สังเวย 7 ศพประท้วงขับไล่นายกฯ บังกลาเทศ

ธากา 4 ส.ค.- มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 คน และบาดเจ็บหลายสิบคนในวันนี้ จากเหตุปะทะที่เกิดขึ้นระหว่างที่ตำรวจบังกลาเทศยิงแก๊สน้ำตาและขว้างระเบิดแสงสลายผู้ชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเชค ฮาซีนาลาออก การประท้วงในขณะนี้ถือว่าใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่มีการประท้วงนองเลือดเมื่อนางฮาซีนาชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันเมื่อเดือนมกราคมในการเลือกตั้งที่ฝ่ายค้านหลักคว่ำบาตรไม่เข้าร่วม รัฐบาลต้องปิดบริการอินเทอร์เน็ตหวังควบคุมการปลุกระดมคนเข้าร่วมการประท้วง โดยในวันนี้มีรายงานคนงานก่อสร้าง 2 คนเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 30 คน จากการปะทะกัน 3 ฝ่ายระหว่างผู้ประท้วง ตำรวจ และนักเคลื่อนไหวของพรรคสันนิบาตอวามีของนางฮาซีนาในพื้นที่ตอนกลางของประเทศ ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิต 2 คน และได้รับบาดเจ็บ 50 คน จากการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับนักเคลื่อนไหวของพรรครัฐบาลในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และมีผู้เสียชีวิตอีก 2 คนในพื้นที่ทางเหนือ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคม มีคนในบังกลาเทศถูกสังหารไม่ต่ำกว่า 150 คน บาดเจ็บหลายพันคน และถูกจับกุมประมาณ 10,000 คน จากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการประท้วงนำโดยนักศึกษาที่ไม่พอใจนโยบายกำหนดโควต้าตำแหน่งงานราชการ การประท้วงซาลงเมื่อศาลฎีกามีคำสั่งยกเลิกโควต้าดังกล่าว อย่างไรก็ดี นักศึกษาได้กลับมาประท้วงประปรายเมื่อสัปดาห์ก่อน เรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตในการประท้วง.-814.-สำนักข่าวไทย

ชาวเวเนซุเอลาทั่วลาตินอเมริกาประท้วงเลือกตั้ง

ชาวเวเนซุเอลาในประเทศต่างๆ ทั่วลาตินอเมริกา เดินขบวนตามท้องถนน ประท้วงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในประเทศบ้านเกิด ขณะที่มีผู้ประท้วงถูกควบคุมตัวในเวเนซุเอลามากถึง 2,000 คน

สหรัฐรับรองฝ่ายค้านเวเนซุเอลาเป็นผู้ชนะเลือกตั้ง ปธน.

วอชิงตัน 2 ส.ค.- สหรัฐแสดงการรับรองว่า นายเอ็ดมุนโด กอนซาเลซ ผู้สมัครของฝ่ายค้านเวเนซุเอลา เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี เท่ากับไม่ยอมรับตามที่ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร อ้างว่าชนะและได้ดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 3 นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า หลักฐานที่มีอยู่อย่างล้นเหลือเป็นที่ประจักษ์ต่อสหรัฐและโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประชาชนชาวเวเนซุเอลาว่า นายกอนซาเลซเป็นผู้ได้คะแนนเสียงมากที่สุดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 28 กรกฎาคม สหรัฐสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อกระบวนการฟื้นบรรทัดฐานประชาธิปไตยในเวเนซุเอลา และพร้อมจะพิจารณาหนทางที่จะส่งเสริมเรื่องนี้ร่วมกับหุ้นสากล เป็นการเผยเป็นนัยว่า สหรัฐอาจดำเนินมาตรการลงโทษเวเนซุเอลา ด้านทำเนียบขาวไม่ได้ประกาศรับรองนายกอนซาเลซอย่างเป็นทางการว่าเป็นผู้นำคนใหม่ของเวเนซุเอลา แต่แสดงความยินดีที่เขาประสบความสำเร็จในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นับเป็นการแสดงท่าทีที่ใกล้เคียงกับการรับรองมากที่สุด ขณะที่ประธานาธิบดีบราซิล เม็กซิโก และโคลอมเบียต่างเรียกร้องให้เวเนซุเอลาเปิดเผยรายละเอียดการนับคะแนน เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศว่า นายมาดูโรที่ปกครองเวเนซุเอลามาตั้งแต่ปี 2556 กวาดคะแนนเสียงร้อยละ 51 แต่ฝ่ายค้านอ้างคะแนนที่นับได้ร้อยละ 90 ว่า นายกอนซาเลซได้คะแนนมากกว่านายมาดูโรมากกว่า 2 เท่า สอดคล้องกับที่สำนักสำรวจอิสระหยั่งเสียงก่อนการเลือกตั้ง.-814.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเวเนซุเอลาสั่งทหาร-ตำรวจคุมคนประท้วง

การากัส 31 ก.ค. – ผู้นำเวเนซุเอลาสั่งการให้ทหารและตำรวจออกลาดตระเวนทั่วประเทศ หลังมีการชุมนุมประท้วงผลการเลือกตั้งตามเมืองต่างๆ ที่มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน นายนิโกลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาแถลงเมื่อค่ำวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น สั่งการให้ทหารและตำรวจออกลาดตระเวนตามเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่แถลงเป็นต้นไป เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย หลังจากมีการชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นทั่วประเทศ เนื่องจากไม่พอใจผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 28 กรกฎาคม ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศให้นายมาดูโรเป็นฝ่ายชนะไปด้วยคะแนนร้อยละ 51 ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 ขณะที่ฝ่ายค้านก็อ้างว่าเป็นฝ่ายชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนถล่มทลาย เหตุการณ์รุนแรงจากการประท้วงทั่วประเทศทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คนนับตั้งแต่วันเลือกตั้ง นายมาดูโรเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมยุติการก่อความรุนแรง พร้อมทั้งกล่าวโทษว่านางมาเรีย กอรินา มาชาโด ผู้นำฝ่ายค้าน และนายเอ็ดมุนโด กอนซาเลซ ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีของฝ่ายค้านเป็นผู้ยุยงปลุกระดมให้เกิดการประท้วง ทั้งสองคนนี้จะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ขณะนี้หลายประเทศเรียกร้องให้ทางการเวเนซุเอลาเปิดเผยผลคะแนนเลือกตั้งเพื่อแสดงความโปร่งใส ขณะที่แหล่งข่าวของสหรัฐระบุว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาเพิ่มมาตรการลงโทษต่อเวเนซุเอลา.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเวเนซุเอลาชี้กลุ่มขวาสุดโต่งอยู่เบื้องหลังประท้วง

การากัส 30 ก.ค.- ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโรของเวเนซุเอลาเผยว่า รัฐบาลของเขารู้วิธีจัดการกับการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่กำลังเกิดขึ้นทั่วประเทศในขณะนี้ และระบุว่ากลุ่มขวาสุดโต่งอยู่เบื้องหลังการประท้วง ประธานาธิบดีมาดูโร วัย 61 ปี แถลงจากบ้านพักประจำตำแหน่งประธานาธิบดีในกรุงการากัส โดยมีการถ่ายทอดสดทางวิทยุและโทรทัศน์เมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลได้ติดตามการก่อเหตุรุนแรงทั้งหมดที่ได้รับการยุยงจากกลุ่มขวาสุดโต่ง หากกลุ่มเหล่านี้ทำสิ่งที่เป็นอันตราย รัฐบาลจะจัดการ รัฐบาลรู้จักกลุ่มเหล่านี้เป็นอย่างดี หากมีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง รัฐบาลจะร่วมกับภาคประชาสังคม กองทัพ และตำรวจจัดการกับกลุ่มเหล่านี้ โดยรู้ว่าจะปราบปรามการก่อเหตุรุนแรงได้อย่างไร ผู้นำเวเนซุเอลากล่าวด้วยว่า รัฐบาลมีคลิปบันทึกภาพการก่อเหตุรุนแรงที่สามารถเปิดเผยได้ประมาณ 100 คลิป และสามารถตราหน้าบุคคลเหล่านี้ว่าเป็นอาชญากรและผู้ก่อการร้าย กลุ่มขวาสุดโต่งเป็นผู้วางแผนเรื่องนี้ เพราะได้โวยวายว่ามีการโกงเลือกตั้งตั้งแต่ช่วง 15 วันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม และไม่ยอมลงนามในข้อตกลงว่าจะยอมรับผลการเลือกตั้ง.-814.-สำนักข่าวไทย

ชาวเวเนซุเอลาประท้วงผลเลือกตั้งประธานาธิบดี

การากัส 30 ก.ค.- ประชาชนในย่านผู้มีรายได้น้อยในกรุงการากัสของเวเนซุเอลา ออกมาประท้วงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี หลังจากประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ชนะการเลือกตั้ง เมื่อวันอาทิตย์ ได้ดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 3 การชุมนุมเมื่อคืนวันจันทร์เกิดขึ้นในย่านที่ปกติแล้วเป็นฐานเสียงสนับสนุนรัฐบาล ผู้อาศัยในย่านนี้เผยว่า ทั้งชุมชนกำลังเรียกร้องขอเสรีภาพ ดังนั้นมาดูโรจะต้องพ้นจากตำแหน่งไปพร้อมกับเหล่าอาชญากรของเขา และทั้งหมดจะต้องรับโทษคุมขัง ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันมีการชุมนุมในหลายเมืองทั่วเวเนซุเอลา รวมทั้งจุดที่ใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงการากัส และสำนักงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งหลายแห่ง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คนจากเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการนับคะแนนเลือกตั้งและการประท้วง เหตุการณ์ชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศว่า ประธานาธิบดีมาดูโรชนะการเลือกตั้ง ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 แต่สำนักสำรวจอิสระหลายแห่งไม่เชื่อผลการเลือกตั้งดังกล่าว ขณะที่ผู้นำฝ่ายค้านและผู้สังเกตการณ์จากต่างประเทศพากันเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเปิดเผยผลคะแนน.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเวเนซุเอลาชนะเลือกตั้งสมัยที่ 3

การากัส 29 ก.ค.- เวเนซุเอลาประกาศผลการนับคะแนนเบื้องต้นให้ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 ขณะที่ฝ่ายค้านประกาศชัยชนะเช่นกัน ประธานคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งของเวเนซุเอลาประกาศหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นว่า ผลคะแนนที่นับไปแล้วร้อยละ 80 ประธานาธิบดีมาดูโร วัย 61 ปี เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งโดยได้คะแนนร้อยละ 51 ขณะที่นายเอ็ดมุนโด กอนซาเลซ  ผู้สมัครจากฝ่ายค้าน วัย 74 ปี ได้คะแนนร้อยละ 44 ผลคะแนนดังกล่าวสวนทางกับการหยั่งคะแนนเสียงหน้าคูหาเลือกตั้งหรือเอ็ตซิทโพลที่ชี้ว่า นายกอนซาเลซมีคะแนนนำทิ้งห่างประธานาธิบดีมาดูโร ประธานาธิบดีมาดูโรกล่าวต่อกลุ่มผู้สนับสนุนที่ทำเนียบประธานาธิบดีว่า การได้รับเลือกตั้งอีกสมัยของเขาเป็นชัยชนะแห่งสันติภาพและเสถียรภาพ พร้อมกับย้ำตามที่เคยย้ำระหว่างการหาเสียงว่า ระบบการเลือกตั้งของเวเนซุเอลามีความโปร่งใส เขาจะลงนามคำสั่งในวันนี้ให้เปิดการเจรจาแห่งชาติที่ยิ่งใหญ่ นายมาดูโรเป็นคนขับรถโดยสารที่กลายเป็นผู้นำสหภาพแรงงาน เขาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาในปี 2543 และได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรกในปี 2556 เมื่อประธานาธิบดีฮิวโก ชาเวซถึงแก่อสัญกรรม ด้านฝ่ายค้านอ้างว่า นายกอนซาเลซได้คะแนนร้อยละ 70 โดยอ้างเอ็กซิตโพลอิสระหลายแห่งและการนับคะแนนเบื้องต้น ฝ่ายค้านเตรียมฉลองชัยชนะและเรียกร้องให้กลุ่มผู้สนับสนุนช่วยกันจับตาการนับคะแนนต่อไป อย่างไรก็ดี นายกอนซาเลซกล่าวว่า จะไม่เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกมาชุมนุมหรือก่อความรุนแรง.-816(814).-สำนักข่าวไทย

“บารัค” และ “มิเชล โอบามา”  หนุน “แฮร์ริส” ชิงตำแหน่ง ปธน.

อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาและมิเชล ภรรยาของเขา ให้การสนับสนุน รองประธานาธิบดีคอมมาลา แฮร์ริส ในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

“แฮร์ริส” หาเสียงครั้งแรก หลัง “ไบเดน” ถอนตัว

วิสคอนซิน 24 ก.ค.- นางคอมมาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐเริ่มการหาเสียงเป็นครั้งแรก ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นว่า เธอเป็นมือกฎหมายที่จะมาปราบนาย โดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเดือนพฤศจิกายนนี้ นางแฮร์ริส ได้ปราศัยหาเสียงเป็นครั้งแรก หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศถอนตัวและสนับสนุนให้เธอเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเลือกไปเปิดเวทีที่รัฐวิสคอนซิน ที่ซึ่งพรรครีพับลิกันเพิ่งจัดการประชุมใหญ่และประกาศอย่างเป็นทางการให้ทรัมป์ เป็นตัวแทนพรรคชิงทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ก่อน ใจความหลักของคำปราศัยที่นางแฮร์ริสใช้ในการต่อสู้กับทรัมป์ มาจากประสบการณ์ทำงานในตำแหน่งอัยการของเธอ โดยได้เปรียบเทียบว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นต่อสู้ระหว่างผู้รักษากฎหมายกับอาชญากรผู้ต้องคำพิพากษาคดีอาญา เนื่องจากทรัมป์ เป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกและคนเดียวที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดคดีอาญา จากกรณีจ่ายเงินเปิดปากนักแสดงภาพยนตร์ผู้ใหญ่ แล้วยังมีคดีอาญาอีก 3 คดีที่อยู่ในกระบวนการฟ้องร้อง นางแฮร์ริสกล่าวว่า เธอเป็นผู้คุ้มกฎหมายที่ต่อสู้กับคนร้ายทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นคนล่วงละเมิดทางเพศ คนคดโกง หรือ ผู้หลอกลวงเพื่อประโยชน์ตัวเอง ทั้งนี้นับตั้งแต่นางแฮร์ริสได้กลายเป็นตัวแทนพรรคอย่างไม่เป็นทางการ กระแสตอบรับและคะแนนนิยมดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากยอดเงินบริจาคที่เพิ่มสูง โดยได้รับบริจาคเพิ่มกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 3,600 ล้านบาท)  ในเวลาเพียงเวลาแค่ 1 วันครี่ง ขณะที่ผลการสำรวจของรอยเตอร์พบว่า เธอมีคะแนนนำทรัมป์เล็กน้อยร้อยละ 44 ต่อ 42  ด้านทรัมป์ได้กล่าวโจมตีนางแฮร์ริสว่า เป็นคนพูดปดที่มีแนวคิดซ้ายจัด ซึ่งจะทำลายชาติบ้านเมือง แต่เขาเชื่อว่าจะสามารถเอาชนะแฮร์ริสได้ง่ายกว่าไบเดน ส่วนสมาชิกรีพับลิกันและทีมหาเสียงของทรัมป์มุ่งโจมตีแฮร์ริสว่า ผลงานย่ำแย่เรื่องอาชญากรรม […]

VOA ส่งตรงจากสหรัฐ : เสียงสะท้อนถึงเวทีการเมืองสหรัฐ หลัง ‘ไบเดน’ ถอนตัวเลือกตั้ง ปธน.

การประกาศถอนตัวจากการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งแรงกระเพื่อมไปถึงตัวละครทางการเมืองสหรัฐ

“แฮร์ริส” มีคะแนนเกินเกณฑ์ที่เดโมแครตจะเสนอชื่อแล้ว

เดลาแวร์ 23 ก.ค. – แหล่งข่าวการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคเดโมแครตเผยว่า รองประธานาธิบดีคอมมาลา แฮร์ริส มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง หรือเดลิเกต (delegate) เกินเกณฑ์ที่จะต้องมีเพื่อให้ได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐแล้ว รอยเตอร์อ้างการตรวจนับของสำนักข่าวเอพี (AP) ว่า แฮร์ริสมีคะแนนเดลิเกต 2,214 คะแนน เกินจากที่ต้องได้อย่างน้อย 1,975 คะแนน จากเดลิเกตทั้งหมด 3,949 คะแนน จึงจะได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคลงเลือกตั้งประธานาธิบดี ในการประชุมใหญ่พรรคที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 สิงหาคมที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ อย่างไรก็ดี เอพีระบุว่า การตรวจนับดังกล่าวเป็นการสำรวจที่ไม่ใช่ผลอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเดลิเกตของพรรคเดโมแครตมีอิสระในการลงคะแนนเลือกผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรค ด้านนางแฮร์ริสกล่าวกับทีมงานสำนักงานหาเสียงหลักของพรรคเดโมแครตที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์เมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐว่า เธอมีความมุ่งมั่นที่จะต้องได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรค ดังนั้นจึงจะใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่อีก 106 วัน ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ร่วมกับทีมหาเสียง เพื่อให้พรรคเป็นหนึ่งเดียว และประเทศเป็นหนึ่งเดียว.-814.-สำนักข่าวไทย

ชื่อ Kamala Harris อ่านว่า คอมมาลา แฮร์ริส

วอชิงตัน 22 ก.ค.- ชื่อของคอมมาลา แฮร์ริส (Kamala Harris) รองประธานาธิบดีสหรัฐกลับมาปรากฏในข่าวอีกครั้ง หลังจากที่เคยสร้างความสงสัยตั้งแต่เมื่อครั้งการเลือกตั้งปี 2563 ว่าชื่อต้นของเธอออกเสียงว่าอย่างไร ทั้งนี้นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศถอนตัวจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และสนับสนุนให้เธอเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงชัยแทนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2567 ตามเวลาสหรัฐ ชื่อของเธอก็กลายเป็นที่จับตาทันที อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ การออกเสียงชื่อต้นที่ถูกต้องของเธอว่า ควรจะเป็นกมลา, คามาลา หรือคอมมาลา ชื่อต้นของแฮร์ริสเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนตั้งแต่เมื่อครั้งที่เธอประกาศตัวในเดือนมกราคม 2562 ขณะดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภารัฐแคลิฟอร์เนียว่า จะสมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2563 เนื่องจากผู้ประกาศข่าวหลายคนออกเสียงแตกต่างกัน คริส นิโคลส์ ผู้สื่อข่าวของสถานีวิทยุแคปเรดิโอ (Capradio) ในขณะนั้นสืบค้นได้ว่า อ่านว่า คอมมาลา เป็นภาษาสันสฤต เนื่องจากมารดาของเธอเป็นชาวอินเดีย แฮร์ริสชี้แจงเมื่อถูกพิธีกรรายการโทรทัศน์ถามในเรื่องนี้ว่า ชื่อต้นของเธอออกเสียงเหมือนคำว่า “คอมมา” (comma) (เป็นเครื่องหมายจุลภาค ,) แล้วตามด้วยคำว่า “ลา” แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้ประกาศข่าวหลายคนที่ออกเสียงผิด ทำให้เธอต้องออกคลิปสั้นให้เด็ก ๆ มาอ่านออกเสียงที่ถูกต้องว่า คือ “คอมมาลา แฮร์ริส” […]

1 8 9 10 11 12 289
...