เวียดนาม

จังหวัดชายฝั่งเวียดนามอพยพประชาชนหลายพันคนไปยังที่พักพิงชั่วคราวก่อนหน้าที่พายุไต้ฝุ่น “ยางิ” จะพัดขึ้นฝั่งเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะเป็นข่วงค่ำวันนี้

ฮานอย 26 ส.ค.- สมัชชาแห่งชาติเวียดนามลงมติแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรีใหม่ 3 คน และรัฐมนตรีใหม่ 2 คน ตามที่มีการปรับคณะรัฐมนตรี หลังจากที่ได้เร่งกวาดล้างการทุจริตรับสินบนในแวดวงการเมืองตลอด 2 ปีที่ผ่านมา สมัชชาแห่งชาติซึ่งเป็นรัฐสภาของเวียดนามเปิดการประชุมสมัยวิสามัญเป็นเวลา 1 วันในวันนี้ ลงมติแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคนใหม่ หลังจากบุคคลสำคัญทางการเมืองหลายคนลาออกอย่างกะทันหัน ส่วนใหญ่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด โดยเมื่อเดือนมกราคม 2566 นายเหวียน ซวน ฟุกประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากถูกพรรคคอมมิวนิสต์กล่าวโทษเรื่องเจ้าหน้าที่ในกำกับดูแลของเขาละเมิดและกระทำความผิด ประธานาธิบดีคนต่อมา คือ นายหวอ วัน เถือง ลาออกในเดือนมีนาคม 2567 โดยรับตำแหน่งได้เพียงปีเดียว หลังจากถูกกล่าวหาว่า ละเมิดระเบียบพรรค จากนั้นในเดือนเมษายน นายเวือง ดิ่น เว้ ประธานสมัชชาแห่งชาติเวียดนามลาออก จากการละเมิดและบกพร่องที่ไม่มีการระบุชัดเจน นายเหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามริเริ่มโครงการชื่อ “เตาไฟที่ลุกโชน” (Blazing Furnace) ในปี 2556 หวังจำกัดการทุจริตในวงกว้าง โดยระบุว่า ต้องการนำเจ้าหน้าที่ทุจริตมาใช้เป็นไม้ฟืนให้แก่เตาไฟที่ลุกโชน แม้มีเสียงวิจารณ์ว่า พรรคคอมมิวนิสต์อาจใช้โครงการนี้กำจัดคู่แข่ง […]

ฮานอย 23 ส.ค. – รัฐมนตรีเวียดนามแนะนำให้เวียดนามยกระดับทุเรียนให้เป็นผลิตภัณฑ์ประจำชาติ เพื่อแข่งกับผู้ส่งออกรายใหญ่อย่างไทยและมาเลเซีย สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานวานนี้อ้างอิงสื่อเวียดนามที่รายงานคำกล่าวของเล มินห์ ฮวน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนามว่า เวียดนามควรผลักดันให้ทุเรียนขึ้นแท่นเป็นผลิตภัณฑ์ประจำชาติ ด้วยการกำหนดมาตรฐานคุณภาพและสร้างแบรนด์เพื่อแข่งขันกับผู้ส่งออกรายใหญ่ เช่น ไทย และมาเลเซีย นายเลระบุว่า การผลักดันให้ทุเรียนเป็นผลิตภัณฑ์ประจำชาติจำเป็นต้องอาศัยนโยบายการเกษตรที่ครอบคลุมและต้องมีการให้ความรู้แก่เกษตรกรและภาคธุรกิจ เรื่องนี้มีความสำคัญเพราะปัจจุบันเวียดนามตามหลังไทยและมาเลเซียในการส่งออกผลไม้ไปยังจีน ขณะที่การผลิตในเวียดนามยังกระจัดกระจายและมีขนาดเล็ก นายเลแนะนำว่า สินค้าแต่ละชนิดจะต้องผ่านเกณฑ์หลายประการ เพื่อให้มีคุณสมบัติเป็นผลิตภัณฑ์ประจำชาติ เช่น ขนาดการผลิต ขีดความสามารถการแข่งขันด้านการส่งออก การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และศักยภาพในการครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา  กลุ่มผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นคาดว่าการส่งออกทุเรียนของเวียดนามจะสูงถึง 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 120,000 ล้านบาท) ภายในสิ้นปีนี้ เมื่อพิจารณาจากเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยในปัจจุบัน ส่วนช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้เวียดนามทำรายได้จากการส่งออกทุเรียนราว 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 58,300 ล้านบาท) โดยมีจีนเป็นผู้นำเข้าทุเรียนเวียดนามรายใหญ่ที่สุด.-814.-สำนักข่าวไทย

ปักกิ่ง 19 ส.ค.- เวียดนามและจีนลงนามเอกสารทั้งหมด 14 ฉบับ ครอบคลุมในหลากหลายด้าน หลังจากนายโต เลิม ประธานาธิบดี หรือประธานประเทศคนใหม่ของเวียดนามพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในวันนี้ ประธานาธิบดีสีของจีนกล่าวระหว่างพบกันว่า จีนถือว่าเวียดนามมีความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เสมอในการดำเนินนโยบายการทูตกับประเทศเพื่อนบ้าน และสนับสนุนให้เวียดนามยึดมั่นต่อระบอบผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ ปรับใช้แนวทางสังคมนิยมที่เหมาะกับเงื่อนไขของประเทศ และเดินหน้าปฏิรูปและปรับปรุงความเป็นสังคมนิยมให้ทันสมัย ด้านประธานาธิบดีเลิมกล่าวถึงความสัมพันธ์ทวิภาคีว่า มีความสำคัญสูงสุดในนโยบายต่างประเทศของเวียดนาม การเยือนจีนของเขาเป็นการตอกย้ำว่า พรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลเวียดนามให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์กับจีน จากนั้นทั้ง 2 ประเทศได้ลงนามเอกสาร 14 ฉบับ ครอบคลุมเรื่องการวางแผนและศึกษาความเป็นไปได้ในการทำให้รางรถไฟเป็นมาตรฐานเดียวกันเพื่อยกระดับการเดินรถไฟข้ามพรมแดน ซึ่งเป็นเรื่องที่เวียดนามเคยระบุว่า เป็นวาระสำคัญของการประชุมระดับผู้นำประเทศ นอกจากนี้ยังลงนามเอกสารความร่วมมือระหว่างธนาคารกลาง สื่อ สาธารณสุข ไปจนถึงการกักโรคและตรวจสอบมะพร้าว จระเข้ และทุเรียน รอยเตอร์มองว่า การที่นายเลิมเลือกเยือนจีนเป็นประเทศแรกนับตั้งแต่รับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนพฤษภาคมสะท้อนว่า ประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 2 ประเทศนี้ยังคงต้องการกระชับความสัมพันธ์กันในช่วงที่การค้าและการลงทุนเติบโต แม้ว่ามีความขัดแย้งกันเป็นครั้งคราวเรื่องการอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนในทะเลจีนใต้.-814.-สำนักข่าวไทย

สื่อเวียดนามอ้างอิงสมาคมผักและผลไม้แห่งเวียดนาม รายงานว่ามูลค่าการส่งออกผักและผลไม้ของเวียดนามรวมอยู่ที่ 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 7 เดือนแรก (มกราคม-กรกฎาคม) ของปีนี้

มะนิลา 5 ส.ค.- เรือเวียดนามล่องถึงท่าเรือกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ในวันนี้ เพื่อเริ่มต้นการฝึกซ้อมหน่วยยามฝั่งร่วมกันเป็นครั้งแรก การฝึกซ้อมในอ่าวมะนิลาของฟิลิปปินส์จะเริ่มขึ้นในวันที่ 9 สิงหาคม นับเป็นการฝึกซ้อมหน่วยยามฝั่งร่วมกันครั้งแรกของทั้ง 2 ประเทศที่อ้างกรรมสิทธิ์บางส่วนในทะเลจีนใต้ทับซ้อนกัน และมีการเผชิญหน้ากับหน่วยยามฝั่งจีนหลายครั้งในน่านน้ำนี้ เรือหน่วยยามฝั่งซีเอสบี 8002 (CSB 8002) ของเวียดนามจะฝึกซ้อมเป็นเวลา 5 วันกับเรือลาดตระเวนนอกชายฝั่งบีอาร์พี กาเบรียลา ซิลัง (BRP Gabriela Silang) ของฟิลิปปินส์ โดยในวันแรกจะเน้นเรื่องปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย และการป้องกันไฟไหม้และระเบิด ทั้งนี้ในระหว่างที่ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์เยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ ทั้ง 2 ประเทศได้มีการลงนามข้อตกลงส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยยามฝั่ง และป้องกันการเกิดเหตุไม่คาดคิดในทะเลจีนใต้.-814.-สำนักข่าวไทย

ประธานาธิบดีโต เลิม ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งเป็นตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศ สืบต่อจากนายเหวียน ฝู จ่อง ที่ถึงแก่อสัญกรรมไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

ฮานอย 30 ก.ค.- หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป หรืออียู (EU) เผยว่า อียูพร้อมเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเลและศักยภาพด้านความปลอดภัยไซเบอร์ให้แก่เวียดนาม นายโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของอียู วัย 77 ปี ซึ่งจะครบวาระ 5 ปี ในปลายปีนี้กล่าวระหว่างพบกับนายบุ่น แทงเซิน รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามที่กรุงฮานอยของเวียดนามในวันนี้ว่า เขาต้องการเริ่มการทำงานเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนาม พร้อมกับเสนอว่า อียูสามารถเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเลและศักยภาพด้านความปลอดภัยไซเบอร์ให้แก่เวียดนาม นายบอร์เรลล์กล่าวว่า อียูที่มีสมาชิก 27 ประเทศมีผลประโยชน์โดยตรงในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงทางทะเลในทะเลจีนใต้ เพราะเป็นน่านน้ำการขนส่งสินค้านำเข้าของอียูมากกว่า 1 ใน 3 และสินค้าส่งออกของอียูมากกว่า 1 ใน 5 เขาถือโอกาสนี้ย้ำว่า การปฏิบัติตามกฎหมายสากลอย่างเต็มที่ตามที่เวียดนามได้ใช้ในทะเลจีนใต้ ควรเป็นสิ่งที่ปฏิบัติในทุกหนแห่ง รวมถึงในยูเครน อนึ่ง เวียดนามเป็น 1 ในประเทศที่มีข้อพิพาทกับจีนเรื่องการอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนในทะเลจีนใต้.-814.-สำนักข่าวไทย

เซินลา 24 ก.ค.- เจ้าหน้าที่กู้ภัยในเวียดนามฝ่าน้ำท่วมที่สูงระดับอก เข้าไปช่วยอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยในวันนี้ หลังจากฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน สถานีโทรทัศน์วีทีวี (VTV) ของทางการเวียดนามแพร่ภาพอาคารและถนนสายต่าง ๆ ในเมืองเซินลา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศถูกน้ำท่วมจนใช้สัญจรไม่ได้ เนื่องจากกระแสน้ำท่วมที่ไหลลงมาอย่างหนักจากเทือกเขาบริเวณชนบท เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เรือยางฝ่าน้ำท่วมบนถนนที่สูงระดับอกค้นหาผู้ติดค้างอยู่ตามอาคารต่าง ๆ ทางการท้องถิ่นแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน สูญหาย 5 คน จังหวัดทางตอนเหนือของเวียดนามมักเผชิญกับฝนตกหนักที่รุนแรงขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ เป็นเหตุให้เกิดดินโคลนถล่มขนาดใหญ่และน้ำท่วมฉับพลัน ข้อมูลของทางการเวียดนามระบุว่า ปี 2566 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายรวมทั้งหมด 166 คน เพราะเหตุที่เกิดจากสภาพอากาศเลวร้าย.-814.-สำนักข่าวไทย