ไฟไหม้โชว์รูมรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในอินเดีย ตาย 8 คน

นิวเดลี 13 ก.ย. – เกิดเหตุไฟไหม้โชว์รูมรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแห่งหนึ่งในอินเดีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน และบาดเจ็บ 11 คน ซึ่งถือเป็นเหตุไฟไหม้ที่มีความเชื่อมโยงกับรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าครั้งใหญ่ที่สุดของอินเดีย ตำรวจอินเดียเผยวันนี้ว่า เกิดเหตุไฟไหม้โชว์รูมรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ในชั้นใต้ดินของโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเซกันเดอราบาด ทางตอนใต้ของอินเดีย เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน และบาดเจ็บ 11 คน ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ที่พักอยู่ในโรงแรม และเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้แล้ว และกำลังเร่งสืบสวนเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบว่ามีรถสกู๊ตเตอร์จอดอยู่ในจุดที่เป็นต้นเพลิง แต่ยังไม่แน่ใจว่าสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ชาร์จไฟมากเกินไปจนทำให้ไฟลุกลาม หรือมีสาเหตุมาจากประเด็นอื่น และยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ผลิตรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าดังกล่าว ในขณะเดียวกัน สื่อท้องถิ่นของอินเดียได้เผยแพร่ภาพถ่ายเหตุไฟไหม้ที่แสดงให้เห็นว่า ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครนและอุปกรณ์อื่น ๆ ในการช่วยชีวิตผู้ที่เข้าพักบริเวณชั้นบนของโรงแรมสูง 4 ชั้นในขณะที่ควันไฟพวยพุ่งออกมาจากทางหน้าต่างของโรงแรม ส่วนนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ระบุในแถลงการณ์ว่า เขาขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว และสัญญาว่าจะมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้ ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า อินเดียเกิดเหตุไฟไหม้ที่เชื่อมโยงกับรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าหลายครั้งในปีนี้จนทำให้รัฐบาลอินเดียรู้สึกตื่นตระหนกเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว เนื่องจากได้ประกาศนโยบายสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถสกู๊ตเตอร์ 2 ล้อเพื่อลดปัญหามลพิษ โดยที่ผลการสืบสวนเหตุไฟไหม้ในครั้งก่อน ๆ พบว่ามีสาเหตุหลักมาจากปัญหาข้อบกพร่องในเซลล์ไฟฟ้าของแบตเตอรี่และโมดูลแบตเตอรี่.-สำนักข่าวไทย

แม่ชาวอินเดียสู้เสือมือเปล่าปกป้องลูกน้อย

แม่ชาวอินเดียตัดสินใจสู้เสือมือเปล่าเพื่อปกป้องลูกน้อย วัย 1 ขวบ 3 เดือน ในขณะที่เสือตัวนี้กระโจนเข้ามาทำร้ายและพยายามฝังเขี้ยวบนศีรษะเด็กน้อย โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณหน้าบ้านของเธอในรัฐมัธยประเทศ ทางตอนกลางของอินเดีย

อินเดียจะปรับเงินคนนั่งเบาะหลังไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

นิวเดลี 7 ก.ย. – รัฐบาลอินเดียจะปรับเงินคนนั่งเบาะหลังที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยในเร็ว ๆ นี้ หลังนายไซรัส มิสตรี มหาเศรษฐีอดีตประธานบริษัททาทา กรุ๊ป ของอินเดีย เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อวันอาทิตย์โดยไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยขณะนั่งเบาะหลัง นายนิติน คัทการี รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของอินเดีย เผยเมื่อวันอังคารว่า รัฐบาลอินเดียจะปรับเงินคนนั่งเบาะหลังที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยในเร็ว ๆ นี้ และเตรียมออกข้อกำหนดให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ติดตั้งสัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยเบาะหลังด้วย ทั้งยังระบุว่า การเสียชีวิตของนายมิสตรีทำให้รัฐบาลอินเดียตัดสินใจว่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะต้องติดตั้งสัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยเบาะหลังให้ดังจนกว่าผู้โดยสารจะคาดเข็มขัดนิรภัย บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า นายมิสตรี วัย 54 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังรถยนต์ของเขาพุ่งชนเสาจราจรบนถนนในระหว่างที่กำลังเดินทางจากรัฐคุชราตไปยังนครมุมไบ เมืองเอกของรัฐมหาราษฏระ ขณะนี้ทางการอินเดียกำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวนอุบัติเหตุในครั้งนี้ แต่สื่อท้องถิ่นของอินเดียหลายแห่งรายงานอ้างคำพูดเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เผยนามที่ระบุว่า นายมิสตรีกับผู้โดยสารอีกคนที่นั่งอยู่เบาะหลังและเสียชีวิตพร้อมกับเขา ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคู่ ข้อมูลของรัฐบาลอินเดียระบุว่า อินเดียมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนปีละหลายหลายแสนคน และในปี 2564 มีผู้เสียชีวิตกว่า 150,000 คน หรือคิดเป็นชั่วโมงละ 18 คน ทั้งนี้ กฎหมายจราจรของอินเดียมีข้อกำหนดให้ผู้โดยสารทุกคนในรถยนต์ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย แต่กฎหมายนี้ไม่ค่อยเข้มงวดกับคนนั่งเบาะหลัง.-สำนักข่าวไทย

เมืองเทคโนโลยีอินเดียจมน้ำเป็นวันที่ 2

หลายพื้นที่ในเมืองเบงกาลูรู เมืองศูนย์กลางทางด้านเทคโนโลยีของอินเดีย ยังคงถูกน้ำท่วมเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในวันนี้ เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้การจราจรเป็นอัมพาต กระแสไฟฟ้าถูกตัด และทรัพย์สินเสียหาย

อินเดียยังจับเสือดาวทำร้ายคนไม่ได้หลังผ่านมา 27 วัน

นิวเดลี 2 ก.ย. – รัฐกรณาฏกะ ทางตอนใต้ของอินเดีย ส่งเจ้าหน้าที่ราว 300 คนออกตามจับเสือดาวเพื่อนำไปปล่อยคืนสู่ป่ามากว่า 27 วัน แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ หลังเสือตัวดังกล่าวทำร้ายประชาชนในพื้นที่ทางเหนือของรัฐกรณาฏกะเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม สำนักงานป่าไม้ของรัฐกรณาฏกะเผยว่า ทางการท้องถิ่นได้ส่งเจ้าหน้าที่ราว 300 คน เช่น สัตวแพทย์ นักแม่นปืน และวิสัญญีแพทย์ ออกตามจับเสือดาวเพื่อนำไปปล่อยคืนสู่ป่ามากว่า 27 วัน แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ หลังเสือตัวดังกล่าวทำร้ายแรงงานคนหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บในเมืองเบลกวม ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นและตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐกรณาฏกะ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่สามารถแกะรอยจนพบเสือดาวตัวนี้ไม่กี่ครั้งในพื้นที่ใกล้สนามกอล์ฟแห่งหนึ่งของเมืองเบลกวมจนสร้างความแตกตื่นให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง เนื่องจากไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า เหตุดังกล่าวยังตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนทางการเมืองระดับท้องถิ่น เนื่องจากนักการเมืองพรรคฝ่ายค้านได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐมนตรีกระทรวงป่าไม้ของรัฐกรณาฏกะลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบจากความล้มเหลวในการจับเสือดาว โดยที่รัฐมนตรีคนดังกล่าวแย้งกลับว่า เขาจะทำเช่นนั้นก็ต่อเมื่อการลาออกทำให้จับเสือดาวตัวนี้ได้ ข้อมูลของรัฐบาลอินเดียระบุว่า รัฐกรณาฏกะ ซึ่งมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าไม้และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า มีประชากรเสือดาวมากถึง 1,783 ตัว สูงเป็นอันดับสองของประเทศ ก่อนหน้านี้ เคยมีรายงานพบเสือดาวปรากฏตัวในหลายเมืองใหญ่ของรัฐกรณาฏกะ เช่น นครบังคาลอร์ ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐ และเมืองไมซอร์.-สำนักข่าวไทย

อินเดียประจำการเรือบรรทุกเครื่องบินที่ต่อสร้างเองลำแรก

นายกรับมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ขึ้นระวางประจำการเรือบรรทุกเครื่องบินที่ต่อสร้างเองในประเทศลำแรกในวันนี้ ซึ่งเป็นการเน้นถึงความพยายามของรัฐบาลอินเดียในการสนับสนุนการผลิตยุทโธปกรณ์ในประเทศ

“โกตัม อดานี” เอเชียคนแรกรั้งบุคคลรวยสุดในโลกอันดับ 3

นิวเดลี 30 ส.ค. – โกตัม อดานี มหาเศรษฐีชาวอินเดีย ขึ้นแท่นบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลกอันดับ 3 แซงหน้าเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ มหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศสและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจ LVMH บริษัทข้ามชาติผู้ผลิตสินค้าหรู ที่ร่วงไปอยู่อันดับ 4 ทำให้อดานีกลายเป็นชาวเอเชียคนแรกที่ติดอันดับบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลก 3 อันดับแรก สำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐ รายงานว่า อดานี วัย 60 ปี ขึ้นแท่นบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลกอันดับ 3 ในดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์ก (Bloomberg Billionaires Index) ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 137,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.9 ล้านล้านบาท) รองจากอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา ซึ่งเป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลกด้วยทรัพย์สิน 251,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.1 ล้านล้านบาท) และเจฟฟ์ เบโซส มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน และผู้ก่อตั้งแอมะซอนดอตคอม (Amazon.com) บริษัทอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ในอันดับ 2 […]

อินเดียเตรียมระเบิดทิ้งตึกแฝด 40 ชั้น สร้างผิดกฎหมาย

ทางการอินเดียอพยพประชาชนจำนวนมากออกจากบ้านไปยังที่ปลอดภัย เพื่อเตรียมระเบิดอาคารแฝดสูง 40 ชั้น ชานกรุงนิวเดลี ที่ศาลฎีกามีคำสั่งเมื่อปีก่อนให้ทำลายทิ้ง เนื่องจากผู้ก่อสร้างฝ่าฝืนกฎหมายหลายเรื่อง

สั่งเฝ้าระวังไข้หวัดมะเขือเทศ เตรียมแนวทางคัดกรอง

รองโฆษกรัฐบาล เผย “อนุทิน”กำชับติดตามสถานการณ์ “ไข้หวัดมะเขือเทศ” แม้ขณะนี้ยังแพร่ระบาดเฉพาะในต่างประเทศ ชี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กอาการไม่รุนแรง และไม่ใช่ไวรัสตัวใหม่แต่อย่างใด

เผย “แอปเปิล” วางแผนผลิตไอโฟน 14 ในอินเดีย

แคลิฟอร์เนีย 23 ส.ค. – แอปเปิล อิงค์ บริษัทผู้ผลิตสมาร์ตโฟนรายใหญ่ของโลก วางแผนผลิตไอโฟน 14 ในอินเดีย เนื่องจากแอปเปิลกำลังหาฐานผลิตสำรองแทนจีน ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนยังตึงเครียด และได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศของจีน สำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐรายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดไม่เผยนามที่ระบุว่า แอปเปิลกำลังทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์เพื่อยกระดับกระบวนการผลิตในอินเดียและลดความล่าช้าในการผลิตไอโฟนรุ่นใหม่ ซึ่งมักจะเปิดตัวหลังจากไอโฟนรุ่นก่อนหน้าราว 6-9 เดือน ฟ็อกซ์คอนน์ บริษัทซัพพลายเออร์ของแอปเปิลในไต้หวัน กำลังหาทางขนส่งชิ้นส่วนจากจีนไปประกอบเป็นไอโฟน 14 ในโรงงานของฟ็อกซ์คอนน์ที่ตั้งอยู่นอกนครเจนไน เมืองเอกของรัฐทมิฬนาฑู ทางตอนใต้ของอินเดีย ทั้งยังระบุว่า การผลิตไอโฟน 14 ครั้งแรกในอินเดียของแอปเปิลมีแนวโน้มที่จะเสร็จสิ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ดี แอปเปิลยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับรายงานดังกล่าวในทันที สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า แอปเปิลกำลังกระจายฐานผลิตชิ้นส่วนไอโฟนจากจีนไปยังประเทศอื่น ๆ เช่น อินเดีย ซึ่งเป็นตลาดสมาร์ตโฟนใหญ่อันดับสองของโลก อีกทั้งยังวางแผนที่จะประกอบไอแพดในอินเดียด้วย ทั้งนี้ อินเดียและประเทศอื่น ๆ เช่น เม็กซิโกและเวียดนาม เริ่มกลายเป็นฐานผู้รับช่วงผลิตที่สำคัญของแอปเปิลมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังแอปเปิลพยายามลดกระบวนการผลิตที่ต้องพึ่งจีน ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์นิกเกอิของญี่ปุ่นรายงานว่า แอปเปิลกำลังเจรจาเพื่อหาทางผลิตแอปเปิล วอตช์ และแมคบุ๊กในเวียดนามเป็นครั้งแรกเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

อินเดียน้ำท่วมหนัก เสียชีวิตแล้ว 15 ราย

อินเดียเผชิญฝนตกหนักและน้ำท่วมรุนแรง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในรัฐหิมาจัลประเทศ และมีสะพานแห่งหนึ่งพังถล่มจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก

เรือวิจัยจีนเทียบท่าศรีลังกา แม้อินเดีย-สหรัฐติงเรื่องจารกรรม

โคลัมโบ 16 ส.ค.- เรือวิจัยของจีนเทียบท่าท่าเรือทางใต้ของศรีลังกาในวันนี้ แม้อินเดียและสหรัฐแสดงความกังวลว่าเรือจีนอาจจะมาทำการจารกรรม เรือหยวนวั่ง 5 (Yuan Wang 5) เข้าเทียบท่าท่าเรือน้ำลึกฮัมบันโตตาของศรีลังกาที่อยู่ภายใต้การบริหารของจีน หลังจากทางการศรีลังกาอนุญาตให้เข้าน่านน้ำโดยมีเงื่อนไขห้ามทำการวิจัยใด ๆ เดิมเรือมีกำหนดเทียบท่าตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่ศรีลังกาขอให้เลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากได้รับคำท้วงติงจากอินเดียที่มีความกังวลเช่นเดียวกับชาติตะวันตกเรื่องการเคลื่อนไหวของจีนในภูมิภาคนี้ อย่างไรก็ดี หลังจากที่มีการเจรจาอย่างเคร่งเครียด รัฐบาลศรีลังกาได้ประกาศในวันเสาร์ อนุญาตให้เรือจีนเข้าเทียบท่าและให้อยู่ได้นาน 6 วันเพื่อเติมเชื้อเพลิงและบรรทุกสินค้าอื่น ๆ ศรีลังกาไม่ได้จัดวงโยธวาทิตต้อนรับเรือจีน แต่มีกลุ่มนักเต้นและนักดนตรีพื้นเมืองไปแสดงต้อนรับ และมีสมาชิกรัฐสภา 5 คนไปรอที่ท่าเรือ มีกลุ่มชายสวมเสื้อเชิ้ตขาวกางเกงดำยืนโบกธงชาติศรีลังกาและจีนขณะเรือเข้าเทียบท่า เว็บไซต์วิเคราะห์การเดินเรือระบุว่า เรือหย่วนวั่ง 5 เป็นเรือวิจัยและสำรวจ แต่สื่ออินเดียระบุว่า เป็นเรือจารกรรมที่ใช้ได้ 2 วัตถุประสงค์คือ ติดตามอวกาศและดาวเทียม และใช้ปล่อยขีปนาวุธร่อนข้ามทวีป อินเดียกังวลเรื่องที่จีนเพิ่มบทบาทในมหาสมุทรอินเดียและเพิ่มอิทธิพลในศรีลังกา เพราะถือว่ามหาสมุทรอินเดียและศรีลังกาอยู่ในเขตอิทธิพลของอินเดีย อินเดียและสหรัฐหยิบยกประเด็นความมั่นคงขึ้นมาคัดค้านเรื่องเรือจีนเทียบท่าศรีลังกา อินเดียถึงกับยื่นคำร้องแสดงความไม่พอใจต่อศรีลังกา ทำให้เจ้าหน้าที่จีนกล่าวก่อนที่ศรีลังกาอนุญาตว่า เป็นเรื่องไร้ความชอบธรรมอย่างยิ่งที่บางประเทศยกเรื่องความมั่นคงมากดดันศรีลังกา ในช่วงที่ศรีลังกากำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ศรีลังกากู้ยืมเงินจำนวนมากจากจีนระหว่างปี 2548-2558 และได้ยกท่าเรือฮัมบันโตตาให้จีนบริหารตั้งแต่ปี 2560 เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายบริษัทจีนที่สร้างท่าเรือแห่งนี้ด้วยงบประมาณ 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 49,602 […]

1 35 36 37 38 39 139
...