หน้ากากอนามัย

ชิคาโก 29 ต.ค.- พี่น้องสองสาวในรัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐถูกควบคุมตัวในข้อหาพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนา จากการจ้วงแทง 27 แผลเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ที่บอกให้สวมหน้ากากอนามัยและใช้เจลล้างมือก่อนเข้าร้าน ตำรวจเมืองชิคาโกเผยว่า สองพี่น้องเดินเข้าร้านค้าปลีกแห่งหนึ่งแล้วมีปากเสียงกับ รปภ.ประจำร้านวัย 32 ปี สำนักงานอัยการเทศมณฑลคุ้กระบุในคำฟ้องว่า รปภ.บอกทั้งสองคนว่าต้องสวมหน้ากากอนามัยและใช้เจลล้างมือก่อนเข้าร้าน การโต้เถียงกลายเป็นการทำร้ายร่างกายเมื่อเจสสิกา ฮิลล์ วัย 21 ปี ชักมีดออกมาจ้วงแทง รปภ.ที่หลัง คอ และแขนรวม 27 แผล โดยมีเจย์ลา ฮิลล์ น้องสาววัย 18 ปี ช่วยจิกผมและกดตัว รปภ.ไว้ ตำรวจเผยว่า ขณะนี้ รปภ.อาการทรงตัว ส่วนสองพี่น้องถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลทันทีเพราะมีแผลเล็กน้อย ทั้งคู่ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนา บันทึกเรือนจำระบุว่า ทั้งคู่ถูกควบคุมตัวโดยไม่ให้ประกันตัว ศาลกำหนดเปิดการไต่สวนในวันที่ 4 พฤศจิกายน.-สำนักข่าวไทย

นิวยอร์ก 24 ต.ค.- นักวิจัยคาดว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในสหรัฐอาจเกิน 500,000 คน ภายในเดือนกุมภาพันธ์ หากชาวอเมริกันไม่สวมหน้ากากอนามัยให้ครบทุกคน สถาบันเพื่อการวัดและประเมินสุขภาพ มหาวิทยาลัยวอชิงตันเตือนว่า สหรัฐกำลังจะมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเข้าสู่ฤดูหนาว ตัวเลขอาจเกินครึ่งล้านคนภายในเดือนกุมภาพันธ์ แต่หากชาวอเมริกันสวมหน้ากากอนามัยให้ได้ร้อยละ 95 ตัวเลขอาจลดลง 130,000 คน สะท้อนถึงความวิตกว่า อากาศหนาวเย็นอาจทำให้ชาวอเมริกันอยู่บ้านมากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงที่เชื้อจะแพร่กระจายมากขึ้นเพราะเป็นสถานที่ปิดและคนใกล้ชิดกัน นายอเล็ก อาซาร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐระบุว่า ยอดผู้ป่วยทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเพราะพฤติกรรมของบุคคล สาเหตุหลักคือการรวมตัวสังสรรค์ในครัวเรือน รอยเตอร์เผยว่า สหรัฐมีผู้ป่วยใหม่ 76,195 คน เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น รัฐเพนซิลเวเนีย หนึ่งในสวิงสเตทหรือรัฐที่ไม่เป็นฐานเสียงของพรรคการเมืองใดที่น่าจะมีบทบาทสำคัญต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดี 3 พฤศจิกายนตามเวลาสหรัฐมีผู้ป่วยใหม่ในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด เช่นเดียวกับอีกหลายรัฐที่มีผู้ป่วยใหม่ในวันเดียวทำสถิติสูงสุดประกอบด้วยอะแลสกา อาร์คันซอ อิลลินอยส์ นอร์ทแคโรไลนา นอร์ทดาโกตา เซาท์ดาโกตา โอไฮโอ ไอดาโฮ โรดไอส์แลนด์ เทนเนสซี ยูทาห์ วิสคอนซิล และไวโอมิง ส่วนยอดผู้เสียชีวิตทั้งประเทศเพิ่มขึ้น 916 คน.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 19 ต.ค.- ทวิตเตอร์ลบทวีตของที่ปรึกษาผู้นำสหรัฐ ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในสหรัฐยังคงพุ่งสูงขึ้น ทวิตเตอร์ได้ลบทวีตของ ดร. สก็อตต์ แอตลาส ที่ปรึกษาระดับสูงของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ด้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา โดยระบุว่า เป็นทวีตที่ทำให้เข้าใจผิดต่อประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัย ละเมิดนโยบายการให้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ดร. แอตลาส ผู้ซึ่งไม่ให้ความสำคัญกับการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นมาตรการกักกันโคโรนาไวรัสที่ได้รับการรับรองอย่างกว้างขวางจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ได้ทวีตข้อความเมื่อวันเสาร์ โดยกล่าวว่าหน้ากากอนามัยใช้ไม่ได้ผล สอดคล้องกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ไม่กระตือรือร้นที่จะส่งเสริมเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย ซ้ำรัฐบาลของทรัมป์ ยังไม่ยอมรับว่า การเสนอความคิดเห็นด้านลบเกี่ยวกับการสวมหน้ากาก เป็นการขัดขวางการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ความเคลื่อนไหวดังกล่าว มีขึ้นในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐยังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน โดยในวันศุกร์ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 69,400 คน จากที่เคยมีเพิ่มวันละ 46,000 คน เมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมในสหรัฐทะลุ 8 ล้านคนแล้ว.-สำนักข่าวไทย

คนในเกาหลีใต้จะต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อโดยสารรถสาธารณะและเมื่ออยู่ในที่สาธารณะเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ไม่เช่นนั้นจะมีโทษปรับทั้งผู้ไม่สวม

แอตแลนตา 3 ต.ค.- นพ.ทอม ฟรีเดน อดีตผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) ย้ำว่า การตรวจหาเชื้อที่ทำให้เป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ไม่ช่วยเหมือนการใช้มาตรการป้องกัน นพ.ฟรีเดน เป็น ผอ.ซีดีซีตลอดรัฐบาลบารัค โอบามาตั้งแต่ปี 2552-2560 เขาออกถ้อยแถลงเมื่อวานนี้หลังจากทราบข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และสตรีหมายเลขหนึ่งติดเชื้อไวรัสโคโรนาว่า เป็นเครื่องเตือนใจว่าโรคนี้ยังคงเป็นภัยต่อสหรัฐและเกิดขึ้นได้กับทุกคน สหรัฐจำเป็นต้องมีวิธีการที่ครอบคลุมหลังจากหลายรัฐมีผู้ป่วยใหม่จนน่าเป็นห่วง ลำพังการตรวจหาเชื้อไม่สามารถนำมาใช้แทนมาตรการป้องกันอย่างการสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างทางสังคม และล้างมืออยู่เสมอ ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ระบุว่า ผู้ป่วยใหม่รายวันในสหรัฐขณะนี้เฉลี่ยที่ 41,781 คน และมีอย่างน้อย 24 รัฐที่มีผู้ป่วยใหม่ในสัปดาห์นี้มากกว่าสัปดาห์ก่อน เช่น เคนทักกี นิวยอร์ก วิสคอนซิน ขณะที่รัฐฟลอริดาเปิดทางให้ผับบาร์ร้านอาหารเปิดตามปกติ รัฐมิสซิสซิปปียกเลิกคำสั่งบังคับสวมหน้ากากอนามัย ด้านโครงการติดตามโควิดพบว่า สัปดาห์นี้มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เข้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับจากเดือนกรกฎาคม ส่วนยอดผู้เสียชีวิตแม้ลดลงแต่ก็ชะลอตัว สหรัฐมีผู้ป่วยสะสม 7,362,516 คน จากทั้งโลก 34,621,100 คน เสียชีวิต 208,562 คน จากทั้งโลก 1,028,649 คน.-สำนักข่าวไทย

โรม 2 ต.ค.- ทางการกรุงโรมและแคว้นลาซิโอ สถานที่ตั้งกรุงโรม ทางตอนกลางของอิตาลี จะบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่กลางแจ้ง หวังควบคุมการติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่กลับมาเพิ่มใหม่อีกครั้ง เมื่อวานนี้อิตาลีพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่มากกว่า 2,000 คนเป็นครั้งแรกนับจากสิ้นเดือนเมษายน ในจำนวนนี้ 265 คนอยู่ในแคว้นลาซิโอ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำแคว้นเผยกับสื่อขณะประกาศใช้มาตรการใหม่ว่า ผู้ป่วยใหม่ส่วนใหญ่ละเลยการสวมหน้ากากอนามัยและมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม ดังนั้นทางการจะบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่กลางแจ้ง เช่นเดียวกับที่ใช้ในหลายแคว้น รวมทั้งแคว้นคัมปาเนีย ทางตอนใต้ของอิตาลี ที่ตั้งเมืองเนเปิลส์หรือนาโปลี ก่อนหน้านี้การสวมหน้ากากอนามัยบังคับใช้เฉพาะเมื่ออยู่ในที่สาธารณะที่เป็นที่ปิด เช่น ร้านค้า โรงภาพยนตร์ อิตาลีเป็นประเทศแรกในยุโรปที่เกิดโรคโควิด-19 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ยอดผู้ป่วยสะสมจนถึงขณะนี้อยู่ที่ 317,409 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 36,000 คน มากเป็นอันดับสองของยุโรปรองจากอังกฤษ ทางการใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดจนสามารถควบคุมการระบาดได้ในฤดูร้อน แต่ยอดผู้ป่วยเริ่มเพิ่มขึ้นในช่วงสองเดือนมานี้ อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีจูเซปเป กอนเต ยืนยันจะไม่กลับไปล็อกดาวน์ทั้งประเทศอีกครั้ง ทางการเผยว่า อาจจะเข้มงวดเป็นบางพื้นที่หากมีการติดเชื้อในชุมชนเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย