แก้ รธน.

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. –  “ชวน”  สั่งบรรจุ 4 ญัตติแก้ รธน. ของฝ่ายค้าน เข้าสู่ที่ประชุมร่วมรัฐสภา 23-24 ก.ย. นี้  ทำให้มีพิจารณารวม 6 ฉบับ นายสมบูรณ์  อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร  กล่าวถึง การตรวจสอบญัตติการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของฝ่ายค้าน จำนวน 4 ญัตติ ว่าได้ตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยทั้ง 4 ฉบับ พบว่ามีความถูกต้อง และครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ  ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา จึงบรรจุญัตติทั้ง 4  ญัตติ เข้าสู่ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ในระหว่างวันที่ 23-24 ก.ย. นี้ เรียบร้อยแล้ว  นายสมบูรณ์ กล่าวว่า วันดังกล่าวจะมีวาระการพิจารณา เรื่อง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 6 ญัตติ ประกอบด้วย 1.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ให้แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256  เสนอโดยนายสมพงษ์ […]

กรุงเทพฯ 11 ก.ย.-“เทพไท” ประกาศจุดยืนโหวตหนุนญัตติแก้ รธน. 3 ฉบับ เชื่อถ้าผ่านได้ ปลดล็อกการเมืองได้แน่นอน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการรายงานผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่นำเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และที่ประชุมฯ มีมติส่งผลการศึกษาทั้งฉบับเสนอต่อรัฐบาลนั้น ว่า เป็นการปฏิบัติตามข้อบังคับและแนวปฏิบัติของสภาฯ แต่ในข้อเท็จจริง ผลการศึกษาเรื่องปัญหาการใช้รัฐธรรมนูญนั้น รัฐบาลไม่ได้เป็นผู้เสนอญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด แต่สามารถนำข้อมูลผลการศึกษาส่งต่อให้สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ในโอกาสต่อไปได้ “วันนี้ต้องขอขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ได้ยื่นญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มอีก 4 ฉบับ และ 1 ใน 4 ฉบับนั้น ก็คือญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ซึ่งสอดคล้องกับญัตติของพรรคก้าวไกลร่วมกับ ส.ส.อีก 13 พรรค ที่ได้มีการถอนชื่อจนทำให้ญัตติดังกล่าวถูกตีตกไปแล้ว ผมได้ยืนยันตลอดเวลาว่าจะไม่ถอนชื่อออกจากญัตติดังกล่าวอย่างแน่นอน และการลงชื่อในญัตติร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ของผมในครั้งนี้ ไม่ได้สูญเปล่า อย่างน้อยที่สุดก็ได้แสดงจุดยืนในการต่อต้านการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ ผ่านมาตรา 272 และสามารถทำให้พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนใจ มีมติยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มอีกจำนวน […]

ทำเนียบฯ 10 ก.ย.-“วิษณุ” แจงไทม์ไลน์แก้ไขรัฐธรรมนูญ คาดยืดเยื้อเพราะต้องรอร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ถามกลับฝ่ายค้าน แก้ รธน.เสร็จยุบสภาฯ จะใช้กฎหมายลูกฉบับใดในการเลือกตั้ง ดังนั้น ต้องใช้เวลาและพิจารณากฎหมายอย่างรอบคอบ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญภายหลังพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่านค้านยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อสภาผู้แทนราษฎร ว่า ในส่วนของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้านนั้น ทราบว่าต้องการให้มีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือน ขณะที่ร่างของพรรคร่วมรัฐบาลวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน 240 วัน หรือ 8 เดือน นายวิษณุ ยอมรับว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจต้องใช้เวลาสักระยะ เพราะทั้งสองร่างนี้ อาจเข้าสู่ขั้นตอนการทำประชามติ ที่จะต้องรอกฏหมายการทำประชามติเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ คาดว่าหลังเปิดประชุมสภาฯ ครั้งต่อไป จะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมกับร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ควบคู่กัน แต่ทั้งนี้มองว่าร่างรัฐธรรมนูญจะดำเนินการพิจารณาแล้วเสร็จก่อน และทิ้งช่วงไว้ เพื่อรอร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ซึ่งส่วนตัวไม่ทราบว่าการพิจารณาเรื่องนี้จะช้าหรือเร็ว แต่คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณา 1-2 เดือน ก่อนจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ และประกาศใช้ต่อไป ระหว่างนี้ต้องมีการเว้นระยะเวลาช่วงหนึ่ง จากนั้นจึงนำร่างรัฐธรรมนูญมาทำประชามติต่อไป ซึ่งตามกฏหมายระบุไว้ว่าเมื่อจะต้องมีการทำประชามติ จะต้องอยู่ในช่วงเวลา […]

รัฐสภา 9 ก.ย.-ประธานวิปฝ่ายค้าน เผยเน้นซักฟอกการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เชื่อรัฐบาลจะรู้ถึงการบริหารผิดพลาด นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามรัฐบาลโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ฝ่ายค้านมีผู้อภิปรายฯ ประมาณ 35 คน แบ่งเป็น พรรคเพื่อไทย 17 คน , พรรคก้าวไกล 10 คน และพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยประเด็นที่จะอภิปรายฯ วันนี้ (9 ก.ย.) จะเน้นหนักไปด้านเศรษฐกิจ การบริหารงานของรัฐบาล ทั้งเรื่องการใช้งบประมาณ การทุจริต ประเด็นการชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญด้วย “การอภิปรายจะเป็นการอภิปรายในเชิงบูรณาการร่วมกัน ขณะที่ไฮไลท์ของการอภิปรายจะมีทุกระยะ เน้นหนักไปทางเศรษฐกิจ รวมถึงอาจมีประเด็นการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของนายปรีดี ดาวฉายว่ามีสาเหตุเพราะอะไร โดยเนื้อหานี้ คาดว่าจะเป็น ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร เป็นผู้อภิปราย” นายสุทิน กล่าว ส่วนประเด็นที่นายยุทธพงศ์ […]

พรรคเพื่อไทย 8 ก.ย.-เพื่อไทยมีมติยื่นเพิ่ม 4 ญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยกเลิกอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ – ปิดทางนายกฯ คนนอก ต้องเป็น ส.ส.เท่านั้น รวมถึงยกเลิกคำสั่ง คสช.มีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญและให้กลับมาเลือกตั้งบัตร 2 ใบ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค และ นายโภคิน พลกุล คณะทำงานยุทธศาสตร์พรรค ร่วมกันเเถลงผลการประชุม ส.ส.พรรค เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสมพงษ์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีติจะยื่นร่างแก้ไข 4 ญัตติ เพิ่มเติมจากญัตติที่ร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านในการเสนอแก้มาตรา 256 ที่เปิดให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เข้ามาดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดย 4 ญัตติที่เสนอมาใหม่ ประกอบด้วย 1.เเก้ไขมาตรา 272 ยกเลิกอำนาจ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และให้เพิ่มเติมมาตรา 159 โดยการเลือกนายกรัฐมนตรีสามารถเลือกนอกบัญชีได้แต่ต้องเป็น ส.ส.เท่านั้น เพื่อปิดทางนายกรัฐมนตรีคนนอก 2.แก้ไขมาตรา 270 […]

รัฐสภา 8 ก.ย.-“จเด็จ” ยันรัฐธรรมนูญไร้ปัญหา แนะ ส.ส.อยากแก้ ต้องแสดงเหตุผล พร้อมเปิดทางแก้ หากจำเป็น เหตุแก้ รธน.ครั้งนี้ มีวาระซ่อนเร้น นายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แถลงถึงท่าทีต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญของกลุ่ม 60 ส.ว. ว่า เหตุผลที่กลุ่ม 60 ส.ว.ออกมาแสดงท่าที เพราะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ว.ที่จะเห็นตรงกันหรือเห็นต่างกันบ้าง ซึ่งเป็นผลมาจากการชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนปลดแอก และปัญหาความขัดแย้งในเรื่องต่าง ๆ ทำให้ ส.ว.ได้หารือกันเห็นว่า เพื่อหาข้อสรุปว่าหากไม่แก้ จะเกิดความวุ่นวายแบบฮ่องกงโมเดลจะเกิดขึ้นได้ แต่ต้องดูว่าปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่ดี เป็นเพราะรัฐธรรมนูญไม่ดีจริงหรือไม่ ดังนั้นต้องมาดูว่ารัฐธรรมนูญมาตราใดมีปัญหากันแน่ นายจเด็จ กล่าวดว่า แต่ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องนี้มีวาระซ่อนเร้น ที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีก็เลยจะมาแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่การแก้รัฐธรรมนูญ ยังมีเงื่อนไขตามมาตรา 256 ที่มี ส.ว.เข้ามามีส่วนร่วมโหวตด้วย และหากจะแก้มาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ก็ต้องไปแก้มาตรา 256 ก่อนเพราะสัมพันธ์กัน นายจเด็จ ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่เห็นว่ารัฐธรรมนูญจะมีปัญหาอะไร […]

รัฐสภา 8 ก.ย.-“กิตติศักดิ์” ค้านตั้ง ส.ส.ร. จี้แก้ รธน.รายมาตรา เมินม็อบกดดัน ไม่มีผลต่อการตัดสินใจ ลั่นอำนาจแก้ไขอยู่ที่ ส.ว. นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยว่า วันนี้ (8 ก.ย.) เวลา 15.00 น. กลุ่ม ส.ว.อิสระ 60 คนจะพูดคุยถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญและทิศทางการลงมติที่จะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยไม่ต้องมีสัญญาใจใด ๆ เพราะที่ผ่านมา ก็พูดคุยมาโดยตลอดและมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนจะสนับสนุนให้ผ่านวาระแรกไปก่อนหรือไม่ ต้องพูดคุยกันในวันนี้ก่อน ยอมรับว่ากลุ่ม 60 ส.ว.เห็นปัญหาและจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด แต่ก็มีส่วนดีเรื่องการป้องกันการทุจริต ขณะเดียวกัน กลุ่ม 60 ส.ว.มีแนวทางห้ามแตะต้องหมวด 1-2 เด็ดขาด นายกิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการให้มี ส.ส.ร.มาร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับนั้น เห็นว่าสิ้นเปลืองเวลาและเปลืองงบประมาณ เพราะการแก้ไขสามารถทำได้เป็นรายมาตรา โดยมี ส.ส.-ส.ว.ร่วมกัน อีกทั้งยังกังวลว่าการตั้ง ส.ส.ร.จะได้อย่างที่คิดหรือไม่ หากร่างไปทางหนึ่งทางใด ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่ที่ไม่เห็นด้วยให้มี […]

รัฐสภา 8 ก.ย.-“พญ.คุณหญิงพรทิพย์” หนุนตัดอำนาจ ส.ว. เลือกนายกฯ ชี้ไร้ประโยชน์ ได้ ครม.หน้าเดิมแก้ปัญหารายวัน ไม่ได้รัฐบาลที่ดีขึ้น ไม่หนุนตั้ง ส.ส.ร.เหตุล่าช้าแค่ซื้อเวลา พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. 1 ในกลุ่ม ส.ว.อิสระ 60 คน กล่าวถึงการตั้งกลุ่มไลน์ของ ส.ว. ว่า เพื่อเป็นพื้นที่ในการพูดคุยแลกเปลี่ยน ยืนยันว่าทุกคนสามารถมีความคิดเห็นเป็นส่วนตัวในแต่ละคนได้ ส่วนการแก้ไขหรือไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ มองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะอยู่ที่สาระของคนที่ขอแก้และผลของการแก้ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งกระบวนการแก้สามารถทำได้เลยในหลายรูปแบบ เช่น เรื่องการปฏิรูปตำรวจที่รัฐบาลออกเป็นพระราชกฤษฎีกามาแทน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นว่าการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาแก้รัฐธรรมนูญเป็นกระบวนการที่ช้า และไม่อยากถูกมองว่าเป็นการซื้อเวลา ส่วนหากแก้ไขเป็นรายมาตรา ก็ไม่รู้ว่าจะมีการแก้ไขมากเกินไปที่มีการเสนอหรือไม่ และโดยส่วนตัวไม่ได้เป็นนักการเมือง จึงไม่เห็นว่าตัวบทกฎหมายจะช่วยอะไรกับสังคมได้มากนัก และไม่สามารถลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำได้จากรัฐธรรมนูญ ส่วนข้อเสนอตัดลดอำนาจ ส.ว.โดยเฉพาะในการเลือกนายกรัฐมนตรี พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มองว่าเป็นเรื่องดีที่จะได้นายกรัฐมนตรีที่แก้ปัญหาปฏิรูปประเทศ แต่มาถึงวันนี้พบว่าไม่ใช่และไม่ได้ช่วยอะไรเลย ไม่มีประโยชน์ เห็นควรให้ตัดเลยเพราะไม่ได้ช่วยให้มีนายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลที่ดีขึ้น “วันนี้ถ้าถามใหม่ไม่มีประโยชน์ที่จะได้รัฐบาลมาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศแต่คำตอบ คือ ได้คนหน้าเดิมมาเป็นรัฐมนตรี แก้ปัญหารายวันไป ส่วนตัวมีความเห็นว่าถ้าหลักการอันนี้ทั่วไปไม่ให้มี […]

รัฐสภา 3 ก.ย.-“สาทิตย์” พร้อม ส.ส.ปชป.ส่วนหนึ่ง เตรียมรวบรวมรายชื่อเสนอแก้ รธน. มาตรา 272 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ พร้อม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่ง แถลงเตรียมริเริ่มยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 โดยให้เหตุผลว่า การยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และตั้งส.ส.ร. ยกร่างใหม่น่าจะไม่เพียงพอในการคลี่คลายสถานการณ์การเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งมีแนวโน้มจะขยายตัวกว้างขวางมากขึ้นและอาจจะมีแนวโน้มที่จะเกิดความรุนแรง ประเด็นที่สำคัญที่สุด คือ เรื่องการสืบทอดอำนาจในมาตรา 272 ที่ให้อำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่งเห็นว่าเพื่อลดเงื่อนไขการชุมนุมและความขัดแย้งทางการเมือง จึงจะเริ่มต้นเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 พร้อมเชิญชวนเพื่อน ส.ส. ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาล หากมีแนวความคิดเดียวกัน ขอให้มาร่วมลงชื่อร่วมกันเพื่อยื่นให้รัฐสภาได้พิจารณาในช่วงสมัยประชุมนี้ต่อไป นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้มาหารือ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ว่าเห็นชอบกับเรื่องนี้ แต่เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลมีแนวทางว่าหากจะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควรมีร่างเดียว เพราะพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่ตกผลึกเรื่องนี้ แต่พวกตนเห็นว่าหากรอให้ตกผลึก เกรงว่าจะไม่ทันการณ์ ดังนั้นหลังจากนี้จะเดินสายพูดคุยกับเพื่อน ส.ส. และหากมีรายชื่อเพียงพอ 1 ใน 5 ก็จะรวบรวมและพยายามยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นดังกล่าวให้ได้ภายในสัปดาห์หน้า […]

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.-“เทพไท” ชี้ 3 ประเด็นสำคัญของร่างแก้ รธน. พร้อมสนับสนุนแก้ ม.272 ปิดสวิตช์ ส.ว. หลังยุบสภาเลือกตั้งใหม่ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการยื่นญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า ทั้งสองฝ่ายได้ยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้มีการกำหนดวันประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 23-24 กันยายนน 2563 ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าของการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเบื้องต้น นายเทพไท กล่าวว่า ตนได้ลงชื่อในญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว แม้จะไม่เห็นด้วยในทุกประเด็นก็ตาม แต่สามารถแปรญัตติในชั้นการพิจารณาวาระ 2 ได้ เมื่อได้พิจารณารายละเอียดประเด็นการแก้ไขทั้ง 2 ร่างแล้ว เห็นว่ามี 3 ประเด็นสำคัญที่จะต้องนำมาพิจารณา และมีความแตกต่างกันระหว่างร่างของพรรคร่วมรัฐบาลและร่างของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งมีจุดอ่อนจุดแข็งที่แตกต่างกัน คือ 1.การแก้ไข มาตรา 256 ควรใช้เสียงกึ่งหนึ่งของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน 2.จำนวนสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 200 คน จำนวนเท่ากันทั้ง 2 ร่าง แต่เห็นด้วยกับการมีสัดส่วน 50 […]