บราซิล

บราซิเลีย 12 ก.ย. – นายชาอีร์ โบลโซนาโร อดีตประธานาธิบดีบราซิล ถูกศาลลงโทษจำคุกเป็นเวลา 27 ปี 3 เดือน เมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานวางแผนก่อรัฐประหารเพื่อให้ตนเองอยู่ในอำนาจต่อไป หลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งในปี 2022 คำพิพากษาลงโทษของคณะผู้พิพากษาศาลฎีกาของบราซิลจำนวน 5 ท่าน ซึ่งมีมติเห็นพ้องต้องกันในบทลงโทษด้วย ทำให้นายโบลโซนาโร วัย 70 ปี กลายเป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานทำลายประชาธิปไตย ในขณะเดียวกันยังสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับนายโบลโซนาโรด้วย ผู้พิพากษาคาร์เมน ลูเซีย กล่าวว่า มีหลักฐานเพียงพอที่แสดงให้เห็นว่านายโบลโซนาโร ซึ่งปัจจุบันถูกกักบริเวณในบ้านพัก พยายามกระทำ โดยมีเป้าหมายเพื่อบ่อนทำลายประชาธิปไตยและสถาบันต่างๆ คณะผู้พิพากษาสี่ในห้าคนลงคะแนนให้ตัดสินว่าอดีตประธานาธิบดีมีความผิดใน 5 ข้อหา ได้แก่ การมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมติดอาวุธ พยายามใช้ความรุนแรงเพื่อล้มล้างประชาธิปไตย, จัดตั้งการรัฐประหาร และทำลายทรัพย์สินของรัฐบาลและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่ได้รับการคุ้มครอง นายทรัมป์ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของนายโบลโซนาโร ได้เรียกคดีนี้ว่าเป็น “การล่าแม่มด” และเพื่อเป็นการตอบโต้ สหรัฐได้ขึ้นภาษี คว่ำบาตรผู้พิพากษาที่รับผิดชอบในคดีนี้ และเพิกถอนวีซ่าเข้าสหรัฐของผู้พิพากษาศาลสูงสุดส่วนใหญ่ เมื่อนายทรัมป์ถูกถามเกี่ยวกับคำตัดสินนี้ ผู้นำสหรัฐกล่าวชื่นชมโบลโซนาโรอีกครั้ง โดยเรียกคำตัดสินนี้ว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากและกล่าวเสริมว่าเขาคิดว่ามันไม่ดีต่อบราซิลเลย […]

วอชิงตัน 19 ก.ค.- สหรัฐจำกัดการออกวีซ่าให้แก่เจ้าหน้าที่บราซิลและครอบครัวที่ดำเนินคดีกับนายฌาอีร์ โบลโซนารู อดีตประธานาธิบดีบราซิล หลังจากศาลฎีกาบราซิลมีคำสั่งห้ามนายโบลโซนารูติดต่อกับเจ้าหน้าที่ต่างชาติ ตามที่มีเสียงครหาว่าเขาขอให้สหรัฐแทรกแซงศาล นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐโพสต์เมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังจำกัดการออกวีซ่าให้แก่นายอเล็กซันดีร์ ดี โมราอิส ผู้พิพากษาศาลฎีกาบราซิลและเจ้าหน้าที่ตุลาการที่เป็นพรรคพวกกัน รวมถึงสมาชิกครอบครัว โดยให้มีผลทันที เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการดำเนินคดีกับนายโบลโซนารู ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ศาลฎีกาบราซิลได้ออกหมายค้นและออกคำสั่งห้ามกระทำการกับนายโบลโซนารู คณะผู้พิพากษา 5 คนเห็นชอบตามที่ผู้พิพากษาโมราอิสมีคำสั่งห้ามนายโบลโซนารูติดต่อกับเจ้าหน้าที่ต่างชาติ ห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์หรือติดต่อสถานทูตต่าง ๆ เนื่องจากมีความเป็นไปได้เป็นที่ประจักษ์ว่าจะหลบหนีออกนอกประเทศ จากนั้นตำรวจรัฐบาลกลางได้ตรวจค้นบ้านพักของเขาและสวมกำไลอีเอ็ม ซึ่งเป็นกุญแจข้อเท้าเพื่อติดตามความเคลื่อนไหว นายโบลโซนารูให้สัมภาษณ์สื่อประณามผู้พิพากษาว่า เป็นเผด็จการและออกคำสั่งที่ขี้ขลาด เขารู้สึกอัปยศอดสูอย่างยิ่งที่ถูกกระทำเช่นนี้ทั้งที่มีอายุ 70 ปี และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีมาเป็นเวลา 4 ปี เขาปฏิเสธเรื่องเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ แต่เปิดเผยว่า จะไปพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ หากทางการคืนหนังสือเดินทางที่ตำรวจยึดไปตั้งแต่ปีก่อน อดีตผู้นำบราซิลกล่าวด้วยว่า ได้หาทางติดต่อกับเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำบราซิลเพื่อพูดคุยเรื่องภาษีศุลกากรที่สหรัฐจะเก็บกับบราซิลในอัตราร้อยละ 50 ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม นายโบลโซนารูอยู่ระหว่างถูกศาลฎีกาบราซิลพิจารณาคดีในข้อหาวางแผนก่อรัฐประหารเพื่อขัดขวางการที่นายลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมาประธานาธิบดีทรัมป์ได้กดดันบราซิลให้ยกเลิกการพิจารณาคดีโดยอ้างว่า […]

เซาเปาลู 18 ก.ค.- ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิลประกาศว่า เขาจะไม่รับคำสั่งเรื่องภาษีศุลกากรจาก “คนต่างชาติ” ซึ่งหมายถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และเรียกภาษีของทรัมป์ว่าเป็นการกรรโชกที่ไม่สามารถยอมรับได้ ประธานาธิบดีลูลา กล่าวบนเวทีต่อกลุ่มนักศึกษาที่เป็นนักเคลื่อนไหวฝ่ายซ้ายในรัฐโกยาชเมื่อวานนี้ว่า ไม่มีชาวต่างชาติคนใดที่จะมาออกคำสั่งกับประธานาธิบดีคนนี้ได้ โดยใช้คำว่า กริงโก (gringo) ซึ่งเป็นคำที่ชาวบราซิลใช้เรียกคนต่างชาติโดยทั่วไป และไม่มีความหมายในเชิงดูถูกเหมือนที่ใช้ในประเทศอื่น ๆ ของลาตินอเมริกา ผู้นำบราซิลกล่าวด้วยว่า บราซิลจะเดินหน้าบังคับใช้ระเบียบและการเก็บภาษีกับบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐ เพราะบริษัทเหล่านี้เป็นช่องทางเผยแพร่ความรุนแรงและข่าวปลอมโดยยกเรื่องเสรีภาพในการแสดงออกมาบังหน้า จากนั้นในเย็นวันเดียวกัน ประธานาธิบดีลูลาได้กล่าวกับประชาชนทั้งประเทศโดยมีการออกอากาศทั้งทางวิทยุและโทรทัศน์เป็นเวลานานเกือบ 5 นาทีว่า การปกป้องอธิปไตยของบราซิลได้ขยายครอบคลุมถึงการปกป้องประเทศจากการกระทำของแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างชาติด้วย เขาได้กล่าวถึงการเจรจาเรื่องภาษีศุลกากรกับสหรัฐว่ายังคงดำเนินอยู่ และย้ำว่าบราซิลได้ส่งข้อเสนอถึงสหรัฐตั้งแต่เดือนพฤษภาคม แต่สิ่งที่สหรัฐตอบกลับมากลายเป็นการกรรโชกที่ไม่สามารถยอมรับได้ในรูปแบบของการคุกคามสถาบันของบราซิลและข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการค้าระหว่าง 2 ประเทศ ประธานาธิบดีลูลาวัย 79 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2566 เริ่มมีคะแนนนิยมดีขึ้น นับตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์ส่งจดหมายถึงบราซิลเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมว่า จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากบราซิลในอัตราร้อยละ 50 ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ไม่กี่วันหลังจากผู้นำบราซิลกล่าวในการเป็นเจ้าภาพประชุมกลุ่มบริกส์ (BRICS) ว่า […]

วอชิงตัน 11 ก.ค.- ผู้บริโภคในสหรัฐกำลังจะได้รับผลกระทบจากราคากาแฟและน้ำส้มเพิ่มสูงขึ้นอีกหลายเท่า หากรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากบราซิลร้อยละ 50 ตามที่ประกาศไว้ บรรดาผู้ค้าและผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า ผู้บริโภคในสหรัฐจะต้องซื้อสินค้าอาหารหลักอย่างกาแฟและน้ำส้มในราคาที่พุ่งสูงขึ้น หากรัฐบาลทรัมป์ยังคงยึดมั่นตามแผนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทั้งหมดจากบราซิลในอัตราร้อยละ 50 เพราะภาษีนำเข้าดังกล่าวจะทำให้การส่งออกกาแฟบราซิลไปยังสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุด หยุดชะงัก เนื่องจากทั้งผู้คั่วกาแฟและผู้ส่งออกของสหรัฐจะไม่สามารถปิดช่องว่างราคาที่เกิดจากภาษีนี้ได้ นายทรัมป์ประกาศเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมตามเวลาท้องถิ่นว่า จะเพิ่มภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าจากบราซิลจากเดิมร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 50 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม แม้ว่าข้อมูลของสำนักสำมะโนสหรัฐระบุว่า สหรัฐเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับบราซิล 7,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 241,062 ล้านบาท) ก็ตาม ตามข้อมูลของกลุ่มผู้ส่งออก Cecafe ของบราซิล สหรัฐเป็นประเทศที่ดื่มกาแฟมากที่สุดในโลก กาแฟที่บริโภคราว 1 ใน 3 มาจากบราซิล โดยเมื่อปี 2567 บราซิลส่งออกกาแฟบรรจุกระสอบขนาด 60 กิโลกรัม ไปยังสหรัฐมากถึง 8.14 ล้านกระสอบ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 จากปี […]

บราซิลซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกไก่รายใหญ่ที่สุดในโลกแจ้งผลการตรวจว่า เหตุสัตว์ปีกล้มตาย 3 แห่งจากทั้งหมด 7 แห่งไม่ได้มีสาเหตุจากไข้หวัดนก หลังจากหลายประเทศสั่งระงับการนำเข้าไก่จากบราซิล

รัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มบริกส์ (BRICS) ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ที่ เปิดการประชุมที่นครรีโอเดจาเนโรของบราซิล