วอชิงตัน 11 ก.ค.- ผู้บริโภคในสหรัฐกำลังจะได้รับผลกระทบจากราคากาแฟและน้ำส้มเพิ่มสูงขึ้นอีกหลายเท่า หากรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากบราซิลร้อยละ 50 ตามที่ประกาศไว้
บรรดาผู้ค้าและผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า ผู้บริโภคในสหรัฐจะต้องซื้อสินค้าอาหารหลักอย่างกาแฟและน้ำส้มในราคาที่พุ่งสูงขึ้น หากรัฐบาลทรัมป์ยังคงยึดมั่นตามแผนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทั้งหมดจากบราซิลในอัตราร้อยละ 50 เพราะภาษีนำเข้าดังกล่าวจะทำให้การส่งออกกาแฟบราซิลไปยังสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุด หยุดชะงัก เนื่องจากทั้งผู้คั่วกาแฟและผู้ส่งออกของสหรัฐจะไม่สามารถปิดช่องว่างราคาที่เกิดจากภาษีนี้ได้
นายทรัมป์ประกาศเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมตามเวลาท้องถิ่นว่า จะเพิ่มภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าจากบราซิลจากเดิมร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 50 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม แม้ว่าข้อมูลของสำนักสำมะโนสหรัฐระบุว่า สหรัฐเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับบราซิล 7,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 241,062 ล้านบาท) ก็ตาม

ตามข้อมูลของกลุ่มผู้ส่งออก Cecafe ของบราซิล สหรัฐเป็นประเทศที่ดื่มกาแฟมากที่สุดในโลก กาแฟที่บริโภคราว 1 ใน 3 มาจากบราซิล โดยเมื่อปี 2567 บราซิลส่งออกกาแฟบรรจุกระสอบขนาด 60 กิโลกรัม ไปยังสหรัฐมากถึง 8.14 ล้านกระสอบ เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 จากปี 2566 ส่วนน้ำส้มที่ขายในสหรัฐมากกว่าครึ่งหนึ่งมาจากบราซิล นอกจากนี้บราซิลยังส่งออกน้ำตาล ผลิตภัณฑ์จากไม้ น้ำมัน และผลิตภัณฑ์จากน้ำมันจำนวนมากไปยังสหรัฐอีกด้วย
สหรัฐผลิตกาแฟได้เพียงเศษเสี้ยวของปริมาณที่บริโภคในประเทศ โดยมีฟาร์มในฮาวายและอีกไม่กี่แห่งในแคลิฟอร์เนีย ขณะที่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้สหรัฐต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำส้มมากขึ้น เนื่องจากผลผลิตภายในประเทศลดลงอย่างมาก ทั้งจากโรคพืช พายุเฮอริเคน และอากาศหนาวจัด กระทรวงเกษตรสหรัฐคาดการณ์เมื่อต้นปีนี้ว่า ผลผลิตส้มของสหรัฐจะแตะระดับต่ำสุดในรอบ 88 ปีในฤดูกาลเก็บเกี่ยวปี 2567/2568 ซึ่งจะทำให้ผลผลิตน้ำส้มลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว นายฮาเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐกล่าวในการไต่สวนของรัฐสภาว่า ทรัพยากรธรรมชาติบางชนิดที่ไม่มีในสหรัฐ เช่น ผลไม้เมืองร้อนและเครื่องเทศ อาจได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากร ขึ้นอยู่กับการเจรจากับประเทศผู้ผลิตและส่งออก
ในด้านพลังงาน บราซิลเป็นผู้ผลิตเอทานอล หรือเชื้อเพลิงชีวภาพจากอ้อยหรือข้าวโพดรายใหญ่อันดับสองของโลก ผลิตเอทานอลได้ประมาณ 35,000 ล้านลิตรในปี 2567 แต่ส่งออกไม่ถึงร้อยละ 6 โดยในจำนวนนี้ส่งออกไปสหรัฐเพียง 300 ล้านลิตรเท่านั้น
ในจดหมายที่ส่งถึงประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำบราซิลเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมตามเวลาท้องถิ่นเรื่องรายละเอียดแผนภาษีศุลกากร นายทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์บราซิลว่า โจมตีการเลือกตั้งเสรี มีนโยบายเล่นงานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และกิจกรรมการค้าดิจิทัลของบริษัทสหรัฐ.-815(814).-สำนักข่าวไทย