เตือนอันตรายร้ายแรงหลังโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครนถูกถล่ม

เวียนนา 7 ส.ค.- ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอ (IAEA) เรียกร้องให้ยุติปฏิบัติการทางทหารใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียในยูเครนโดยทันที เพราะมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ หลังจากมีข่าวว่าถูกระดมยิงถล่ม นายราฟาเอล มารีอาโน ผู้อำนวยการไอเออีเอเผยว่า มีความกังวลอย่างยิ่งตามที่ข่าวว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดในยุโรปแห่งนี้ถูกระดมยิงถล่มเมื่อวันศุกร์ เพราะมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ที่เป็นอันตรายต่อสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมทั้งในและนอกยูเครน การยิงอาวุธมุ่งเป้าหมายไปยังโรงไฟฟ้าหรือยิงออกมาจากโรงไฟฟ้าเป็นการเล่นกับไฟที่อาจทำให้เกิดผลหายนะตามมา บุคลากรยูเครนที่โรงไฟฟ้าจะต้องสามารถปฏิบัติหน้าที่สำคัญโดยปราศจากการข่มขู่หรือกดดัน ทุกฝ่ายจะต้องวางความขัดแย้งแล้วดำเนินการโดยทันที เพื่อปกป้องคนในยูเครนและประเทศอื่น ๆ ไอเออีเอพร้อมจะเข้าไปให้การช่วยเหลือทางเทคนิค เอเนอร์ฮัวอาตอม วิสาหกิจของยูเครนที่บริหารโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้ง 4 แห่งในยูเครน รวมถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียแจ้งผ่านเทเลแกรมว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธจนทำให้ต้องปิดหน่วยผลิตไฟฟ้า 1 แห่ง เพราะเป็นอันตรายต่อการเดินเครื่อง และเสี่ยงมีกัมตภาพรังสีรั่วไหล ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนประณามการยิงถล่มที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ว่า เป็นอาชญากรรมที่ไร้ความละอาย และเป็นการก่อการร้าย ขณะที่กระทรวงกลาโหมอังกฤษระบุว่า รัสเซียใช้พื้นที่ของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ในเมืองเอเนอร์โฮดาร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน เป็นพื้นที่เปิดฉากโจมตี เพราะต้องการนำสถานะความเป็นสถานที่ที่ต้องได้รับการปกป้องมาฉวยโอกาสลดการถูกโจมตีกลางดึกจากฝั่งยูเครน ด้านรัสเซียที่ยึดโรงไฟฟ้าแห่งนี้ตั้งแต่เดือนมีนาคมโดยที่ยังให้บุคลากรยูเครนปฏิบัติงานอยู่ปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นฝ่ายโจมตี.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียอ้างทำลายอาวุธยูเครนจำนวนมาก

กองทัพรัสเซียอ้างทำลายฐานยิงปืนใหญ่ในเขตซาโปรอสเย ทางตะวันออกของยูเครน รวมถึงทำลายอาวุธ โดรน และเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง เป็นจำนวนมาก

เรือขนข้าวโพด 3 ลำจ่อออกจากท่าเรือยูเครนวันนี้

อิสตันบูล 5 ส.ค.-เรือสินค้า 3 ลำที่บรรทุกข้าวโพดหนักกว่า 58,000 ตันจะออกเดินทางจากท่าเรือ 2 แห่งของยูเครนในวันนี้ ภายใต้ข้อตกลงปลดล็อกการส่งออกธัญพืชระหว่างรัสเซีย ยูเครน ตุรกี และองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ศูนย์ประสานงานร่วมในเมืองอิสตันบูลของตุรกี ซึ่งจัดตั้งขึ้นภายใต้ข้อตกลงร่วมกันระหว่างรัสเซีย ยูเครน ตุรกี และยูเอ็น เผยว่า วันนี้จะมีเรือบรรทุกข้าวโพด 2 ลำออกจากท่าเรือในเมืองชอร์โนมอร์สค์ และเรือบรรทุกข้าวโพด 1 ลำออกจากท่าเรือในเมืองโอเดสซา โดยจะออกเดินทางในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาในยูเครน ทั้งยังระบุว่า เรือ ‘โพลาร์เน็ต’ (Polarnet) บรรทุกข้าวโพดหนัก 12,000 ตัน จะออกจากท่าเรือในเมืองชอร์โนมอร์สค์ไปยังเมืองการาซูของตุรกี ส่วนเรือ ‘โรเจน’ (Rojen) บรรทุกข้าวโพดหนัก 13,041 ตัน จะออกเดินทางจากเมืองเดียวกันไปยังท่าเรือทีสปอร์ตของอังกฤษ ด้านเรือ ‘นาวิสตาร์’ (Navistar) บรรทุกข้าวโพดหนัก 33,000 ตัน จะออกเดินทางจากท่าเรือในเมืองโอเดสซาไปยังเมืองริงกาสกิดดีของไอร์แลนด์ ในขณะเดียวกัน ทางการท้องถิ่นของเมืองโอเดสซา ระบุว่า เรือบรรทุกสินค้าเทกอง ‘ออสปรีย์ เอส’ […]

“เซเลนสกี” ขอคุยตรงกับ “สี” ให้ช่วยยุติสงคราม

ฮ่องกง 4 ส.ค.- ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนต้องการสนทนาโดยตรงกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เพื่อขอให้ช่วยยุติสงครามกับรัสเซียที่ดำเนินมาตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีเซเลนสกีให้สัมภาษณ์พิเศษหนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ในฮ่องกงผ่านแอปพลิเคชันซูมเป็นเวลา 40 นาที ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์สื่อเอเชียเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดสงครามว่า จีนเป็นประเทศที่ทรงอิทธิพลมาก สามารถมีอิทธิพลทางการเมืองและทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย นอกจากนี้จีนยังเป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วย เขาจึงอยากสนทนาโดยตรงกับประธานาธิบดีสี หลังจากที่เคยสนทนากัน 1 ครั้งเมื่อหนึ่งปีก่อน เพราะยูเครนได้แจ้งอย่างเป็นทางการกับจีนแล้วตั้งแต่รัสเซียเริ่มการรุกรานครั้งใหญ่ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่ยังไม่มีโอกาสจนถึงขณะนี้ทั้งที่น่าจะเป็นประโยชน์ ผู้นำยูเครนกล่าวว่า ประธานาธิบดีสีเป็นผู้นำเพียงไม่กี่คนที่เคยเยือนยูเครนอย่างน้อย 1 ครั้ง เขาเข้าใจดีว่า จีนต้องการคงความเป็นกลางต่อสงคราม แต่ขอย้ำว่าสงครามนี้เกิดขึ้นจากการที่รัสเซียรุกรานดินแดนของยูเครนทั้งที่ยูเครนไม่ได้ยั่วยุ จึงอยากให้จีนเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อรัสเซีย เขาเชื่อว่า จีนและยูเครนมีค่านิยมร่วมกัน เช่น การรักครอบครัวและลูกหลาน เขามั่นใจว่า จีนสามารถใช้อิทธิพลทางเศรษฐกิจกดดันให้รัสเซียยุติสงครามได้ เพราะหากจีนจำกัดการค้ากับรัสเซีย รัสเซียก็จะถูกโดดเดี่ยว พร้อมกับย้ำเรื่องสงครามส่งผลระยะยาวต่อความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานโลก ซึ่งจะกระทบต่อสินค้าส่งออกของจีนอย่างแน่นอน เพราะประเทศต่าง ๆ ต้องนำเงินไปจ่ายค่าอาหารและพลังงานที่แพงขึ้น ยูเครนและจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 30 ปีเมื่อปีที่แล้ว ข้อมูลของสถานทูตยูเครนในจีนระบุว่า จีนเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของยูเครนเมื่อปี 2564 โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันเกือบ 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 685,520 ล้านบาท).-สำนักข่าวไทย

เตือนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครนไร้การควบคุมจนเป็นอันตราย

สหประชาชาติ 3 ส.ค.- ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอ (IAEA) เตือนว่า ขณะนี้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยูเครนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปอยู่ในสภาพไร้การควบคุมอย่างสิ้นเชิงจนเป็นอันตราย ขอให้ทั้งยูเครนและรัสเซียเปิดทางให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปดูแล นายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการไอเออีเอให้สัมภาษณ์เอพีว่า สถานการณ์ที่โรงไฟฟ้าซาปอริชเชีย ในเมืองเอเนอร์โฮดาร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนอันตรายมากขึ้นทุกวัน เพราะมีการละเมิดหลักการความปลอดภัยนิวเคลียร์ทุกหลักการ เป็นเรื่องร้ายแรงมากและอันตรายอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่กำลังมีการสู้รบอยู่ด้วย นายกรอสซีระบุว่า โครงสร้างของโรงไฟฟ้าไม่ได้รับการปกป้อง เพราะถูกระดมยิงปืนใหญ่ตั้งแต่ต้น ขณะที่สถานการณ์ในโรงไฟฟ้าก็ขัดแย้งกัน เพราะรัสเซียเป็นฝ่ายยึดครอง แต่เจ้าหน้าที่ยูเครนเป็นฝ่ายเดินเครื่อง ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดความขัดแย้ง ไอเออีเอต้องการเข้าไปตรวจสอบเพื่อสร้างความมั่นใจว่า วัสดุนิวเคลียร์ภายในโรงไฟฟ้าได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย รัสเซียยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้เมื่อต้นเดือนมีนาคม หลังจากเปิดฉากรุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จุดกระแสวิตกว่าจะเกิดอุบัติเหตุนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ เช่นเดียวกับอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลปี 2529 ที่อยู่เหนือกรุงเคียฟขึ้นไป 110 กิโลเมตร รัสเซียยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้เช่นกัน แต่ได้ส่งคืนให้ยูเครนช่วงสิ้นเดือนมีนาคม ผู้อำนวยการไอเออีเอแจ้งหลังจากไปตรวจเยี่ยมเมื่อปลายเดือนเมษายนว่า ระดับความปลอดภัยถึงขั้นอันตราย แต่เผยล่าสุดว่า ภารกิจความช่วยเหลือที่ไอเออีเอดำเนินการที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลในเวลานั้นประสบความสำเร็จด้วยดีจนถึงขณะนี้ จึงอยากดำเนินการลักษณะเดียวกันกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียว่าสหรัฐมีส่วนในสงครามยูเครนโดยตรง

มอสโก 3 ส.ค. – รัสเซียกล่าวหาว่า สหรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในสงครามยูเครน และต้องมีส่วนรับผิดชอบจากการยิงจรวดของยูเครนที่ทำลายย่านที่พักอาศัยและบ้านเรือนประชาชนจำนวนมากในหลายพื้นที่ของภูมิภาคดอนบาสและพื้นที่อื่น ๆ จนทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารว่า บทสัมภาษณ์ของนายวาดิม สกิบิตสกี รองหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของยูเครน ในหนังสือพิมพ์เทเลกราฟของอังกฤษแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลสหรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน แม้สหรัฐยืนยันว่าได้จำกัดความช่วยเหลือในการส่งอาวุธให้ยูเครนแล้วก็ตาม รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต้องมีส่วนรับผิดชอบจากการยิงจรวดของยูเครนที่ทำลายย่านที่พักอาศัยและบ้านเรือนประชาชนจำนวนมากในหลายพื้นที่ของภูมิภาคดอนบาสและพื้นที่อื่น ๆ จนทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดี ทำเนียบขาวสหรัฐและกระทรวงกลาโหมสหรัฐยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อกล่าวหาดังกล่าวของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐได้ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างของรัสเซียที่ว่า รัสเซียได้ทำลายระบบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรสูง (HIMARS) ที่สหรัฐผลิตขึ้นและส่งมอบให้ยูเครน จำนวน 6 เครื่อง ว่าไม่เป็นความจริง ก่อนหน้านี้ นายสกิบิตสกีเผยกับหนังสือพิมพ์เทเลกราฟว่า เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของยูเครนได้ปรึกษาหารือกับสหรัฐก่อนที่จะยิงจรวดโจมตีรัสเซีย นอกจากนี้ สหรัฐยังมีอำนาจยับยั้งการโจมตีเป้าหมายต่าง ๆ แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตีเป้าหมายโดยตรงให้แก่ยูเครน.-สำนักข่าวไทย

ตุรกีคาดมีเรือบรรทุกสินค้าออกจากยูเครนได้ทุกวัน

อิสตันบูล 2 ส.ค. – ตุรกีคาดหวังว่าเรือบรรทุกสินค้าธัญพืชจะออกจากท่าเรือยูเครนได้วันละ 1 ลำ ภายใต้ข้อตกลงเดินเรือที่ทำร่วมกันระหว่างรัสเซีย ยูเครน ตุรกี และองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น หลังเรือลำแรกได้ออกจากท่าเรือในเมืองโอเดสซาของยูเครนอย่างปลอดภัยเมื่อวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงไม่เผยนามของตุรกีเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ตุรกีหวังว่าเรือบรรทุกสินค้าธัญพืชจะออกจากท่าเรือของยูเครนได้ทุกวัน หากไม่มีอะไรผิดพลาด ยูเครนจะส่งออกสินค้าผ่านทางเรือได้วันละ 1 ลำ ต่อไปได้เป็นเวลาช่วงหนึ่งจากท่าเรือในเมืองโอเดสซาและอีก 2 ท่าเรือของยูเครนภายใต้ข้อตกลงที่รัสเซีย ยูเครน ตุรกี และยูเอ็น ทำร่วมกัน ทั้งยังระบุว่า เรือบรรทุกสินค้า ‘ราโซนี’ (Razoni) ที่ออกจากท่าเรือยูเครนเมื่อวันจันทร์ ออกเดินทางล่าช้ากว่ากำหนดหลายวัน เนื่องจากปัญหาขัดข้องทางเทคนิค ขณะที่กระทรวงกลาโหมของตุรกี เผยว่า เรือราโซนีจะเดินทางถึงชายฝั่งตุรกีในช่วงเช้ามืดวันพุธ และจะได้รับการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ของรัสเซีย ตุรกี ยูเครน และยูเอ็น ข้อมูลจากรีฟินิทีฟ ไอคอน (Refinitiv Eikon) ฐานข้อมูลด้านการเงินระดับโลก ระบุว่า เรือราโซนี ซึ่งบรรทุกข้าวโพด 26,527 ตันไปยังเลบานอน กำลังเดินทางอยู่ในน่านน้ำทางตะวันตกของทะเลดำ นอกดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำดานูบของโรมาเนียเมื่อเวลา 07.14 น. ของวันนี้ตามเวลามาตรฐานกรีนิช […]

รมต.จาก สหรัฐ รัสเซีย จีน ร่วมเวทีอาเซียนที่กัมพูชา

พนมเปญ 2 ส.ค.-รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ รัสเซีย และจีน เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ที่กรุงพนมเปญของกัมพูชาในสัปดาห์นี้ ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับรัสเซียและจีนตึงเครียด การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 55 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม-6 สิงหาคม นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีสหรัฐจะได้ร่วมเวทีเดียวกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าทั้งคู่จะพบหารือกันหรือไม่ หลังจากที่ไปร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือจี 20 (G20) ที่บาหลีของอินโดนีเซียเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมและไม่ได้พบหารือกัน อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้โทรศัพท์สนทนากับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดสงครามยูเครน โดยได้เรียกร้องให้รัสเซียยอมรับข้อเสนอของสหรัฐเรื่องปล่อยตัวนักบาสเกตบอลและนักธุรกิจชาวอเมริกันกับพ่อค้าอาวุธชาวรัสเซีย ขณะเดียวกันนายบลิงเคนยังจะได้ร่วมเวทีเดียวกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนในช่วงที่ความสัมพันธ์ของสองประเทศตึงเครียดล่าสุดจากเรื่องนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอาจจะเยือนไต้หวันระหว่างการตระเวนเยือนเอเชียในสัปดาห์นี้  ซูซานนาห์ แพตตัน ผู้อำนวยการโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สถาบันโลวีของออสเตรเลียมองว่า สงครามรัสเซียรุกรานยูเครนและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับราคาอาหารและพลังงานโลก รวมถึงความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีนเป็นเรื่องกังวลหลักของ 10 ชาติสมาชิกอาเซียน การประชุมครั้งนี้รัฐมนตรีต่างประเทศในภูมิภาคนี้ได้พบหน้ากันโดยตรงเป็นครั้งแรกนับจากปี 2562 จึงเป็นโอกาสสำคัญที่สหรัฐ จีน และรัสเซียจะได้แสดงออกว่า สนับสนุนอาเซียนและยึดมั่นต่อความมั่นคงและความรุ่งเรืองของภูมิภาคนี้.-สำนักข่าวไทย

ไต้หวันเตรียมสถานที่หลบภัยทางอากาศ

ไทเป 2 ส.ค.- ไต้หวันกำลังเตรียมสถานที่สำหรับหลบภัยการโจมตีทางอากาศ เนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียดกับจีนเพิ่มมากขึ้น และกังวลว่าจะถูกจีนโจมตีแบบเดียวกับที่รัสเซียรุกรานยูเครน ไต้หวันกำหนดสถานที่ที่ประชาชนสามารถเข้าไปหลบภัยในกรณีที่จีนเริ่มยิงขีปนาวุธเข้ามา ด้วยการใช้สถานที่ใต้ดินที่มีอยู่แล้ว เช่น ลานจอดรถชั้นใต้ดิน สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ศูนย์การค้าใต้ดิน เฉพาะกรุงไทเปมีสถานที่เช่นนี้มากกว่า 4,600 แห่ง รองรับคนได้ราว 12 ล้านคน หรือมากกว่าจำนวนประชากรในไทเป 4 เท่า ทางการไทเปได้ปรับปรุงฐานข้อมูลเรื่องที่หลบภัยทางอากาศ โดยนำไปใส่ไว้ในแอปพลิเคชันสมาร์ทโฟน ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์และโปสเตอร์ เพื่อให้ประชาชนทราบที่หลบภัยที่ใกล้ที่สุด และติดเครื่องหมายสีเหลืองขนาดเท่ากระดาษ เอ 4 (A4) ที่ทางเข้าที่หลบภัย พร้อมกับระบุจำนวนคนที่สามารถเข้าไปได้ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารอาคารในกรุงไทเปเผยว่า สงครามในยูเครนทำให้เกิดความรู้สึกเร่งด่วนขึ้นมาอีกครั้ง ไม่มีสิ่งใดรับประกันว่าประชาชนผู้บริสุทธิ์จะไม่ได้รับอันตราย ทุกคนจึงควรต้องมีความตื่นตัวต่อภาวะวิกฤต เดือนที่แล้วไต้หวันได้จัดการซ้อมรับมือกับการโจมตีทางอากาศทั่วเกาะไต้หวันเป็นครั้งแรก หลังจากระงับไปเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประชาชนซ้อมวิ่งลงไปยังลานจอดรถใต้ดินพร้อมกับใช้มือปิดตาและหู รวมทั้งปิดปากสนิทด้วย เพื่อลดการได้รับผลกระทบจากคลื่นแรงระเบิดของขีปนาวุธ คณะนักวิจัยในรัฐสภาเรียกร้องเมื่อเดือนมิถุนายนให้ที่หลบภัยทางอากาศต้องจัดเตรียมอาหาร น้ำ และสิ่งของยังชีพไว้ด้วย เนื่องจากกฎหมายปัจจุบันกำหนดให้ทางการต้องดูแลที่หลบภัยให้สะอาดและพร้อมเปิดให้บริการเท่านั้น แต่ไม่มีสิ่งของยังชีพ.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนเผยเรือขนธัญพืชลำแรกออกจากท่าเรือโอเดสซาแล้ว

เคียฟ 1 ส.ค. – ทางการยูเครนระบุว่า เรือบรรทุกสินค้าธัญพืชได้เดินทางออกจากท่าเรือโอเดสซาของยูเครนในวันนี้ ซึ่งนับเป็นเรือลำแรกที่เดินทางออกจากท่าเรือดังกล่าวภายใต้ข้อตกลงส่งออกธัญพืชและปุ๋ยที่ทำขึ้นร่วมกันระหว่างรัสเซีย ยูเครน ตุรกี และองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ในเดือนกรกฎาคม นายโอเล็กซานเดอร์ คูบราคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน เผยผ่านทวิตเตอร์ว่า เรือบรรทุกสินค้าธัญพืชของยูเครนได้เดินทางออกจากท่าเรือในเมืองโอเดสซา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครน ซึ่งนับเป็นเรือลำแรกที่ออกเดินทางจากท่าเรือดังกล่าวนับตั้งแต่ที่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เขาขอขอบคุณชาติพันธมิตรของยูเครนและยูเอ็นที่ช่วยให้การลงนามในข้อตกลงส่งออกธัญพืชและปุ๋ยที่เมืองอิสตันบูลของตุรกีสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ด้านกระทรวงกลาโหมของตุรกี กล่าวว่า เรือบรรทุกสินค้าดังกล่าวเป็นเรือสัญชาติเซียร์ราลีโอนชื่อ ราโซนี (Razoni) บรรทุกข้าวโพดออกเดินทางจากท่าเรือโอเดสซาไปยังเลบานอน ทั้งยังระบุว่า มีการเตรียมเรือบรรทุกสินค้าลำอื่น ๆ เพื่อใช้เดินทางในเส้นทางเดินเรือดังกล่าวภายใต้ข้อตกลงที่ทำขึ้นในเดือนกรกฎาคมแล้ว ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ของยูเครนระบุว่า ขณะนี้มีเรือบรรทุกสินค้า 17 ลำที่บรรทุกสินค้าเกือบ 600,000 ตันจอดอยู่ที่ท่าเรือของยูเครนในทะเลดำ ในจำนวนนี้ มีเรือ 16 ลำที่บรรทุกธัญพืชของยูเครนราว 580,000 ตัน. -สำนักข่าวไทย

นักธุรกิจใหญ่ของยูเครนตายหลังถูกรัสเซียยิงจรวดใส่บ้าน

เคียฟ 1 ส.ค. – นายโอเล็กซี วาดาเทอร์สกี นักธุรกิจด้านการส่งออกธัญพืชที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของยูเครน เสียชีวิตพร้อมภรรยา หลังถูกรัสเซียยิงจรวดโจมตีบ้านพักในเมืองไมโคลาอีฟ ทางตอนใต้ของยูเครน เมื่อคืนวันอาทิตย์ ทางการท้องถิ่นของเมืองไมโคลาอีฟ เผยว่า นายโอเล็กซี วาดาเทอร์สกี วัย 74 ปี และนางไรซา ภรรยา เสียชีวิตหลังถูกรัสเซียยิงขีปนาวุธใส่บ้านพักในเมืองไมโคลาอีฟเมื่อคืนวันอาทิตย์ นายวาดาเทอร์สกีเป็นนักธุรกิจเจ้าของบริษัทนิบูลอน (Nibulon) ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการส่งออกธัญพืช และเคยได้รับรางวัลเกียรติยศ ‘วีรบุรุษแห่งยูเครน’ (Hero of Ukraine) ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า การเสียชีวิตของนายวาดาเทอร์สกีถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของยูเครน นายโอเล็กซานเดอร์ เซนเกวิช นายกเทศมนตรีเมืองไมโคลาอีฟ ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวน่าจะเป็นการโจมตีของรัสเซียครั้งรุนแรงที่สุดในเมืองนี้ ทำให้มีโรงแรมและศูนย์กีฬาอย่างละ 1 แห่ง โรงเรียน 2 แห่ง และบ้านเรือนหลายหลังเสียหายหนัก ด้านนายมิไคโล โปโดเลียก ที่ปรึกษาทำเนียบประธานาธิบดียูเครน เผยว่า เขาเชื่อว่ารัสเซียจงใจมุ่งเป้าโจมตีนายวาดาเทอร์สกีอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากมีขีปนาวุธ 1 ลูกยิงใส่ห้องนอนของนายวาดาเทอร์สกี ทั้งนี้ […]

VOA ส่งตรงจากสหรัฐ : หนีไฟสงครามกับคู่รักข้ามเพศ

วีโอเอไทยมีรายงานผลกระทบจากสงครามผ่านแง่มุมของหญิงไทยที่อพยพย้ายไปใช้ชีวิตคู่อยู่ที่กรุงเคียฟ กับสามี ที่ต่อมาได้เปิดเผยตัวตนและดำรงสภาพเป็นหญิงข้ามเพศ ในประเทศที่ยังไม่มีกฎหมายรองรับ

1 74 75 76 77 78 163
...