ปลดโควิดออกจากโรคต้องห้ามต่างด้าวที่เข้าไทย
ที่ประชุมครม.เห็นชอบปลดโรคโควิด-19 ออกจากโรคต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าวที่เข้ามาในไทยหรือมีถิ่นพำนักในไทย
ที่ประชุมครม.เห็นชอบปลดโรคโควิด-19 ออกจากโรคต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าวที่เข้ามาในไทยหรือมีถิ่นพำนักในไทย
“หมอยง” ระบุสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นตลอด และเริ่มเข้าสู่โรคประจำฤดูกาล คาดโรคจะเริ่มน้อยลงตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นปี 2565
กรมควบคุมโรค เผยพบผู้ป่วยโควิด-19 อายุ 105 ปี ประวัติไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้รับการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (Long Acting Antibody: LAAB) ที่สามารถออกฤทธิ์ลบล้างเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ได้ ทั้งต่อสายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์กลายพันธุ์ส่วนใหญ่ ซึ่งจะฉีดให้กับกลุ่มที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำและร่างกายไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ด้วยวัคซีน
รัฐบาลเชิญชวนประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง เข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ช่วยลดอาการหนักและเสียชีวิตเมื่อติดเชื้อ ยังจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันทั้งโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่
รองโฆษกรัฐบาลเผยสถานการณ์ว่างงานของไทยดีขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สำนักงานสถิติเผยข้อมูล ก.ค. 65 มีผู้ว่างงาน 5.14 แสนคน ต่ำที่สุดนับแต่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19
เจนีวา 15 ก.ย. – องค์การอนามัยโลกระบุว่า ทั่วโลกไม่เคยเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของโรคโควิด-19 เท่านี้มาก่อน ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิดมายาวนานหลายปี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 6 ล้านคนทั่วโลก ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการขององค์การอนามัยโลก กล่าวในงานแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์เมื่อวันพุธตามเวลาในสวิตเซอร์แลนด์ว่า ตอนนี้การระบาดของโรคโควิดยังไม่จบสิ้น แต่เริ่มมองเห็นจุดจบของโรคโควิดแล้ว ทั่วโลกยังคงจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อคว้าโอกาสในครั้งนี้ไว้ เฉกเช่นนักวิ่งมาราธอนที่ไม่หยุดวิ่งแม้มองเห็นเส้นชัยที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แต่จะวิ่งให้เร็วขึ้นด้วยพลังทั้งหมดที่มีอยู่ ทั่วโลกก็ไม่ควรการ์ดตกแม้มองเห็นจุดจบของโรคโควิดที่ใกล้เข้ามา เพราะหากเป็นเช่นนั้น สถานการณ์ระบาดก็จะย่ำแย่ลง ดร. ทีโดรส ยังระบุว่า หากทั่วโลกไม่คว้าโอกาสในตอนนี้ไว้ ก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากขึ้นและเผชิญกับความไม่แน่นอนมากกว่าเดิม ทั้งยังเตือนให้ทุกประเทศเฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิดต่อไป และจำเป็นต้องพิจารณาปรับใช้นโยบายอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 และเชื้อโควิดที่อาจกลายพันธุ์ในอนาคต รวมถึงเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้แก่ประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และยังคงต้องตรวจหาเชื้อโควิดในคนกลุ่มนี้ต่อไป ขณะที่โฆษกขององค์การอนามัยโลกระบุว่า การประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกครั้งต่อไปมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนตุลาคม โดยมีวาระสำคัญเกี่ยวกับการตัดสินใจว่า องค์การอนามัยโลกจะยังคงกำหนดให้การระบาดของโรคโควิดเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลกหรือไม่. -สำนักข่าวไทย
ศาลเยอรมนีตัดสินลงโทษจำคุกชายวัย 50 ปีตลอดชีวิตจากคดีที่เขายิงพนักงานปั๊มน้ำมันเสียชีวิตหลังพนักงานคนดังกล่าวเตือนให้เขาสวมหน้ากากอนามัย
กรมบัญชีกลาง กำหนดอัตราค่ายา “ฟาวิ-โมนูล” สำหรับผู้ป่วยนอก กรณีผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวป่วยเป็นโรคโควิด-19 เริ่ม 1 ก.ย.65
เวลลิงตัน 12 ก.ย. – นิวซีแลนด์ประกาศยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในอาคารและคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในบางตำแหน่งงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนไปใช้แนวทางอยู่ร่วมกับเชื้อโควิด นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ กล่าวที่งานแถลงข่าวในกรุงเวลลิงตันวันนี้ว่า ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้เป็นต้นไป ชาวนิวซีแลนด์ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยในทุกสถานที่ ยกเว้นสถานบริการด้านสุขภาพ เช่น โรงพยาบาลและสถานดูแลผู้สูงอายุ นอกจากนี้ รัฐบาลจะยกเลิกข้อกำหนดที่ใช้วัดระดับความเสี่ยงของการแพร่ระบาดในชุมชนและข้อจำกัดเพื่อควบคุมโรคโควิด ผู้นำนิวซีแลนด์ยังระบุว่า ตอนนี้นิวซีแลนด์อยู่ในสถานะพร้อมยกเลิกข้อจำกัดควบคุมโรคที่เหลืออยู่ เนื่องจากพบยอดผู้ป่วยโควิดและผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลลดลงในขณะที่ฤดูหนาวใกล้สิ้นสุด รวมถึงมีอัตราฉีดวัคซีนโควิดอยู่ในระดับสูง ขณะที่ธุรกิจบางประเภทอาจกำหนดให้ลูกค้าสวมหน้ากากอนามัยได้ และเป็นหน้าที่ของเจ้าของธุรกิจที่จะตัดสินใจว่าจะบังคับให้พนักงานฉีดวัคซีนโควิดหรือไม่ เนื่องจากรัฐบาลนิวซีแลนด์จะยกเลิกคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนโควิดในวันที่ 26 กันยายน ในขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมายังนิวซีแลนด์ไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนโควิดหรือแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิดอีกต่อไป ยกเว้นผู้ที่มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้านเป็นเวลา 7 วัน ขณะที่ผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดไม่จำเป็นต้องกักตัว แต่ต้องตรวจหาเชื้อโควิดทุกวัน ขณะนี้ นิวซีแลนด์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.76 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 2,800 คน. -สำนักข่าวไทย
ปักกิ่ง 8 ก.ย. – นครเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวนในจีน ประกาศขยายการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของนครเฉิงตูในวันนี้ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 นครเฉิงตูในมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 116 คน ลดลงจากวันพุธที่มี 121 คน และประกาศขยายการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของนครเฉิงตูในวันนี้ โดยให้เหตุผลว่าหลายพื้นที่ยังคงมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิดในชุมชน แม้ก่อนหน้านี้มีการคาดกันว่า ทางการนครเฉิงตูอาจยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในวันพุธก็ตาม นครเฉิงตูยังระบุว่า ชาวเฉิงตูที่อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์จะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดเป็นประจำทุกวัน แต่ไม่ได้ระบุว่าจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เมื่อใด ขณะที่ประชาชนจำนวนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในบางพื้นที่ที่ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์จะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดในวันที่ 9 และ 11 กันยายน ก่อนหน้านี้ นครเฉิงตู ซึ่งมีประชากร 21.2 ล้านคน ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เมื่อสัปดาห์ก่อน หลังพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ในหลายพื้นที่ จนทำให้ทางการท้องถิ่นต้องเดินหน้าตรวจหาเชื้อโควิดครั้งใหญ่ทั่วเมือง อีกทั้งยังทำให้ท่าอากาศยานนานาชาติเฉิงตูชวงหลิวต้องยกเลิกเที่ยวบินราวร้อยละ 90 เมื่อวันจันทร์ ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยสะสมกว่า 6.65 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 25,000 คน.-สำนักข่าวไทย
ปักกิ่ง 6 ก.ย. – ชาวจีนในสื่อโซเชียลมีเดียออกมาแสดงความไม่พอใจมาตรการล็อกดาวน์ของทางการจีน หลังมีคลิปวิดีโอเผยแพร่ในโลกออนไลน์ที่แสดงให้เห็นภาพชาวนครเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวน ถูกสั่งห้ามออกจากที่พักขณะเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.8 เมื่อวันจันทร์ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ชาวนครเฉิงตูบางส่วนถูกสั่งห้ามออกนอกที่พักอาศัยขณะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.8 เมื่อวันจันทร์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 65 คน เนื่องจากนครเฉิงตู ซึ่งมีประชากร 21 ล้านคน กำลังอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่ประชาชนบางส่วนที่วิ่งหนีแผ่นดินไหวลงมาจากอาคารที่พักอาศัยกลับพบว่าประตูทางออกถูกปิดตามคำสั่งล็อกดาวน์ของทางการท้องถิ่นตามนโยบายทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์ของทางการจีนที่กำหนดให้ชุมชนที่พบผู้ป่วยโควิดอย่างน้อย 1 คนต้องเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์ คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในโต่วอิน หรือติ๊กต๊อกที่ใช้เฉพาะในจีน เผยให้เห็นภาพชาวนครเฉิงตูยืนตื่นตกใจกลัวอยู่หลังประตูลูกกรงที่ถูกล็อกไม่ให้ออกนอกอาคารที่พักอาศัย ขณะที่อีกคลิปหนึ่งแสดงให้เห็นภาพชายคนหนึ่งตะโกนใส่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าอพาร์ตเมนต์ให้รีบเปิดประตูทางออกโดยเร็ว เพราะเกิดแผ่นดินไหว แต่เจ้าหน้าที่กลับตอบกลับมาว่า แผ่นดินไหวจบแล้ว แม้ทางการจีนยังไม่มีรายงานพบผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวที่เชื่อมโยงกับมาตรการล็อกดาวน์ แต่คลิปวิดีโอเหล่านี้ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนในเวย์ปั๋ว แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังของจีนแบบเดียวกันกับทวิตเตอร์ ขณะที่คณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติของนครเฉิงตูได้โพสต์ข้อความบนบัญชีผู้ใช้งานอย่างเป็นทางการในวีแชต แอปพลิเคชั่นสมาร์ตโฟนยอดนิยมของจีนว่า เจ้าหน้าที่ควรให้ความสำคัญกับชีวิตของประชาชนเป็นอันดับแรกเมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหว ไฟไหม้ น้ำท่วม และภัยพิบัติอื่น ๆ.-สำนักข่าวไทย
กรมวิทย์ฯ แจงโควิดในไทยไทยยังพบแค่ BA.5 ยึดครอง ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีสายพันธุ์อื่นมาแทนที่ สอดคล้องกับสถานการณ์ทั่วโลก ส่วน BA.2.75 แค่ 13 คน