน 2 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเรียกร้องให้กลุ่มติดอาวุธฮามาส ที่มีอิหร่านหนุนหลัง ตกลงยอมรับสิ่งที่เขาเรียกว่า “ข้อเสนอสุดท้าย” ในการหยุดยิงกับอิสราเอลในฉนวนกาซาเป็นเวลา 60 วัน โดยข้อเสนอนี้จะถูกนำส่งให้ฮามาสโดยเจ้าหน้าที่ผู้ไกล่เกลี่ยจากกาตาร์และอียิปต์ นายทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ของเขาว่า ตัวแทนของเขาได้มีการประชุมยาวนานและได้ผลเป็นอย่างดี กับเจ้าหน้าที่อิสราเอลเกี่ยวกับสถานการณ์ในฉนวนกาซา นายทรัมป์ไม่ได้ระบุชื่อตัวแทนของเขา แต่มีรายงานว่า นายสตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษสหรัฐ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ และ รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ มีกำหนดพบกับ นายรอน เดอร์เมอร์ ที่ปรึกษาอาวุโสของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล นายทรัมป์ กล่าวว่าอิสราเอลได้ตกลง “ตามเงื่อนไขที่จำเป็นเพื่อสรุป” การหยุดยิงเป็นเวลา 60 วัน โดยช่วงเวลานี้จะเป็นโอกาสในการทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อยุติสงคราม นายทรัมป์ระบุด้่วยว่า ตัวแทนจากกาตาร์และอียิปต์จะเป็นผู้ส่งมอบ “ข้อเสนอสุดท้าย” นี้ให้กับกลุ่มฮามาส ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า เขาหวังว่ากลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์จะยอมรับข้อตกลงนี้เพื่อประโยชน์ของตะวันออกกลาง เพราะสถานการณ์ในขณะนี้มันจะไม่มีอะไรดีขึ้น-มีแต่จะเลวร้ายลงไปกว่าเดิม นายทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนหน้านี้ว่า เขามีความหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเพื่อแลกเปลี่ยนตัวประกันระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซาได้ภายในสัปดาห์หน้า เขามีกำหนดจะเข้าพบกับนายเนทันยาฮูในวันจันทร์ที่ทำเนียบขาว สหรัฐได้เสนอให้หยุดยิงเป็นเวลา 60 วันในฉนวนกาซา โดยมีเงื่อนไขให้ปล่อยตัวประกันครึ่งหนึ่งที่ถูกควบคุมตัวอยู่ […]

ญี่ปุ่นยืนยันไม่ยอมเสียสละภาคเกษตรในข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ

โตเกียว 1 ก.ค. – นายโยชิมาสะ ฮายาชิ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะไม่ยอมเสียสละภาคเกษตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาภาษีกับสหรัฐ แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะร้องเรียนว่าพันธมิตรอย่างญี่ปุ่นไม่ได้นำเข้าข้าวจากสหรัฐ นายทรัมป์เขียนข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า การที่ญี่ปุ่นไม่เต็มใจที่จะนำเข้าข้าวที่ปลูกในอเมริกา เป็นสัญญาณว่านานาประเทศได้กลายเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์จากสหรัฐมากเกินไปจนเคยชิน นายฮายาชิปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับโพสต์ดังกล่าวของนายทรัมป์ แต่กล่าวว่ารัฐบาลจะยังคงเดินหน้าเจรจาการค้ากับสหรัฐเพื่อบรรลุข้อตกลงที่จะทำให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ราคาข้าวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่ส่งผลให้การเก็บเกี่ยวในปี 2023 ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพต่ำ ทำให้เกิดการขาดแคลนข้าวเมื่อปีที่แล้ว และเพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาราคาข้าว รัฐบาลญี่ปุ่นได้ระบายข้าวสำรองฉุกเฉินเกือบทั้งหมดออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา

‘มัสก์’ ขู่โค่นนักการเมืองหนุนร่างกฎหมายภาษี-ใช้จ่าย

วอชิงตัน 1 ก.ค. – อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งเทสลาและสเปซเอ็กซ์ กลับมาวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ อีกครั้งเกี่ยวกับนโยบายลดภาษีและร่างกฎหมายการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยเขาประกาศว่าจะโค่นล้มนักการเมืองที่สนับสนุนนโยบายดังกล่าวให้พ้นจากตำแหน่ง หลังจากที่ตัวเขาเองเคยรณรงค์จำกัดการใช้จ่ายของรัฐบาล หลังจากที่เงียบไปนานหลายสัปดาห์ ภายหลังความขัดแย้งกับนายทรัมป์ เรื่องกฎหมายดังกล่าว มัสก์ได้กลับมาแสดงความคิดเห็นอีกครั้งในวันเสาร์ เมื่อวุฒิสภาเริ่มพิจารณาร่างกฎหมาย โดยเขาโพสต์ข้อความผ่านทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของเขา เรียกร่างกฎหมายนี้ว่าเป็น “เรื่องบ้าและทำลายล้างอย่างสิ้นเชิง” และในวันจันทร์ เขาก็ได้เพิ่มระดับการวิพากษ์วิจารณ์ โดยกล่าวว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เคยหาเสียงว่าจะลดการใช้จ่าย แต่กลับสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ควรละอายใจ มัสก์กล่าวด้วยว่า เขาจะดำเนินการอย่างเต็มที่ที่จะทำให้บุคคลเหล่านี้พ่ายแพ้การเลือกตั้งขั้นต้นในครั้งหน้า มัสก์ยังเรียกร้องอีกครั้งให้มีการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยเขาระบุว่าถึงเวลาแล้วสำหรับพรรคการเมืองใหม่ที่ใส่ใจประชาชนอย่างแท้จริง คำวิจารณ์ของมัสก์ต่อร่างกฎหมายดังกล่าวทำให้เกิด รอยร้าวในความสัมพันธ์ของเขากับนายทรัมป์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังจากที่มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีผู้นี้เคยใช้เงินเกือบ 300 ล้านดอลลาร์ ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งใหม่ของทรัมป์ และยังเป็นผู้นำหน่วยงานที่เรียกว่ากระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล (Department of Government Efficiency) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มในการลดต้นทุนของรัฐบาลกลางที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ประกาศยุติการเจรจาการค้าทั้งหมดกับแคนาดา

วอชิงตัน 28 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐยุติการเจรจาการค้ากับแคนาดาอย่างกะทันหันในวันศุกร์ โดยให้เหตุผลว่าแคนาดาจะเก็บภาษีที่มุ่งเป้าไปที่บริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐ ซึ่งนายทรัมป์มองว่าเป็น “การโจมตีอย่างโจ่งแจ้ง” และเขากล่าวว่า จะกำหนดอัตราภาษีใหม่สำหรับสินค้าแคนาดาภายในสัปดาห์หน้า นายทรัมป์โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ของเขา โดยเรียกการเก็บภาษีดังกล่าวของแคนาดาว่า “เป็นการโจมตีสหรัฐโดยตรงและโจ่งแจ้ง” และกล่าวว่าแคนาดาเป็น “ประเทศที่ค้าขายด้วยยากมาก” นายทรัมป์กล่าวว่า จากการเก็บภาษีที่ร้ายแรงนี้ สหรัฐขอยุติการหารือด้านการค้าทั้งหมดกับแคนาดาโดยมีผลทันที เขากล่าวด้วยว่า สหรัฐจะแจ้งให้แคนาดาทราบถึงอัตราภาษีที่จะต้องจ่ายเพื่อทำธุรกิจกับสหรัฐภายในเจ็ดวันข้างหน้า ทางด้านสำนักนายกรัฐมนตรีมาร์ค คาร์นีย์ ของแคนาดากล่าวว่า รัฐบาลแคนาดาจะยังคงมีส่วนร่วมในการเจรจาที่ซับซ้อนเหล่านี้กับสหรัฐ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของแรงงานและภาคธุรกิจของแคนาดา การตัดสินใจของนายทรัมป์มีขึ้นในขณะที่แคนาดาเดินหน้าแผนการเก็บ “ภาษีบริการดิจิทัล” ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันจันทร์นี้ ภาษีนี้จะเรียกเก็บร้อยละ 3 จากรายได้ที่มาจากผู้ใช้งานชาวแคนาดาของบริษัทเทคโนโลยีทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะกระทบกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ อย่างแอมะซอน เมตา กูเกิ้ล ของอัลฟาเบต และแอปเปิล เป็นต้น.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ปฏิเสธพิจารณาข้อตกลงนิวเคลียร์พลเรือนกับอิหร่าน

วอชิงตัน 28 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าววันศุกร์ ปฏิเสธรายงานข่าวที่ปรากฏในสื่อที่ระบุว่ารัฐบาลของเขามีการหารือถึงความเป็นไปได้ในการช่วยเหลืออิหร่าน ให้เข้าถึงเงินมากถึง 30,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการสร้างโครงการพลังงานนิวเคลียร์สำหรับพลเรือน นายทรัมป์ ได้กล่าวในโพสต์บนแพลตฟอร์ม “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ของเขาว่า รายงานดังกล่าวเป็น “การหลอกลวง” (HOAX) ที่ระบุว่าเขาต้องการจะให้เงินอิหร่าน 30,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างโรงงานนิวเคลียร์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทหาร และเขาก็ไม่เคยได้ยินแนวคิดที่ไร้สาระนี้มาก่อนเลย ซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี และเอ็นบีซี นิวส์ (NBC News) รายงานเมื่อวันศุกร์ อ้างแหล่งข่าวที่ระบุว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา รัฐบาลนายทรัมป์สำรวจความเป็นไปได้ที่จะเสนอสิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจให้กับอิหร่าน เพื่อแลกกับการที่รัฐบาลอิหร่านระงับการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา อิหร่านและสหรัฐได้จัดการเจรจาทางอ้อม โดยมีเป้าหมายเพื่อหาทางออกทางการทูตครั้งใหม่เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน อิหร่านยืนยันว่าโครงการของตนเป็นไปเพื่อสันติ ในขณะที่สหรัฐกล่าวว่าต้องการให้มั่นใจว่าอิหร่านไม่สามารถสร้างอาวุธนิวเคลียร์ได้.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ระบุจะแก้ไขความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือให้ลุล่วง

วอชิงตัน 28 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวในวันศุกร์ว่า เขาจะแก้ไขความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือให้สำเร็จ ในการแถลงข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว ซึ่งนายทรัมป์ได้กล่าวเน้นย้ำถึงความพยายามในการแก้ไขความขัดแย้งระดับโลก ระหว่างน้ัน ผู้สื่อข่าวถามนายทรัมป์ว่าได้เขียนจดหมายถึงนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้หรือไม่ นายทรัมป์ไม่ได้ตอบคำถามโดยตรง แต่กล่าวว่า เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายคิมและเข้ากันได้ดี ดังนั้นจะต้องรอดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า มีบางคนบอกว่าอาจมีความขัดแย้งเกิดขึ้น แต่เขาคิดว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้ แต่ถ้ามีความขัดแย้ง ก็คงไม่เกี่ยวกับสหรัฐ สำนักข่าวเอ็นเค นิวส์ (NK News) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่จับตาดูเกาหลีเหนือและมีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงโซล รายงานในเดือนนี้ว่า คณะผู้แทนของเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์คของสหรัฐได้ปฏิเสธที่จะรับจดหมายจากนายทรัมป์ถึงนายคิมหลายครั้ง นายทรัมป์และนายคิมประชุมสุดยอดร่วมกันสามครั้งในระหว่างที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในวาระแรกระหว่างปี 2017-2021 และแลกเปลี่ยนจดหมายกันหลายฉบับ ก่อนที่ความพยายามทางการทูตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจะต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากสหรัฐ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์ของตน ในวาระที่สองที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐ เขายอมรับว่าเกาหลีเหนือเป็น “มหาอำนาจนิวเคลียร์” ในขณะที่ทางทำเนียบขาวกล่าวเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนว่า นายทรัมป์จะยินดีกับการติดต่อสื่อสารกับคิมอีกครั้ง แต่ไม่ได้ยืนยันว่ามีการส่งจดหมายใด ๆ ไปหรือไม่ ในขณะที่เกาหลีเหนือ ไม่มีทีท่าสนใจที่จะกลับมาเจรจากับสหรัฐนับตั้งแต่การทูตของนายทรัมป์ล้มเหลวในปี 2019.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เล็งพิจารณาทิ้งระเบิดอิหร่านอีกครั้ง

วอชิงตัน 28 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ วิพากษ์วิจารณ์ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี (Ayatollah Ali Khamanei) ผู้นำสูงสุดของอิหร่านอย่างรุนแรงเมื่อวันศุกร์ และยกเลิกแผนการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่าเขาจะพิจารณาทิ้งระเบิดอิหร่านอีกครั้ง หากรัฐบาลเตหะรานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมในระดับที่น่าเป็นห่วง นายทรัมป์โพสต์ข้อความใน “ทรูธ โซเชียล” แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเขาแสดงท่าทีที่แข็งกร้าวต่อคำกล่าวแรกของคาเมเนอี หลังจากความขัดแย้ง 12 วัน กับอิสราเอลที่ยุติลงเมื่อสหรัฐ เริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อสถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คาเมเนอี กล่าวว่า อิหร่าน “ตบหน้าอเมริกา” ด้วยการเปิดฉากโจมตีฐานทัพหลักของสหรัฐในกาตาร์ หลังจากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐ นอกจากนี้ คาเมเนอียังบอกว่าอิหร่านจะไม่มีวันยอมแพ้ นายทรัมป์กล่าวว่าเขาเป็นผู้ไว้ชีวิตคาเมเนอี เจ้าหน้าที่สหรัฐบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนว่า นายทรัมป์ได้ยับยั้งแผนของอิสราเอลที่จะสังหารผู้นำสูงสุดของอิหร่าน นายทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้พยายามดำเนินการเกี่ยวกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน เพื่อเปิดโอกาสให้อิหร่านฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้เขาได้ยกเลิกความพยายามนั้นแล้ว นายทรัมป์ยังกล่าวในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวในเวลาต่อมาว่า เขาไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะโจมตีอิหร่านอีกครั้ง เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการทิ้งระเบิดโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านอีก หากพิจารณาแล้วว่าจำเป็นในบางจุด ผู้นำสหรัฐกล่าวด้วยว่าเขาต้องการให้ผู้ตรวจสอบจากสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าระวังนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ หรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถืออื่น ๆ สามารถเข้าตรวจสอบสถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่านได้ […]

‘ทรัมป์’ ต้องการขีปนาวุธ-โดรนเพิ่มแต่ขอ F-35 น้อยลงลงในงบปีหน้า 

วอขิงตัน 27 มิ.ย. – เอกสารงบประมาณสหรัฐที่เผยแพร่ในวันพุธที่ผ่านมาระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการให้มีการขึ้นเงินเดือนทหารและเพิ่มการจัดซื้อขีปนาวุธและอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่ทันสมัย ในงบประมาณกลาโหมปีหน้า ในขณะเดียวกันก็จะลดตำแหน่งงานในกองทัพเรือ รวมถึงลดการจัดซื้อเรือรบและเครื่องบินขับไล่ด้วย งบประมาณด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐที่ขอไปสำหรับปีงบประมาณ 2026 อยู่ที่ 892,600 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเท่ากับงบประมาณของปีนี้ งบประมาณดังกล่าว ซึ่งรวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาวุธนิวเคลียร์ที่ดำเนินการโดยกระทรวงพลังงาน และการเพิ่มเงินทุนสำหรับความมั่นคงมาตุภูมิ บ่งบอกถึงทิศทางที่ทรัมป์ต้องการให้กองทัพเป็นไป โดยการดึงเงินทุนทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์และบริการต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในสิ่งที่เขามีความสำคัญ กระทรวงกลาโหมได้รับจัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งของงบประมาณความมั่นคงแห่งชาติเป็นจำนวน 848,300 ล้านดอลลาร์ ทำเนียบขาวระบุว่า เงินทุนดังกล่าวจะถูกนำไปใช้เพื่อยับยั้งการรุกรานของจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และ ฟื้นฟูฐานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของสหรัฐ เจ้าหน้าที่กลาโหมอาวุโสรายหนึ่งได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ตามคำขอของกระทรวงกลาโหม งบประมาณสำหรับโครงการ “โดมทองคำ” (Golden Dome) ซึ่งเป็นโครงการป้องกันขีปนาวุธที่โดดเด่นแต่เป็นที่ถกเถียงของทรัมป์นั้น ได้ถูกรวมอยู่ในคำของบประมาณแยกต่างหาก และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอฉบับล่าสุดที่ส่งไปยังรัฐสภา.-813.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 146
...