บราซิล

รีโอเดจาเนโร 16 ก.พ.- นักดับเพลิงในบราซิลแจ้งว่า ดินถล่มและน้ำท่วมที่เกิดจากฝนตกหนักทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 18 คนในเมืองท่องเที่ยวบริเวณเนินเขาของรัฐรีโอเดจาเนโร ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ  นักดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมากกว่า 180 คนไปยังจุดเกิดเหตุในเมืองเปโตรโปลิส ที่อยู่ห่างจากนครรีโอเดจาเนโรไปทางเหนือ 68 กิโลเมตร เทศบาลเมืองประกาศสถานะภัยพิบัติแล้ว ขณะที่สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพสภาพบ้านเรือนเสียหาย ยวดยานถูกซัดไหลไปตามกระแสน้ำ ร้านค้าจำนวนมากจมน้ำท่วมที่มีระดับสูงขึ้นและไหลตามไปถนนย่านใจกลางเมืองที่เป็นเมืองประวัติศาสตร์ เพราะเป็นสถานที่ฝังพระศพจักรพรรดิพระองค์สุดท้ายของบราซิล สำนักอุตุนิยมวิทยาบราซิลแจ้งว่า บางพื้นที่ของเมืองเปโตรโปลิสมีฝนตกมากถึง 260 มิลลิเมตรในเวลาไม่ถึง 6 ชั่วโมง มากกว่าปริมาณน้ำฝนที่คาดการณ์สำหรับเดือนนี้ทั้งเดือน แม้ฝนตกหนักที่สุดได้ผ่านพ้นแล้ว แต่คาดว่าจะมีฝนตกปานกลางต่อเนื่องไปอีกหลายชั่วโมง ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารูของบราซิลทวีตขณะกำลังเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการว่า รู้สึกสะเทือนใจกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นไม่แพ้กัน และได้ขอให้คณะรัฐมนตรีให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเร็วที่สุด บราซิลเพิ่งเกิดน้ำท่วมและดินถล่มเพราะฝนตกหนักทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเมื่อต้นเดือนนี้ ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 28 คน ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐเซาเปาลูและพื้นที่ทางเหนือของนครรีโอเดจาเนโร ส่วนเมื่อเดือนมกราคม 2554 มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 900 คน ในพื้นที่ทางเหนือของนครรีโอเดจาเนโร หลังจากฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

รีโอเดจาเนโร 13 ก.พ.- ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารูของบราซิลจะเดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการในวันอังคารนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่รัสเซียกำลังมีความตึงเครียดกับชาติตะวันตกเรื่องยูเครน ประธานาธิบดีโบลโซนารูตัดสินใจไปพบประธานาธิบดีวาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย โดยให้เหตุผลว่าไปสร้างสัมพันธ์ทางการค้า เขาจะพบหารือกับประธานาธิบดีปูตินในวันพุธ จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังฮังการีในวันพฤหัสบดีเพื่อพบกับประธานาธิบดีวิกตอร์ ออร์บาน ที่เป็นผู้นำขวาจัดเช่นเดียวกับเขา โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของสหรัฐและคนในคณะรัฐมนตรีบราซิลที่เกรงว่า ผู้นำรัสเซียอาจใช้การเยือนนี้อ้างว่า บราซิลซึ่งเป็นประเทศใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกาและเป็นสมาชิกไม่ถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) สนับสนุนรัสเซียในเรื่องยูเครน รัสเซียเชิญผู้นำบราซิลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ความตึงเครียดกำลังก่อตัว เพราะรัสเซียเริ่มระดมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไปประชิดพรมแดนยูเครน นักวิเคราะห์การเมืองในบราซิลมองว่า เป็นการเยือนในช่วงเวลาที่ยุ่งยาก และไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะสถานการณ์บริเวรพรมแดนรัสเซีย-ยูเครนกำลังทวีความตึงเครียด สหรัฐกดดันให้บราซิลยกเลิกการเยือน แต่หากทำตามบราซิลก็จะกลายเป็นหุ่นเชิดของสหรัฐ และอาจทำให้รัสเซียไม่พอใจ อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่า เหตุผลหลักที่ประธานาธิบดีโบลโซนารู วัย 66 ปี ตัดสินใจไปเยือนรัสเซียเป็นเรื่องการเมืองในประเทศ เพราะคะแนนนิยมของเขาตกต่ำแตะระดับต่ำที่สุด ตามหลังอดีตประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา วัย 76 ปี ที่จะลงเลือกตั้งประธานาธิบดีแข่งกับเขาในเดือนตุลาคมปีนี้.-สำนักข่าวไทย

บราซิลเผชิญภัยแล้งครั้งรุนแรง ทำปลาลอยตายเกลื่อนทะเลสาบ คาดจำนวนปลาที่ตายประมาณ 15-20 ตัน

บราซิเลีย 31 ม.ค.- เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสาธารณะของบราซิลแจ้งว่า เกิดน้ำท่วมและดินถล่มเพราะฝนตกหนักในรัฐเซาเปาลู ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 19 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 7 คน รัฐเซาเปาลูซึ่งมีประชากร 46 ล้านคน มากที่สุดของบราซิลเผยว่า สภาพอากาศเลวร้ายตั้งแต่วันศุกร์ ทำให้เกิดน้ำท่วม ต้นไม้ล้ม กำแพงพังและดินถล่มทั่วรัฐ นอกจากมีผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีผู้บาดเจ็บ 9 คน สูญหาย 4 คน และมีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยราว 500 ครัวเรือน ผู้ว่าการรัฐได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้วในวันอาทิตย์ และได้อนุมัติความช่วยเหลือฉุกเฉิน 15 ล้านเรอัล (ราว 93.5 ล้านบาท) ให้แก่ 10 เมืองและ 645 เทศบาลที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ส่วนเมืองเอกของรัฐอย่างเมืองเซาเปาลูที่มีประชากร 12 ล้านคนมีฝนตกหนัก แต่ไม่เกิดเหตุร้ายแรง ด้านรัฐบาลกลางแถลงว่า กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด บราซิลประสบภัยพิบัติใหญ่เพราะสภาพอากาศหลายครั้งตั้งแต่เข้าสู่ฤดูฝนในเดือนตุลาคมปีก่อน ฝนที่ตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในรัฐบาเยีย ทางตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้เสียชีวิต 24 คน และรัฐมีนัชเชไรส์ […]

เจ้าหน้าที่บราซิลเปิดเผยวันนี้ว่า เกิดเหตุหน้าผาหินขนาดใหญ่พังถล่มลงมาทับเรือยนต์ท่องเที่ยวบริเวณน้ำตกแห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิล

รมต.สาธารณสุขบราซิลกล่าวว่าจะให้เด็กอายุ 5-11 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามความสมัครใจ โดยไม่จำเป็นต้องมีใบสั่งแพทย์

ซัลวาดอร์ 26 ธ.ค.- ประชาชนกว่า 11,000 คน ในรัฐบาเยีย ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล ต้องอพยพเพราะฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง ทางการเร่งจัดหาความช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัยที่ไร้ที่อยู่อาศัย สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนรัฐบาเยียแจ้งว่า ฝนที่ตกหนักคร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 17 คนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน และมีผู้ขอที่พักพิงชั่วคราวทั้งหมด 4,185 คน หลังจากฝนตกหนักมากใน 19 เมือง ประชาชนต้องอพยพเพื่อความปลอดภัยมากถึง 11,260 คน รัฐบาลกลางร่วมกับรัฐบาเยียและอีกหลายรัฐระดมกำลังพล เครื่องบิน อุปกรณ์ และสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย นอกจากนี้ยังมีรายงานถนน 17 สายถูกน้ำท่วม บางสายถูกดินและหินถล่ม เจ้าหน้าที่เมืองซัลวาดอร์ เมืองเอกของรัฐบาเยียเผยว่า ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมจนถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำฝนรวม 250 มิลลิเมตร สูงกว่าระดับสูงสุดที่เคยมีมาถึง 5 เท่า.-สำนักข่าวไทย

ซานตามาเรีย 11 ธ.ค.- ศาลบราซิลตัดสินจำคุกจำเลย 4 คนในคดีไฟไหม้ไนต์คลับเมื่อปี 2556 ที่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 242 คน แต่จำเลยทั้งหมดได้รับการประกันตัวเพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อไป การพิจารณาคดีนี้เป็นที่สนใจของสังคมบราซิล มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์และสื่ออื่น ๆ ศาลเบิกความผู้รอดชีวิต 14 คน และพยานอีก 19 ปาก อดีตพนักงานหญิงของไนต์คลับดังกล่าวให้การอย่างสะเทือนใจถึงช่วงเวลาที่ต้องนอนโรงพยาบาลนาน 21 วัน เพื่อรักษาแผลไฟไหม้ร่างกายถึงร้อยละ 40 และอ้างว่าไนต์คลับแห่งนี้มีนโยบายให้คนเข้ามาใช้บริการให้ได้มากที่สุด ศาลตัดสินลงโทษจำคุกเจ้าของไนต์คลับ 2 คน เป็นเวลา 22 ปีและ 19 ปีตามลำดับ ส่วนสมาชิกวงดนตรีที่จุดพลุไฟขณะทำการแสดงเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ถูกตัดสินจำคุกคนละ 18 ปี อย่างไรก็ดี ทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวในทันทีเพื่อยื่นอุทธรณ์คำตัดสินต่อไป เหตุไฟไหม้ร้ายแรงดังกล่าวเกิดขึ้นที่ไนต์คลับชื่อ Kiss ในเมืองซานตามาเรีย ทางใต้ของบราซิล เมื่อไฟจากพลุที่สมาชิกวงดนตรีจุด ได้ลามขึ้นไปบนเพดาน ผู้คนเบียดเสียดกันหนีตาย และส่วนใหญ่สำลักควันเสียชีวิต ตำรวจสอบสวนระบุว่า ไฟไหม้วัสดุที่เป็นฉนวน ทำให้เกิดควันพิษ นอกจากนี้ไนต์คลับดังกล่าวยังไม่มีเครื่องดับเพลิงที่ใช้งานได้ ขณะที่ป้ายบอกทางออกฉุกเฉินไม่ชัดเจน และมีทางออกฉุกเฉินเพียง 2 ทางเท่านั้น […]

เซาเปาโล 10 ธ.ค.- เปเล่ ตำนานลูกหนังชาวบราซิลเผยว่า จะออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านได้ในอีกไม่กี่วัน หลังจากเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด อันเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการรักษาหลังการผ่าตัดเนื้องอกลำไส้ใหญ่ เปเล่ วัย 81 ปี ผู้พาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ถึง 3 สมัย โพสต์ในอินสตาแกรมหลังจากเข้าโรงพยาบาลครั้งล่าสุดเมื่อวันพุธที่แล้วว่า นับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 30 กันยายน หลังรับการผ่าตัดเนื้องอกลำไส้ใหญ่และพักรักษาตัวอยู่ร่วมเดือน เขาได้เข้าสู่กระบวนการรักษาด้วยเคมีบำบัดมาโดยตลอด ขณะนี้อยู่ที่โรงพยาบาลอัลเบิร์ต ไอสไตน์ในนครเซาเปาโลเพื่อรับเคมีบำบัดครั้งสุดท้ายของปี 2564 จึงอยากแจ้งข่าวดีนี้กับทุกคน เพราะทุกชัยชนะเล็ก ๆ ล้วนมีค่าแก่การเฉลิมฉลอง เขากำลังใช้โอกาสนี้เป็นการทดสอบการต่อสู้ครั้งใหม่ และจะใช้เวลาอยู่ที่โรงพยาบาลอีกไม่กี่วัน ขอให้ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง และพร้อมจะเฉลิมฉลองเทศกาลวันหยุดในปลายปีนี้ เปเล่มีปัญหาสุขภาพหลายอย่างในช่วงหลายปีมานี้ การผ่าตัดสะโพกทำให้เขามีอาการปวดขึ้นมาอีกครั้งและต้องใช้ไม้เท้าช่วยเดิน.-สำนักข่าวไทย

รมต.สาธารณสุขบราซิล ระบุผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศและยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะต้องกักตัว 5 วัน พร้อมตรวจหาเชื้อโควิด-19