
แผ่นดินไหวขนาด 4.8 ที่เกาะบาหลี-เสียชีวิต 3
สำนักงานค้นหาและกู้ภัยของอินโดนีเซียกล่าววันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 4.8 ที่เกาะบาหลี สถานที่ท่องเที่ยวพักตากอากาศชื่อดังของอินโดนีเซียในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย
สำนักงานค้นหาและกู้ภัยของอินโดนีเซียกล่าววันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 4.8 ที่เกาะบาหลี สถานที่ท่องเที่ยวพักตากอากาศชื่อดังของอินโดนีเซียในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย
ทีมแบดมินตันสาวไทย เฉือนเอาชนะ อินโดนีเซีย 3-2 คู่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศแบดมินตันอูเบอร์ คัพ พร้อมรับประกันเหรียญทองแดงแน่นอนแล้ว
อินโดนีเซียเปิดเกาะบาหลี สถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศที่เป็นที่รู้จักทั่วไป เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้งในวันนี้ หลังจากต้องปิดเกาะเนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แต่ปรากฎว่า การเปิดครั้งนี้ยังไม่สมบูรณ์เนื่องจากขาดส่วนประกอบสำคัญคือยังไม่มีเที่ยวบินกลับมาเปิดเส้นทางมายังเกาะบาหลี
จาการ์ตา 26 ก.ย.- ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ปัญหาโลจิติกส์และการขาดแคลนบุคลากรทำให้อินโดนีเซียฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ล่าช้ากว่าเพื่อนบ้าน ทั้งที่เริ่มโครงการฉีดเป็นประเทศแรก ๆ ของภูมิภาค เว็บไซต์สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอัตราการฉีดวัคซีนในอินโดนีเซียว่า ประชากร 270 ล้านฉีดครบโดสแล้วเพียงร้อยละ 17.9 และฉีดเข็มแรกแล้วเพียงร้อยละ 32 นายดิกกี บูดิแมน นักระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยกริฟฟิธในออสเตรเลียที่ช่วยรัฐบาลอินโดนีเซียปรับปรุงอัตราการฉีดชี้ว่า ปัญหาไม่ใช่เรื่องปริมาณวัคซีนอีกแล้ว แต่เป็นเรื่องขาดแคลนศูนย์ฉีดและบุคลากร ความล่าช้าในการฉีดจะกระทบต่อความพยายามควบคุมการระบาดและการฟื้นเศรษฐกิจประเทศ ไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่แพร่ง่ายทำให้รัฐบาลอินโดนีเซียเข้มงวดการเดินทางอีกครั้งตั้งแต่ต้นไตรมาส 3 ของปีนี้ ช่วยให้ยอดผู้เสียชีวิตรายสัปดาห์ลดลงแตะระดับต่ำสุด นับตั้งแต่ระบาดระลอกใหม่ในกลางเดือนเมษายน ทางการเผยว่า ได้รับวัคซีนแล้ว 273 ล้าน 6 แสนโดส ตั้งเป้าฉีดให้ประชาชน 208 ล้านคน โดยจะฉีดให้ได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 1 ล้านโดส เพื่อให้ถึงเป้าหมายร้อยละ 70 ก่อนสิ้นปีนี้ อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 4 ล้าน 2 แสนคน เสียชีวิตกว่า 141,300 คน และมีผู้กำลังรักษาตัวราว 44,000 […]
กองทัพอินโดนีเซียแถลงว่า สังหารสมาชิกกลุ่มติดอาวุธพัวพันกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) ที่ทางการต้องการตัวมากที่สุดได้แล้วเมื่อวันเสาร์ ระหว่างยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ที่ออกกวาดล้างกลุ่มสุดโต่งตามป่าเทือกเขาทุรกันดาร
อินโดนีเซียกล่าววันนี้ว่า รู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันสะสมอาวุธในภูมิภาค หลังจากที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างออสเตรเลียประกาศแผนที่จะครอบครองเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่วของข้อตกลงความเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกกับสหรัฐและอังกฤษ
จาการ์ตา 9 ก.ย. – อินโดนีเซียกับออสเตรเลียตกลงกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีที่จัดขึ้นในวันนี้ โดยทั้งสองประเทศได้หารือเกี่ยวกับการฝึกทหารร่วมกันในออสเตรเลียและการเข้าร่วมในสถาบันการป้องกันประเทศออสเตรเลีย นางมาริส เพย์น รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของออสเตรเลีย และนายปีเตอร์ ดัทตัน รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลีย ได้เดินทางเยือนกรุงจาการ์ตา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีออสเตรเลียเดินทางเยือนอินโดนีเซียนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอินโดนีเซีย เผยว่า อินโดนีเซียได้ลงนามในข้อตกลงด้านการต่อต้านการก่อการร้าย การป้องกันประเทศ และความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงข้อตกลงสนับสนุนประเทศในหมู่เกาะมหาสมุทรแปซิฟิก ด้านนายปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอินโดนีเซีย ระบุว่า ทั้งสองประเทศได้หารือร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ ที่รวมถึงความเป็นไปได้ในการฝึกทหารร่วมกันในออสเตรเลียและการเข้าเรียนในสถาบันออสเตรเลียของนักเรียนทหารอินโดนีเซียที่เขาระบุว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ รัฐมนตรีทั้งสองคนของอินโดนีเซียยังระบุว่า อินโดนีเซียได้หารือกับออสเตรเลียในประเด็นอื่น ๆ ที่รวมถึงการพัฒนาด้านการเมืองในอัฟกานิสถานและเมียนมา โดยที่ทั้งสองประเทศต่างให้การสนับสนุนภารกิจทางการทูตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ในขณะเดียวกัน นางเพย์น กล่าวว่า ออสเตรเลียยินดีต้อนรับภูมิภาคที่สนับสนุนการแข่งขันตามกฎเกณฑ์และบรรทัดฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการแข่งขันที่ดีมากกว่าเป็นการแข่งขันที่เสี่ยงต่อความไม่มั่นคงหรือความขัดแย้ง โดยที่ออสเตรเลียและอินโดนีเซียต่างยินดีที่จะร่วมมือกันตามวิสัยทัศน์ดังกล่าว หลังจากนี้ นางเพย์นและนายดัทตันจะเดินทางเยือนชาติพันธมิตรอีกหลายประเทศในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ได้แก่ อินเดีย เกาหลีใต้ และสหรัฐ ทั้งนี้ การเดินทางดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เกิดความวิตกกังวลครั้งใหม่ในทะเลจีนใต้ ซึ่งรวมถึงกฎหมายที่จีนประกาศให้มีการแจ้งจากเรือต่างประเทศก่อนเข้าสู่พื้นที่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ที่จีนอ้างสิทธิว่าเป็นของตนเอง.-สำนักข่าวไทย
เพลิงไหม้เรือนจำในจังหวัดบันเตน ของอินโดนีเซีย ทำให้มีผู้ต้องขังเสียชีวิตอย่างน้อย 41 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
จาการ์ตา 8 ก.ย. – เกิดเหตุไฟไหม้เรือนจำที่แออัดในจังหวัดบันเตินของอินโดนีเซียเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 40 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน โฆษกหญิงสำนักงานราชทัณฑ์ของกระทรวงสิทธิมนุษยชนอินโดนีเซียเผยว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่แดน C ของเรือนจำตังเกอรังเมื่อเวลาประมาณ 01.00-02.00 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว และกำลังอพยพนักโทษออกจากเรือนจำ รวมถึงสืบสวนหาสาเหตุของเพลิงไหม้ ทั้งยังระบุว่า แดน C ของเรือนจำดังกล่าวเป็นพื้นที่คุมขังนักโทษที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและรองรับนักโทษได้มากถึง 122 คน แต่ไม่ได้เปิดเผยจำนวนนักโทษที่อยู่ในแดนดังกล่าวขณะเกิดเหตุไฟไหม้ แต่ยอมรับว่าเรือนจำดังกล่าวมีความแออัดจริง สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างข้อมูลของรัฐบาลอินโดนีเซียในเดือนกันยายนที่ระบุว่า เรือนจำตังเกอรัง ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองตังเกอรังที่เป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมและการผลิตใกล้กรุงจาการ์ตา มีนักโทษที่ถูกคุมขังกว่า 2,000 คน ซึ่งเกินขีดความสามารถสูงสุดของเรือนจำที่รับนักโทษได้เพียง 600 คน ขณะที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของอินโดนีเซียเผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่พยายามดับไฟไหม้รุนแรงบนยอดอาคารของเรือนจำ ส่วนโฆษกสำนักงานตำรวจในกรุงจาการ์ตาระบุว่า ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นของเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจากไฟฟ้าลัดวงจร.-สำนักข่าวไทย
จาการ์ตา/กรุงเทพ 1 ก.ย. – ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนว่า การประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของอินโดนีเซียและไทย หลังพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ลดลง อาจทำให้ทั้งสองประเทศพบผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากยังคงมีอัตราฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อยู่ในระดับต่ำ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า แม้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดพุ่งสูงขึ้นในหลายพื้นที่ส่วนใหญ่ แต่อินโดนีเซียและไทย ซึ่งเป็นสองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ของภูมิภาค กลับเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการนั่งรับประทานอาหารในร้านและการเปิดห้างสรรพสินค้าเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังใช้มาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่อินโดนีเซียพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 10,534 คนเมื่อวันอังคาร ลดลงถึง 5 เท่าจากในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่มีการระบาดรุนแรง ส่วนไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 14,802 คนในวันพุธ ลดลงร้อยละ 37 จากในช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่มีการระบาดรุนแรง อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญหลายรายระบุว่า การตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวมีความเสี่ยง เนื่องจากอินโดนีเซียและไทยมีอัตราฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อยู่ในระดับต่ำ ตรวจหาเชื้อโควิดได้ไม่ทั่วถึง และมีอัตราตรวจพบเชื้อโควิดสูงกว่าร้อยละ 5 ซึ่งไม่เป็นไปตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ขณะที่ผู้ประสานงานด้านสุขภาพฉุกเฉินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า สหพันธ์ฯ รู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการตัดสินใจเปิดประเทศโดยไม่เป็นไปตามเกณฑ์ทั้งหมดที่องค์การอนามัยโลกได้เสนอไว้ เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็วและอัตราฉีดวัคซีนในระดับต่ำอาจทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่กลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ อินโดนีเซียมีอัตราตรวจพบเชื้อโควิดร้อยละ 12 และไทยมีอัตราตรวจพบเชื้อโควิดร้อยละ 34.-สำนักข่าวไทย
จาการ์ตา 27 ส.ค.- กองกำลังความมั่นคงอินโดนีเซียจะเพิ่มการเฝ้าระวังเหตุร้าย หลังเกิดเหตุระเบิดที่กรุงคาบูลของอัฟกานิสถานที่กลุ่มในเครือรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) อ้างตัวว่าเป็นคนทำ นางเรตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียซึ่งพบกับตัวแทนกลุ่มตาลีบันที่กรุงโดฮาของกาตาร์ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุระเบิดกล่าวว่า อินโดนีเซียขอประณามอย่างรุนแรงต่อการก่อการร้ายใกล้ท่าอากาศยานกรุงคาบูลที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เธอได้ย้ำระหว่างหารือกับตัวแทนตาลีบันว่า รัฐบาลอัฟกานิสถานที่จะนำโดยตาลีบันต้องเป็นรัฐบาลที่ให้ทุกภาคส่วนในประเทศมีส่วนร่วม เคารพสิทธิสตรี และไม่ทำให้อัฟกานิสถานเป็นแหล่งกำเนิดกลุ่มก่อการร้ายและการเคลื่อนไหวเพื่อก่อการร้าย ด้านโฆษกตำรวจอินโดนีเซียแถลงวันนี้ว่า กลุ่มต้องสงสัยก่อการร้ายที่ถูกจับกุมได้เมื่อต้นเดือนให้การว่า สมาชิกกลุ่มเจมาห์อิสลามิยาห์หรือเจไอ (JI) ที่โยงใยกับกลุ่มอัลกออิดะห์ มีแผนจะก่อเหตุร้ายในวันเอกราชอินโดนีเซียที่ตรงกับวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา สถานการณ์ในอัฟกานิสถานยิ่งทำให้หน่วยงานด้านความมั่นคงต้องเฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น ทั้งหน่วยงานตำรวจ สำนักงานข่าวกรองแห่งรัฐ และสำนักงานต่อต้านการก่อการร้าย นอกจากนี้ทางการยังจับตาชาวอินโดนีเซียที่กลับมาจากการไปสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธในอัฟกานิสถานด้วย หวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในอัฟกานิสถานจะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ในอินโดนีเซีย.-สำนักข่าวไทย
จาการ์ตา 26 ส.ค.- ผลสำรวจที่เผยแพร่เมื่อวันพุธพบว่า ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียมีคะแนนนิยมร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี เพราะประชาชนไม่พอใจผลงานการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาดระลอก 2 สำนักสำรวจอินดิกาตอร์โพลิติกอินโดนีเซียสอบถามชาวอินโดนีเซีย 1,220 คน ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม-4 สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โรคโควิด-19 กำลังระบาดถึงจุดสูงสุด ผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลและขาดแคลนออกซิเจนสำหรับผู้ป่วยหนัก ผู้ตอบร้อยละ 59 พอใจผลงานของประธานาธิบดีวิโดโด เป็นคะแนนต่ำที่สุดนับจากเดือนมีนาคม 2549 และถึงแม้ผู้ตอบร้อยละ 54.3 ยังคงเชื่อใจประธานาธิบดีว่ารับมือกับวิกฤตด้านสุขภาพได้อย่างเหมาะสม แต่ส่วนใหญ่มองว่า สถานการณ์เศรษฐกิจประเทศย่ำแย่ที่สุดนับจากปี 2547 ผู้ตอบส่วนใหญ่ไม่พอใจมาตรการจำกัดการระบาดที่ใช้มาตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม และเพิ่งผ่อนคลายเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ชาวอินโดนีเซียกว่าครึ่งทำงานในเศรษฐกิจนอกระบบ มาตรการจำกัดจึงกระทบวิถีชีวิตของผู้คนอย่างหนัก ผู้ตอบร้อยละ 79.2 เผยว่า รายได้ลดลงมาก ร้อยละ 53.3 บอกว่า ฐานะครอบครัวแย่ลงหรือแย่ลงกว่าเดิมมาก ด้านนักวิเคราะห์ของคอนคอร์ดคอนซัลติงระบุว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ประธานาธิบดีวิโดโดมีคะแนนนิยมลดลงคือ โรคโควิด-19 และการที่รัฐบาลดำเนินนโยบายรับมือที่สร้างความสับสนและไม่สอดคล้องกัน นอกจากนี้ความเชื่อมั่นในรัฐบาลอินโดนีเซียมักลดลงอยู่เสมอ หากคนมองว่าเศรษฐกิจเติบโตน้อยกว่าที่ควร และมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 […]