อียูโทษรัสเซียเป็นต้นเหตุวิกฤตอาหารโลก

นิวยอร์ก 7 มิ.ย. – ผู้แทนถาวรรัสเซียประจำสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ลุกออกจากที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) หลังประธานคณะมนตรียุโรปกล่าวหารัสเซียว่าการเปิดฉากบุกโจมตียูเครนทำให้เกิดวิกฤตอาหารทั่วโลก นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป กล่าวในที่ประชุมยูเอ็นเอสซีในนครนิวยอร์กของสหรัฐว่า รัฐบาลรัสเซียกำลังแอบใช้เรื่องอาหารเป็นเครื่องมือต่อรองกับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา การบุกโจมตียูเครนอย่างหนักหน่วงของรัสเซียก่อให้เกิดผลกระทบต่อทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาราคาอาหารแพงขึ้น ประชาชนยากจน และความไม่มั่นคงในหลายภูมิภาค อีกทั้งยังมองว่า รัสเซียต้องเป็นผู้รับผิดชอบปัญหาวิกฤตอาหารในครั้งนี้แต่เพียงผู้เดียว นายมิเชลยังระบุว่า เขาเห็นกับตาว่ามีธัญพืชหลายล้านตันตกค้างอยู่ที่ท่าเรือโอเดสซา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครน เพราะถูกรัสเซียปิดล้อมทางเข้าออกทางทะเล  นอกจากนี้ เขายังกล่าวหาว่า รัฐบาลรัสเซียได้ขโมยธัญพืชและขัดขวางการเก็บเกี่ยวหรือเพาะปลูกในยูเครน เพราะรัสเซียกำลังใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า คำกล่าวของนายมิเชลทำให้นายวาสซิลี นีเบนเซีย ผู้แทนถาวรรัสเซียประจำยูเอ็น ลุกออกจากที่ประชุมในทันที แต่นายมิเชลยังคงกล่าวถึงนายนีเบนเซียโดยตรงต่อไปว่า นายนีเบนเซียอาจลุกออกจากที่ประชุม เพราะไม่อยากรับฟังความจริง ขณะที่นายนีเบนเซียเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สในเวลาต่อมาว่า เขาจำเป็นต้องลุกออกที่ประชุม เนื่องจากไม่ต้องการฟังคำโกหกของนายมิเชล. -สำนักข่าวไทย

รัสเซียถูกกล่าวหาเป็นต้นเหตุวิกฤติอาหารโลก

นิวยอร์ก 30 มี.ค. – รัสเซียถูกกล่าวหาในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตการณ์อาหารโลก และทำให้ผู้คนทั่วโลกเสี่ยงต่อภาวะอดอยากจากการเปิดฉากทำสงครามในยูเครน ซึ่งได้รับสมญานามว่าเป็นตะกร้าขนมปังของยุโรป (breadbasket of Europe) นางเวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ กล่าวในระหว่างการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าด้วยสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในยูเครนว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เป็นผู้ริเริ่มสงครามในยูเครนและทำให้เกิดวิกฤตการณ์อาหารโลก รัสเซียและประธานาธิบดีปูตินต้องเป็นผู้รับผิดชอบจากการนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครนที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของอาหารโลก ในขณะเดียวกัน นายนิโคลัส เดอ ริวิแยร์ ผู้แทนถาวรฝรั่งเศสประจำสหประชาชาติ ระบุว่า การบุกโจมตียูเครนอย่างหนักหน่วงของรัสเซียทำให้ทั่วโลกเสี่ยงเกิดภาวะอดอยากมากขึ้น และประชากรของประเทศกำลังพัฒนาจะได้รับผลกระทบเป็นอันดับแรก แต่รัสเซียจะอ้างว่าปัญหาเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นจากการถูกนานาชาติคว่ำบาตรที่ทำให้เกิดความไม่สมดุลต่อภาวะความมั่นคงอาหารโลก ด้านนายวาสซิลี นีเบนเซีย ผู้แทนถาวรรัสเซียประจำสหประชาชาติ แย้งว่า แท้จริงแล้ว ภาวะผันผวนของตลาดอาหารโลกเกิดขึ้นจากการที่ชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างไม่รู้จักควบคุมต่อรัสเซีย ทั้งนี้ นางเชอร์แมนและนายเดวิด บีสลีย์ ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลก รายงานว่า ยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตธัญพืชรายใหญ่ของโลก มีอัตราส่งออกข้าวสาลีร้อยละ 30 ข้าวโพดร้อยละ 20 และน้ำมันทานตะวันร้อยละ 75 ของโลก. -สำนักข่าวไทย

...