“ไป่ ทาคน” ถูกศาลเมียนมาตัดสินจำคุก 3 ปี

ย่างกุ้ง 28 ธ.ค. – ไป่ ทาคน นักแสดงและนายแบบชื่อดังชาวเมียนมา ถูกศาลเมียนมาตัดสินจำคุก 3 ปีเมื่อวันจันทร์ โดยที่ก่อนหน้านี้เขามีชื่ออยู่ในบัญชีบุคคลมีชื่อเสียงที่สนับสนุนการประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยที่รัฐบาลทหารเมียนมาต้องการตัว ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของไป่ ทาคน เผยว่า ไป่ ทาคน ถูกศาลในนครย่างกุ้งตัดสินจำคุกและใช้แรงงานหนัก 3 ปี ครอบครัวของไป่ ทาคน รู้สึกเสียใจอย่างมากกับโทษที่เขาได้รับ และกำลังไตร่ตรองว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อไปหรือไม่ ก่อนหน้านี้ ไป่ ทาคน วัย 25 ปี ซึ่งมียอดผู้ติดตามในเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมสูงกว่า 1 ล้านคน ได้โพสต์ภาพเขาสวมชุดวอร์มสีขาว สวมหมวกนิรภัย ถือโทรโข่ง และอุ้มสุนัขขนปุยที่การประท้วงแห่งหนึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ พร้อมระบุข้อความใต้ภาพว่า ช่วยกันหยุดอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ไป่ ทาคน ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในเมียนมาและประเทศไทย ได้เข้าร่วมการประท้วงครั้งใหญ่เพื่อสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยในเมียนมาหลายครั้งนับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ รวมถึงการโพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลมีเดียที่มียอดผู้ติดตามจำนวนมาก ทั้งนี้ ไป่ ทาคน ถูกรัฐบาลทหารเมียนมาจับกุมตัวในระหว่างที่บุกตรวจค้นบ้านแม่ของเขาในนครย่างกุ้งเมื่อเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลทหารกำลังตามจับบุคคลมีชื่อเสียงกว่า 100 คนที่สนับสนุนการประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมา. -สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นเรียกร้องรัฐบาลทหารเมียนมาสอบเหตุสังหารหมู่

นิวยอร์ก 27 ธ.ค. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รู้สึกตกใจกับรายงานข่าวพบพลเรือนเมียนมากว่า 35 ศพถูกเผาเกรียมในเมียนมา และเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมาสืบสวนเรื่องดังกล่าว นายมาร์ติน กริฟฟิทส์ รองเลขาธิการยูเอ็นด้านมนุษยธรรม ระบุในแถลงการณ์ว่า เขาขอประณามผู้ก่อเหตุการณ์อันเลวร้ายในครั้งนี้และการโจมตีพลเรือนเมียนมาทั้งหมด พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมาเร่งสืบสวนเรื่องดังกล่าวอย่างละเอียดถี่ถ้วนและโปร่งใส ขณะที่เจ้าหน้าที่ 2 คนของเซฟเดอะชิลเดรน (Save the Children) ซึ่งเป็นมูลนิธิช่วยเหลือเด็ก ยังคงหายตัวไร้ร่องรอย หลังจากรถโดยสารของพวกเขาเป็นหนึ่งในยานพาหนะที่อยู่ในที่เกิดเหตุสังหารหมู่และเผาคนในวันคริสต์มาสอีฟที่รัฐกะยาทางตะวันออกของเมียนมา โดยที่กลุ่มเฝ้าระวังและสื่อท้องถิ่นของเมียนมากล่าวหาว่ารัฐบาลทหารเมียนมาเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้ เมียนมา วิตเนสส์ (Mynmar Witness) องค์กรเฝ้าระวังไม่แสวงหาผลกำไรที่ตรวจสอบเรื่องปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมา ได้ยืนยันกับสื่อท้องถิ่นและผู้เห็นเหตุการณ์ที่เป็นนักสู้ท้องถิ่นว่า พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย ในจำนวนนี้ มีเด็กและผู้หญิงที่ถูกเผาเกรียมจนเสียชีวิตโดยกองทัพเมียนมาในวันที่ 24 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันคริสต์มาสอีฟ ที่เมืองพะยูโซในรัฐกะยา ส่วนข้อมูลจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่จุดเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันศุกร์. -สำนักข่าวไทย

รบ.ทหารเมียนมาว่าไม่มีใครเหนือกฎหมายหลังจำคุก “ซู จี”

เนปิดอว์ 7 ธ.ค. – รัฐบาลทหารเมียนมาระบุวันนี้ว่า คำพิพากษาจำคุกนางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นเวลา 4 ปีแสดงให้เห็นว่าไม่มีผู้ใดอยู่เหนือกฎหมาย และพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ได้ลดโทษจำคุกดังกล่าวเหลือ 2 ปี เนื่องจากเหตุผลด้านมนุษยธรรม นายหม่อง หม่อง ออน รัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศของรัฐบาลทหารเมียนมา แถลงว่า ระบบตุลาการของเมียนมามีความยุติธรรม และการตัดสินจำคุกนางซู จี วัย 76 ปี เมื่อวันจันทร์ในคดียุยงปลุกปั่นและละเมิดมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ก็เป็นไปตามกฎหมายโดยที่ไม่มีผู้ใดอยู่เหนือกฎหมาย นอกจากนี้ เขายังแถลงร่วมกับรัฐมนตรีกระทรวงการลงทุนว่า สถานการณ์ในเมียนมาสงบเรียบร้อยดี ส่วนเหตุประท้วงเมื่อวันอาทิตย์เป็นผลมาจากแรงกดดันของกลุ่มต่อต้านรัฐประหารที่ทำให้เยาวชนรู้สึกไม่พอใจรัฐบาลทหาร ขณะที่การจัดการฝูงชนของเจ้าหน้าที่ บางครั้งก็เป็นไปโดยไม่ได้เจตนา ทั้งยังเผยว่า รัฐบาลทหารเมียนมากำลังเตรียมจัดการเลือกตั้งก่อนเดือนสิงหาคมปีหน้า แต่ไม่ยืนยันว่าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ของนางซู จี จะได้รับอนุญาตให้ลงสมัครเลือกตั้งหรือไม่ เนื่องจากคณะกรรมการเลือกตั้งกำลังดำเนินการสืบสวนพรรคดังกล่าว และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงต้นปีหน้า ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ข่าวเมียนมานาวรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า กองกำลังรักษาความปลอดภัยของกองทัพเมียนมาได้ขับรถบรรทุกพุ่งชนกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงฉับพลัน หรือแฟลชม็อบ ในนครย่างกุ้ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางพาณิชย์ของเมียนมา […]

รมว. ต่างประเทศเมียนมาเยือนกัมพูชาหารือ “ฮุน เซน”

พนมเปญ 7 ธ.ค. – นายวันนา หม่อง ลวิน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัฐบาลทหารเมียนมา เดินทางไปกัมพูชาเพื่อหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชาในวันนี้ หลังจากที่รัฐบาลทหารเมียนมาถูกทั่วโลกประณามเมื่อวานนี้จากคำตัดสินจำคุกนางออง ซาน ซู จี เป็นเวลา 4 ปีในคดียุยงปลุกปั่นและละเมิดมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ผู้ช่วยของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ระบุวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซน และนายหม่อง ลวิน ได้หารือร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ เช่น ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี ปัญหาเกี่ยวกับอาเซียน และหนทางในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศสมาชิกอาเซียน นอกจากนี้ นายหม่อง ลวิน ยังได้เชิญให้นายกรัฐมนตรีฮุน เซน เดินทางเยือนเมียนมาในวันที่ 7-8 มกราคมปีหน้า และผู้นำกัมพูชาได้ตอบรับคำเชิญดังกล่าว ซึ่งจะทำให้นายกรัฐมนตรีฮุน เซน กลายเป็นผู้นำรัฐบาลต่างชาติคนแรกที่เดินทางเยือนเมียนมานับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ขณะที่ภาพถ่ายที่ได้รับการเผยแพร่โดยรัฐบาลกัมพูชาแสดงให้เห็นว่า นายหม่อง ลวิน ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ที่อาคารวิมานสันติภาพในกรุงพนมเปญ โดยที่ทั้งสองได้ทักทายกันด้วยการใช้ศอกชนกันก่อนเปิดการหารือร่วมกัน ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีฮุน เซน […]

“ฮุน เซน” เผย รบ.ทหารเมียนมามีสิทธิร่วมประชุมอาเซียน

พนมเปญ 7 ธ.ค. – นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา ระบุเมื่อวันจันทร์ว่า เขาได้วางแผนเดินทางเยือนเมียนมาเพื่อหารือกับพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา และกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลทหารเมียนมาควรได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน นายกรัฐมนตรีฮุน เซน กล่าวในระหว่างพิธีเปิดโครงการก่อสร้างที่ได้รับเงินสนับสนุนจากจีนว่า เมื่อถึงเวลาที่กัมพูชาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอาเซียนในปีหน้า ตัวแทนของประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุม เมียนมาถือเป็นสมาชิกในครอบครัวอาเซียนและต้องมีสิทธิเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว นอกจากนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะเดินทางเยือนกรุงเนปิดอว์ของเมียนมาเพื่อเข้าพบพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย และทำงานร่วมกัน ทั้งยังกล่าวว่า หากเขาไม่ทำงานร่วมกับผู้นำเมียนมา แล้วจะต้องทำงานร่วมกับใคร และภายใต้กฎบัตรอาเซียน ประเทศสมาชิกไม่มีสิทธิขับไล่สมาชิกรายอื่น สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานวันนี้ว่า นายวันนา หม่อง ลวิน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัฐบาลทหารเมียนมา ได้เดินทางไปกัมพูชาเพื่อเปิดการหารือร่วมกันในวันนี้ หลังจากที่เมื่อวานนี้รัฐบาลทหารเมียนมาเพิ่งถูกทั่วโลกประณามจากคำตัดสินจำคุกนางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นเวลา 4 ปีในคดียุยงปลุกปั่นและละเมิดมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ขณะที่ภาพถ่ายที่ได้รับการเผยแพร่โดยรัฐบาลกัมพูชาแสดงให้เห็นว่า นายวันนา หม่อง ได้เข้าพบนายกรัฐนตรีฮุน เซน ที่อาคารวิมานสันติภาพในกรุงพนมเปญ โดยที่ทั้งสองได้ทักทายกันด้วยการใช้ศอกชนกันก่อนเปิดการหารือร่วมกัน สถานภาพของเมียนมาในฐานะสมาชิกของอาเซียนถูกจับตามาโดยตลอดนับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 […]

เผยกองทัพเมียนมาจับ จนท.การแพทย์ 18 คน

สื่อของทางการเมียนมารายงานวันนี้ว่า กองทัพเมียนมาได้จับกุมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ 18 คนที่รักษาผู้ป่วยที่เป็นสมาชิกขององค์กรก่อการร้าย ซึ่งเป็นคำเรียกกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารที่ถูกประกาศให้เป็นกลุ่มนอกกฎหมาย

รัฐบาลเงาเมียนมาเปิดขายพันธบัตรระดมทุนต้าน รบ.ทหาร

เนปิดอว์ 23 พ.ย.-รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติที่เป็นรัฐบาลเงาของเมียนมาและจัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา เผยวันนี้ว่า สามารถระดมเงินได้สูงถึง 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (208 ล้านบาท) ในวันแรกของการเปิดขายพันธบัตรเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เพื่อหาเงินทุนในการต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ซึ่งเกิดขึ้นจากการวมตัวกันของกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตย กองกำลังกลุ่มชาติพันธ์ในเมียนมา และกลุ่มรัฐบาลพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจ ระบุว่า ได้เปิดขายพันธบัตรมูลค่าหน่วยละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ (3,300 บาท) 500 ดอลลาร์สหรัฐ (16,500 บาท) 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (33,000 บาท) และ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (165,000 บาท) ให้แก่ชาวเมียนมาส่วนใหญ่ที่อยู่ในต่างประเทศเมื่อวันจันทร์ โดยมีอายุ 2 ปี แม้พันธบัตรดังกล่าวจะไม่มีดอกเบี้ยให้แก่ผู้ซื้อ แต่ก็ทำยอดขายได้สูงถึง 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (99 ล้านบาท) ภายใน 3 ชั่วโมงแรก และเพิ่มขึ้นเป็น 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปิดการขายในวันแรก ทั้งนี้ รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติตั้งเป้าระดมเงินทุนให้ได้ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (33,000 […]

“ซู จี” ถูกตั้งข้อหาทุจริตการเลือกตั้งปี 2563

เนปิดอว์ 16 พ.ย.-นางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจ ถูกรัฐบาลทหารเมียนมาตั้งข้อหาทุจริตการเลือกตั้งปี 2563 ซึ่งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ของนางซู จี ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลต์ของทางการเมียนมารายงานวันนี้ว่า นางซู จี ถูกตั้งข้อหาทุจริตการเลือกตั้งและการกระทำผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเริ่มพิจารณาคดีดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่อีก 15 คนที่ถูกตั้งข้อหาเดียวกัน ซึ่งรวมถึงอดีตประธานาธิบดีวิน มินต์ ของเมียนมาและประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขณะนี้ นางซู จี กำลังอยู่ในระหว่างเข้ารับการพิจารณาคดีฝ่าฝืนมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงหาเสียงก่อนถึงวันเลือกตั้ง อย่างไรก็ดี ผู้สังเกตการณ์ระดับนานาชาติหลายรายให้ความเห็นว่า การเลือกตั้งในปี 2563 ของเมียนมานั้นมีเสรีภาพและเป็นไปอย่างยุติธรรม ก่อนหน้านี้ นางซู จี วัย 76 ปี ซึ่งถูกควบคุมตัวนับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถูกตั้งข้อหาจำนวนมาก เช่น นำเข้าวิทยุสื่อสารวอล์คกีทอล์คกีโดยผิดกฎหมาย ปลุกระดมฝูงชนให้ต่อต้านรัฐบาล และทุจริตคอร์รัปชั่นที่อาจทำให้นางซู จี ต้องโทษจำคุกสูงสุดหลายสิบปีหากมีความผิดจริง. -สำนักข่าวไทย

รบ.ทหารเมียนมาปล่อยตัวนักข่าวชาวอเมริกันแล้ว

โดฮา 16 พ.ย.-นายแดนนี เฟนสเตอร์ นักข่าวชาวอเมริกันที่ถูกรัฐบาลทหารเมียนมาคุมตัวตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ระบุว่า เขามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี และมีความสุขที่จะได้กลับบ้าน หลังได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำอินเส่งในนครย่างกุ้งและขึ้นเครื่องบินไปยังกาตาร์เมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงของนายบิล ริชาร์ดสัน อดีตนักการทูตสหรัฐ กับรัฐบาลทหารเมียนมา นายเฟนสเตอร์ วัย 37 ปี ซึ่งเป็นบรรณาธิการบริหารของฟรอนเทียร์ เมียนมา สำนักข่าวอิสระชั้นนำ และเพิ่งถูกตัดสินจำคุก 11 ปีในข้อหายุยงปลุกปั่น ละเมิดกฎหมายคนเข้าเมือง และเข้าร่วมการชุมนุมผิดกฎหมายเมื่อ 3 วันก่อน เผยเมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติฮาหมัดในกรุงโดฮาของกาตาร์ว่า เขารู้สึกดีใจมากที่จะได้กลับบ้าน และรู้สึกขอบคุณนายริชาร์ดสันที่ช่วยเจรจาจนทำให้เขาได้รับการปล่อยตัว ทั้งยังตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องการกระทำทารุณในเรือนจำว่า เขาถูกจับกุมและคุมขังโดยไม่มีเหตุผล แต่ยังคงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี และไม่เคยถูกทำร้ายหรือถูกบังคับให้อดอาหารในเรือนจำ ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์เมียวดีของรัฐบาลทหารเมียนมาระบุเมื่อวันจันทร์ว่า นายเฟนสเตอร์ได้รับการปล่อยตัวภายใต้กฎหมายนิรโทษกรรมตามคำขอของนายริชาร์ดสันและผู้แทน 2 คนของญี่ปุ่น เพื่อรักษามิตรภาพระหว่างทั้งสองประเทศและเหตุผลด้านมนุษยธรรม ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐเผยว่า นายริชาร์ดสันไม่ได้ดำเนินการในนามรัฐบาลสหรัฐ แต่เจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับเขาอย่างสม่ำเสมอ. -สำนักข่าวไทย

ศาลเมียนมาตัดสินจำคุกนักข่าวอเมริกัน 11 ปี

ย่างกุ้ง 12 พ.ย. – ศาลเมียนมาตัดสินจำคุกนายแดนนี เฟนสเตอร์ นักข่าวชาวอเมริกันที่ถูกควบคุมตัวตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เป็นเวลา 11 ปีในวันนี้ ทนายความของนายเฟนสเตอร์ วัย 37 ปี ซึ่งเป็นอดีตบรรณาธิการบริหารของฟรอนเทียร์ เมียนมา สำนักข่าวอิสระชั้นนำ ยืนยันกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ศาลเมียนมาได้ตัดสินจำคุกนายเฟนสเตอร์เป็นเวลา 11 ปีจริง แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติม ขณะที่สำนักข่าวฟรอนเทียร์ เมียนมา ซึ่งเป็นนายจ้างของนายเฟนสเตอร์ ระบุว่า นายเฟนสเตอร์ถูกตัดสินจำคุก 11 ปีจากข้อหายุยงปลุกปั่น ละเมิดกฎหมายคนเข้าเมือง และมีส่วนร่วมในการกระทำผิดกฎหมาย ด้านนายโทมัส คีน บรรณาธิการบริหารของสำนักข่าวฟรอนเทียร์ เมียนมา คนปัจจุบัน กล่าวว่า ไม่มีหลักฐานใดที่พิสูจน์ว่านายเฟนสเตอร์มีความผิดและต้องรับโทษจากข้อกล่าวหาเหล่านี้ ทุกคนที่สำนักข่าวฟรอนเทียร์ เมียนมา รู้สึกผิดหวังและคับข้องใจกับคำตัดสินดังกล่าว และต้องการให้นายเฟนสเตอร์ได้รับการปล่อยตัวเพื่อกลับไปพบหน้าครอบครัวโดยเร็วที่สุด ก่อนหน้านี้ นายเฟนสเตอร์ถูกรัฐบาลทหารเมียนมาจับกุมตัวในขณะที่เขากำลังเดินทางออกจากเมียนมาในเดือนพฤษภาคมและถูกคุมขังที่เรือนจำอินเส่งในนครย่างกุ้งนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นอกจากนี้ เขายังถูกเพิ่มข้อหาร้ายแรงเมื่อไม่นานมานี้ ได้แก่ ข้อหาปลุกระดมฝูงชนให้ต่อต้านรัฐบาลและข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งอาจทำให้ได้รับโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปี ขณะที่สหรัฐได้พยายามเรียกร้องให้ทางการเมียนมาปล่อยตัวนายเฟนสเตอร์ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ.-สำนักข่าวไทย

รบ. ทหารเมียนมาตั้งข้อหาใหม่นักข่าวอเมริกันที่ถูกคุมตัว

ย่างกุ้ง 10 พ.ย. – ทนายความของนายแดนนี เฟนสเตอร์ นักข่าวชาวอเมริกันที่ถูกรัฐบาลทหารเมียนมาควบคุมตัวตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ระบุวันนี้ว่า นายเฟนสเตอร์ถูกตั้งข้อหาใหม่ ได้แก่ ข้อหาปลุกระดมฝูงชนให้ต่อต้านรัฐบาลและข้อหาก่อการร้าย หลังจากที่เขาโดนตั้งข้อหายุยงปลุกปั่นมาก่อนแล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นายเฟนสเตอร์ วัย 37 ปี เป็นอดีตบรรณาธิการบริหารของฟรอนเทียร์ เมียนมา เว็บไซต์ข่าวอิสระชั้นนำ และถูกรัฐบาลทหารเมียนมาควบคุมตัวที่ท่าอากาศยานนานาชาติในนครย่างกุ้งเมื่อเดือนพฤษภาคมในขณะที่เขากำลังขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับสหรัฐ ขณะนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่านายเฟนสเตอร์ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดใดที่เกี่ยวข้องกับข้อหาใหม่ดังกล่าว ซึ่งเป็นข้อหาร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่เขาถูกควบคุมตัว หากนายเฟนสเตอร์มีความผิดจริง เขาอาจถูกตัดสินจำคุกสูงสุด 20 ปีจากข้อหาก่อการร้าย และอีก 20 ปีจากข้อหาปลุกระดมฝูงชนให้ต่อต้านรัฐบาล ในขณะเดียวกัน ทนายความของนายเฟนสเตอร์เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ทุกคนไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลทหารเมียนมาจึงเพิ่มข้อหาใหม่ให้นายเฟนสเตอร์ แต่การทำเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่ ตอนนี้นายเฟนสเตอร์ ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำอินเส่งในนครย่างกุ้ง กำลังรู้สึกผิดหวังและเสียใจที่ถูกตั้งข้อหาเพิ่ม ด้านทางการสหรัฐได้พยายามกดดันให้รัฐบาลทหารเมียนมาปล่อยตัวนายเฟนสเตอร์มาแล้วหลายครั้ง แต่ยังคงไม่ประสบผลสำเร็จ.-สำนักข่าวไทย

ศาลเมียนมาจะตัดสินคดี “ซู จี” ละเมิดมาตรการโควิดเดือนหน้า

ย่างกุ้ง 9 พ.ย. – ศาลรัฐบาลทหารเมียนมาจะตัดสินในเดือนธันวาคมว่า นางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจการปกครอง มีความผิดฐานละเมิดข้อกำหนดเกี่ยวกับมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 หรือไม่ในระหว่างที่จัดการเลือกตั้งเมื่อปีก่อนที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย แหล่งข่าวใกล้ชิดไม่เผยนามระบุว่า นางซู จี ได้เดินทางไปขึ้นศาลในวันนี้เพื่อรับฟังการไต่สวนคดีครั้งล่าสุดในข้อหาละเมิดข้อกำหนดเกี่ยวกับมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในระหว่างจัดการเลือกตั้งเมื่อปีก่อน และจะให้ขึ้นให้การแก้ต่างในสัปดาห์หน้า ทั้งยังระบุว่า ศาลรัฐบาลทหารเมียนมามีกำหนดอ่านคำพิพากษาครั้งสุดท้ายในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ หากศาลตัดสินให้นางซู จี มีความผิดจริง จะต้องได้รับโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี นางซู จี วัย 76 ปี เริ่มขึ้นศาลมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนและถูกตั้งข้อหาจำนวนมาก เช่น ข้อหานำเข้าเครื่องรับส่งวิทยุสื่อสาร หรือวอล์คกี ทอล์คกี โดยผิดกฎหมาย และข้อหายุยงปลุกปั่น ขณะที่สื่อมวลชนถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าร่วมฟังการพิจารณคดีที่ศาลพิเศษในกรุงเนปิดอว์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่สร้างโดยกองทัพเมียนมา และรัฐบาลทหารเพิ่งสั่งห้ามทีมทนายของนางซู จี เปิดเผยข้อมูลเรื่องคดีกับผู้สื่อข่าว ก่อนหน้านี้ นายวิน เถียน อดีต ส.ส. พรรคเอ็นแอลดีและมือขวาคนสนิทของนางซู จี ถูกตัดสินจำคุก […]

1 2 3 4 5
...