“เผ่าภูมิ” ยันร่าง พ.ร.บ.Financial Hub เป็นไปตามมาตรฐาน

ทำเนียบ 22 ก.ค.-“เผ่าภูมิ” ยันร่าง พ.ร.บ.Financial Hub เป็นไปตามมาตรฐาน กำกับความเสี่ยงด้านการฟอกเงิน และการสนับเงินการก่อการร้าย เตรียมนำเสนอร่าง พ.ร.บ.เข้าสภา กลาง ส.ค.นี้ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวถึง ข้อกังวลของธนาคารแห่งประเทศไทย ต่อ ร่างพระราชบัญญัติศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน พ.ศ. …. หรือ ร่าง พ.ร.บ.Financial Hub ว่า จะกลายเป็นแหล่งฟอกเงินและเป็นแหล่งสนับสนุนการเงินแก่ก่อการร้าย ว่า เรื่องนี้ได้สร้างมาด้วยกัน ซึ่งในคณะกรรมการร่าง พ.ร.บ.Financial Hub มีส่วนประกอบทุกภาคส่วน ไม่ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และความเห็นธนาคารแห่งประเทศไทยส่งมา ได้มีการนำเข้าสู่ที่ประชุมครม. เป็นการพูดในภาพกว้างๆปกติ เช่น เรื่องของการฟอกเงินต่างๆ และเรื่องนี้ได้มีการหารือในที่ประชุมครม. ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการกำกับดูแลการป้องกันความเสี่ยงด้านกำกับดูแลความเสี่ยงด้านการฟอกเงินหรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (AML/CFT) นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกา ก็ได้มีการการแยกธุรกิจใน Financial […]

ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. Financial Hub

ทำเนียบฯ 15 ก.ค. – ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. Financial Hub ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการเงินของโลก หวังดึงเงินลงทุนจากแบงก์ต่างชาติ ให้บริการ ทั้งตลาดเงิน ตลาดทุน ประกันภัย นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน พ.ศ. ….. เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงินของโลก (Financial Hub) และดึงดูดผู้ประกอบธุรกิจทางการเงินจากต่างประเทศให้มาประกอบธุรกิจในประเทศไทย ช่วยพัฒนาระบบนิเวศของอุตสาหกรรมการเงิน สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตรวจพิจารณาการกำหนดแนวทางการจัดตั้ง Financial Hub ในเขตพื้นที่ที่กำหนดสำหรับการประกอบธุรกิจเป้าหมาย ได้แก่ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจบริการการชำระเงิน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อ และธุรกิจทางการเงินอื่นหรือธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องหรือสนับสนุนธุรกิจทางการเงินตามที่คณะกรรมการฯ ประกาศกำหนด โดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรี เพื่อให้บริการเฉพาะผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ (non-residents) เท่านั้น ยกเว้น 2 กรณี คือ 1) การให้บริการระหว่างผู้ประกอบธุรกิจเป้าหมายด้วยกันเอง […]

...