นำร่าง จนท.พิทักษ์ป่าเสียชีวิตออกมาได้แล้ว-เร่งสางคดี

กาญจนบุรี 27 พ.ย. – เจ้าหน้าที่สามารถนำร่างเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ายิงตัวเองเสียชีวิตออกจากป่าได้แล้ว เตรียมส่งชันสูตรอย่างละเอียดเพื่อสรุปคดี ครอบครัวไม่เชื่อยิงตัวเอง เพราะไม่มีเหตุผล


เฮลิคอปเตอร์ของกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ลำเลียงศพนายคฑาวุธ กลมเกลียว อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ออกมาจากจุดเกิดเหตุได้แล้ว และลงจอดที่ลานจอดชั่วคราวจุดชมวิวป้อมปี่ ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี ได้สำเร็จ จากนั้นหน่วยกู้ชีพได้นำรถเข้าไปรับศพเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ในเบื้องต้นที่โรงพยาบาลทองผาภูมิ โดยผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทองผาภูมิ ว่าศพของผู้เสียชีวิตนั้นมีสภาพขึ้นอืด โดยเฉพาะบริเวณใบหน้ามีสภาพบวมแทบจะมองไม่เห็นใบหน้า

เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจ ATK หาเชื้อโควิด-19 ในเบื้องต้น ซึ่งไม่พบเชื้อ ก่อนเร่งนำส่งไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ภายในวันนี้


ด้านพลตำรวจโทธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้เดินทางมาสั่งการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน เพราะญาติผู้เสียชีวิตยังติดใจสาเหตุในหลายประเด็น โดยให้พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ รวมถึงเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำอุปกรณ์เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมกับให้พนักงานพิทักษ์ป่าที่อยู่ในเหตุการณ์ร่วมพาเจ้าหน้าที่ชี้จุดเกิดเหตุทุกจุด

ขณะที่น้าสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยความโศกเศร้าว่า หลังจากเจ้าหน้าที่นำศพหลานชายออกมาแล้วจะเป็นขั้นตอนการชันสูตร หลังจากนั้นจะขอนำศพไปทำพิธีทางศาสนาที่ภูมิลำเนาใน จ.สุโขทัย ซึ่งพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตรออยู่ที่บ้าน ไม่สามารถเดินทางมาได้ และไม่เชื่อว่านายคฑาวุธจะยิงตัวเอง เพราะไม่มีเหตุผล

สำหรับคดีนี้ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน หลังเจ้าหน้าที่ 7 คน พานักวิจัยเดินเท้าเข้าไปยังป่าลึก เพื่อติดตั้งกล้องติดตามสัตว์ตระกูลแมวป่า (เสือโคร่ง) ในกลุ่มป่าทางทิศใต้ของผืนป่าตะวันตก ในพื้นอุทยานแห่งชาติเขาแหลม


หลังจากนั้นผ่านไป 4 วัน ปรากฏว่าเกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้น เพราะในช่วงเช้าวันที่ 25 พฤศจิกายน ได้รับแจ้งจากหัวหน้าชุดว่ามีเจ้าหน้าที่ทำร้ายกันบาดเจ็บ 1 คน และเสียชีวิต 1 ราย โดยจุดเกิดเหตุเป็นผืนป่าดงดิบกลางหุบเขา บริเวณรอยต่อของอุทยานฯ เขาแหลม อุทยานฯ ลำคลองงู และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร

หลังจากนั้นจึงเริ่มเปิดปฏิบัติการเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทันที แต่ปรากฏว่าไม่สามารถนำเฮลิคอปเตอร์ลงจอดได้ จึงปรับแผนด้วยการโรยตัวนำเลื่อยยนต์เข้าไปทำลานจอด พร้อมกับนำเสบียงเข้าไปช่วยเหลือ ส่วนอีกด้านได้ส่งชุดเดินเท้าเข้าพื้นที่ 14 นาย พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย เดินเท้าเข้าไปสมทบ ซึ่งใช้เวลานานเกือบ 2 วัน

กระทั่งเวลา 18.20 น. เมื่อวานนี้ (26 พ.ย.) เจ้าหน้าที่สามารถนำตัวผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุออกมาได้ก่อน 2 คน ประกอบด้วย นายภาคภูมิ มะเกิ๋น ผู้ได้รับบาดเจ็บ และนายปริญญา เย็นจิตร นักวิจัยมูลนิธิฟรีแลนด์ ที่เข้าไปติดตั้งกล้อง ก่อนเร่งนำตัวนายภาคภูมิส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลทองผาภูมิ ส่วนตัวของนายปริญญาถูกกันเอาไว้เป็นพยานในคดี

นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม บอกว่า ยังไม่ทราบสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างรักใคร่กลมเกลียวกัน และต้องปล่อยให้ตำรวจสอบสวนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง

จากการสอบสวนพยานเบื้องต้นอย่างไม่เป็นทางการพบว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่ทุกคนกำลังนอนหลับ จนกระทั่งกลางดึกของคืนวันที่ 24 ต่อเนื่องรุ่งเช้าวันที่ 25 พฤศจิกายน ปรากฏว่านายคฑาวุธได้เกิดอาการคลุ้มคลั่งและพูดจาพร่ำเพ้อถึงภรรยา จากนั้นได้ถือมีดเดินปรี่มาทำร้ายนายภาคภูมิขณะนอนอยู่บนเปลจนบาดเจ็บ หลังจากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ทำให้ทุกคนวิ่งหนีเอาตัวรอดไปหลบอยู่ตามป่า อีกไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด จากนั้นเสียงก็เงียบไป เวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง ทุกคนจึงตัดสินใจออกมาจากที่ซ่อนตัว และเดินตามหาตัวนายคฑาวุธ จนสุดท้ายมาพบร่างนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณริมห้วย ในสภาพถูกจ่อยิงเข้าที่ใต้คาง มือทั้ง 2 ข้างกอดอาวุธปืนลูกซองยาวเอาไว้ สร้างความตกใจให้กับทุกคน

สำหรับแนวทางการสืบสวนสอบสวนคดี หลังจากนี้ต้องรอพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ซึ่งขณะนี้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ สรุปข้อมูลที่แน่ชัด โดยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่อยู่ในเหตุการณ์ 5 นาย ยังคงอยู่ในจุดเกิดเหตุ เพื่อนำพาชี้จุดและเก็บหลักฐาน รวมถึงให้ปากคำถึงเหตุการณ์ทั้งหมด นอกจากนี้จะต้องพิสูจน์บาดแผลที่นายคฑาวุธถูกยิง และตรวจสอบคราบเขม่าดินปืนอีกครั้ง

มีรายงานว่าในจุดเกิดเหตุยังมีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ คาดว่าเมื่อภารกิจแล้วเสร็จจะนำเฮลิคอปเตอร์ออกไปรับทั้งหมดภายในวันนี้ (27 พ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย