fbpx

อินโดนีเซียกางเต็นท์นอก รพ. รองรับยอดป่วยโควิดพุ่ง

จาการ์ตา 25 มิ.ย. – อินโดนีเซียขยายพื้นที่หน่วยฉุกเฉินทางการแพทย์ด้วยการกางเต็นท์นอกโรงพยาบาลเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับเตียงผู้ป่วยมากขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซียเร่งเพิ่มขีดความสามารถของโรงพยาบาลเพื่อรองรับยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่พุ่งสูงจากการะบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา นายบูดี กูนาดี ซาดิคิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียแถลงวันนี้ว่า ทางการกำลังปรับปรุงโรงพยาบาล 3 แห่งในกรุงจาการ์ตาเพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิดโดยเฉพาะ และใช้ศูนย์กักตัวอีก 2 แห่งเป็นสถานที่รองรับผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มได้อีก 7,000 เตียง ทั้งยังกล่าวยืนยันว่า อินโดนีเซียยังมีถังออกซิเจนเพียงพอสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อ และได้สั่งให้บริษัทผลิตไฟฟ้าของทางการตรวจสอบให้แน่ใจว่า โรงงานผลิตออกซิเจนยังคงมีไฟฟ้าใช้หลังเกิดเหตุไฟดับในจังหวัดชวากลางเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่นายอานีส บาสเวดาน ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาเผยเมื่อวันพุธว่า กรุงจาการ์ตามีอัตราครองเตียงผู้ป่วยแยกเดี่ยวสูงถึงร้อยละ 90 และมีอัตราครองเตียงผู้ป่วยอาการหนักถึงร้อยละ 86 ยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นกำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบสาธารณสุขที่เปราะบางของอินโดนีเซีย และทำให้โรงพยาบาลในหลายเมืองใกล้รองรับผู้ป่วยจนเต็มขีดความสามารถ ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขหลายร้อยคนมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวก และมีอย่างน้อย 10 รายที่เสียชีวิตทั้งที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบถ้วน นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่พบครั้งแรกในอินเดียและแพร่ระบาดได้รวดเร็วในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ จนทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขต้องออกมาเตือนว่า อินโดนีเซียอาจเสี่ยงที่จะมียอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงเช่นเดียวกับอินเดียเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากมีอัตราตรวจหาเชื้อโควิดและการติดตามผู้ป่วยสัมผัสในระดับต่ำ ด้านทางการอินโดนีเซียรายงานเมื่อวานนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 20,574 คน ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่พบการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 2 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 55,900 คน.-สำนักข่าวไทย

อินโดฯ สั่งจำคุกผู้นำกลุ่มอิสลามเผยแพร่ข้อมูลเท็จโควิด

ศาลอินโดนีเซียตัดสินจำคุกนายไรซีก ชีฮับ ผู้นำกลุ่มอิสลามแนวคิดแข็งกร้าวเป็นเวลา 4 ปีในความผิดฐานกระทำการเผยแพร่ข้อมูลเท็จผ่านคลิปวิดีโอที่ระบุว่า เขามีร่างกายแข็งแรงดี แม้มีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นบวก

อินโดนีเซียจะจำกัดการเดินทางเข้มขึ้นสกัดโควิดระบาดหนัก

จาการ์ตา 21 มิ.ย. – อินโดนีเซียจะใช้มาตรการจำกัดการเดินทางที่เข้มงวดมากขึ้นในบางพื้นที่ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังพบยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นในรอบเกือบ 5 เดือน นายแอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีประสานงานกิจการเศรษฐกิจของอินโดนีเซียเผยวันนี้ว่า อินโดนีเซียจะใช้มาตรการจำกัดการเดินทางที่เข้มงวดมากขึ้นในบางพื้นที่เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เช่น การจำกัดจำนวนพนักงานที่ต้องทำงานในสำนักงาน และการสั่งงดกิจกรรมทางศาสนาในศาสนสถาน ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า ทางการอินโดนีเซียจะใช้มาตรการดังกล่าวในพื้นที่ระดับสีแดง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบยอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน ทางการอินโดนีเซียรายงานว่า เมื่อวานนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 13,737 คน ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม และยังมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ขณะนี้ อินโดนีเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.99 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 54,600 คน ซึ่งเป็นยอดผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้. -สำนักข่าวไทย

เผยบุคลากรแพทย์อินโดนีเซียติดโควิดแม้ฉีดวัคซีนแล้ว

อินโดนีเซียพบแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกว่า 350 คน ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทั้งที่ได้รับการฉีดวัคซีนของซิโนแวค และมีอีกหลายสิบรายที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

อินโดนีเซียแจกไก่จูงใจให้คนมาฉีดวัคซีนโควิด

ชวาตะวันตก 16 มิ.ย. – อินโดนีเซียแจกไก่เป็นรางวัลให้แก่ผู้สูงอายุที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่เมืองซิปานัสในจังหวัดชวาตะวันตก หลังพบว่ามีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนกันน้อย ชาวบ้านวัย 67 ปีคนหนึ่งกล่าวหลังจากที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของซิโนแวกเข็มแรกและได้รับไก่ 1 ตัวจากทางการอินโดนีเซียว่า เขากลัวว่าถ้าฉีดวัคซีนไปแล้ว เขาจะตายในทันที ขณะที่ทางการท้องถิ่นของเมืองซิปานัสเริ่มโครงการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้สูงอายุตามบ้านเรือนตั้งแต่เมื่อวานนี้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า พร้อมทั้งมอบไก่เป็นรางวัลให้แก่ผู้ที่ฉีดวัคซีน หัวหน้าตำรวจของเมืองซิปานัส ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มการแจกไก่เพื่อจูงใจให้คนฉีดวัคซีน กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะโน้มน้าวให้ผู้สูงอายุเข้ารับการฉีดวัคซีน เพราะพวกเขารู้สึกหวาดกลัวและอ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องลงพื้นที่ฉีดวัคซีนถึงบ้าน และมอบไก่ให้แก่ผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนแทนคำขอบคุณ เมืองซิปานัสตั้งเป้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 2 โดสให้แก่ประชาชนราว 60,000 คนภายในสิ้นเดือนนี้ แต่กลับฉีดวัคซีนโดสแรกไปได้เพียง 2,500 คนนับตั้งแต่อินโดนีเซียเริ่มโครงการฉีดวัคซีนในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะนี้ อินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับที่สี่ของโลก มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.9 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 53,200 คน ซึ่งเป็นยอดผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียระบุว่า อินโดเนีเซียฉีดวัคซีนครบ 2 โดสให้แก่ประชาชนราว 8.8 ล้านคน หรือคิดเป็นเพียงร้อยละ 5 […]

อินโดนีเซียตั้งเป้าฉีดวัคซีนวันละ 1 ล้านโดสภายใน ก.ค.

จาการ์ตา 9 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย กล่าววันนี้ว่า เขาหวังว่าอินโดนีเซียจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้ได้วันละ 1 ล้านโดสภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียขยายสิทธิให้ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปในกรุงจาการ์ตาเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อควบคุมการระบาดที่เพิ่มขึ้นในนครหลวง ประธานาธิบดีวิโดโด หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ โจโกวี กล่าวในระหว่างเดินทางเยือนเมืองเดปกในจังหวัดชวาตะวันตกว่า เขาต้องการให้อินโดนีเซียฉีดวัคซีนให้ได้วันละ 700,000 โดสในเดือนนี้ และเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 1 ล้านโดสในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของอินโดนีเซียกำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นครั้งใหม่ที่เป็นผลมาจากเชื้อโควิดกลายพันธุ์และการเดินทางที่เพิ่มขึ้นในเดือนที่แล้ว เนื่องจากเป็นช่วงที่ชาวอินโดนีเซีย ซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ต้องเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดหลังสิ้นสุดเดือนรอมฎอนในวันหยุด ด้านเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเผยว่า กรุงจาการ์ตาเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการระบาดของอินโดนีเซีย พร้อมทั้งยืนยันว่า ทางการได้ขยายสิทธิเข้ารับการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปแล้ว อินโดนีเซียฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของซิโนแวกและแอสตราเซเนกาครบสองโดสให้แก่ประชาชนกว่า 11.43 ล้านคนจากประชากรทั้งหมดราว 270 ล้านคน อินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับสี่ของโลก ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน 181.5 ล้านคนภายในปีหน้า ส่วนคณะทำงานเฉพาะกิจด้านโรคโควิด-19 ของอินโดนีเซียรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 7,725 คน ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 […]

อินโดนีเซียเผยวัคซีนซิโนแวค ป้องกันเสียชีวิตได้ 98%

อินโดนีเซียเผยว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่พัฒนาโดยซิโนแวค ไบโอเทค บริษัทเวชภัณฑ์ของจีน มีประสิทธิภาพป้องกันการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 98

อินโดนีเซียระงับออกวีซ่าให้ผู้เดินทางมาจากอินเดีย

จาการ์ตา 23 เม.ย. – อินโดนีเซียจะระงับการออกวีซ่าให้แก่ชาวต่างชาติที่มีประวัติเดินทางไปอินเดียในช่วง 14 วันที่ผ่านมา เพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่กลายพันธุ์ หลังอินเดียพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่มากเป็นสถิติสูงสุดในโลกติดต่อกันเป็นวันที่สอง นายไอลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีกระทรวงประสานงานด้านเศรษฐกิจของอินโดนีเซียกล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซียตัดสินใจระงับการออกวีซ่าให้แก่ชาวต่างชาติที่อาศัยในอินเดีย หรือมีประวัติเดินทางไปอินเดียในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ขณะที่นายบูดี กูนาดี ซาดิคิน รัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซียเผยว่า มาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากอินโดนีเซียพบผู้ป่วยติดเชื้อ 12 คนในเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากเมืองเจนไนของอินเดียที่มีผู้โดยสารทั้งหมด 129 คน ขณะนี้ยังคงมีผู้เดินทางเข้ามายังอินโดนีเซียอีกเป็นจำนวนมาก และทางการอินโดนีเซียจำเป็นต้องเฝ้าระวังบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ อย่างไรก็ดี ชาวอินโดนีเซียที่เดินทางกลับมาจากอินเดียจะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ แต่จะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัวเข้มงวดและปฏิบัติตามข้อบังคับต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ขณะนี้ อินโดนีเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.62 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตราว 44,000 คน ถือเป็นสถิติผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียสั่งซื้อวัคซีน 20 ล้านโดสสำหรับภาคเอกชน

อินโดนีเซียคาดว่าจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จำนวน 20.2 ล้านโดสของโมเดอร์นาและซิโนฟาร์มตั้งแต่ในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้เป็นต้นไป เพื่อนำมาใช้ในโครงการฉีดวัคซีนของภาคเอกชน

อินโดนีเซียอนุมัติใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาแล้ว

จาการ์ตา 9 มี.ค. – อินโดนีเซียอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาเป็นกรณีฉุกเฉิน ซึ่งถือเป็นวัคซีนขนานที่สองที่นำมาใช้ในโครงการฉีดวัคซีน ท่ามกลางความหวั่นวิตกเรื่องเชื้อโควิดกลายพันธุ์ชนิดใหม่ที่มาจากต่างประเทศ หัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแลอาหารและยาของอินโดนีเซียหรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ บีพีโอเอ็ม ระบุว่า ทางการจำเป็นต้องเร่งโครงการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้โดยเร็วที่สุด ก่อนหน้านี้ หน่วยงานดังกล่าวได้อนุมัติใช้วัคซีนของซิโนแวก ไบโอเทค บริษัทเวชภัณฑ์ของจีนเป็นขนานแรกในอินโดนีเซียเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ อินโดนีเซียได้รับวัคซีนของแอสตราเซนเนกากว่า 1 ล้านโดสในช่วงค่ำวานนี้ผ่านโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ขององค์การอนามัยโลก อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังได้ประกาศขยายมาตรการคุมเข้มต่าง ๆ ใน 3 จังหวัดตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะที่กำลังพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจที่หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีเมื่อปีที่แล้ว ขณะนี้ อินโดนีเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 1.4 ล้านคน ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษ 6 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 35,000 คน.-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษ 2 ราย

จาการ์ตา 2 มี.ค. – อินโดนีเซียพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กลายพันธุ์ที่พบการระบาดครั้งแรกในอังกฤษ 2 คน ซึ่งถือเป็นความยุ่งยากใหม่ ในขณะที่อินโดนีเซียพยายามควบคุมการระบาดที่รุนแรงเป็นอันดับต้น ๆ ของทวีปเอเชีย นายดานเต้ ซักโซโน ฮาร์บูโวโน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียกล่าวว่า อินโดนีเซียต้องเผชิญกับความท้าทายและความยุ่งยากครั้งใหม่หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษที่แพร่ระบาดได้รวดเร็ว คณะทำงานเฉพาะกิจโรคโควิด-19 ของอินโดนีเซียยืนยันว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษหรือที่รู้จักกันในชื่อ B117 จริง แต่ไม่ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ขณะที่นักวิจัยด้านจีโนมในกรุงจาการ์ตาเรียกร้องให้เพิ่มการเฝ้าระวังด้านจีโนมในอินโดนีเซีย การปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพเพื่อรับมือกับเชื้อโควิดกลายพันธุ์ และจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือที่ครอบคลุมจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อลดผลกระทบจากเชื้อโควิดกลายพันธุ์ในอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ยังมีประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พบการระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์ ได้แก่ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ แม้อินโดนีเซียพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่อัตราตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวกของประชาชนในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงพุ่งสูงอยู่ที่ราวร้อยละ 20 นับว่าสูงกว่าอัตราที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ที่ไม่เกินร้อยละ 5 จึงจะถือว่าสามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ ทั้งนี้ อินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรสูงเป็นอันดับสี่ของโลก ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนกว่า 181 ล้านคนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โดยเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่เจ้าหน้าที่การแพทย์ เจ้าหน้าที่รัฐ และผู้สูงอายุเป็นกลุ่มแรก ๆ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะนี้ อินโดนีเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า […]

อินโดนีเซียลงโทษชาวต่างชาติที่ไม่สวมหน้ากากให้วิดพื้น

เดนปาซาร์ 20 ม.ค. – อินโดนีเซียลงโทษชาวต่างชาติที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยในรีสอร์ทแห่งหนึ่งบนเกาะบาหลี ด้วยการสั่งให้วิดพื้นแทนการจ่ายค่าปรับ คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์แสดงให้เห็นชาวต่างชาติหลายคนที่สวมเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นกำลังถูกสั่งให้วิดพื้นโดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่สวมหน้ากากอนามัยยืนกำกับอยู่ ทางการท้องถิ่นของเกาะบาหลีบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะตั้งแต่ปีที่แล้ว เนื่องจากอินโดนีเซียต้องเผชิญกับสถานการณ์ระบาดรุนแรงของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเกาะบาหลีกล่าวว่า มีชาวต่างชาติหลายรายถูกจับกุมเพราะฝ่าฝืนคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ในจำนวนนี้ มีชาวต่างชาติกว่า 70 คนที่ถูกปรับเงิน 100,000 รูเปียอินโดนีเซีย (ราว 213 บาท) และมีอีก 30 คนที่อ้างว่าไม่มีเงินสดจ่ายค่าปรับ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องสั่งลงโทษให้พวกเขาวิดพื้น โดยกำหนดโทษให้ผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยต้องวิดพื้นสูงสุดถึง 50 ครั้ง และผู้ที่สวมหน้ากากไม่ถูกต้องวิดพื้น 15 ครั้ง เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ชาวต่างชาติบางคนมักชอบอ้างว่า ไม่ทราบระเบียบนี้ บางคนบอกว่าลืม หรือหน้ากากอนามัยเปียกน้ำใช้งานไม่ได้แล้ว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของเกาะบาหลียังเตือนว่า หากชาวต่างชาติคนใดไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 อาจถูกส่งตัวกลับประเทศ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่า มีชาวต่างชาติที่ถูกส่งตัวกลับประเทศด้วยสาเหตุดังกล่าว ขณะนี้อินโดนีเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 940,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 26,800 คน ซึ่งเป็นสถิติผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4
...