ออสเตรเลีย

แคนเบอร์รา 7 ม.ค. – ออสเตรเลียเรียกร้องจีนอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกเข้าไปตรวจสอบสาเหตุการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในทันที นางมาริส เพย์น รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของออสเตรเลียกล่าวว่า รัฐบาลออสเตรเลียต้องการให้ทางการจีนอนุญาตให้ทีมงานขององค์การอนามัยโลกเดินทางเข้าประเทศได้ในทันที ทั้งยังกล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต้องให้องค์การอนามัยโลกมีส่วนร่วม และว่า รัฐบาลออสเตรเลียคาดหวังจะได้เห็นผลการศึกษาที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของนานาชาติในจีน ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นแกนนำในการออกมาเรียกร้องให้เกิดการตรวจสอบอย่างเป็นอิสระเพื่อหาที่มาของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศร้าวฉาน จีน ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการค้าชั้นนำของออสเตรเลียได้ประกาศจำกัดการนำเข้าเนื้อวัวจากออสเตรเลีย เพิ่มอัตราภาษีศุลกากรของไวน์ออสเตรเลีย รวมถึงสั่งให้โรงงานในจีนหยุดซื้อฝ้ายจากออสเตรเลียอีกด้วย ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังอย่างมากที่จีนยังคงไม่อนุญาตให้ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคโควิด-19 จากนานาประเทศเดินทางเข้าประเทศ ทั้งนี้ คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเชื้อไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่นในช่วงปลายปี 2562 ก่อนที่จะแพร่กระจายไปทั่วโลก ซึ่งทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 86 ล้านคนและผู้เสียชีวิตกว่า 1.8 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย

แคนเบอร์รา 7 ม.ค. – ออสเตรเลียจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดสแรกในเดือนหน้า ขณะที่สองรัฐใหญ่ของออสเตรเลียพยายามควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลียคาดการณ์ว่า หน่วยงานกำกับดูแลยาของออสเตรเลียจะอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐภายในสิ้นเดือนนี้ และจะเริ่มฉีดวัคซีนโดสแรกได้ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น เขายังมั่นใจว่า ทางการออสเตรเลียมีความพร้อมที่จะฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้เร็วสุดในช่วงกลางหรือปลายเดือนหน้า ซึ่งทางการได้สั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์จำนวน 10 ล้านโดส รวมถึงทำข้อตกลงกับแอสตราเซนเนกา บริษัทเวชภัณฑ์ของอังกฤษเพื่อผลิตวัคซีนใช้เองในประเทศ เมื่อวัคซีนทั้งสองขนานผ่านการอนุมัติแล้ว ทางการได้ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนราว 80,000 คนต่อสัปดาห์ และจะเพิ่มกำลังฉีดวัคซีนให้มากขึ้นในอีก 4-6 สัปดาห์ต่อจากนั้น ซึ่งจะทำให้ฉีดวัคซีนในชาวออสเตรเลียได้ราว 4 ล้านคนภายในสิ้นเดือนมีนาคม รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรสูงสุดและกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดล่าสุดของออสเตรเลียไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่ทางการท้องถิ่นพยายามควบคุมการระบาดกลุ่มก้อนใหม่ในนครซิดนีย์และนครเมลเบิร์น ซึ่งเป็นสองเมืองใหญ่ของออสเตรเลีย ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 28,500 คน และผู้เสียชีวิต 909 คน. -สำนักข่าวไทย

เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของออสเตรเลียเลื่อนกำหนดการในการเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันเฃื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้เร็วขึ้น 2 สัปดาห์ เป็นต้นเดือนมีนาคมนี้ แม้ว่าการระบาดที่เมืองใหญ่ที่สุดสองแห่งของออสเตรเลียจะนิ่งแล้วก็ตาม

เมลเบิร์น 5 ม.ค. – คณะผู้จัดการแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียนโอเพน ซึ่งเป็นการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมรายการแรกของปีถูกบังคับเปลี่ยนสถานที่กักตัวให้นักเทนนิสระดับโลก หลังประสบปัญหาด้านกฎหมายจากเจ้าของอพาร์ทเมนต์ในโรงแรมสุดหรูแห่งหนึ่งในนครเมลเบิร์น สหพันธ์เทนนิสออสเตรเลียและหน่วยงานของรัฐบาลได้เตรียมสถานที่กักตัวเป็นระยะเวลา 14 วันให้นักเทนนิสที่โรงแรมเดอะเวสทินเมลเบิร์นก่อนเข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียนโอเพนระหว่างวันที่ 8 – 21 กุมภาพันธ์ แต่แผนดังกล่าวกลับล้มเหลวหลังเจ้าของอพาร์ทเมนต์หลายคนในโรงแรมไม่พอใจที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการหารือและจะยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งห้ามการดำเนินงานดังกล่าว แถลงการณ์ของโรงแรมเดอะเวสทินเมลเบิร์นระบุว่า หลังจากที่ได้ปรึกษาร่วมกับเจ้าของโรงแรม ผู้พักอาศัยในโรงแรม และหน่วยงานกำกับดูแลโครงการกักตัวในโรงแรมของรัฐวิกตอเรียแล้ว โรงแรมเดอะเวสทินเมลเบิร์นจึงตัดสินใจว่าจะหาที่พักในโรงแรมอื่นให้แก่นักเทนนิสและทีมงานที่เดินทางมายังนครเมลเบิร์นเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียนโอเพน ทนายที่เป็นตัวแทนของเจ้าของอพาร์ทเมนต์กล่าวว่า การใช้โรงแรมเดอะเวสทินเมลเบิร์นเป็นสถานที่กักตัวของนักเทนนิสนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างของการลงมือทำอะไรโดยพลการ แล้วหวังว่าผู้อื่นจะยอมทำตาม แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป ด้านนางลิซา เนวิลล์ รัฐมนตรีกระทรวงตำรวจของรัฐวิกตอเรียกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางการได้จัดหาโรงแรมอื่นเพื่อใช้กักตัวนักเทนนิสแล้ว นักเทนนิสชื่อดังจากหลายประเทศมีกำหนดการเดินทางถึงนครเมลเบิร์นในช่วงกลางเดือนนี้ ไม่ว่าจะเป็นโนวัค ยอโควิช นักเทนนิสชาวเซอร์เบียมือวางอันดับ 1 ของโลก และราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสชาวสเปนมือวางอันดับ 2 ที่จำเป็นต้องเดินทางถึงนครเมลเบิร์นอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ตามมาตรการกักตัวก่อนเข้าร่วมแข่งขันในรายการออสเตรเลียนโอเพน. -สำนักข่าวไทย

ซิดนีย์ 5 ม.ค. – รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรสูงสุดของออสเตรเลียเรียกร้องให้ประชาชนใน 3 เมืองเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และเข้าสู่มาตรการกักตัว เนื่องจากการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในนครซิดนีย์อาจแพร่กระจายไปสู่ย่านชนบท รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดแห่งใหม่ของออสเตรเลียพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในชุมชน 4 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในจำนวนนี้ มีชายคนหนึ่งที่ออกเดินทางจากนครซิดนีย์ไปยังเมืองโบรกเคนฮิลล์ที่ตั้งอยู่ในย่านชนบททางตะวันตกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ นายจอห์น บาริลาโร รักษาการมุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเครื่องเตือนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากมีผู้ที่เดินทางออกจากนครซิดนีย์ ทางการได้เน้นย้ำตลอดในช่วงที่ผ่านมาว่า ถ้าผู้ใดมีอาการป่วยหรือเป็นห่วงสถานการณ์ระบาดในตอนนี้ก็ควรจำกัดการเดินทางของตนเอง เขายังเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ใน 3 เมืองชนบทของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นเมืองที่ผู้ป่วยติดเชื้อคนดังกล่าวเดินทางไปเที่ยว ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาและเข้าสู่มาตรการกักตัวในระหว่างที่รอผลตรวจ รัฐนิวเซาท์เวลส์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 200 คนจากการระบาดครั้งล่าสุดในนครซิดนีย์ แม้ว่าทางการสามารถควบคุมตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อได้แล้วก็ตาม ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 28,500 คน และผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 909 คน. -สำนักข่าวไทย

ซิดนีย์ 4 ม.ค. – รัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลียไม่พบยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในชุมชนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ นายจอห์น บาริลาโร รักษาการมุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า ตอนนี้รัฐนิวเซาท์เวลส์มียอดผู้ป่วยติดเชื้ออยู่ในระดับต่ำมาก หากทุกคนต้องการที่จะประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 การตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาในประชาชนกลุ่มใหญ่ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความมั่นใจด้านข้อมูลที่นำมาใช้ประกอบการตัดสินใจของทางการได้ ขณะนี้ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ตรวจหาเชื้อในประชาชนราว 20,000 คนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ลดลงจากในช่วงที่มีสูงสุดราว 70,000 คนในวันคริสต์มาส ประชาชนส่วนใหญ่ที่เข้ารับการตรวจหาเชื้ออยู่ในนครซิดนีย์ ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีประชากรราว 5 ล้านคน ขณะที่ทางการประกาศบังคับประชาชนสวมหน้ากากอนามัยทั้งพื้นที่ในร่มและระบบขนส่งสาธารณะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องถูกปรับเงิน 200 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 4,630 บาท) อย่างไรก็ตาม ทางการพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 2 คนที่เชื่อมโยงกับการระบาดเป็นกลุ่มก้อนใหม่บริเวณร้านขายสุราของนครซิดนีย์หลังเลยรอบรายงานผู้ป่วยติดเชื้อรายวัน แต่จะรวมยอดผู้ป่วยดังกล่าวไว้ในรายงานของวันพรุ่งนี้ ที่รัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอกพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในชุมชน 3 คน ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั้งสิ้น 36 คน ขณะนี้ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมน้อยกว่า 28,500 คน และผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 909 คน. -สำนักข่าวไทย

รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย บังคับให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากอนามัย แม้จะอยู่ในอาคารก็ตาม หากฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุดราว 6,000 บาท

ซิดนีย์ 2 ม.ค.- โรงอุปรากรซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์ของออสเตรเลียเตรียมเปิดการแสดงให้คนเข้าชมเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปิดไปในเดือนมีนาคมเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ผู้กำกับศิลป์ละครเรื่อง The Merry Widow เผยว่า จะเปิดการแสดงรอบแรกในวันอังคารนี้ ผู้ชมจะต้องสวมหน้ากากอนามัย และเปิดให้เข้าชมได้ไม่เกินร้อยละ 75 ของที่นั่งทั้งหมด การได้กลับขึ้นเวทีอีกครั้งเป็นช่วงเวลาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง หวังว่าตลอดทั้งปีนี้โรงอุปรากรอื่น ๆ จะได้เปิดตามมาในเร็ว ๆ นี้และผู้คนจะกลับมาชมอีกครั้ง หลังจากอุตสาหกรรมศิลปะการแสดงได้รับผลกระทบหนักจากโรคโควิด-19 ด้านนักแสดงนำหญิงเผยว่า ตื่นเต้นมากที่จะได้ขึ้นเวทีอีกครั้งหลังจากที่ต้องหยุดพักการแสดงไปนานถึง 9 เดือน ออสเตรเลียอนุญาตให้คนรวมกลุ่มในสถานที่ปิด เช่น ซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์ มาหลายเดือนแล้ว แต่เกิดการระบาดแบบเป็นกลุ่มก้อนทางชายหาดตอนเหนือของเมืองเมื่อเดือนก่อน ทางการจึงออกมาตรการเข้มงวดครั้งใหม่ เช่น บังคับสวมหน้ากากอนามัยบนรถโดยสารสาธารณะและสถานที่ปิดตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันนี้เป็นต้นไป ออสเตรเลียซึ่งมีประชากร 25 ล้านคนมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมกว่า 28,400 คน เสียชีวิต 909 คน.-สำนักข่าวไทย

ซิดนีย์ 2 ม.ค.- รัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลียบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยและจำกัดกิจกรรมต่าง ๆ ครั้งใหม่ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แบบเป็นกลุ่มก้อนขยายวงไปยังรัฐวิกตอเรีย นางแกลดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์แถลงข่าววันนี้ว่า ทางการให้ความสำคัญต่อสุขภาพและความปลอดภัยเป็นอันดับแรก แต่ก็ต้องคำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดี งานและเศรษฐกิจด้วย จึงออกมาตรการใหม่ที่มั่นใจว่า จะสามารถเพิ่มและส่งเสริมการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ธุรกิจและการจ้างงาน แต่ขณะเดียวกันก็ต้องจำกัดเชื้อไวรัสไม่ให้แพร่ระบาดด้วย มาตรการใหม่ได้แก่ การลดจำนวนการเปิดสถานออกกำลังกาย ห้ามการเต้นรำร้องพลงตามไนต์คลับ จำกัดคนร่วมงานเลี้ยงแต่งงาน งานศพ และศาสนสถาน ส่วนการแข่งขันคริกเกตออสเตรเลีย-อินเดีย 5 วันที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 มกราคมจะดำเนินต่อไป แต่ให้คนเข้าร่วมเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้ยังบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม ผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 200 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 4,630 บาท) ด้านรัฐวิกตอเรียที่มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับสองของประเทศบังคับสวมหน้ากากอนามัยแล้วตั้งแต่สัปดาห์นี้ จำกัดการรวมกลุ่ม และปิดพรมแดนด้านติดกับรัฐนิวเซาท์เวลส์ หลังจากทางการเผยว่า ผลการถอดรหัสพันธุกรรมผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในรัฐวิกตอเรียพบว่ามีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการระบาดแบบเป็นกลุ่มก้อนในรัฐนิวซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรียมีผู้ป่วยสะสม 20,376 คน เสียชีวิต 820 คน มากที่สุดในออสเตรเลียที่มีผู้ป่วยสะสม 28,427 […]

ออสเตรเลียต้อนรับปีใหม่ 2021 ด้วยการฉลองแบบเงียบเหงาและมาตรการใหม่ที่เข้มงวดกว่าเดิมในการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และการปิดเขตแดนของสองรัฐที่มีประชากรมากที่สุดทำให้ครอบครัวต่าง ๆ ต้องถูกบังคับให้ยกเลิกแผนการฉลองรับศักราชใหม่