เมียนมา

รุ่ยลี่ 29 มี.ค.- แผ่นดินไหวใหญ่ในเมียนมาเมื่อวานนี้ ส่งผลให้บ้านเรือนในเมืองชายแดนของจีนที่ติดกับเมียนมาได้รับความเสียหายมากกว่า 800 หลัง ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 2,800 คน สำนักข่าวคลิปวิดีโอซีซีทีวีพลัส (CCTV+) ของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) ของทางการจีนรายงานวันนี้ว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.7 ที่เกิดขึ้นห่างจากเมืองสะกาย ทางตอนกลางของเมียนมาไปทางเหนือค่อนตะวันตกเฉียงเหนือ 16 กิโลเมตร เมื่อเวลา 12.50 น.วันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ได้สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือน 847 หลัง นับจนถึงเที่ยงวันเสาร์ตามเวลาจีน ที่เมืองรุ่ยลี่ เขตปกครองตนเองเต๋อหง (ชนชาติไตและจิ่งพอ) มณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งเป็นเมืองมีชายแดนติดกับเมืองมูเซ รัฐฉานของเมียนมา   รายงานระบุว่า แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่เมียนมารู้สึกได้อย่างรุนแรงทั่วมณฑลยูนนานหรืออวิ๋นหนาน โดยเฉพาะที่เมืองรุ่ยลี่ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว 300 กิโลเมตร ทั้งเมืองเกิดการสั่นไหวอย่างหนัก และเกิดความเสียหายอย่างมาก อย่างไรก็ดี มีประชาชนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน สำนักงานดับเพลิงเมืองรุ่ยลี่ได้ส่งรถดับเพลิง 21 คัน และทีมกู้ภัย 96 คน ไปรับมือเหตุฉุกเฉิน […]

ย่างกุ้ง 29 มี.ค.- ทีมอาสาสมัครชาวจีนเดินทางจากมณฑลยูนนานไปเสริมภารกิจกู้ภัยแผ่นดินไหวในเมียนมา ขณะที่รัสเซียส่งทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ภัยฉุกเฉินมากถึง 120 คนไปเมียนมา สำนักข่าวซินหัวและสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) ของทางการจีนรายงานว่า หน่วยบลูสกายเรสคิว (Blue Sky Rescue Team) ซึ่งเป็นหน่วยกู้ภัยพลเรือนที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐบาลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ได้เดินทางออกจากเมืองรุ่ยลี่ ในมณฑลอวิ๋นหนานหรือยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งอยู่ติดกับเมียนมา เมื่อเวลาราว 09.30 น. มุ่งหน้าสู่เมียนมาเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการบรรเทาทุกข์และกู้ภัยเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา โดยทีมอาสาสมัครชาวจีนจำนวน 16 คน เดินทางด้วยขบวนรถ 5 คัน พร้อมกับขนส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน เช่น ชุดปฐมพยาบาล อุปกรณ์จ่ายไฟฟ้าและให้แสงสว่าง และอุปกรณ์รื้อถอน หัวหน้าทีมกู้ภัยบลูสกายเรสคิว สาขาเมืองรุ่ยลี่ ระบุว่า พวกเขาเป็นทีมแรกที่ออกเดินทางไปเมียนมา และจะมีทีมที่สองและสามตามมา โดยทีมอาสาสมัครกลุ่มนี้เดินทางเยือนเมียนมาตามหลังทีมกู้ภัย 37 คนจากอวิ๋นหนาน ซึ่งเดินทางถึงเมียนมาก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังได้ส่งทีมกู้ภัยจำนวน 82 คนไปช่วยด้านการบรรเทาทุกข์ โดยได้เดินทางออกจากท่ากาศยานในกรุงปักกิ่งไปยังเมียนมาในวันนี้ ตามคำร้องขอความช่วยเหลือของรัฐบาลเมียนมา ด้านกระทรวงเหตุฉุกเฉินรัสเซียแถลงว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ภัยฉุกเฉินจำนวน 120 คน ครอบคลุมทั้งทีมสุนัขกู้ภัย ทีมนักจิตวิทยา […]

กัวลาลัมเปอร์ 29 มี.ค.- รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนออกแถลงการณ์เรื่องผลกระทบของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 มาเลเซียในฐานะประธานประจำปี 2568 ของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนเผยแพร่แถลงการณ์ของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนมีเนื้อความดังนี้ 1.รัฐสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและส่งความอาลัยไปยังประชาชนชาวเมียนมาและไทย จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.7 ที่เกิดขึ้นในภาคกลางของเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 2. ภัยพิบัติครั้งนี้ส่งผลให้เกิดการสูญเสียชีวิต การบาดเจ็บ และความเสียหายอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมัณฑะเลย์ เนปิดอว์ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และพื้นที่โดยรอบ อาเซียนขอยืนยันความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับครอบครัวและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวและผลกระทบ 3. อาเซียนตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และอาเซียนพร้อมที่จะสนับสนุนความพยายามในการบรรเทาทุกข์และฟื้นฟู รวมถึงการส่งทีมตอบสนองและประเมินสถานการณ์ฉุกเฉินของอาเซียน (ERAT) การใช้ระบบโลจิสติกส์ฉุกเฉินภัยพิบัติสำหรับอาเซียน (DELSA) และการสนับสนุนการค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) ตามลำดับความสำคัญที่เมียนมาและไทยระบุ 4. อาเซียนขอยืนยันความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและจะทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อประสานงานความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ และสร้างความมั่นใจเรื่องการตอบสนองด้านมนุษยธรรมที่ทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ โดยได้รับความช่วยเหลือจากศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในการจัดการภัยพิบัติ (AHA Center).-814.-สำนักข่าวไทย

ย่างกุ้ง 29 มี.ค.- ทีมกู้ภัยของจีนและอินเดียเดินทางถึงเมืองย่างกุ้ง ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเมียนมาแล้วในวันนี้ เพื่อช่วยกู้ภัยและบรรเทาทุกข์จากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อวันศุกร์ ซีซีทีวีพลัส (CCTV+) ซึ่งเป็นสำนักข่าวด้านคลิปวิดีโอของซีซีทีวีที่เป็นสื่อทางการจีนรายงานว่า ทีมกู้ภัยและคณะแพทย์จำนวน 37 คนจากมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเดินทางถึงย่างกุ้งแล้วในเช้าวันเสาร์ โดยได้นำอุปกรณ์กู้ภัยฉุกเฉินจำนวน 112 ชุดไปด้วย รวมถึงเครื่องตรวจจับชีพจร ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว เสาอากาศดาวเทียมแบบพกพา และโดรน นับเป็นทีมกู้ภัยนานาชาติทีมแรกที่เดินทางถึงเมียนมา ขณะที่สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้แสดงความเสียใจต่อ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำเมียนมา หลังเมียนมาเผชิญเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันศุกร์ ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวเมื่อวานนี้ว่า จีนพร้อมให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมฉุกเฉินและการสนับสนุนอย่างเต็มที่ แก่พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในเมียนมา ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรกับจีน ซินหัวระบุว่า หลังเกิดแผ่นดินไหว สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของจีนในเมียนมาได้เปิดใช้งานกลไกรับมือเหตุฉุกเฉินทันที และออกประกาศแจ้งเตือนด้านกงสุลที่เกี่ยวข้อง จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานพบพลเมืองจีนเสียชีวิตในพื้นที่ดังกล่าว ด้านสำนักข่าวเอเอ็นไอ (ANI) ที่เป็นสื่อเอกชนของอินเดียรายงานว่า รัฐบาลอินเดียส่งเครื่องบินลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ 15 ตัน เดินทางไปถึงพื้นที่ประสบภัยในเมียนมาแล้ว มีทั้งเต๊นท์ ผ้าห่ม เนื้อสัตว์พร้อมบริโภค หลอดไฟฟ้า และหลอดไฟพลังแสงอาทิตย์ เวชภัณฑ์ยา และของใช้ที่จำเป็น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา […]

วอชิงตัน 29 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐรับปากว่า สหรัฐจะจัดสรรความช่วยเหลือให้เมียนมาที่ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว ขณะที่รัฐบาลของเขายืนยันต่อรัฐสภาว่า จะปิดองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐหรือยูเอสเอด (USAID) ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐว่า ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในเมียนมาเรื่องแผ่นดินไหว และสหรัฐจะจัดสรรความช่วยเหลือให้ ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับยูเอสเอดจะไม่กระทบต่อศักยภาพของรัฐบาลในการส่งทีมให้ความช่วยเหลือภัยพิบัติ (DART) ไปยังเมียนมา โดยไม่ได้ระบุกรอบเวลาที่แน่ชัด แต่นางซาราห์ ชาร์ลส์ อดีตเจ้าหน้าที่ทีมรับมือภัยพิบัติของยูเอสเอดเชื่อว่า การเลิกจ้างเจ้าหน้าที่ยูเอสเอดเกือบทั้งหมดและปิดสำนักงานแห่งนี้จะทำให้สหรัฐไม่สามารถส่งทีมไปเมียนมาและไทยได้ และจะเปิดทางให้ทีมจากประเทศอื่นอย่างจีน ตุรกี รัสเซีย หรืออินเดียเข้าไปให้การช่วยเหลือแทน ยูเอสเอดเป็นหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่ประสานงานเรื่องการให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดแผ่นดินไหว เจ้าหน้าที่ในยูเอสเอดและสำนักงานในต่างประเทศได้รับแจ้งว่า ตำแหน่งที่ไม่จำเป็นตามกฎหมายจะถูกเลิกจ้างทั้งหมดในเดือนกรกฎาคมและกันยายน หลังจากที่มีการตัดงบประมาณรอบแรกไปแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ล่าสุดกระทรวงต่างประเทศสหรัฐมีหนังสือแจ้งไปถึงรัฐสภาว่า จะยุติภารกิจทั้งหมดทั่วโลกของยูเอสเอด แล้วโอนงานที่เหลือกลับมายังกระทรวงต่างประเทศ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐแถลงยืนยันว่า กระทรวงได้แจ้งรัฐสภาแล้วว่าต้องการปรับเปลี่ยนองค์กรนี้ เพราะผิดไปจากภารกิจดั้งเดิมมานานมากแล้ว ทั้งนี้ การปิดยูเอสเอดเป็นไปตามที่นายทรัมป์ลงนามคำสั่งในเดือนมกราคมให้ระงับการช่วยเหลือต่างประเทศทั้งหมดภายใน 90 วัน และทบทวนว่าโครงการช่วยเหลือสอดคล้องกับนโยบายของเขาหรือไม่.-814.-สำนักข่าวไทย