รัสเซีย

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าววันนี้ว่า รัฐบาลรัสเซียตั้งเป้าหมายจะให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อต้านเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือ ช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนนี้พร้อมกับแสดงความชื่นชมการพัฒนาวัคซีนถึง 3 ขนานของรัสเซีย

ฮยอนซู โกลบอล บริษัทเวชภัณฑ์ของเกาหลีใต้ประกาศว่า จะเป็นผู้นำกลุ่มบริษัทธุรกิจเพื่อผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของรัสเซีย หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ สปุตนิก-วี เดือนละ 100 ล้านโดส เนื่องจากรัสเซียเพิ่มกำลังผลิตวัคซีนดังกล่าวไปยังต่างประเทศ

อินเดียอนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สปุตนิควีของรัสเซียแล้ว เพื่อเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในขณะที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น

มอสโก 9 มี.ค. – วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของรัสเซีย หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ สปุตนิก-วี อาจได้รับการผลิตในทวีปยุโรปเป็นครั้งแรก หลังกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัสเซีย (RDIF) ได้ลงนามในข้อตกลงทางการค้าเพื่อผลิตวัคซีนดังกล่าวในอิตาลีร่วมกับอาเดียน บริษัทเวชภัณฑ์ในสวิตเซอร์แลนด์ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัสเซียและหอการค้าอิตาลี-รัสเซียได้ยืนยันการลงนามในข้อตกลงดังกล่าว แต่จะต้องได้รับอนุมัติจากหน่วยงานของอิตาลีก่อน จึงจะเริ่มขั้นตอนผลิตวัคซีนได้ ข้อตกลงที่เกิดขึ้นเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียูไม่ต้องการรอให้สำนักงานกำกับดูแลยาของอียู (EMA) พิจารณาอนุมัติใช้วัคซีนสปุตนิก-วี หอการค้าอิตาลี-รัสเซียระบุในแถลงการณ์ว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะปูทางให้เกิดการสร้างศูนย์ผลิตวัคซีนสปุตนิก-วีแห่งแรกในทวีปยุโรป อีกทั้งยังได้วางแผนผลิตวัคซีนในอิตาลีที่จะเริ่มต้นในเดือนมิถุนายนนี้ และคาดว่าจะผลิตวัคซีนได้ราว 10 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่หัวหน้ากองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัสเซียที่วางแผนจำหน่ายวัคซีนทั่วโลกกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า หลายภูมิภาคของอิตาลีมีความพร้อมในการผลิตวัคซีนสปุตนิก-วี และเขาได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับบริษัทอาเดียนเพื่อผลิตวัคซีนในอิตาลีแล้ว นักวิทยาศาสตร์เผยว่า วัคซีนสปุตนิก-วีของรัสเซียมีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิดได้สูงถึงร้อยละ 92 โดยอ้างอิงจากผลการทดลองระยะสุดท้ายที่ได้รับการตรวจสอบและตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์เดอะแลนซิตเมื่อเดือนก่อน ทั้งนี้ วัคซีนดังกล่าวได้รับการอนุมัติใช้หรืออยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติใน 3 ประเทศสมาชิกของอียู ได้แก่ ฮังการี สโลวาเกีย และสาธารณรัฐเช็ก.-สำนักข่าวไทย

โตเกียว 28 ก.พ.- สื่อญี่ปุ่นมองว่า จีน รัสเซียและอินเดียกำลังแข่งกันขยายอิทธิพลด้วยการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่ประเทศกำลังพัฒนาและรายได้ปานกลาง ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วแย่งกันหาวัคซีนผลิตในสหรัฐและยุโรปให้แก่พลเรือนของตนเอง เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่า จีนบริจาควัคซีนผลิตเองให้ 53 ประเทศที่ร้องขอ ส่วนใหญ่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแอฟริกา ประเทศแรกคือปากีสถาน ติดกับอินเดียที่มีปัญหาพรมแดนกับจีน รับวัคซีนของซิโนฟาร์ม 500,000 โดสเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ส่วนเมื่อเดือนมกราคมจีนรับปากบริจาควัคซีนให้เมียนมา 300,000 โดสหลังจากเมียนมาแสดงความสนใจวัคซีนจากอินเดีย ประเทศยุโรปตะวันออกที่มีความสัมพันธ์กับจีนในโครงการเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 (Belt and Road Initiative) ซื้อวัคซีนจีน ขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออีและอินโดนีเซียร่วมทดลองวัคซีนจีน ประเทศที่สนใจซื้อวัคซีนจีนมี 27 ประเทศแล้ว ส่วนใหญ่ซื้อวัคซีนจากสหรัฐและยุโรปด้วย ด้านอินเดียในฐานะร้านขายยาของโลกเพราะผลิตวัคซีนร้อยละ 60 ที่ต้องใช้ในประเทศกำลังพัฒนา บริจาควัคซีนให้เมียนมา 1.7 ล้านโดส และให้ฟรีอีกอย่างน้อย 15 ประเทศ มีทั้งในแอฟริกา ตะวันออกกลาง และทะเลแคริบเบียน นอกจากนี้ยังจัดสรรอีกกว่า 36 ล้านโดสให้หลายประเทศทั้งบริจาคและเชิงพาณิชย์ อินเดียคุยว่า วัคซีนที่ผลิตให้แอสตราเซนเนกาในชื่อโควิชีลด์และวัคซีนที่พัฒนาเองดูแลง่ายและราคาถูกกว่าวัคซีนผลิตในประเทศอื่น ส่วนรัสเซียเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 […]