เต็มทุกที่นั่ง! ชาวพิจิตรแห่ขึ้นรถไฟกลับ กทม.
วันหยุดสุดท้ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้า กทม.ต่อเนื่อง โดยที่ จ.พิจิตร คนแห่ตีตั๋วขึ้นรถไฟเต็มทุกขบวน ส่วนรถไฟสายใต้แน่นทั้งขาขึ้น-ขาล่อง
วันหยุดสุดท้ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้า กทม.ต่อเนื่อง โดยที่ จ.พิจิตร คนแห่ตีตั๋วขึ้นรถไฟเต็มทุกขบวน ส่วนรถไฟสายใต้แน่นทั้งขาขึ้น-ขาล่อง
วันหยุดสุดท้ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ กันอย่างต่อเนื่อง โดยถนนเอเชีย ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ มีปริมาณรถหนาแน่น ชะลอตัวและติดขัด
โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ห่วงใยประชาชนเดินทางกลับจากภูมิลำเนา สั่งคุมเข้มขนส่ง/จราจร เพิ่มเที่ยวบริการรถโดยสารสาธารณะให้เพียงพอ ย้ำทุกฝ่ายต้องไม่ประมาท ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด “สวมหมวกนิรภัย ใส่แมสก์ เมาไม่ขับ” ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ควบคู่ป้องกันโควิด-19
“ศักดิ์สยาม” สั่งหน่วยงานในสังกัดคมนาคมขนส่ง “บขส.-รฟม.-รถไฟ” สุ่มตรวจ ATK ก่อนการเดินทาง ส่วนนโยบาย Work From Home หลังปีใหม่ รอความชัดเจนอย่างเป็นทางการจากสาธารณสุขอีกครั้ง
วอชิงตัน 14 ธ.ค.- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) แนะนำชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงการเดินทางไปอิตาลี กรีนแลนด์ และมอริเชียส เพราะมีความเสี่ยงสูงมากเรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขณะนี้มีสถานที่ที่เป็นจุดหมายทั่วโลกทั้งหมด 84 แห่งที่ถูกซีดีซีกำหนดให้อยู่ในระดับ 4 คือเสี่ยงสูงมาก ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ครอบคลุมประเทศในยุโรปเกือบทั้งหมด ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐเพิ่มชื่ออิตาลีซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวอเมริกัน และมอริเชียสซึ่งเป็นประเทศเกาะในมหาสมุทรอินเดียนอกชายฝั่งแอฟริกาไว้ที่ระดับ 4 คือ ไม่ควรเดินทางไปเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ กระทรวงสาธารณสุขอิตาลีแจ้งในวันเดียวกันว่า มีผู้เสียชีวิต 98 คนจากโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นจาก 66 คนเมื่อวันก่อน และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12,712 คน ลดลงจาก 19,215 คนเมื่อวันก่อน อิตาลีมีผู้เสียชีวิตสะสม 134,929 คนนับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน มากเป็นอันดับ 2 ของยุโรปรองจากอังกฤษ และเป็นอันดับ 9 ของโลก และมียอดติดเชื้อสะสมราว 5 ล้าน 2 แสน 4 หมื่นคน สหรัฐประกาศระเบียบใหม่มีผลตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม […]
เซี่ยงไฮ้ 10 ธ.ค.- การเดินทางทางเครื่องบินในจีนที่เคยฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กำลังสะดุดเพราะมาตรการควบคุมโควิดเป็นศูนย์ที่นำมาซึ่งการเข้มงวดการเดินทาง ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงเพราะเกิดการระบาดเป็นกลุ่มเล็ก ๆ หลายแห่ง ข้อมูลของธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ระบุว่า ศักยภาพการบินในประเทศของแอร์ไชนา ไชนาอีสเทิร์นแอร์ไลน์ และไชนาเซาเทิร์นแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินใหญ่ที่สุด 3 แห่งของจีนในเดือนเมษายนปีนี้ขยายตัวถึงร้อยละ 115 ของระดับก่อนเกิดโควิด แต่กลับลดลงเหลือร้อยละ 77 ในเดือนตุลาคม และลดลงเหลือร้อยละ 40 ในเดือนพฤศจิกายนเมื่อทางการกรุงปักกิ่งประกาศห้ามการเดินทางมาจากเมืองใดก็ตามที่พบผู้ติดเชื้อแม้แต่คนเดียวในช่วง 14 วันที่ผ่านมา เพื่อปกป้องเมืองหลวงแห่งนี้ที่จะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เอชเอสบีซีเผยด้วยว่า ทั้งสามสายการบินขาดทุนรวมกันเกือบ 8,000 ล้านหยวน (เกือบ 42,187 ล้านบาท) ในไตรมาส 3 ของปีนี้ และสายการบินของจีนได้ลดตารางบินของเดือนธันวาคมลงแล้วร้อยละ 9.4 เพราะเกรงว่าไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนจะกระทบการเดินทางมากยิ่งขึ้นไปอีก.-สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 7 ธ.ค.- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) เพิ่มรายชื่อ 5 ประเทศในยุโรป หนึ่งในนั้นคือ จุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างฝรั่งเศส ไว้ในรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเดินทางเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ซีดีซีเพิ่มชื่อฝรั่งเศส อันดอร์รา ไซปรัส ลิกเตนสไตน์ และโปรตุเกส ไว้ในประเทศเสี่ยงระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ รวมทั้งเพิ่มชื่อจอร์แดนในตะวันออกกลาง และแทนซาเนียในแอฟริกาตะวันออก ไว้ในระดับสูงสุดด้วย ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศเสี่ยงระดับ 4 แต่หากจำเป็นต้องไปจะต้องฉีดวัคซีนให้ครบโดสก่อน ปัจจุบันมี 83 จุดหมายที่ถูกสหรัฐจัดไว้ในระดับ 4 เป็นจุดหมายที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 500 คนต่อผู้อาศัย 100,000 คนในช่วง 28 วัน นอกจากนี้สหรัฐยังออกระเบียบใหม่มีผลตั้งแต่วันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ กำหนดให้ผู้โดยสารเครื่องบินมาจากต่างประเทศทุกคนต้องมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบภายใน 1 วันก่อนการเดินทาง เข้มงวดจากเดิมที่ต้องมีผลตรวจภายใน 3 วัน ด้านฝรั่งเศสแถลงเมื่อวันจันทร์ตามเวลาฝรั่งเศสว่า จะปิดไนต์คลับก่อนคริสต์มาส และจะเข้มงวดมาตรการรักษาระยะห่างสังคม เพื่อรับมือกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน แต่ยังไม่จำเป็นต้องล็อกดาวน์หรือเคอร์ฟิว และขณะนี้พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 25 คน นายกรัฐมนตรีฌอง กัสเต็กซ์กล่าวว่า […]
มาเรีย เรสซา นักข่าวชาวฟิลิปปินส์ จะสามารถเดินทางไปรับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพด้วยตัวเองได้ หลังจากศาลอนุญาตให้เธอเดินทางออกนอกประแทศไปยังประเทศนอร์เวย์ในเดือนนี้
จาการ์ตา 2 ธ.ค.- อินโดนีเซียเข้มงวดการบังคับใช้มาตรการควบคุมพรมแดน ขยายระยะเวลากักโรค และจำกัดการเดินทางบนถนนที่มีการเก็บค่าผ่านทาง เพื่อจำกัดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนหากเข้ามาในประเทศแล้ว อินโดนีเซียยังไม่ได้ประกาศว่า พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนแล้วหรือไม่ แต่ได้เพิ่มมาตรการเพื่อลดกระทบที่อาจเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด ประกอบด้วยการขยายระยะเวลากักโรคกับผู้เดินทางเข้าประเทศจาก 7 วันเป็น 10 วัน การห้ามผู้เดินทางมาจาก 11 ประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา แต่หากเป็นชาวอินโดนีเซียที่เดินทางกลับมาจากประเทศเหล่านี้จะต้องกักโรค 14 วัน ส่วนมาตรการจำกัดการเดินทางในประเทศจะจำกัดจำนวนยวดยานที่อนุญาตให้ใช้ถนนที่เก็บค่าผ่านทาง เพื่อลดการเดินทางของผู้คน อินโดนีเซียมียอดติดเชื้อโควิด-19 รายวันลดลงมาก เฉลี่ยวันละ 400 คนเท่านั้นในเดือนพฤศจิกายน เทียบกับที่เคยสูงถึงวันละ 4,000 คนในเดือนกรกฎาคม ประชากรมากกว่า 1 ใน 3 จากทั้งหมด 270 ล้านคนฉีดวัคซีนแล้ว ขณะที่ยอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 4 ล้าน 2 แสน 5 หมื่นคน และเสียชีวิตมากกว่า 143,800 คน.-สำนักข่าวไทย
รัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลียเร่งตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กับคนเดินทางเข้าประเทศในวันนี้ หลังจากพบคนเดินทางมาจากตอนใต้ของทวีปแอฟริกามีผลตรวจเป็นบวก 2 คน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐจะห้ามนักเดินทางเกือบทั้งหมดที่มาจาก 8 ประเทศในทวีปแอฟริกาเข้าประเทศตั้งแต่วันจันทร์นี้เป็นต้นไป หลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธ์ุใหม่ ที่สามารถติดต่อกันได้อย่างรวดเร็วในแอฟริกาใต้
โตเกียว 14 พ.ย.- สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศหรือไออาตา (IATA) คาดว่า ธุรกิจสายการบินโลกจะยังคงไม่มีกำไรในปี 2565 เนื่องจากความต้องการเดินทางจะยังคงต่ำกว่าระดับก่อนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด ไออาตา ซึ่งเป็นตัวแทนสายการบินประมาณ 290 แห่ง ครอบคลุมการเดินทางร้อยละ 83 ของทั้งโลก คาดว่า ปีหน้าธุรกิจสายการบินโลกจะขาดทุนสุทธิรวมกัน 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 393,300 ล้านบาท) ต่ำกว่าปีนี้ที่คาดว่าจะขาดทุนสุทธิรวมกัน 52,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.7 ล้านล้านบาท) หากแยกเป็นภูมิภาค ธุรกิจสายการบินในอเมริกาเหนือน่าจะกลับมามีกำไรในปีหน้าก่อนภูมิภาคอื่นด้วยกำไรสุทธิ 9,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 324,470 ล้านบาท) ขณะที่ยุโรปน่าจะขาดทุนสุทธิ 9,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 301,530 ล้านบาท) เช่นเดียวกับเอเชียแปซิฟิกที่น่าจะขาดทุนสุทธิ 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 78,660 ล้านบาท) รายงานของไออาตาประเมินว่า ความต้องการเดินทางทั่วโลกในปี 2564 จะคิดเป็นร้อยละ […]