นำร่าง จนท.พิทักษ์ป่าเสียชีวิตออกมาได้แล้ว-เร่งสางคดี

กาญจนบุรี 27 พ.ย. – เจ้าหน้าที่สามารถนำร่างเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ายิงตัวเองเสียชีวิตออกจากป่าได้แล้ว เตรียมส่งชันสูตรอย่างละเอียดเพื่อสรุปคดี ครอบครัวไม่เชื่อยิงตัวเอง เพราะไม่มีเหตุผล


เฮลิคอปเตอร์ของกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ลำเลียงศพนายคฑาวุธ กลมเกลียว อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ออกมาจากจุดเกิดเหตุได้แล้ว และลงจอดที่ลานจอดชั่วคราวจุดชมวิวป้อมปี่ ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี ได้สำเร็จ จากนั้นหน่วยกู้ชีพได้นำรถเข้าไปรับศพเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ในเบื้องต้นที่โรงพยาบาลทองผาภูมิ โดยผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทองผาภูมิ ว่าศพของผู้เสียชีวิตนั้นมีสภาพขึ้นอืด โดยเฉพาะบริเวณใบหน้ามีสภาพบวมแทบจะมองไม่เห็นใบหน้า

เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจ ATK หาเชื้อโควิด-19 ในเบื้องต้น ซึ่งไม่พบเชื้อ ก่อนเร่งนำส่งไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ภายในวันนี้


ด้านพลตำรวจโทธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้เดินทางมาสั่งการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน เพราะญาติผู้เสียชีวิตยังติดใจสาเหตุในหลายประเด็น โดยให้พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ รวมถึงเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำอุปกรณ์เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมกับให้พนักงานพิทักษ์ป่าที่อยู่ในเหตุการณ์ร่วมพาเจ้าหน้าที่ชี้จุดเกิดเหตุทุกจุด

ขณะที่น้าสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยความโศกเศร้าว่า หลังจากเจ้าหน้าที่นำศพหลานชายออกมาแล้วจะเป็นขั้นตอนการชันสูตร หลังจากนั้นจะขอนำศพไปทำพิธีทางศาสนาที่ภูมิลำเนาใน จ.สุโขทัย ซึ่งพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตรออยู่ที่บ้าน ไม่สามารถเดินทางมาได้ และไม่เชื่อว่านายคฑาวุธจะยิงตัวเอง เพราะไม่มีเหตุผล

สำหรับคดีนี้ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน หลังเจ้าหน้าที่ 7 คน พานักวิจัยเดินเท้าเข้าไปยังป่าลึก เพื่อติดตั้งกล้องติดตามสัตว์ตระกูลแมวป่า (เสือโคร่ง) ในกลุ่มป่าทางทิศใต้ของผืนป่าตะวันตก ในพื้นอุทยานแห่งชาติเขาแหลม


หลังจากนั้นผ่านไป 4 วัน ปรากฏว่าเกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้น เพราะในช่วงเช้าวันที่ 25 พฤศจิกายน ได้รับแจ้งจากหัวหน้าชุดว่ามีเจ้าหน้าที่ทำร้ายกันบาดเจ็บ 1 คน และเสียชีวิต 1 ราย โดยจุดเกิดเหตุเป็นผืนป่าดงดิบกลางหุบเขา บริเวณรอยต่อของอุทยานฯ เขาแหลม อุทยานฯ ลำคลองงู และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร

หลังจากนั้นจึงเริ่มเปิดปฏิบัติการเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทันที แต่ปรากฏว่าไม่สามารถนำเฮลิคอปเตอร์ลงจอดได้ จึงปรับแผนด้วยการโรยตัวนำเลื่อยยนต์เข้าไปทำลานจอด พร้อมกับนำเสบียงเข้าไปช่วยเหลือ ส่วนอีกด้านได้ส่งชุดเดินเท้าเข้าพื้นที่ 14 นาย พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย เดินเท้าเข้าไปสมทบ ซึ่งใช้เวลานานเกือบ 2 วัน

กระทั่งเวลา 18.20 น. เมื่อวานนี้ (26 พ.ย.) เจ้าหน้าที่สามารถนำตัวผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุออกมาได้ก่อน 2 คน ประกอบด้วย นายภาคภูมิ มะเกิ๋น ผู้ได้รับบาดเจ็บ และนายปริญญา เย็นจิตร นักวิจัยมูลนิธิฟรีแลนด์ ที่เข้าไปติดตั้งกล้อง ก่อนเร่งนำตัวนายภาคภูมิส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลทองผาภูมิ ส่วนตัวของนายปริญญาถูกกันเอาไว้เป็นพยานในคดี

นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม บอกว่า ยังไม่ทราบสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างรักใคร่กลมเกลียวกัน และต้องปล่อยให้ตำรวจสอบสวนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง

จากการสอบสวนพยานเบื้องต้นอย่างไม่เป็นทางการพบว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่ทุกคนกำลังนอนหลับ จนกระทั่งกลางดึกของคืนวันที่ 24 ต่อเนื่องรุ่งเช้าวันที่ 25 พฤศจิกายน ปรากฏว่านายคฑาวุธได้เกิดอาการคลุ้มคลั่งและพูดจาพร่ำเพ้อถึงภรรยา จากนั้นได้ถือมีดเดินปรี่มาทำร้ายนายภาคภูมิขณะนอนอยู่บนเปลจนบาดเจ็บ หลังจากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ทำให้ทุกคนวิ่งหนีเอาตัวรอดไปหลบอยู่ตามป่า อีกไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด จากนั้นเสียงก็เงียบไป เวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง ทุกคนจึงตัดสินใจออกมาจากที่ซ่อนตัว และเดินตามหาตัวนายคฑาวุธ จนสุดท้ายมาพบร่างนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณริมห้วย ในสภาพถูกจ่อยิงเข้าที่ใต้คาง มือทั้ง 2 ข้างกอดอาวุธปืนลูกซองยาวเอาไว้ สร้างความตกใจให้กับทุกคน

สำหรับแนวทางการสืบสวนสอบสวนคดี หลังจากนี้ต้องรอพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ซึ่งขณะนี้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ สรุปข้อมูลที่แน่ชัด โดยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่อยู่ในเหตุการณ์ 5 นาย ยังคงอยู่ในจุดเกิดเหตุ เพื่อนำพาชี้จุดและเก็บหลักฐาน รวมถึงให้ปากคำถึงเหตุการณ์ทั้งหมด นอกจากนี้จะต้องพิสูจน์บาดแผลที่นายคฑาวุธถูกยิง และตรวจสอบคราบเขม่าดินปืนอีกครั้ง

มีรายงานว่าในจุดเกิดเหตุยังมีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ คาดว่าเมื่อภารกิจแล้วเสร็จจะนำเฮลิคอปเตอร์ออกไปรับทั้งหมดภายในวันนี้ (27 พ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง

กทม. 15 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณมณฑลกว่างซี ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย