หน้ากากอนามัย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือ ซีดีซี ออกคำสั่งเมื่อค่ำวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น กำหนดให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะเกือบทุกรูปแบบตั้งแต่วันจันทร์นี้เป็นต้นไป

ปักกิ่ง 29 ม.ค. – จีนส่งออกหน้ากากอนามัยกว่า 220,000 ล้านชิ้นในปีที่ผ่านมา เท่ากับคนทั่วโลกไม่นับรวมจีนใช้เฉลี่ยคนละเกือบ 40 ชิ้น เนื่องจากความต้องการใช้หน้ากากอนามัยพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นายเฉียน เค่อหมิง รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวว่า นอกจากหน้ากากอนามัยแล้ว จีนยังได้ส่งออกอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล 2,300 ล้านชิ้น รวมถึงชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 1,000 ล้านชุดในปีที่แล้ว นับว่าจีนมีส่วนสำคัญในการช่วยต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก โฆษกของสำนักงานศุลกากรจีนเผยว่า เฉพาะการส่งออกหน้ากากอนามัยเพียงอย่างเดียวมีมูลค่าสูงถึง 340,000 ล้านหยวน (1.58 ล้านล้านบาท) ปริมาณหน้ากากที่จีนส่งออกเท่ากับส่งให้คนทั่วโลกไม่รวมจีนใช้เฉลี่ยคนละเกือบ 40 ชิ้น จีน ซึ่งพบการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นที่แรกในช่วงปลายปี 2562 ถือเป็นชาติแรกที่ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้หลังจากที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์และข้อบังคับที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาด อีกทั้งยังได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เพียงประเทศเดียวที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นบวกในปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวเสริมว่า จีนจะยังคงเผชิญกับสถานการณ์ที่รุนแรงและซับซ้อนในการลงทุนและการค้ากับต่างประเทศในปีนี้. -สำนักข่าวไทย