ประเด็นยูเครนเป็นวาระสำคัญประชุม รมต. ต่างประเทศ G20

บาหลี 8 ก.ค. – คณะรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มจี 20 ได้เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมที่มีอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพและจัดขึ้นในวันนี้บนเกาะบาหลี โดยมีนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย เข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรกของทั้งสองคนนับตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครน นายบลิงเคนและนายลาฟรอฟได้เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มจี 20 ในวันนี้ โดยที่สหรัฐตั้งเป้าเดินหน้าหาเสียงสนับสนุนจากประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลกเพื่อกดดันรัสเซียจากการบุกโจมตียูเครน นอกจากนี้ นายบลิงเคนจะพยายามรื้อฟื้นการหารือเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน เกี่ยวกับปัญหาตึงเครียดระหว่างสหัฐกับจีนในหลายประเด็น เช่น ไต้หวัน ในขณะเดียวกัน นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอินโดนีเซีย ได้กล่าวเปิดการประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มจี 20 โดยที่มีนายลาฟรอฟนั่งอยู่ด้วยว่า กลุ่มจี 20 ต้องทำหน้าที่ช่วยยุติสงครามให้ได้โดยเร็ว และต้องยุติความขัดแย้งบนโต๊ะเจรจา ไม่ใช่ในสนามรบ ทั้งนี้ การประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มจี 20 ในครั้งนี้ มุ่งเป้าไปที่การรับมือกับผลกระทบจากสงครามที่ทำให้เกิดความไม่มั่นคงด้านอาหารและพลังงาน รวมถึงการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกจากการระบาดของโรคโควิด-19 และปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่รุนแรง โดยมีขึ้นก่อนที่อินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำของกลุ่มจี 20 ในเดือนพฤศจิกายนนี้.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียวอนทุกฝ่ายช่วยปกป้องกฎหมายระหว่างประเทศ

ฮานอย 6 ก.ค. – นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย เรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันปกป้องกฎหมายระหว่างประเทศในขณะที่โลกกำลังก้าวไปสู่บริบทที่ซับซ้อน นายลาฟรอฟกล่าวในระหว่างที่พบปะกับนายบุ่ย แทง เซิน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเวียดนาม ในกรุงฮานอยว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยกันปกป้องกฎหมายระหว่างประเทศในขณะที่โลกกำลังก้าวไปสู่บริบทที่ซับซ้อน ทั้งยังระบุว่า เวียดนามเป็นพันธมิตรที่สำคัญของรัสเซียในภูมิภาคอาเซียน ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศมีพื้นฐานมาจากรากฐานทางประวัติศาสตร์และการต่อสู้ร่วมกันเพื่อความยุติธรรม ทั้งนี้ คำกล่าวของนายลาฟรอฟมีขึ้นในขณะที่ชาติตะวันตกกล่าวหารัสเซียว่า ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลังรัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครน นอกจากนี้ บรรดาผู้นำของสหภาพยุโรป หรืออียู ยังเรียกร้องให้รัฐบาลรัสเซียปฏิบัติตามคำสั่งของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ที่ระบุให้รัสเซียถอนกำลังทหารออกจากยูเครน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นายลาฟรอฟได้เดินทางเยือนกรุงฮานอยเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนแบบยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างรัสเซียกับเวียดนาม โดยที่นายลาฟรอฟมีกำหนดเดินทางไปยังอินโดนีเซียเป็นลำดับต่อไปเพื่อเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มจี 20 ที่มีกำหนดจัดขึ้นในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ เวียดนามเป็นประเทศที่ไม่ได้ออกมาประณามการก่อสงครามในยูเครนของรัสเซีย ซึ่งรัสเซียระบุว่าเป็นปฏิบัติการพิเศษทางทหาร.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐและพันธมิตรเรียกร้องให้กดดันรัสเซียด้านกีฬามากขึ้น

สหรัฐและกลุ่มประเทศที่เป็นพันธมิตร ร่วมกันเรียกร้องในวันอังคารให้ระงับหน่วยงานที่ดูแลกีฬาระดับชาติของรัสเซียและเบลารุส มิให้เกี่ยวข้องกับสหพันธ์กีฬาระหว่างประเทศต่าง ๆ เนื่องจากการที่รัสเซียใช้กำลังรุกรานยูเครน

ยูเครนเผยรัสเซียรุกโจมตีแคว้นโดเนตสก์อย่างหนัก

เคียฟ 6 ก.ค. – เจ้าหน้าที่ของยูเครนระบุว่า กองทัพรัสเซียเปิดฉากบุกโจมตีครั้งใหญ่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครน ด้วยการยิงปืนใหญ่ใส่หลายพื้นที่เป็นวงกว้าง หลังจากที่รัสเซียเพิ่งประกาศชัยชนะในแคว้นลูฮันสก์ที่มีพรมแดนติดแคว้นโดเนตสก์เมื่อวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ของยูเครนเผยว่า กองทัพรัสเซียได้ตั้งเป้าบุกโจมตีเมืองสโลเวียนสก์และเมืองครามาทอสก์ในแคว้นโดเนตสก์เป็นลำดับต่อไป หลังยึดเมืองลิซิชันสก์ในแคว้นลูฮันสก์ได้เมื่อวันอาทิตย์ ทั้งยังระบุว่า กองทัพรัสเซียได้โจมตีตลาดและย่านที่พักอาศัยในเมืองสโลเวียนสก์เมื่อวันอังคาร จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 7 คน ขณะที่นายพาฟโล คิริเลนโก ผู้ว่าการแคว้นโดเนตสก์ เผยว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงปืนใหญ่โจมตีเมืองสโลเวียนสก์และเมืองครามาทอสก์ที่ตั้งอยู่ใกล้กันอย่างหนักเมื่อคืนวันอังคาร นายเซอร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ กล่าวผ่านโทรทัศน์ว่า ขณะนี้กำลังเกิดการสู้รบอย่างหนักหน่วงที่บริเวณพรมแดนของแคว้นลูฮันสก์ เนื่องจากรัสเซียได้ส่งกองกำลังหลักและกองกำลังเสริมไปยังพื้นที่ดังกล่าวเพื่อพยายามข้ามแม่น้ำซีเวอร์สกีโดเนตสก์ ทั้งยังระบุว่า กองทัพรัสเซียยังคงยิงปืนใหญ่โจมตีทุกอย่างที่ขวางหน้าในแคว้นลูฮันสก์และแคว้นโดเนตสก์ ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สไม่สามารถตรวจสอบข้อกล่าวอ้างดังกล่าวได้อย่างอิสระ.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียเผยยึดเมืองลิซิชันสก์ของยูเครนได้แล้ว

มอสโก 4 ก.ค. – รัสเซียระบุว่า สามารถยึดเมืองลิซิชันสก์ในแคว้นลูฮันสก์ ทางตะวันออกสุดของยูเครน ได้ภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ หลังจากที่ยึดเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ที่ตั้งอยู่ติดกัน ทำให้รัสเซียยึดครองแคว้นดังกล่าวได้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ได้แจ้งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียว่า กองทัพรัสเซียได้ปลดแอกภูมิภาคลูฮันสก์สำเร็จแล้ว หลังจากที่รัสเซียได้ปฏิบัติการยึดพื้นที่ชุมชนและปิดล้อมเมืองลิซิชันสก์ ขณะที่กองทัพยูเครนระบุว่า ยูเครนจำเป็นต้องตัดสินใจถอยทัพออกจากเมืองลิซิชันสก์ เพราะหากยังฝืนป้องกันเมืองนี้ต่อไป จะทำให้มีทหารเสียชีวิตอีกเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวผ่านคลิปวิดีโอเมื่อคืนวันอาทิตย์ว่า ผู้บัญชาการกองทัพยูเครนสั่งถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่บางจุดในแนวรบด่านหน้า ซึ่งรวมถึงเมืองลิซิชันสก์ เพื่อถอยกลับไปตั้งหลัก ผู้นำยูเครนยังให้คำมั่นว่า ยูเครนจะกลับมายึดพื้นที่คืนจากรัสเซียด้วยอาวุธทันสมัยที่ได้รับจากชาติตะวันตก ทั้งยังระบุว่า การถอยทัพในครั้งนี้ถือเป็นการปกป้องชีวิตของทหารยูเครนที่มีบทบาทสำคัญในสงครามอย่างเท่าเทียม. -สำนักข่าวไทย

เกิดระเบิดในย่านที่พักอาศัยของรัสเซียใกล้ยูเครน

มอสโก 3 ก.ค.- ผู้ว่าการแคว้นเบลโกรอด ทางตะวันตกของรัสเซียแจ้งว่า เกิดระเบิดในย่านที่พักอาศัยของเมืองเบลโกรอดที่มีพรมแดนติดกับยูเครน ขณะนี้กำลังสอบสวนหาสาเหตุอยู่ นายวีเชสลาฟ กลาดคอฟ ผู้ว่าการแค้วนเบลโกรอดแจ้งผ่านแอฟพลิเคชันเทเลแกรมว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน บาดเจ็บ 4 คน อาคารชุดพักอาศัยเสียหาย 11 หลัง บ้านเรือนเสียหาย 39 หลัง ในจำนวนนี้ 5 หลังพังราบ ทางการกำลังสอบสวนหาสาเหตุอยู่ สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากระบบป้องกันภัยทางอากาศ ด้านรอยเตอร์รายงานว่า ยังไม่สามารถยืนยันรายงานข่าวนี้ และยังไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ จากฝั่งยูเครน เมืองเบลโกรอดมีประชากรเกือบ 400,000 คน อยู่ห่างจากยูเครนเพียง 40 กิโลเมตร เป็นเมืองราชการของแคว้นเบลโกรอด มีรายงานข่าวหลายครั้งว่าถูกยิงถล่มตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ยูเครนไม่เคยอ้างว่าเป็นฝ่ายโจมตี แต่ระบุว่าเป็นกรรมตามสนองรัสเซียที่รุกรานยูเครน.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนยอมรับอาจเสียที่มั่นสุดท้ายในแคว้นลูฮันสก์

เคียฟ 3 ก.ค.- ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนยอมรับว่า ยูเครนอาจเสียเมืองลิซิชันสก์ซึ่งเป็นที่มั่นสุดท้ายในแคว้นลูฮันสก์ให้แก่รัสเซีย ในขณะที่กำลังมีการสู้รบอย่างหนักหน่วง นายโอเล็กซี อาเรสโตวิช ที่ปรึกษาผู้นำยูเครนเผยว่า กองกำลังรัสเซียสามารถข้ามแม่น้ำซิเวอร์สกี โดเนตส์มาแล้ว และกำลังมุ่งหน้าเข้าเมืองลิซิชันสก์จากทางเหนือ เป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง เขาไม่สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ได้ ทุกอย่างจะชัดเจนขึ้นในวันสองวัน นายอาเรสโตกล่าวว่า ในเชิงยุทธศาสตร์แล้วหากรัสเซียยึดเมืองนี้ได้ รัสเซียจะประสบปัญหาในการเดินหน้าโจมตียูเครน เพราะจะต้องกระจายกำลังไปคุมเมืองใหญ่ 6 เมืองในภูมิภาคดอนบาส ยิ่งยูเครนได้รับอาวุธจากตะวันตกมากขึ้นเท่าใด ยูเครนก็จะยิ่งได้เปรียบในแนวรบมากขึ้น ด้านนายโรดิออน มิโรชนิค เอกอัครราชทูตของแคว้นลูฮันสก์ที่ประกาศแยกตัวจากยูเครนเป็นสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ประจำรัสเซียให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์รัสเซียว่า เมืองลิซิชันสก์ถูกควบคุมแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการปลดแอก สื่อรัสเซียเผยแพร่คลิปกลุ่มติดอาวุธในลูฮันสก์เดินขบวนโบกธงและโห่ร้องในเมืองนี้ ขณะที่โฆษกกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติของยูเครนยืนยันกับสถานีโทรทัศน์ยูเครนว่า เมืองลิซิชันสก์ยังอยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพยูเครน และไม่ได้ถูกปิดล้อม แต่มีการสู้รบอย่างหนักหน่วงใกล้เมือง แคว้นลูฮันสก์เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางตะวันออกของยูเครน เมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ในแคว้นนี้ถูกกองกำลังรัสเซียยึดได้เมื่อเดือนก่อน เป็นเมืองที่อยู่คนละฝั่งแม่น้ำของเมืองลิซิชันสก์ และเป็นสมรภูมิที่มีการสู้รบหนักหน่วงที่สุดแห่งหนึ่งในสงครามยูเครนที่เริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย

เกิดระเบิดหลายครั้งในเมืองไมโคลายิฟของยูเครน

นายกเทศมนตรีเมืองไมโคลายิฟ ของยูเครนกล่าววันนี้ว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรงหลายครั้งในเมืองไมโคลายิฟ ช่วงเช้าวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากวานนี้เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 ราย จากการที่รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งใกล้กับเมืองท่าโอเดซา ในทะเลดำ

แคว้นโดเนตสก์จะเริ่มใช้การประหารชีวิตตั้งแต่ปี 2568

ลอนดอน 1 ก.ค.- แคว้นโดเนตสก์ที่ประกาศแยกตัวจากยูเครนเป็นสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์จะเริ่มใช้บทลงโทษด้วยการประหารชีวิตตั้งแต่ปี 2568 หลังจากก่อนหน้านี้ตัดสินประหารชีวิตชาวอังกฤษและชาวโมร็อกโกที่ไปร่วมรบกับยูเครน รัฐสภาสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ประกาศเรื่องนี้ในประมวลกฎหมายอาญาฉบับปรับปรุงที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ มีผลตั้งแต่วันนี้ โดยระบุว่าการประหารชีวิตจะเป็นการยิงเป้า และหัวหน้าสาธารณรัฐฯ จะเป็นผู้ชี้ขาดเรื่องการให้อภัยโทษนักโทษประหาร อย่างไรก็ดี ยังไม่แน่ชัดว่า การประกาศเริ่มใช้โทษประหารชีวิตตั้งแต่ปี 2568 จะมีผลอย่างไรต่อชายอังกฤษ 2 คน และชายโมร็อกโก 1 คนที่ถูกศาลสาธารณรัฐฯ ตัดสินประหารชีวิตเมื่อเดือนมิถุนายน โทษฐานเป็นนักรบรับจ้าง หลังจากถูกกองกำลังรัสเซียจับกุมตัวขณะสู้รบร่วมกับกองกำลังยูเครน ทนายความของพวกเขาเผยว่า จะยื่นอุทธรณ์เพราะเป็นการตัดสินอย่างรีบเร่งโดยไม่มีคณะลูกขุนและไม่ให้สื่ออิสระหรือสากลเข้าไปสังเกตการณ์ สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ ซึ่งรัสเซียหนุนหลังมีโทษประหารชีวิตตั้งแต่แยกตัวจากยูเครนในปี 2557 แต่ยังไม่มีกฎหมายกำหนดรายละเอียดจนถึงปัจจุบัน ด้านองค์การนิรโทษกรรมสากลที่ติดตามการประหารชีวิตทั่วโลกเผยว่า ยังไม่มีข้อมูลว่ามีการประหารชีวิตในสาธารณรัฐนี้.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียถล่มตึกที่พักในยูเครน ตาย 18 คน

เคียฟ 1 ก.ค.- รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มอาคารที่พักในเมืองโอเดสซา เมืองท่าทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครนในเช้าวันนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 18 คน หนึ่งวันหลังจากรัสเซียถอนกำลังออกจากเกาะยุทธศาสตร์ในทะเลดำ นายคิริลล์ ทีโมเชนโก รองหัวหน้าทำเนียบประธานาธิบดียูเครนแจ้งว่า ผู้เสียชีวิตมีเด็กรวมอยู่ด้วย 2 คน ขณะที่โฆษกรัฐบาลท้องถิ่นแจ้งว่า มีคนบาดเจ็บ 30 คน สื่อยูเครนรายงาน เป้าหมายของรัสเซียครั้งนี้เป็นอาคารที่พักอาศัยหลายชั้นและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ การโจมตีมีขึ้นหลังจากกองกำลังรัสเซียถอนกำลังออกจากเกาะสเนคหรือเกาะงูของยูเครนในทะเลดำเมื่อวันพฤหัสบดี เรือรบรัสเซีย 2 ลำยึดครองเกาะนี้ได้ตั้งแต่เปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และถูกยูเครนยิงถล่มอย่างหนักนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รัสเซียอ้างว่า ถอนกำลังเพื่อยื่นไมตรี ขณะที่กองทัพยูเครนอ้างว่า สามารถบีบให้กำลังพลรัสเซียต้องหนีไปด้วยเรือเร็ว 2 ลำ เพราะถูกยูเครนยิงถล่มอย่างหนักทั้งปืนใหญ่และขีปนาวุธ เกาะสเนคตั้งอยู่ในเส้นทางเดินเรือพลุกพล่าน รัสเซียหวังจะใช้เกาะนี้เป็นฐานในการโจมตีเมืองโอเดสซา ซึ่งเป็นท่าสำคัญที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของยูเครน เพื่อล้อมกรอบที่มั่นสุดท้ายของกองกำลังยูเครนที่ปักหลักต่อต้านรัสเซียในแคว้นลูฮันสก์.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำอินโดนีเซียเผยส่งสารจาก “เซเลนสกี” ถึง “ปูติน” แล้ว

มอสโก 1 ก.ค. – ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย เผยว่า เขาได้ส่งสารจากประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ไปถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ในขณะที่เดินทางเยือนกรุงมอสโกและพบกับผู้นำรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีวิโดโด กล่าวหลังเสร็จสิ้นการหารือกับประธานาธิบดีปูตินว่า เขาได้ส่งสารจากประธานาธิบดีเซเลนสกีไปถึงประธานาธิบดีปูตินแล้ว และพร้อมเป็นตัวกลางในการสื่อสารระหว่างผู้นำรัสเซียกับยูเครน แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารดังกล่าว ผู้นำอินโดนีเซียยังระบุว่า แม้สถานการณ์ของรัสเซียกับยูเครนยังคงเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่เขามองว่าการทำข้อตกลงและการเปิดเจรจาเป็นแนวทางสำคัญในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง อินโดนีเซียต้องการให้สงครามยุติลงโดยเร็ว และขอเรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลกร่วมมือกันเพื่อยุติสงครามครั้งนี้เช่นกัน ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่า การหารือกับประธานาธิบดีวิโดโดมีความคืบหน้าในข้อตกลงร่วมกันหลายประเด็น และจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับอินโดนีเซียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ผู้นำรัสเซียปฏิเสธว่า รัฐบาลรัสเซียไม่ได้ขัดขวางการส่งออกธัญพืชของยูเครน และตั้งคำถามเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากผลผลิตทางการเกษตรของยูเครนที่ขาดหายไปในตลาดโลก ทั้งยังเน้นย้ำว่า ปัญหาตลาดอาหารโลกและราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นเป็นผลมาจากการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียของชาติตะวันตก นอกจากนี้ ประธานาธิบดีปูตินระบุว่า เขาต้องการให้รัสเซียเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลกดังเดิม ขณะนี้ รัสเซียส่งออกข้าวสาลีคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ในตลาดโลก.-สำนักข่าวไทย

1 72 73 74 75 76 157
...