“ปูติน” ไปพบผู้นำเบลารุสในแคว้นตะวันออกไกลของรัสเซีย

มอสโก 12 เม.ย. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เดินทางไปยังแคว้นอามูร์ ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ในวันนี้เพื่อหารือกับประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ของเบลารุส โดยคาดว่ามีวาระสำคัญเกี่ยวกับสงครามยูเครนและความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับเบลารุส สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินและประธานาธิบดีลูคาเชนโกจะเดินทางไปยังฐานปล่อยจรวดวอสโตชินี คอสโมโดรม (Vostochny Cosmodrome) ในแคว้นอามูร์ของรัสเซียเพื่อรำลึกถึงวันนักบินอวกาศ (Cosmonautics Day) ของรัสเซีย ซึ่งตรงกับวันที่ 12 เมษายนของทุกปี โดยเป็นวันที่รัสเซียได้ส่ง ยูริ กาการิน นักบินอวกาศชาวรัสเซีย ขึ้นสู่อวกาศเป็นคนแรกของโลกในปี 2504 ทั้งนี้ คาดว่าประธานาธิบดีปูตินและประธานาธิบดีลูคาเชนโกจะเดินเยี่ยมชมลานจอดยานอวกาศและพบปะกับเจ้าหน้าที่ของฐานปล่อยจรวด รวมถึงแถลงข่าวร่วมกันในเวลา 11.00 น. ตามเวลามาตรฐานกรีนิช หรือตรงกับเวลา 18.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวของรัสเซียรายงานอ้างคำพูดของประธานาธิบดีปูตินที่กล่าวในงานดังกล่าวว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนจะบรรลุเป้าหมายสูงส่งอย่างไร้ข้อกังขา รัสเซียไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากการใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อปกป้องประเทศชาติและการปะทะกับกองกำลังต่อต้านรัสเซียในยูเครนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งยังระบุว่า เป้าหมายของปฏิบัติการทหารในครั้งนี้คือการปกป้องประชาชนในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งประกอบด้วยแคว้นดอเนสตก์และแคว้นลูฮันสก์ ทางตะวันออกของยูเครน และการใช้คำสั่งปฏิบัติการทางทหารในครั้งนี้ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษเร่งสอบข้อกล่าวหารัสเซียใช้อาวุธเคมีในยูเครน

ลอนดอน 12 เม.ย. – นายเจมส์ ฮีปปีย์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอังกฤษ เผยวันนี้ว่า รัฐบาลอังกฤษกำลังเร่งสอบสวนว่ากองทัพรัสเซียนำอาวุธเคมีมาใช้ในสงครามยูเครนหรือไม่ หลังจากที่นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอังกฤษระบุเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ว่า อังกฤษกำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อตรวจสอบรายงานที่ชี้ว่ารัสเซียอาจใช้อาวุธเคมีโจมตีเมืองมารีอูปอล เมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครน นายฮีปปีย์เผยกับบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ว่า อังกฤษได้รับรายงานเกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่ารัสเซียใช้อาวุธเคมีโจมตีเมืองมารีอูปอลที่ถูกปิดล้อมผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของยูเครน แต่หน่วยข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมอังกฤษและกระทรวงกลาโหมยูเครนยังไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวได้อย่างอิสระ ขณะนี้ อังกฤษกำลังเร่งสอบสวนว่ารัสเซียนำอาวุธเคมีมาใช้ในยูเครนจริงหรือไม่ หากมีหลักฐานยืนยันว่ารัสเซียใช้อาวุธเคมีจริง นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ และบรรดาผู้นำรัฐบาลต่าง ๆ ทั่วโลกก็พร้อมออกมาตรการตอบโต้ทุกวิถีทางต่อรัสเซีย ทั้งยังระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ต้องตระหนักถึงผลเสียจากการใช้อาวุธเคมี เนื่องจากอาวุธประเภทนี้ไม่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ก่อนหน้านี้ นางทรัสส์ระบุเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ว่า อังกฤษกำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อตรวจสอบรายงานที่ชี้ว่ารัสเซียอาจใช้อาวุธเคมีโจมตีเมืองมารีอูปอล เมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครนที่ถูกปิดล้อมมานานเกือบ 7 สัปดาห์ จนทำให้คาดว่ามีพลเรือนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยในวันเดียวกันว่า รัสเซียอาจนำอาวุธเคมีมาใช้โจมตียูเครน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงขึ้นต่อรัสเซียเพื่อขัดขวางการใช้อาวุธเหล่านี้.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียกังวลการใช้อาวุธเคมี

รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย กังวลเกี่ยวกับรายงานการใช้อาวุธเคมีของรัสเซีย หากข้อมูลดังกล่าวได้รับการยืนยันถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎบัตรสหประชาชาติ

นายกเล็กเมืองมารีอูปอลเผยมีพลเรือนตายกว่า 10,000 ราย

มารีอูปอล 12 เม.ย. – นายกเทศมนตรีของเมืองมารีอูปอล เมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครนที่ถูกรัสเซียปิดล้อม เผยว่า มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 10,000 รายที่เมืองมารีอูปอลนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ขณะที่อังกฤษเตือนว่า การสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครนมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในอีก 2-3 สัปดาห์หน้า นายวาดิม บอยเชนโก นายกเทศมนตรีเมืองมารีอูปอล เผยกับสำนักข่าวเอพีเมื่อวันจันทร์จากพื้นที่นอกเมืองมารีอูปอลว่า มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 10,000 รายที่เมืองมารีอูปอล และยังคงมีพลเรือนราว 120,000 คนติดค้างอยู่ในเมืองดังกล่าว โดยที่ประชาชนเหล่านี้ต้องการอาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรคโดยด่วน เขายังได้รับรายงานว่า กองทัพรัสเซียกำลังเก็บศพพลเรือนและนำไปแช่ไว้ในตู้เย็นของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในเมือง รวมถึงการนำศพไปใส่ตู้คอนเทนเนอร์ท้ายรถบรรทุกแล้วจุดไฟเผา อย่างไรก็ดี บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ยังไม่สามารถตรวจสอบข้อกล่าวหาดังกล่าวของนายบอยเชนโกได้อย่างอิสระ ในขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมของอังกฤษเตือนว่า การสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครนมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในอีก 2-3 สัปดาห์หน้า เนื่องจากรัสเซียยังคงตั้งเป้าบุกโจมตีพื้นที่ดังกล่าวต่อไป ขณะนี้ กองทัพรัสเซียได้มุ่งโจมตีพื้นที่ใกล้แคว้นโดเนสตก์และแคว้นลูฮันสก์ ทางตะวันออกของยูเครน รวมถึงพื้นที่รอบเมืองเคอร์ซันและเมืองไมโคลาอีฟ ทางตอนใต้ของยูเครน กระทรวงกลาโหมอังกฤษยังระบุเพิ่มเติมว่า กองทัพรัสเซียยังคงใช้เส้นทางเดินทัพผ่านเบลารุสเพื่อเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน นอกจากนี้ หน่วยข่าวกรองของอังกฤษเผยว่า รัสเซียยังตั้งเป้าโจมตีเมืองครามาตอร์สก์ ทางตะวันออกของยูเครน หลังมีพลเรือนเสียชีวิตหลายสิบรายจากการยิงจรวดถล่มสถานีรถไฟของเมืองดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน.-สำนักข่าวไทย

ไต้หวันเผยแพร่คู่มือการอยู่รอดในภาวะสงครามครั้งแรก

กองทัพไต้หวันเผยแพร่คู่มือการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเป็นครั้งแรกในวันนี้ โดยเป็นการให้คำแนะนำแก่ประชาชนเกี่ยวกับการอยู่รอดในภาวะสงคราม นำกรณีรัสเซียใช้กำลังบุกยูเครนเป็นแนวทางในการกำหนดวิธีการที่ไต้หวันควรจะรับมือแรงกดดันจากจีนอย่างไร

สตรียูเครนเผยถูกทหารรัสเซียข่มขืน-ยิงสามีตาย

เคียฟ 12 เม.ย. – บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี เปิดเผยคำให้การครั้งแรกของสตรีชาวยูเครนและพบหลักฐานที่ชี้ว่า สตรีชาวยูเครนถูกทหารรัสเซียข่มขืนในขณะที่นำกำลังบุกโจมตียูเครน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัสเซียออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง บีบีซีรายงานว่า แอนนา (นามสมมติ) สตรีชาวยูเครน วัย 50 ปี ที่อาศัยอยู่ในย่านชนบทห่างจากกรุงเคียฟไปทางตะวันตกราว 70 กิโลเมตร ระบุว่า เธออยู่กับสามีในบ้านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่ทหารรัสเซียบุกรุกเข้ามาในบ้านของเธอ ทหารนายหนึ่งใช้ปืนจี้และพาเธอไปยังบ้านอีกหลังที่อยู่ใกล้กัน เขาสั่งให้เธอถอดเสื้อผ้าออก ไม่เช่นนั้นเขาจะยิงเธอ เขาขู่ฆ่าเธออยู่หลายครั้ง หากเธอไม่ทำที่เขาสั่ง และทหารนายนี้ก็เริ่มข่มขืนเธอในเวลาต่อมา แอนนาเผยว่า ผู้ที่ขืนใจเธอเป็นทหารของสาธารณรัฐเชเชน หรือเชชเนีย ที่เป็นพันธมิตรกับรัสเซียและเข้าร่วมในสงครามยูเครน อย่างไรก็ดี ขณะที่ทหารนายนี้กำลังข่มขืนเธอ มีทหารอีกสี่นายเข้ามาและจับตัวทหารที่ข่มขืนเธอออกไป เธอเชื่อว่าทหารรัสเซียอีกหน่วยได้เข้ามาช่วยเธอไว้ แอนนายังเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นโดยไม่หยุดร่ำไห้ว่า เธอกลับไปที่บ้านและพบว่าสามีถูกยิงที่ท้องหลังจากที่เขาพยายามวิ่งตามไปช่วยเธอจากการถูกข่มขืน เธอและสามีได้ไปหาที่ซ่อนตัวในบ้านของเพื่อนบ้าน ทำให้ไม่สามารถพาสามีไปรักษาในโรงพยาบาลได้ เนื่องจากเกิดการสู้รบดุเดือดจนกระทั่งสามีของเธอเสียชีวิตจากแผลถูกยิงในอีก 2 วันต่อมา ในขณะเดียวกัน ซิมา บาฮูส เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น กล่าวในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เมื่อวันจันทร์ว่า แม้ข้อกล่าวหาทั้งหมดของทหารรัสเซียจะต้องได้รับการสืบสวนอย่างอิสระเสียก่อน แต่ความโหดร้ายทารุณที่พลเรือนยูเครนต้องประสบนั้นอยู่ในระดับอันตรายแล้ว […]

“ไบเดน-โมดี” ถกจริงจังจุดยืนอินเดียต่อสงครามยูเครน

วอชิงตัน 12 เม.ย. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในยูเครนในการประชุมสุดยอดผู้นำแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ระหว่างสหรัฐกับอินเดียเมื่อวันจันทร์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่สหรัฐรู้สึกไม่พอใจที่อินเดียวางตัวเป็นกลางต่อการบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐเผยว่า การประชุมสุดยอดผู้นำเมื่อวานนี้ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง และดำเนินไปด้วยท่าทีที่อบอุ่น เป็นมิตร และสร้างสรรค์ แม้ประธานาธิบดีไบเดนไม่ได้เรียกร้องให้อินเดียทำตามความต้องการของสหรัฐ และไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญต่อการแสดงจุดยืนที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันจากสถานการณ์ขัดแย้งในยูเครนก็ตาม ทั้งยังระบุว่า สหรัฐได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่า สหรัฐได้สั่งห้ามนำเข้าน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินจากรัสเซีย แต่ประเทศอื่น ๆ ก็ต้องตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้มาตรการนี้เอง อย่างไรก็ดี สหรัฐคิดว่าอินเดียไม่ควรนำเข้าพลังงานจากรัสเซียเพิ่มขึ้นจากเดิม หากอินเดียมีปัญหาเรื่องพลังงาน สหรัฐก็พร้อมให้การสนับสนุนหรือหารือกับอินเดียเกี่ยวกับการกระจายความเสี่ยงของการนำเข้าพลังงาน ก่อนหน้านี้ อินเดียได้พยายามเดินทางสายกลางด้วยการรักษาความสัมพันธ์กับกลุ่มชาติตะวันตกและหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเหมือนกับอีกหลายประเทศ แต่อินเดียกลับทำให้สหรัฐรู้สึกวิตกกังวลมากขึ้นด้วยการสั่งซื้อน้ำมันจากรัสเซียต่อไป นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดนและนายกรัฐมนตรีโมดียังประสบความล้มเหลวในการออกแถลงการณ์ประณามรัสเซียร่วมกันในงานประชุมประเทศสมาชิกในกรอบความร่วมมือด้านความมั่นคง 4 ฝ่าย หรือควอด (Quad) ซึ่งประกอบด้วยสหรัฐ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอินเดีย เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียทำลายระบบต้านขีปนาวุธของยูเครนที่ได้จากยุโรป

มอสโก 11 เม.ย. – กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเผยวันนี้ว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธทำลายระบบต่อต้านขีปนาวุธแบบเอส-300 ที่ยูเครนได้รับมาจากประเทศในทวีปยุโรป แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นประเทศใด ทั้งยังระบุว่า มีทหารยูเครน 25 นายได้รับบาดเจ็บจากเหตุโจมตีดังกล่าว กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธร่อนคาลิบรา (Kalibr) เพื่อทำลายเครื่องยิงระบบต่อต้านขีปนาวุธแบบเอส-300 จำนวน 4 เครื่องที่ซ่อนอยู่ในโรงเก็บเครื่องบินในย่านชนบทของเมืองดนิโปร ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสี่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงเคียฟ ทั้งยังระบุว่า มีทหารยูเครน 25 นายได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมรัสเซียไม่ได้เปิดเผยว่าประเทศใดในทวีปยุโรปที่เป็นผู้ส่งระบบต่อต้านขีปนาวุธแบบเอส-300 ให้แก่ยูเครน ขณะที่สโลวะเกีย ซึ่งเคยบริจาคระบบต่อต้านขีปนาวุธดังกล่าวให้แก่ยูเครน ออกมาปฏิเสธเมื่อวันอาทิตย์ว่า ระบบต่อต้านขีปนาวุธที่รัสเซียทำลายไม่ใช่ระบบที่สโลวะเกียมอบให้แก่ยูเครน ทั้งยังระบุว่า รายงานดังกล่าวเป็นเพียงคำโกหกหลอกลวงของรัฐบาลรัสเซีย กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังระบุว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงเครื่องบินขับไล่ซู-25 (Su-25) ของยูเครนตก 2 ลำในพื้นที่ใกล้เมืองอิซูมในแคว้นคาร์คิฟ ทางตะวันออกของยูเครน และทำลายคลังแสงสรรพาวุธ 2 แห่งของยูเครนในพื้นที่ใกล้เมืองไมโคลาอีฟ ทางตอนใต้ของยูเครน. -สำนักข่าวไทย

“เซเลนสกี” ชี้สัปดาห์นี้เป็นช่วงสำคัญของสงครามยูเครน

เคียฟ 11 เม.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า สัปดาห์นี้เป็นช่วงสำคัญของการทำสงครามในยูเครน พร้อมทั้งเตือนว่า กองทัพรัสเซียจะเพิ่มกำลังครั้งใหญ่เพื่อบุกโจมตีภาคตะวันออกของยูเครน ขณะที่นายกรัฐมนตรีคาร์ล เนฮัมเมอร์ ของออสเตรีย จะเข้าพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ในวันนี้เพื่อเรียกร้องให้ยุติความขัดแย้งในยูเครน ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวคำปราศรัยผ่านวิดีโอว่า กองทัพรัสเซียจะเพิ่มกำลังทหารมากขึ้นในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน และอาจยิงขีปนาวุธหรือทิ้งระเบิดโจมตียูเครนมากขึ้นเช่นกัน แต่ยูเครนก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีเหล่านี้ไว้แล้ว ทั้งนี้ ผู้นำยูเครนมีกำหนดกล่าวคำปราศรัยต่อรัฐสภาของเกาหลีใต้ในวันนี้ผ่านระบบวิดีโอลิงก์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของกองทัพยูเครนเผยว่า กองทัพรัสเซียมีแนวโน้มที่จะขัดขวางระบบห่วงโซ่อุปทานและโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของยูเครน ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเนฮัมเมอร์มีกำหนดเข้าพบประธานาธิบดีปูตินที่กรุงมอสโกในวันนี้ และจะเรียกร้องให้ผู้นำรัสเซียยุติสถานการณ์ขัดแย้งในยูเครน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีปูตินได้พบกับผู้นำของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู แบบตัวต่อตัวนับตั้งแต่ที่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีเนฮัมเมอร์ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า แม้ออสเตรียวางตัวเป็นกลางทางทหาร แต่มีจุดยืนที่ชัดเจนต่อสงครามยูเครน สงครามในครั้งนี้ต้องยุติ และเปิดเส้นทางเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงการใช้ประกาศหยุดยิงและการเดินหน้าสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมสงคราม. -สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่น-รัสเซีย เปิดฉากเจรจาโควตาจับปลาแซลมอน

โตเกียว 11 เม.ย. – รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นจะเปิดฉากหารือกับรัสเซียในวันนี้เพื่อเจรจาเรื่องโควตาจับปลาแซลมอนและปลาเทราต์ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่นในปีนี้ หลังทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ลงจากวิกฤตการณ์ในยูเครน จนทำให้การเจรจาดังกล่าวที่จัดขึ้นทุกปีล่าช้ากว่ากำหนด สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ข้อตกลงที่มีอายุหลายสิบปีกำหนดให้ญี่ปุ่นกับรัสเซียต้องเจรจาเรื่องจำนวนปลาแซลมอนและปลาเทราต์เกิดในรัสเซียที่ญี่ปุ่นจะสามารถจับได้ในแต่ละปีภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น ปกติการเจรจาดังกล่าวมักมีขึ้นในเดือนมีนาคมและเสร็จสิ้นภายในวันที่ 10 เมษายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูตกปลา แต่ในปีนี้กลับไม่มีความแน่ชัดเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องนี้จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สำนักงานภายใต้กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ของญี่ปุ่น ระบุในแถลงการณ์ว่า ญี่ปุ่นกับรัสเซียจะเริ่มเจรจาเรื่องโควตาจับปลาแซลมอนและปลาเทราต์ในวันนี้ผ่านการประชุมแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดไม่เผยนามในอุตสาหกรรมประมงของญี่ปุ่นเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า เขาคาดว่าการเจรจาในปีนี้จะไม่ราบรื่นเหมือนทุกปี เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดของทั้งสองประเทศ ทั้งยังระบุว่า การเจรจาจะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ แต่ผลของการเจรจานั้นยากที่จะคาดเดาได้ ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้ประกาศถอนตัวจากการเจรจาสนธิสัญญาสันติภาพสงครามโลกครั้งที่ 2 กับญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคม เนื่องจากไม่พอใจที่ญี่ปุ่นประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียจากกรณียูเครน นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังเพิ่งประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมร่วมกับกลุ่มพันธมิตรชาติตะวันตกเมื่อวันศุกร์ และสั่งขับนักการทูตรัสเซียหลายคนพ้นประเทศ. -สำนักข่าวไทย

ยูเครนเตรียมรับมือการโจมตีครั้งใหญ่

ผู้แทนคณะเจรจายูเครน เผยยูเครนเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีครั้งใหญ่ทางตะวันออก ขณะที่กองทหารรัสเซียเพิ่มการโจมตีอย่างหนัก

1 126 127 128 129 130 278
...