เวียดนามตัดสินประหารชีวิตนักโทษยาเสพติดเกาหลีใต้

ฮานอย 12 พ.ย.- สื่อทางการเวียดนามรายงานว่า เวียดนามตัดสินโทษประหารชีวิตผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด 18 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวเกาหลีใต้ 2 คน เว็บไซต์ข่าวกงอานเญินเซินของทางการเวียดนาม รายงานเมื่อค่ำวันเสาร์ว่า อดีตตำรวจชาวเกาหลีใต้วัย 63 ปี ชาวเกาหลีใต้วัย 30 ปี ชาวจีนวัย 58 ปี หัวหน้าแก๊งชาวเวียดนามวัย 36 ปี และผู้ต้องหาอีก 14 คน ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต หลังจากศาลครอบครัวและเยาวชนภายใต้ศาลประชาชนนครโฮจิมินห์พิจารณาคดีเป็นเวลา 4 วัน ผู้ต้องหากลุ่มนี้ลักลอบเก็บและค้ายาเสพติดน้ำหนักรวมมากกว่า 216 กิโลกรัม ระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2563 ในจำนวนนี้ถูกยึดได้มากกว่า 168 กิโลกรัม ผู้ต้องหาลอบนำยาเสพติดจากกัมพูชาเข้ามาในนครโฮจิมินห์ บางส่วนจำหน่ายในประเทศ ที่เหลือลำเลียงไปเกาหลีใต้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นรถบรรทุกตู้สินค้าคันหนึ่งที่กำลังจะผ่านด่านศุลกากรในนครโฮจิมินห์เพื่อไปยังเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พบห่อพลาสติกจำนวน 40 ห่อ ภายในบรรจุเมทแอมเฟตามีน น้ำหนักรวม 39.5 กิโลกรัม ตำรวจเวียดนามเผยว่า นครโฮจิมินห์กลายเป็นศูนย์กลางของแก๊งค้ายาเสพติด […]

จีนประหารชีวิตนักโทษเกาหลีใต้ครั้งแรกในรอบ 9 ปี

กระทรวงต่างประเทศจีนกล่าววันนี้ว่า ได้ประหารชีวิตพลเมืองชาวเกาหลีใต้ในความผิดฐานค้ายาเสพติด ซึ่งนับเป็นการประหารชีวิตนักโทษจากเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี

สิงคโปร์ประหารชีวิตนักโทษรายที่ 5 ในปีนี้

สิงคโปร์ประหารชีวิตนักโทษชายวัย 39 ปี ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานค้าเฮโรอีน ซึ่งเป็นการประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ รายที่ 5 ของปีนี้ และเป็นรายที่ 3 ในช่วงเวลาเพียง 1 สัปดาห์

สิงคโปร์ประหารชีวิตนักโทษหญิงรายแรกในรอบเกือบ 20 ปี

สิงคโปร์ประหารชีวิตด้วยการแขวนคอนักโทษหญิงชาวสิงคโปร์อายุ 45 ปี ในวันนี้ จากความผิดฐานค้ายาเสพติด ซึ่งนับเป็นการประหารชีวิตนักโทษหญิงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี ของสิงคโปร์

สิงคโปร์จะประหารชีวิตสตรีคนแรกในรอบเกือบ 20 ปี

สิงคโปร์เตรียมประหารชีวิตด้วยการแขวนคอนักโทษ 2 คนในสัปดาห์นี้ ซึ่งคนหนึ่งเป็นนักโทษหญิงที่จะถูกประหารชีวิตเป็นคนแรกในรอบเกือบ 20 ปี ในขณะที่กลุ่มเรียกร้องสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้หยุดการประหารชีวิต

สิงคโปร์ประหารชีวิตนักโทษรายที่ 2 ในรอบ 3 สัปดาห์

สิงคโปร์ประหารชีวิตนักโทษด้วยการแขวนคอจากความผิดเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด ซี่งเป็นการประหารชีวิตนักโทษรายที่ 2 ในช่วงเวลา 3 สัปดาห์

สามีน้องอ้อม ขอตำรวจปรับระเบียบติดตามคนหาย

บรรยากาศงานศพ “น้องอ้อม” เซลล์ขายรถถูกลวงสังหาร เต็มไปด้วยความโศกเศร้า แม่ย่ากลั้นน้ำตาไม่อยู่ บอกลูกสะไภ้เป็นคนดี ขยัน ขอให้ลงโทษประหารชีวิตผู้ก่อเหตุ ด้านสามีเชื่อคนร้ายวางแผนมาก่อน พร้อมขอตำรวจปรับระเบียบติดตามคนหาย

สิงคโปร์แขวนคอนักโทษคดีกัญชา 1 กก.แล้ว

สิงคโปร์ 26 เม.ย.- สิงคโปร์ลงโทษประหารชีวิตด้วยการแขวนคอผู้ต้องขังที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาคบคิดกันลอบนำเข้ากัญชามากกว่า 1 กิโลกรัมแล้วในวันนี้ ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากนานาชาติให้สิงคโปร์ยกเลิกโทษประหารชีวิต โฆษกสำนักงานเรือนจำสิงคโปร์เผยว่า ผู้ต้องขังชายชาวสิงคโปร์วัย 46 ปี ถูกลงโทษประหารชีวิตแล้วในวันนี้ที่เรือนจำชางงี นับเป็นการประหารชีวิตในสิงคโปร์ครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และครั้งที่ 12 นับจากเดือนมีนาคม 2565 หลังจากระงับไปนานกว่า 2 ปี นักโทษรายนี้ถูกตัดสินในปี 2560 ว่าพัวพันกับแผนการคบคิดกันลอบนำเข้ากัญชาหนัก 1,017.9 กรัม ซึ่งมากกว่า 2 เท่าของปริมาณขั้นต่ำที่จะต้องถูกลงโทษประหารชีวิต เขาถูกศาลชั้นต้นตัดสินในปี 2561 ให้ถูกประหารชีวิต และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืน เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน มหาเศรษฐีชาวอังกฤษในฐานะกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการสากลว่าด้วยนโยบายยาเสพติดเขียนในบล็อกส่วนตัวเมื่อวันจันทร์ว่า ผู้ต้องขังไม่ได้มียาเสพติดอยู่ใกล้ตัวเลยในช่วงที่ถูกจับกุม และสิงคโปร์อาจจะทำให้คนบริสุทธิ์ต้องถูกประหาร ทำให้กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์ตอบโต้ในวันอังคารว่า ความผิดของผู้ต้องขังได้รับการพิสูจน์จนสิ้นสงสัยแล้ว หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2 เลขหมายที่อัยการระบุว่าเป็นของผู้ต้องขังเป็นหมายเลขที่ใช้ประสานงานเรื่องการลำเลียงยาเสพติด ด้านสํานักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ (OHCHR) แถลงแสดงความไม่เห็นด้วยในวันเดียวกันว่า มีเพียงไม่กี่ประเทศที่ยังคงใช้โทษประหารชีวิต ส่วนใหญ่เพราะเชื่อโดยไร้เหตุผลว่าจะช่วยยับยั้งการก่ออาชญากรรมได้ ทั้งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าได้ผลจริง อีกทั้งยังขัดต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนสากลที่อนุญาตให้ใช้โทษประหารชีวิตเฉพาะอาชญากรรมร้ายแรงที่สุดเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

สิงคโปร์ตำหนิ “แบรนสัน” ที่วิจารณ์โทษประหารชีวิต

รัฐบาลสิงคโปร์ตำหนิริชาร์ด แบรนสัน มหาเศรษฐี-นักธุรกิจชาวอังกฤษในวันนี้ จากกรณีที่เขากล่าวว่า เจ้าหน้าที่สิงคโปร์อาจจะกำลังฆ่าผู้บริสุทธิ์ในคดีครอบครองกัญชาน้ำหนัก 1 กิโลกรัม

ครอบครัวชายสิงคโปร์ขอความเมตตาก่อนถูกแขวนคอคดีกัญชา

สิงคโปร์ 23 เม.ย.- ครอบครัวของชายชาวสิงคโปร์ขอความเมตตาจากประธานาธิบดีและขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ ก่อนที่เขาจะถูกแขวนคอประหารชีวิตในสัปดาห์หน้า ในคดีลอบนำกัญชามากกว่า 1 กิโลกรัมเข้าประเทศ ชายชาวสิงคโปร์เชื้อสายอินเดียวัย 46 ปี ถูกตัดสินในปี 2560 ว่ามีความผิดโทษฐานคบคิดลอบนำเข้ากัญชาน้ำหนัก 1,017.9 กรัม ซึ่งมากกว่า 2 เท่าของปริมาณขั้นต่ำที่จะต้องถูกลงโทษประหารชีวิต ศาลชั้นต้นตัดสินในปีถัดมาให้ประหารชีวิต และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนให้ประหารชีวิต และจะมีการลงโทษด้วยการแขวนคอในวันพุธนี้ ครอบครัวของเขาแถลงข่าวเป็นภาษาทมิฬในวันนี้ว่า เขาไม่ได้รับการไต่สวนที่เป็นธรรม พวกเขาจะยื่นคำร้องขอความเมตตาจากประธานาธิบดี และเชื่อว่าประธานาธิบดีจะอ่านทุกคำร้อง ครอบครัวและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิชี้ว่า คดีนี้มีช่องโหว่ ผู้ต้องหาไม่เคยจับต้องกัญชาที่เป็นของกลาง และถูกตำรวจสอบปากคำโดยไม่มีทนาย อีกทั้งยังไม่มีล่ามแปลภาษาทมิฬในช่วงที่ถูกบันทึกคำให้การกับตำรวจครั้งแรกด้วย ขณะที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติดชี้แจงว่า ผู้ต้องหามีทนายให้คำปรึกษาตลอดกระบวนการ และผู้พิพากษาพบว่าผู้ต้องหามีความไม่จริงใจ เนื่องจากไม่ได้ร้องขอล่ามแปลภาษาทมิฬขณะให้ปากคำในภายหลัง สิงคโปร์กลับมาใช้การลงโทษประหารชีวิตด้วยการแขวนคออีกครั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2565 หลังจากงดไปนานกว่า 2 ปี โดยเมื่อปีที่แล้วมีการแขวนคอ 11 ครั้ง ทั้งหมดเป็นคดียาเสพติด ส่วนการแขวนคอที่หากจะมีขึ้นในวันพุธนี้จะเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน.-สำนักข่าวไทย

สิงคโปร์จะประหารชีวิตชายลักลอบนำกัญชา 1 กก. เข้าประเทศ

สิงคโปร์เตรียมประหารชีวิตด้วยการแขวนคอชายชาวสิงคโปร์ในสัปดาห์หน้า จากความผิดฐานสมคบคิดกันลักลอบนำกัญชาน้ำหนัก 1 กิโลกรัมเข้าประเทศ ซึ่งเป็นการประหารชีวิตนักโทษรายแรกในรอบ 6 เดือน

ยูเอ็นกล่าวหารัสเซีย-ยูเครนประหารเชลยสงครามอย่างรวบรัด

เคียฟ 25 มี.ค.-สหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) เผยว่า มีความกังวลอย่างยิ่งที่กองกำลังรัสเซียและยูเครนในสนามรบได้ทำการประหารชีวิตเชลยสงครามอย่างรวบรัด นางมาทิลดา บ็อกเนอร์ หัวหน้าคณะติดตามสิทธิมนุษยชนในยูเครนของยูเอ็นแถลงที่กรุงเคียฟของยูเครนเมื่อวันศุกร์ว่า คณะติดตามฯ ของเธอได้บันทึกรายงานการสังหารของทั้งสองฝ่ายเมื่อไม่นานมานี้ โดยมีความกังวลอย่างยิ่งที่กองกำลังยูเครนได้สังหารชาวรัสเซียที่เป็นเชลยสงครามและทหารที่อยู่ในสภาพไม่พร้อมรบมากถึง 25 คน ซึ่งมักเกิดขึ้นทันทีที่มีการจับกุมในสนามรบ คณะติดตามฯ ทราบมาว่า ทางการยูเครนกำลังสอบสวน 5 เหตุการณ์ที่มีเหยื่อ 22 คน แต่ไม่ได้ยินข่าวการสอบสวนผู้กระทำผิด ขณะเดียวกันก็มีความกังวลอย่างยิ่งที่กองกำลังรัสเซียได้สังหารเชลยสงครามชาวยูเครน 15 คน ทันทีที่จับกุมได้ ในจำนวนนี้ 11 คน ถูกสังหารโดยกลุ่มแวกเนอร์ซึ่งเป็นทหารรับจ้างของรัสเซียที่อ้างว่ากำลังได้เปรียบในสมรภูมิบักห์มุต แคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครน เป็นสมรภูมิที่นองเลือดที่สุดและยาวนานที่สุด นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มทำสงครามในยูเครนเมื่อกว่า 1 ปีก่อน รายงานของคณะติดตามฯ อ้างว่า เจ้าหน้าที่กองทัพยูเครนขู่เอาชีวิตหรือขู่ใช้ความรุนแรงทางเพศกับเชลยสงครามชาวรัสเซีย บางครั้งทำร้ายทุบตีโดยระบุว่าเป็นการแก้แค้นให้เมืองบูจา ชานกรุงเคียฟที่มีการสังหารหมู่ชาวยูเครน และใช้กระแสไฟฟ้าช็อตระหว่างการสอบปากคำ ขณะที่เจ้าหน้าที่กองทัพรัสเซียทรมาน ใช้ความรุนแรงทางเพศ ไม่ให้อาหาร น้ำและการดูแลสุขภาพอย่างเพียงพอกับเชลยสงครามชาวยูเครน เพื่อรีดเค้นข้อมูลหรือเป็นการลงโทษ หลายคนถูกทำร้ายร่างกายจนแขน ขา ฟัน หรือจมูกหัก.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 13
...