ยูเครนเรียกร้องสอบเหตุเชลยสงครามตายกว่า 50 คน

เคียฟ 30 ก.ค.- ยูเครนเรียกร้องสหประชาชาติหรือยูเอ็นและสภากาชาดสอบสวนเหตุยิงถล่มที่คุมขังในดินแดนทางตะวันออกของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครอง เป็นเหตุให้เชลยสงครามชาวยูเครนเสียชีวิตมากกว่า 50 คน กองเสนาธิการกองทัพยูเครนเรียกร้องให้ยูเอ็นและกาชาดสอบสวนโดยอ้างว่า รัสเซียโจมตีที่คุมขังนี้เพื่อปกปิดการปฏิบัติไม่ดีต่อเชลยสงคราม และขอให้เร่งดำเนินโดยเร็วเพราะทั้ง 2 องค์กรนี้ให้หลักประกันว่า เชลยสงครามจะถูกรัสเซียคุมขังอย่างปลอดภัย ด้านกาชาดแจ้งว่า กำลังหาทางเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้คือ การดูแลเชลยสงครามที่บาดเจ็บ และการจัดการศพเชลยสงครามที่เสียชีวิตอย่างสมเกียรติ เว็บไซต์บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงแห่งอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) ระบุว่า ยังไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น ณ ที่คุมขังในชุมชนโอเลนิฟกา ซึ่งถูกควบคุมโดยสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ที่แยกตัวจากยูเครน ว่ากันว่าเชลยสงครามในที่คุมขังนี้เป็นสมาชิกของกองพันอาซอฟ (Azov) ที่ถูกควบคุมตัวขณะปกป้องเมืองมารีอูปอล ทางตอนใต้ของยูเครนเมื่อเดือนพฤษภาคม และถูกรัสเซียตราหน้าว่าเป็นกลุ่มนาซีใหม่และอาชญากรสงคราม โฆษกสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์เผยว่า การโจมตีมุ่งเป้าไปยังที่คุมขังเชลยโดยตรง ยูเครนและรัสเซียต่างกล่าวโทษกันว่าเป็นฝ่ายก่อเหตุ ยูเครนอ้างว่า รัสเซียต้องการทำลายหลักฐานการทรมานและสังหารชาวยูเครน โดยประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนระบุว่า รัสเซียเจตนาก่ออาชญากรรมสงคราม ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า เป็นการโจมตีด้วยเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องผลิตในสหรัฐ ยูเครนจงใจยั่วยุ พร้อมกับเผยแพร่คลิปที่ไม่มีการพิสูจน์ยืนยัน เห็นซากเตียงนอนพังเสียหายและศพไหม้ดำหลังเกิดเหตุ.-สำนักข่าวไทย

“เซเลนสกี” ร้องขอกล่าวหารัสเซียหนุนก่อการร้าย

ผู้นำยูเครน รายงานเหตุขีปนาวุธถล่มอาคารเรือนจำ “โอเลนิฟกา” ไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีนักโทษเสียชีวิต 40 คน บาดเจ็บ 75 คน

เปิดศูนย์ประสานงานร่วมส่งออกธัญพืชยูเครน

ตุรกีทำพิธีเปิดศูนย์ประสานงานร่วมเพื่อติดตามกระบวนการส่งออกธัญพืชจากยูเครน หลังจากที่ยูเครนและรัสเซียบรรลุข้อตกลงเรื่องการส่งออกธัญพืชจากท่าเรือริมฝั่งทะเลดำ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

รัสเซียโหมโจมตีเคียฟและเชอร์นิฮิฟที่ทิ้งไปหลายเดือน

เคียฟ 28 ก.ค.- กองกำลังรัสเซียเปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ต่อแคว้นเคียฟและแคว้นเชอร์นิฮิฟของยูเครน หลังจากถอนกำลังออกจากสองแคว้นนี้เมื่อหลายเดือนก่อน ขณะที่กองกำลังยูเครนประกาศปฏิบัติการปลดแอกภูมิภาคทางใต้ที่ถูกรัสเซียยึดครอง ผู้ว่าการแคว้นเคียฟแจ้งผ่านเทเลแกรมว่า ชุมชนหนึ่งในเขตวิชโกรอดตกเป็นเป้าหมายโจมตีในเช้าวันนี้ และมีสิ่งปลูกสร้างแห่งหนึ่งเสียหาย แต่ยังไม่มีข้อมูลว่ามีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหรือไม่ ด้านผู้ว่าการแคว้นเชอร์นิฮิฟแจ้งในเวลาเดียวกันว่า มีจรวดหลายลูกถูกยิงมาจากดินแดนของเบลารุส ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของยูเครนที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือเผยว่า ถูกปืนใหญ่ถล่มเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เอพีระบุว่า รัสเซียถอนกำลังออกจากแคว้นเคียฟและแคว้นเชอร์นิฮิฟเมื่อหลายเดือนก่อน เนื่องจากไม่สามารถยึดได้ การกลับมาโจมตีครั้งใหม่มีขึ้นหลังจากกลุ่มแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียทางตะวันออกของยูเครนเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้กองกำลังรัสเซียปลดแอกเมืองเคียฟ เชอร์นิฮิฟ โปลตาวา โอเดสซา นีโปรเปตรอฟสก์ คาร์คิฟ ซาปอริชเชีย และลุตสก์ โดยอ้างว่าเป็นเมืองของรัสเซียที่ตั้งขึ้นโดยชาวรัสเซีย ขณะเดียวกันกองกำลังยูเครนเดินหน้าโต้กลับในแคว้นเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของประเทศที่ถูกรัสเซียยึดครอง ด้วยการทำลายสะพานหลักข้ามแม่น้ำนีโปร หวังโดดเดี่ยวกองกำลังรัสเซีย สื่อยูเครนอ้างที่ปรึกษาประธานาธิบดีว่า ปฏิบัติการปลดแอกเคอร์ซอนเริ่มขึ้นแล้ว รัสเซียมีทางเลือก 3 ทางคือ ล่าถอย ยอมแพ้ หรือถูกทำลาย ด้านกองทัพอังกฤษประเมินว่า การโต้กลับของยูเครนกำลังเห็นผล ยูเครนใช้ปืนใหญ่พิสัยไกลกระบอกใหม่ทำลายสะพานข้ามแม่น้ำนีโปรอย่างน้อย 3 แห่ง ซึ่งเป็นช่องทางหลักที่รัสเซียใช้ส่งกำลังบำรุงให้แก่กองกำลังยึดครองในแคว้นนี้.-สำนักข่าวไทย

เซเลนสกี เสนอขายไฟฟ้าให้สหภาพยุโรป

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แถลงทางโทรทัศน์เมื่อคืนนี้ว่า ยูเครนจะเพิ่มการขายกระแสไฟฟ้าให้กับสหภาพยุโรป

รัสเซียยึดโรงไฟฟ้าใหญ่ของยูเครน

เคียฟ 28 ก.ค.- ยูเครนเผยว่า กองกำลังรัสเซียได้เข้ายึดโรงไฟฟ้าใหญ่อันดับ 2 ของยูเครน และกำลังสับเปลี่ยนกำลังพลครั้งใหญ่ใน 3 แคว้นทางใต้ของยูเครน นายโอเล็กซี อาเรสโตวิช ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนยืนยันว่า กองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียยึดโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินสมัยสหภาพโซเวียตในแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครนตามที่รัสเซียกล่าวอ้างเมื่อวันพุธ แต่เป็นการได้เปรียบเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่การได้เปรียบอย่างสำคัญครั้งแรกในรอบกว่า 3 สัปดาห์ตามที่รัสเซียกล่าวอ้าง ส่วนเรื่องที่รัสเซียสับเปลี่ยนกำลังพลลงไปยังแคว้นเมลิโตปอล ซาปอริชเชีย และเคอร์ซอน ซึ่งเป็นพื้นที่ทางใต้ของยูเครน ดูเหมือนจะเป็นการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จากฝ่ายรุกไปเป็นฝ่ายรับ ก่อนหน้านี้นายโอเล็กซี ดานีลอฟ เลขาธิการสภากลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติของยูเครนทวีตเพียงสั้น ๆ ว่า รัสเซียกำลังระดมกำลังพลจำนวนสูงสุดมุ่งหน้าไปยังเคอร์ซอน ขณะเดียวกันกองกำลังยูเครนทางตอนใต้แจ้งว่า ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาสามารถสังหารทหารฝ่ายศัตรู 66 นาย ทำลายรถถัง 3 คัน และคลังอาวุธ 2 แห่ง นอกจากนี้ยังได้ยิงปืนใหญ่ถล่มสะพานข้ามแม่น้ำนีโปร เป็นการปิดทางเข้าออกแคว้นเคอร์ซอน ขณะที่รัสเซียแจ้งก่อนหน้านี้ว่า จะใช้สะพานลอยน้ำและเรือข้ามฟากลำเลียงกำลังพลข้ามแม่น้ำนีโปร.-สำนักข่าวไทย

ยูเครน แนะยุโรปโต้กลับ หลังรัสเซียลดส่งก๊าซธรรมชาติ

เคียฟ 26 ก.ค. – ยูเครนแนะให้ยุโรปใช้มาตรการตอบโต้รัสเซีย หลังก๊าซพรอม รัฐวิสาหกิจพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย ประกาศลดการส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังทวีปยุโรปผ่านท่อส่งนอร์ดสตรีมเหลือวันละ 33 ล้านลูกบาศก์เมตรตั้งแต่วันพุธเป็นต้นไป ซึ่งยูเครนมองว่าเป็นการเล่นสงครามก๊าซธรรมชาติ ก๊าซพรอมระบุว่า จะลดการส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังทวีปยุโรปผ่านท่อส่งนอร์ดสตรีมเหลือวันละ 33 ล้านลูกบาศก์เมตรตั้งแต่วันพุธเป็นต้นไป ซึ่งคิดเป็นเพียงร้อยละ 20 ของขีดความสามารถของท่อส่งก๊าซ เนื่องจากเหตุขัดข้องทางเทคนิคเกี่ยวกับระบบกังหันสูบก๊าซ ขณะที่ซีเมนส์ เอนเนอร์จี บริษัทด้านพลังงานของเยอรมนี ระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัทไม่พบความเชื่อมโยงของการลดกำลังส่งออกก๊าซธรรมชาติของก๊าซพรอมกับเหตุขัดข้องทางเทคนิคของระบบกังหันสูบก๊าซ ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวของก๊าซพรอมมีขึ้นในวันเดียวกับที่ยูเครนเผยว่าได้รับเครื่องยิงต่อต้านอากาศยาน ‘เกพาร์ด’ จำนวน 15 เครื่อง และกระสุนจำนวนมากจากเยอรมนี ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุผ่านคลิปวิดีโอว่า การลดกำลังส่งออกก๊าซธรรมชาติของก๊าซพรอมแสดงให้เห็นว่า ยุโรปควรใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเพื่อตอบโต้รัสเซีย เพราะรัสเซียจงใจเล่นสงครามก๊าซธรรมชาติกับยุโรป โดยไม่สนใจว่าการตัดสินใจเช่นนั้นจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก เขามองว่าการกระทำนี้เป็นรูปแบบหนึ่งของการก่อการร้าย และแนะว่ายุโรปจำเป็นต้องใช้มาตรการตอบโต้รัสเซียมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

สงครามยูเครน : ข้อตกลงธัญพืชส่อเค้าล่ม เมื่อโอเดสซาถูกโจมตี

หลังจากที่ทั่วโลกเพิ่งโล่งใจกันได้ เมื่อรัสเซียและยูเครนทำข้อตกลงเปิดทางส่งออกสินค้าธัญพืชที่จะช่วยแก้วิกฤติอาหารทั่วโลก แต่หลังจากนั้นไม่นาน เมืองท่าสำคัญของยูเครนกลับถูกโจมตี จนเกรงว่าข้อตกลงนี้จะต้องล่มไปหรือไม่

ยูเครนเดินหน้าเปิดท่าเรือในทะเลดำแม้ถูกรัสเซียโจมตี

เคียฟ 25 ก.ค. – ยูเครนเร่งเดินหน้าความพยายามฟื้นการส่งออกธัญพืชที่ท่าเรือในทะเลดำอีกครั้ง โดยระบุว่าได้รับผลกระทบจากการที่รัสเซียยิงจรวดโจมตีท่าเรือเมืองโอเดสซาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่รัสเซียแย้งว่าการโจมตีดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบ นายโอเล็กซานเดอร์ คูบราคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน เผยผ่านเฟซบุ๊กว่า ยูเครนกำลังเตรียมการด้านเทคนิคเพื่อกลับมาส่งออกสินค้าเกษตรจากท่าเรือในทะเลดำอีกครั้ง ขณะที่กองทัพยูเครนระบุว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธคาลิเบอร์ (Kalibr) จำนวน 2 ลูกถล่มปั๊มน้ำมันที่ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือของยูเครน และกองกำลังป้องกันยูเครนสามารถยิงสกัดขีปนาวุธดังกล่าว 2 ลูก ส่วนนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย เผยว่า รัสเซียได้ตั้งเป้ายิงขีปนาวุธถล่มระบบโครงสร้างพื้นฐานของกองทัพยูเครนเมื่อวันเสาร์ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังรัสเซียกับยูเครนได้ลงนามในข้อตกลงเปิดทางให้ยูเครนกลับมาส่งออกธัญพืชที่ท่าเรือในทะเลดำอีกครั้งเพื่อบรรเทาภาวะขาดแคลนอาหารทั่วโลก แต่เขายืนยันว่าการโจมตีดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการส่งออกธัญพืชของยูเครน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้ประณามการโจมตีท่าเรือในเมืองโอเดสซาเมื่อวันเสาร์ของรัสเซียว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน และแสดงให้เห็นว่ายูเครนเชื่อใจรัฐบาลรัสเซียไม่ได้ ทั้งที่ทั้งสองประเทศเพิ่งทำข้อตกลงเปิดท่าเรือในทะเลดำโดยมีตุรกีกับองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เป็นตัวกลาง ในขณะเดียวกัน กองทัพยูเครนเผยในขณะที่สงครามยูเครนยืดเยื้อเข้าสู่เดือนที่หกว่า กองทัพรัสเซียยังคงยิงปืนใหญ่โจมตีพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนตลอดคืนวันอาทิตย์ และได้วางแผนโจมตีเพื่อยึดเมืองบักมุตในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรมสำคัญของยูเครน ส่วนทำเนียบประธานาธิบดียูเครนระบุว่า มีประชาชน 3 คนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของศูนย์วัฒนธรรมในเมืองชูกูเยฟที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับสองทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน และมีผู้บาดเจ็บ 1 คน. -สำนักข่าวไทย

รัสเซียยืนยันทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารท่าเรือยูเครน

กระทรวงต่างประเทศรัสเซียยืนยันวันนี้ว่า ขีปนาวุธของรัสเซียได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารในการโจมตีท่าเรือเมืองโอเดสซาของยูเครนเมื่อวันเสาร์

ยูเครนเดินหน้าฟื้นส่งออกธัญพืชแม้ถูกขีปนาวุธถล่มท่าเรือ

เคียฟ 24 ก.ค.- ยูเครนเดินหน้าฟื้นการส่งออกธัญพืชที่ท่าเรือเมืองโอเดสซาและท่าเรือริมทะเลดำแห่งอื่น ๆ หลังจากท่าเรือที่เมืองโอเดสซาถูกขีปนาวุธยิงถล่มเมื่อวันเสาร์ ด้านรัสเซียแจ้งผ่านตุรกีว่าไม่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนประณามการยิงขีปนาวุธดังกล่าวว่า เป็นความป่าเถื่อนอย่างชัดแจ้งที่แสดงให้เห็นว่า ไม่สามารถเชื่อใจรัสเซียได้ว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงรับประกันความปลอดภัยให้แก่การขนส่งธัญพืชที่ท่าเรือของยูเครน อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนเผยว่า การเตรียมการเพื่อฟื้นการส่งออกธัญพืชยังคงเดินหน้าต่อไป ขณะที่สถานีแพร่ภาพกระจายเสียงแห่งชาติของยูเครน (Suspilne) รายงานอ้างกองทัพยูเครนว่า พื้นที่เก็บธัญพืชที่ท่าเรือไม่ได้รับความเสียหายจากขีปนาวุธ ด้านผู้ว่าการแคว้นโอเดสซาแจ้งว่า มีผู้บาดเจ็บและโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือเสียหาย กองทัพยูเครนเผยแพร่คลิปนักดับเพลิงพยายามดับไฟบนเรือลำหนึ่งที่จอดข้างเรือลากจูงที่ท่าเรือในเมืองโอเดสซา โดยระบุว่าขีปนาวุธคาลิเบอร์ (Kalibr) 2 ลูกของรัสเซียยิงถูกสถานีบริการน้ำมันที่ท่าเรือแห่งนี้ และอีก 2 ลูกถูกกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนยิงสกัดไว้ได้ ด้านกระทรวงกลาโหมตุรกีเผยว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รัสเซียไม่เกี่ยวข้องกับการยิงขีปนาวุธดังกล่าว ตุรกีและสหประชาชาติเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยให้รัสเซียและยูเครนลงนามข้อตกลงรับประกันความปลอดภัยให้แก่การขนส่งธัญพืชที่ท่าเรือของยูเครนเมื่อวันศุกร์ หวังช่วยควบคุมราคาอาหารโลกที่พุ่งขึ้นพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ย่างเข้าสู่เดือนที่ 6 แล้วในวันนี้ และไม่มีท่าทีว่าจะบรรเทาลง เจ้าหน้าที่ยูเครนคาดว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยให้การส่งออกธัญพืชที่ท่าเรือ 3 แห่งของยูเครนกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดสงครามที่เดือนละ 5 ล้านตัน.-สำนักข่าวไทย

ตัวแทนสภาระดับสูงของสหรัฐเยือนยูเครน

เคียฟ 24 ก.ค.- คณะผู้แทนสมาชิกรัฐสภาระดับสูงของสหรัฐเข้าพบประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนที่กรุงเคียฟเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น และรับปากจะหาทางสร้างความมั่นใจว่าสหรัฐจะให้การสนับสนุนยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซียต่อไป คณะผู้แทนชุดนี้ซึ่งเป็นคณะผู้แทนระดับสูงล่าสุดของสหรัฐที่ไปเยือนยูเครนออกแถลงการณ์ว่า สหรัฐพร้อมด้วยพันธมิตรและหุ้นส่วนทั่วโลกยืนเคียงข้างยูเครนด้วยการจัดสรรความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ การทหาร และมนุษยธรรม ทางคณะผู้แทนจะหาทางสนับสนุนประธานาธิบดีเซเลนสกีและประชาชนชาวยูเครนอย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่สามารถทำได้ เพื่อให้พวกเขาได้ต่อสู้อย่างกล้าหาญต่อไป แถลงการณ์ไม่ได้ระบุเรื่องการจัดส่งอาวุธให้แก่ยูเครน หลังจาก พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐกล่าวเมื่อวันพุธว่า สหรัฐจะจัดส่งเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง (MLRS) ให้แก่ยูเครนอีก 4 เครื่อง และจะทำให้จัดสรรรวมเป็น 16 เครื่องแล้วจนถึงขณะนี้ อย่างไรก็ดี สถานีวิทยุเรดิโอฟรียุโรป/เรดิโอลิเบอร์ตีรายงานอ้าง สส.อดัม สมิธ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการทหารที่รวมอยู่ในคณะผู้แทนที่ไปเยือนยูเครนล่าสุดว่า สหรัฐและพันธมิตรพร้อมจัดส่งเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องให้แก่ยูเครนเพิ่มเติมอีก.-สำนักข่าวไทย

1 76 77 78 79 80 163
...