เสียชีวิต

นายวอลเตอร์ มอนเดล อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ ในรัฐบาลของอดีตประธานานธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ เสียชีวิตแล้วเมื่อวานนี้ ด้วยวัย 93 ปี

มินนีแอโพลิส 18 เม.ย.- เมืองมินนีแอโพลิสและอีกหลายเมืองในสหรัฐเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เตรียมรับมือการประท้วงและการก่อเหตุไม่สงบก่อนที่คณะลูกขุนจะตัดสินคดีนายเดเรค เชาวิน อดีตตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดคอนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำเสียชีวิต ศาลเมืองมินนีแอโพลิสจะให้แถลงปิดคดีในวันจันทร์ในคดีที่นายเชาวินวัย 45 ปีใช้เข่ากดคอนายฟลอยด์วัย 46 ปีนาน 9 นาที 29 วินาที ก่อนที่เขาเสียชีวิตในวันที่ 25 พฤษภาคมปีก่อน โรงเรียนรัฐในเมืองมินนีแอโพลิสจะเริ่มสอนทางไกลในวันพุธหน้าไปจนหมดสัปดาห์ ยกเลิกการแข่งกีฬาทุกอย่าง ตำรวจติดตั้งรั้วลวดหนามรอบสำนักงาน กองกำลังพิทักษ์แห่งชาติถูกส่งไปประจำการตามย่านในกลางเมือง นายกเทศมนตรีเผยว่า ระดมกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติ 2,000 นายและตำรวจ 1,100 นายมาเตรียมพร้อมรักษาความสงบเรียบร้อย ส่วนที่นครลอสแอนเจลิส ตำรวจเตรียมเสริมกำลังและเตือนคนบางกลุ่มอย่าก่อกวนการชุมนุมอย่างสงบ นครซานฟรานซิสโกยกเลิกวันลาของตำรวจและเตรียมเสริมกำลัง เช่นเดียวกับตำรวจแอตแลนตาที่ประสานกับเจ้าหน้าที่ทุกระดับให้เตรียมรับมือเหตุการณ์ทันที ด้านตำรวจนครนิวยอร์กเผยว่า มีการประท้วงวันละ 10-20 จุดทุกวันมาตั้งแต่ปีก่อน ขอร้องผู้อยากแสดงความเห็นให้ใช้สันติ อย่าทำลายข้าวของ ขณะที่ตำรวจกรุงวอชิงตันดีซีจะให้ตำรวจทำงานเป็นกะ ๆ ละ 12 ชั่วโมงตั้งแต่วันจันทร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการก่อรัฐประหารในเมียนมาร่วมกัน “ประท้วงด้วยความเงียบ” ในวันนี้ โดยหลายคนอยู่แต่ภายในบ้านเพื่อรำลึกถึงผู้ประชาชนกว่า 700 คนที่เสียชีวิตในระหว่างการประท้วงต่อต้านรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในขณะที่คนอื่น ๆ สวมชุดดำและจัดการเดินขบวนขนาดเล็ก ๆ ในหลายเมืองทั่วเมียนมา

บรุกลินเซ็นเตอร์ 14 เม.ย.- ผู้ชุมนุมปะทะกับตำรวจย่านชานเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตาของสหรัฐเป็นคืนที่ 3 ติดต่อกันเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ จากเหตุตำรวจยิงวัยรุ่นผิวดำเสียชีวิต มีผู้ถูกจับกุมกว่า 60 คน ตำรวจปราบจลาจลใช้ระเบิดเสียงสลายผู้ชุมนุมในเมืองบรุกลินเซ็นเตอร์ที่มีประมาณ 80-100 คน ผู้ชุมนุมตอบโต้ด้วยการขว้างขวดน้ำและก้อนอิฐ มีผู้ชุมนุมถูกจับกุมประมาณ 60 คน ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันครอบครัวของนายดอนเต้ ไรต์ ชายผิวดำวัย 20 ปีที่ถูกตำรวจจราจรยิงเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ได้แถลงข่าวร่วมกับครอบครัวของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำวัย 46 ปีที่ถูกตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดคอเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมปีก่อนในเมืองมินนีแอโพลิส เรียกร้องให้ยุติความป่าเถื่อนของตำรวจและการที่ตำรวจผิวขาวสังหารชาวอเมริกันแอฟริกันไร้อาวุธ ครอบครัวนายไรต์และกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องให้จับกุมตำรวจจราจรหญิงที่ยิงเขาเสียชีวิต หลังจากเธอและนายตำรวจบรุกลินเซ็นเตอร์ยื่นหนังสือลาออก นายตำรวจแถลงข่าวว่า ตำรวจหญิงตั้งใจใช้ปืนไฟฟ้ายิงนายไรต์เพราะเขาไม่ยอมให้จับกุม แต่หยิบผิดเป็นปืนจริง หลายคนไม่ยอมรับคำอธิบายดังกล่าว เพราะไม่สมเหตุสมผล ก่อนหน้าการแถลงข่าวครอบครัวของนายฟลอยด์ได้ไปขึ้นศาลในคดีที่นายเดเรค เชาวิน อดีตตำรวจผิวขาววัย 45 ปี ถูกไต่สวนข้อหาฆาตกรรมและฆ่าคนตาย ทนายของเชาวินยืนยันว่า ฟลอยด์เสียชีวิตเพราะเสพยาเสพติดเกินขนาด ประกอบกับมีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว แต่คลิปที่ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกไว้เห็นเชาวินใช้เข่ากดหลังคอฟลอยด์นานกว่า 9 นาที ขณะที่ฟลอยด์ซึ่งถูกใส่กุญแจมือเพราะใช้ธนบัตรปลอมชนิด 20 ดอลลาร์สหรัฐร้องซ้ำ ๆ ว่าหายใจไม่ออก.-สำนักข่าวไทย

มินนีแอโพลิส 12 เม.ย.- เกิดการประท้วงขึ้นในย่านชานเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตาของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น หลังจากตำรวจยิงชายผิวดำเสียชีวิต เป็นเมืองที่กำลังมีการพิจารณาคดีตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดคอชายผิวดำเสียชีวิตเมื่อปีก่อน ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและระเบิดเสียงสลายผู้ชุมนุมหลายร้อยคนที่รวมตัวกันหน้าสถานีตำรวจบรุกลินเซ็นเตอร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองมินนีแอโพลิส การประท้วงเกิดขึ้นหลังจากมารดาของนายดอนเต้ ไรต์ ชายผิวดำวัย 20 ปีเผยในวันเดียวกันว่า บุตรชายโทรศัพท์มาบอกว่ากำลังถูกตำรวจลากตัว ได้ยินเสียงตำรวจสั่งให้เขาวางสาย จากนั้นไม่นานแฟนสาวของบุตรชายแจ้งว่าเขาถูกยิง สำนักงานจับกุมคดีอาชญากรรมมินนีโซตายืนยันกับเอเอฟพีว่า กำลังสอบสวนเหตุตำรวจยิงคน แต่ไม่ระบุว่าผู้ถูกยิงเป็นใคร ด้านสถานีตำรวจบรุกลินเซ็นเตอร์แถลงว่า ตำรวจดึงตัวชายคนหนึ่งออกจากรถเพราะฝ่าฝืนกฎจราจร เมื่อตรวจสอบพบว่าเขาถูกออกหมายจับจึงพยายามเข้าควบคุมตัว ชายคนนั้นกลับเข้าไปในรถ จึงถูกตำรวจนายหนึ่งยิงและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้โดยสารหญิงที่มาด้วยกันบาดเจ็บเล็กน้อย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว หนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ทริบูนรายงานว่า การชุมนุมหน้าสถานีตำรวจคลี่คลายในอีกชั่วโมงถัดมา นายกเทศมนตรีเมืองบรุกลินเซ็นเตอร์ทวีตถึงเหตุยิงว่าเป็นเรื่องน่าเศร้า และขอร้องประชาชนชุมนุมอย่างสงบ อย่าใช้กำลัง การประท้วงนี้เกิดขึ้นในขณะที่กำลังมีการพิจารณาคดีนายเดเรค เชาวิน อดีตตำรวจเมืองมินนีแอโพลิสในคดีใช้เข่ากดคอนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำวัย 46 ปีเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมปีก่อน เป็นคดีที่ทำให้เกิดการประท้วงทั่วสหรัฐและปลุกกระแสเรียกร้องสิทธิคนผิวดำหรือ Black Lives Matter ขึ้นมาทั่วโลก.-สำนักข่าวไทย

พะโค 10 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวอิรวดีอ้างคนในพื้นที่ว่า กองทัพเมียนมายิงปืน ค. ถล่มผู้ชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารในเมืองพะโค เขตพะโค ทางตอนใต้ของประเทศช่วงเช้าตรู่วันศุกร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 20 คน ชาวบ้านในพื้นที่เผยว่า นอกจากปืน ค.แล้ว กองทัพยังยิงกระสุนจริงด้วย มีคนเสียชีวิตกว่า 20 คน บาดเจ็บหลายคน และถูกจับกุมจำนวนหนึ่ง การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อเวลา 04:00 น.วันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น กองทัพเปิดฉากยิงปืนอัตโนมัติใส่สิ่งกีดขวางบนถนนที่ผู้ชุมนุมนำกระสอบทรายมาตั้งขวางไว้ เวลานั้นมีแต่ทีมการ์ดเท่านั้น จากนั้นได้บุกค้นตึกพักอาศัย 3 ตึก คลิปบันทึกเหตุการณ์ได้ยินทั้งเสียงปืนและเสียงปืนอัตโนมัติ มีคลิปหนึ่งเห็นทหารสิบกว่านายวิ่งไล่ยิงชายคนหนึ่งที่หลบหนีการจับกุม ชาวบ้านเผยด้วยว่า ได้ยินเสียงอาวุธหนักดังสนั่น 5 ครั้ง มีคนถ่ายภาพส่วนปลายของกระสุนปืน ค.ที่ตกในบริเวณนั้น ด้านกลุ่มภาคประชาสังคมเผยว่า กลุ่มบรรเทาทุกข์ต่าง ๆ ไม่กล้าเข้าไปในพื้นที่เพื่อเก็บศพหรือช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เพราะทางการขู่จะจับกุม ส่วนที่เมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของเมียนมา กองทัพได้เข้าไปรื้อสิ่งกีดขวางตามถนนหลายจุดในเช้าวันศุกร์เช่นเดียวกัน อิรวดีอ้างสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองว่า นับจนถึงวันพฤหัสบดีมีคนถูกกองทัพสังหารระหว่างกวาดล้างผู้ชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารแล้ว 614 คน ในจำนวนนี้รวมถึงชาวบ้านและเด็กที่พลอยถูกกระสุนลูกหลงของทหารด้วย มีคนถูกควบคุมตัวรวมกว่า 2,400 คน ทั้งแกนนำที่มาจากการเลือกตั้ง สมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือเอ็นแอลดีของนางออง […]