“ไบเดน” เปิดใจครั้งแรกเรื่องถอนตัวจากเลือกตั้ง
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐให้สัมภาษณ์เปิดใจเป็นครั้งแรก ถึงสาเหตุที่สละสิทธิถอนตัวจากการลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปลายปีนี้
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐให้สัมภาษณ์เปิดใจเป็นครั้งแรก ถึงสาเหตุที่สละสิทธิถอนตัวจากการลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปลายปีนี้
แอริโซนา 11 ส.ค. – รองประธานาธิบดีคอมมาลา แฮร์ริส ของสหรัฐ ย้ำว่า จะไม่แทรกแซงการตัดสินใจของธนาคารกลางของสหรัฐ หรือเฟด (Fed) หากเธอชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี วันที่ 5 พฤศจิกายน นางแฮร์ริส ซึ่งได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมตามเวลาท้องถิ่น เผยกับสื่อระหว่างหาเสียงที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนาเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เฟดเป็นสถาบันอิสระ และในฐานะประธานาธิบดีเธอจะไม่มีทางแทรกแซงการตัดสินใจของเฟดอย่างแน่นอน จุดยืนของนางแฮร์ริสแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีและตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ย้ำระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อที่บ้านพักมาร์อะลาโกของเขาในรัฐฟลอริดาเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีสหรัฐควรมีสิทธิมีเสียงในการตัดสินใจของเฟด ประธานเฟดคนปัจจุบัน คือ นายเจอโรม พาวเวล วัย 71 ปี ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมัยแรกเมื่อปลายปี 2560 โดยทรัมป์ที่เป็นประธานาธิบดีในขณะนั้น และได้รับแต่งตั้งอีกสมัยเมื่อต้นปี 2565 โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน และมีกำหนดครบวาระดำรงตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม 2569.-814.-สำนักข่าวไทย
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า เขาไม่มั่นใจว่าการส่งต่ออำนาจการบริหารประเทศจะราบรื่น หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้
เพนซิลเวเนีย 7 ส.ค.- นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ขึ้นเวทีหาเสียงเป็นครั้งแรกร่วมกับนายทิม วอลซ์ ที่เธอเพิ่งเลือกให้เป็นคู่ชิงเลือกตั้งในตำแหน่งรองประธานาธิบดี นางแฮร์ริส วัย 59 ปี และนายวอลซ์ วัย 60 ปี ขึ้นเวทีหาเสียงร่วมกันที่รัฐเพนซิลเวเนีย เปิดฉากการตระเวนหาเสียงในรัฐสมรภูมิหลายรัฐ หวังเปิดตัวนายวอลซ์ให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศ นายวอลซ์แนะนำตัวเองว่า เติบโตในเมืองเล็ก ๆ ในรัฐรัฐเนแบรสกา รับใช้ชาติในกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติเป็นเวลานาน 24 ปี เป็นครูสอนสังคมในโรงเรียนมัธยมศึกษา และเป็นโค้ชฟุตบอล ทั้งคู่ประกาศว่า พร้อมที่จะรักษาทำเนียบขาวและสกัดกั้นนายโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ให้ได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัย นายวอลซ์ ปัจจุบันเป็นผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา มีประสบการณ์มากมายในการทำธุรกิจและในกองทัพ เขาเริ่มงานการเมืองด้วยการเป็น ส.ส. นาน 12 ปี จากนั้นจึงได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐมินนิโซตามาแล้ว 2 สมัย ด้วยการผลักดันนโยบายก้าวหน้าหลายด้าน เช่น อาหารกลางวันนักเรียนฟรี กำหนดเป้าหมายสู้โลกร้อน และลดภาษีเพิ่มสวัสดิการให้คนชั้นกลาง ด้านทีมหาเสียงของทรัมป์โจมตีนายวอลซ์ทันทีว่า มีแนวคิดเสรีนิยมเหมือนนางแฮร์ริส ซึ่งเป็นแนวคิดที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของชาวอเมริกันส่วนใหญ่.-812(814).-สำนักข่าวไทย
ธากา 4 ส.ค.- มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 คน และบาดเจ็บหลายสิบคนในวันนี้ จากเหตุปะทะที่เกิดขึ้นระหว่างที่ตำรวจบังกลาเทศยิงแก๊สน้ำตาและขว้างระเบิดแสงสลายผู้ชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเชค ฮาซีนาลาออก การประท้วงในขณะนี้ถือว่าใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่มีการประท้วงนองเลือดเมื่อนางฮาซีนาชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันเมื่อเดือนมกราคมในการเลือกตั้งที่ฝ่ายค้านหลักคว่ำบาตรไม่เข้าร่วม รัฐบาลต้องปิดบริการอินเทอร์เน็ตหวังควบคุมการปลุกระดมคนเข้าร่วมการประท้วง โดยในวันนี้มีรายงานคนงานก่อสร้าง 2 คนเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 30 คน จากการปะทะกัน 3 ฝ่ายระหว่างผู้ประท้วง ตำรวจ และนักเคลื่อนไหวของพรรคสันนิบาตอวามีของนางฮาซีนาในพื้นที่ตอนกลางของประเทศ ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิต 2 คน และได้รับบาดเจ็บ 50 คน จากการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับนักเคลื่อนไหวของพรรครัฐบาลในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และมีผู้เสียชีวิตอีก 2 คนในพื้นที่ทางเหนือ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคม มีคนในบังกลาเทศถูกสังหารไม่ต่ำกว่า 150 คน บาดเจ็บหลายพันคน และถูกจับกุมประมาณ 10,000 คน จากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการประท้วงนำโดยนักศึกษาที่ไม่พอใจนโยบายกำหนดโควต้าตำแหน่งงานราชการ การประท้วงซาลงเมื่อศาลฎีกามีคำสั่งยกเลิกโควต้าดังกล่าว อย่างไรก็ดี นักศึกษาได้กลับมาประท้วงประปรายเมื่อสัปดาห์ก่อน เรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตในการประท้วง.-814.-สำนักข่าวไทย
ชาวเวเนซุเอลาในประเทศต่างๆ ทั่วลาตินอเมริกา เดินขบวนตามท้องถนน ประท้วงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในประเทศบ้านเกิด ขณะที่มีผู้ประท้วงถูกควบคุมตัวในเวเนซุเอลามากถึง 2,000 คน
วอชิงตัน 2 ส.ค.- สหรัฐแสดงการรับรองว่า นายเอ็ดมุนโด กอนซาเลซ ผู้สมัครของฝ่ายค้านเวเนซุเอลา เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี เท่ากับไม่ยอมรับตามที่ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร อ้างว่าชนะและได้ดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 3 นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า หลักฐานที่มีอยู่อย่างล้นเหลือเป็นที่ประจักษ์ต่อสหรัฐและโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประชาชนชาวเวเนซุเอลาว่า นายกอนซาเลซเป็นผู้ได้คะแนนเสียงมากที่สุดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 28 กรกฎาคม สหรัฐสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อกระบวนการฟื้นบรรทัดฐานประชาธิปไตยในเวเนซุเอลา และพร้อมจะพิจารณาหนทางที่จะส่งเสริมเรื่องนี้ร่วมกับหุ้นสากล เป็นการเผยเป็นนัยว่า สหรัฐอาจดำเนินมาตรการลงโทษเวเนซุเอลา ด้านทำเนียบขาวไม่ได้ประกาศรับรองนายกอนซาเลซอย่างเป็นทางการว่าเป็นผู้นำคนใหม่ของเวเนซุเอลา แต่แสดงความยินดีที่เขาประสบความสำเร็จในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นับเป็นการแสดงท่าทีที่ใกล้เคียงกับการรับรองมากที่สุด ขณะที่ประธานาธิบดีบราซิล เม็กซิโก และโคลอมเบียต่างเรียกร้องให้เวเนซุเอลาเปิดเผยรายละเอียดการนับคะแนน เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศว่า นายมาดูโรที่ปกครองเวเนซุเอลามาตั้งแต่ปี 2556 กวาดคะแนนเสียงร้อยละ 51 แต่ฝ่ายค้านอ้างคะแนนที่นับได้ร้อยละ 90 ว่า นายกอนซาเลซได้คะแนนมากกว่านายมาดูโรมากกว่า 2 เท่า สอดคล้องกับที่สำนักสำรวจอิสระหยั่งเสียงก่อนการเลือกตั้ง.-814.-สำนักข่าวไทย
การากัส 31 ก.ค. – ผู้นำเวเนซุเอลาสั่งการให้ทหารและตำรวจออกลาดตระเวนทั่วประเทศ หลังมีการชุมนุมประท้วงผลการเลือกตั้งตามเมืองต่างๆ ที่มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน นายนิโกลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาแถลงเมื่อค่ำวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น สั่งการให้ทหารและตำรวจออกลาดตระเวนตามเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่แถลงเป็นต้นไป เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย หลังจากมีการชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นทั่วประเทศ เนื่องจากไม่พอใจผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 28 กรกฎาคม ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศให้นายมาดูโรเป็นฝ่ายชนะไปด้วยคะแนนร้อยละ 51 ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 ขณะที่ฝ่ายค้านก็อ้างว่าเป็นฝ่ายชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนถล่มทลาย เหตุการณ์รุนแรงจากการประท้วงทั่วประเทศทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คนนับตั้งแต่วันเลือกตั้ง นายมาดูโรเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมยุติการก่อความรุนแรง พร้อมทั้งกล่าวโทษว่านางมาเรีย กอรินา มาชาโด ผู้นำฝ่ายค้าน และนายเอ็ดมุนโด กอนซาเลซ ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีของฝ่ายค้านเป็นผู้ยุยงปลุกระดมให้เกิดการประท้วง ทั้งสองคนนี้จะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ขณะนี้หลายประเทศเรียกร้องให้ทางการเวเนซุเอลาเปิดเผยผลคะแนนเลือกตั้งเพื่อแสดงความโปร่งใส ขณะที่แหล่งข่าวของสหรัฐระบุว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาเพิ่มมาตรการลงโทษต่อเวเนซุเอลา.-816(814).-สำนักข่าวไทย
การากัส 30 ก.ค.- ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโรของเวเนซุเอลาเผยว่า รัฐบาลของเขารู้วิธีจัดการกับการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่กำลังเกิดขึ้นทั่วประเทศในขณะนี้ และระบุว่ากลุ่มขวาสุดโต่งอยู่เบื้องหลังการประท้วง ประธานาธิบดีมาดูโร วัย 61 ปี แถลงจากบ้านพักประจำตำแหน่งประธานาธิบดีในกรุงการากัส โดยมีการถ่ายทอดสดทางวิทยุและโทรทัศน์เมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลได้ติดตามการก่อเหตุรุนแรงทั้งหมดที่ได้รับการยุยงจากกลุ่มขวาสุดโต่ง หากกลุ่มเหล่านี้ทำสิ่งที่เป็นอันตราย รัฐบาลจะจัดการ รัฐบาลรู้จักกลุ่มเหล่านี้เป็นอย่างดี หากมีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง รัฐบาลจะร่วมกับภาคประชาสังคม กองทัพ และตำรวจจัดการกับกลุ่มเหล่านี้ โดยรู้ว่าจะปราบปรามการก่อเหตุรุนแรงได้อย่างไร ผู้นำเวเนซุเอลากล่าวด้วยว่า รัฐบาลมีคลิปบันทึกภาพการก่อเหตุรุนแรงที่สามารถเปิดเผยได้ประมาณ 100 คลิป และสามารถตราหน้าบุคคลเหล่านี้ว่าเป็นอาชญากรและผู้ก่อการร้าย กลุ่มขวาสุดโต่งเป็นผู้วางแผนเรื่องนี้ เพราะได้โวยวายว่ามีการโกงเลือกตั้งตั้งแต่ช่วง 15 วันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม และไม่ยอมลงนามในข้อตกลงว่าจะยอมรับผลการเลือกตั้ง.-814.-สำนักข่าวไทย
การากัส 30 ก.ค.- ประชาชนในย่านผู้มีรายได้น้อยในกรุงการากัสของเวเนซุเอลา ออกมาประท้วงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี หลังจากประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ชนะการเลือกตั้ง เมื่อวันอาทิตย์ ได้ดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 3 การชุมนุมเมื่อคืนวันจันทร์เกิดขึ้นในย่านที่ปกติแล้วเป็นฐานเสียงสนับสนุนรัฐบาล ผู้อาศัยในย่านนี้เผยว่า ทั้งชุมชนกำลังเรียกร้องขอเสรีภาพ ดังนั้นมาดูโรจะต้องพ้นจากตำแหน่งไปพร้อมกับเหล่าอาชญากรของเขา และทั้งหมดจะต้องรับโทษคุมขัง ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันมีการชุมนุมในหลายเมืองทั่วเวเนซุเอลา รวมทั้งจุดที่ใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงการากัส และสำนักงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งหลายแห่ง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คนจากเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการนับคะแนนเลือกตั้งและการประท้วง เหตุการณ์ชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศว่า ประธานาธิบดีมาดูโรชนะการเลือกตั้ง ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 แต่สำนักสำรวจอิสระหลายแห่งไม่เชื่อผลการเลือกตั้งดังกล่าว ขณะที่ผู้นำฝ่ายค้านและผู้สังเกตการณ์จากต่างประเทศพากันเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเปิดเผยผลคะแนน.-816(814).-สำนักข่าวไทย
การากัส 29 ก.ค.- เวเนซุเอลาประกาศผลการนับคะแนนเบื้องต้นให้ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 ขณะที่ฝ่ายค้านประกาศชัยชนะเช่นกัน ประธานคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งของเวเนซุเอลาประกาศหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นว่า ผลคะแนนที่นับไปแล้วร้อยละ 80 ประธานาธิบดีมาดูโร วัย 61 ปี เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งโดยได้คะแนนร้อยละ 51 ขณะที่นายเอ็ดมุนโด กอนซาเลซ ผู้สมัครจากฝ่ายค้าน วัย 74 ปี ได้คะแนนร้อยละ 44 ผลคะแนนดังกล่าวสวนทางกับการหยั่งคะแนนเสียงหน้าคูหาเลือกตั้งหรือเอ็ตซิทโพลที่ชี้ว่า นายกอนซาเลซมีคะแนนนำทิ้งห่างประธานาธิบดีมาดูโร ประธานาธิบดีมาดูโรกล่าวต่อกลุ่มผู้สนับสนุนที่ทำเนียบประธานาธิบดีว่า การได้รับเลือกตั้งอีกสมัยของเขาเป็นชัยชนะแห่งสันติภาพและเสถียรภาพ พร้อมกับย้ำตามที่เคยย้ำระหว่างการหาเสียงว่า ระบบการเลือกตั้งของเวเนซุเอลามีความโปร่งใส เขาจะลงนามคำสั่งในวันนี้ให้เปิดการเจรจาแห่งชาติที่ยิ่งใหญ่ นายมาดูโรเป็นคนขับรถโดยสารที่กลายเป็นผู้นำสหภาพแรงงาน เขาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาในปี 2543 และได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรกในปี 2556 เมื่อประธานาธิบดีฮิวโก ชาเวซถึงแก่อสัญกรรม ด้านฝ่ายค้านอ้างว่า นายกอนซาเลซได้คะแนนร้อยละ 70 โดยอ้างเอ็กซิตโพลอิสระหลายแห่งและการนับคะแนนเบื้องต้น ฝ่ายค้านเตรียมฉลองชัยชนะและเรียกร้องให้กลุ่มผู้สนับสนุนช่วยกันจับตาการนับคะแนนต่อไป อย่างไรก็ดี นายกอนซาเลซกล่าวว่า จะไม่เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกมาชุมนุมหรือก่อความรุนแรง.-816(814).-สำนักข่าวไทย
อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาและมิเชล ภรรยาของเขา ให้การสนับสนุน รองประธานาธิบดีคอมมาลา แฮร์ริส ในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ