เลือกตั้ง

อดีตรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ มีแผนการที่จะประกาศตัวลงสมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นการท้าชิงนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีเพื่อเป็นตัวแทนพรรคในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปีหน้า

ประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอัน ของตุรกี วิงวอนในวันนี้ขอให้ประเทศมีความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวหลังจากเขาได้รับชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบที่ 2 ครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งจะทำให้เขาได้บริหารประเทศต่อไปอีก 5 ปีจนถึงปี 2028

ชาวตุรกีออกไปใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งรอบ 2 ในวันนี้ ซึ่งประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอัน วัย 69 ปีเป็นตัวเก็งที่จะได้รับชัยชนะและได้ครองอำนาจต่อไปอีก 5 ปี ถึงปี 2028 หลังจากบริหารตุรกีมายาวนาน 2 ทศวรรษ

พนมเปญ 25 พ.ค.- สภารัฐธรรมนูญกัมพูชาไม่รับคำอุทธรณ์ของพรรคฝ่ายค้านหลักที่ร้องเรียนเรื่องคณะกรรมการการเลือกตั้งไม่ให้พรรคลงสมัครรับเลือกตั้งระดับประเทศในเดือนกรกฎาคมนี้ โฆษกพรรคแสงเทียนหรือซีพี (CP) เผยว่า ทางพรรคเสียใจและผิดหวังที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมการเลือกตั้ง ทั้งที่หวังว่าจะฟื้นฟูรากฐานประชาธิปไตยในกัมพูชา เพราะการไม่มีพรรคการเมืองที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเข้าร่วมการเลือกตั้งจะทำให้พื้นที่ประชาธิปไตยเหลือน้อยลง พรรคซีพีถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งปฏิเสธเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งโดยอ้างว่า ไม่ได้ส่งเอกสารบางอย่าง เท่ากับเปิดทางให้พรรคประชาชนกัมพูชาหรือซีพีพี (CPP) ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ไร้คู่แข่งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาแห่งชาติ ซึ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ พรรคซีพีได้คะแนนเสียงประชาชนร้อยละ 22 ในการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อปี 2565 และเตรียมท้าชนพรรคซีพีพีในทุกเขตเลือกตั้งในการเลือกตั้งระดับประเทศที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 9 ล้าน 7 ล้านคนจะเลือกส.ส. 125 คน นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ขู่จับกุมแกนนำพรรคซีพี หากชักชวนคนชุมนุมประท้วงการตัดสินใจของคณะกรรมการเลือกตั้ง เอเอฟพีระบุว่า นักการเมืองฝ่ายค้านคนสำคัญบางคนของกัมพูชาต้องคดีอาญาที่พวกเขาระบุว่าเป็นเรื่องทางการเมือง หลายคนที่ถูกคุมขังได้รับการอภัยโทษหากขอโทษนายกรัฐมนตรี และมีนักเคลื่อนไหวจำนวนหนึ่งแปรพักตร์ไปเข้ากับนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ที่ผูกขาดปกครองกัมพูชามานาน 38 ปี และสนับสนุนอย่างเปิดเผยให้ พล.อ.ฮุน มาเนต ซึ่งเป็นบุตรชายคนโต ให้เป็นผู้นำประเทศคนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ไทเป 20 พ.ค.- ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินของไต้หวันประกาศว่า จะรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวันในขณะที่ไต้หวันเผชิญกับแรงกดดันทางทหารจากจีนเพิ่มมากขึ้น โดยยืนยันว่า สงครามไม่ใช่ทางเลือก ประธานาธิบดีไช่ วัย 66 ปี กล่าวในวันนี้ซึ่งเป็นวันที่เธอดำรงตำแหน่งเป็นปีที่ 7 นับจากชนะเลือกตั้งในปี 2559 และ 2563 ว่า ในขณะที่ถูกจีนคุกคามทางพลเรือนและคุกคามทางทหาร ประชาชนชาวไต้หวันก็สงบนิ่งและไม่ก้าวร้าว มีเหตุผลและไม่ยั่วยุ สงครามไม่ใช่ทางเลือก และไม่มีพรรคการเมืองใดสามารถเปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบันให้เป็นไปในลักษณะที่ไม่สันติได้แต่เพียงเดียว ไต้หวันจะไม่ยั่วยุ ก้าวร้าว และจะไม่ยอมถูกกดดันอย่างเด็ดขาด ผู้นำหญิงไต้หวันกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าวก่อนที่ไต้หวันจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ในเดือนมกราคม 2567 และเธอไม่สามารถลงสมัครได้อีก เนื่องจากครบวาระ 2 สมัยแล้ว พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าหรือดีพีพี (DPP) ที่เธอสังกัดอยู่ได้เสนอชื่อรองประธานาธิบดีวิลเลียม ไล่ หรือไล่ ชิงเต๋อ วัย 62 ปี เป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาแสดงท่าทีสนับสนุนการแยกไต้หวันเป็นเอกราชชัดเจนยิ่งกว่าผู้นำคนปัจจุบัน โดยได้กล่าวเมื่อเดือนมกราคมว่า เขาคิดว่าไต้หวันเป็นประเทศอธิปไตยอยู่แล้ว ส่วนคู่แข่งของเขาคือนายโหว โหย่วอี๋ นายกเทศมนตรีนครไทเปใหม่ วัย 65 ปี ตัวแทนพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีนโยบายเป็นมิตรกับจีน.-สำนักข่าวไทย