เลื่อนปล่อย “สตาร์ชิป” หลังขัดข้องทางเทคนิค

สตาร์เบส 18 เม.ย.- สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) บริษัทผู้ผลิตยานอวกาศของสหรัฐเลื่อนกำหนดการปล่อยสตาร์ชิป (Starship) ที่จะทดสอบขึ้นสู่อวกาศเป็นเที่ยวแรกจากวันจันทร์เป็นวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น หลังจากมีปัญหาขัดข้องทางเทคนิค สเปซเอ็กซ์แถลงว่า การปล่อยสตาร์ชิปถูกเลื่อนก่อนถึงกำหนดเวลาไม่ถึง 10 นาที เนื่องจากมีปัญหาเรื่องระบบควบคุมแรงดันของจรวดท่อนแรกหรือบูสเตอร์ แต่ยังคงนับถอยหลังเพื่อทดสอบการบรรจุเชื้อเพลิงเหลวโดยไม่มีการจุดระเบิดเครื่องยนต์ และได้กำหนดปล่อยครั้งใหม่ในเวลา 08:28 น.วันที่ 20 เมษายนตามเขตเวลาตอนกลางของสหรัฐ ตรงกับเวลา 20:28 น.วันเดียวกันตามเวลาไทย ทั้งนี้ก่อนที่จะประกาศกำหนดการปล่อยครั้งใหม่ สเปซเอ็กซ์ได้แจ้งว่า การทดสอบเที่ยวแรกจะต้องล่าช้าอย่างน้อย 48 ชั่วโมงเพื่อรีไซเคิลมีเทนเหลวและออกซิเจนเหลวที่เป็นเชื้อเพลิงของจรวด อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งสเปซเอ็กซ์ทวีตว่า กำหนดการปล่อยสตาร์ชิปขึ้นจากสตาร์เบส (Starbase) ซึ่งเป็นฐานปล่อยของสเปซเอ็กซ์ในเมืองโบคาชิกา รัฐเทกซัส ในเวลา 08:20 น.วันที่ 17 เมษายนตามเขตเวลาตอนกลางของสหรัฐ ตรงกับเวลา 20:20 น.วันเดียวกันตามเวลาไทยต้องถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากวาล์วควบคุมแรงดันมีปัญหาเย็นจัด ทีมงานได้เรียนรู้มากมายและจะพยายามอีกครั้งในอีกไม่กี่วัน สตาร์ชิปเป็นยานอวกาศขนาดใหญ่ ประกอบด้วยยานสูง 50 เมตรสำหรับบรรทุกนักบินอวกาศและสิ่งของ และบูสเตอร์ชื่อซูเปอร์เฮฟวี (Super Heavy) สูง 70 เมตร ได้รับเลือกจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐหรือนาซาให้นำนักบินอวกาศไปยังดวงจันทร์ในปลายปี […]

นาซาเปิดตัวนักบินอวกาศที่จะสำรวจรอบดวงจันทร์

องค์การบริการการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซา ของสหรัฐ เปิดตัวนักบินอากาศ 4 คนที่จะปฏิบัติภารกิจส่งมนุษย์กลับไปสำรวจดวงจันทร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปี ซึ่งนักบินอวกาศชุดนี้จะมีสตรีรายแรกและคนผิวดำคนแรกที่เข้าร่วมในปฏิบัติการสำรวจดวงจันทร์ด้วย

นักบินอวกาศอายุมากที่สุดของญี่ปุ่น กลับถึงโลกแล้ว

วอชิงตัน 12 มี.ค.- โคอิจิ วากาตะ นักบินอวกาศที่มีอายุมากที่สุดของญี่ปุ่น เดินทางกลับถึงโลกแล้ว พร้อมกับนักบินอวกาศอีก 3 คน ด้วยยานอวกาศของสเปซเอ็กซ์ หลังจากใช้เวลาอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ หรือไอเอสเอส (ISS) นาน 5 เดือน วากาตะ วัย 59 ปี เป็นนักบินอวกาศอายุมากที่สุดของญี่ปุ่นและปฏิบัติภารกิจในอวกาศมากที่สุดของประเทศ โดยใช้เวลาในอวกาศรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 500 วัน ในภารกิจทั้งหมด 5 ครั้ง ยานแคปซูลเอ็นดูรานซ์ (Endurance) ของสเปซเอ็กซ์ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน นำวากาตะพร้อมนักบินอวกาศ 2 คนขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซา ของสหรัฐ และนักบินอวกาศของรัสเซีย 1 คน เดินทางออกจากไอเอสเอสเมื่อวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ และลงจอดนอกชายฝั่งรัฐฟลอริดาของสหรัฐในค่ำวันเดียวกัน พวกเขาทะยานขึ้นสู่อวกาศตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2565 เพื่อทำการทดลองในสภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำ เช่น การเคลื่อนที่ของของเหลว อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับภารกิจไปดวงจันทร์และดาวอังคารในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

จรวดสเปซ เอ็กซ์ ดรากอน นำนักบินอวกาศไปยังไอเอสเอสแล้ว

จรวดสเปซ เอ็กซ์ ฟอลคอน 9 ถูกป่ล่อยขึ้นสู่อวกาศแล้วในวันนี้เพื่อเดินทางไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ หรือ ไอเอสเอส พร้อมนำนักบินอวกาศของนาซา 2 คน นักบินอวกาศรัสเซีย 1 คนและนักบินอวกาศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์คนที่ 2 ออกเดินทางไปด้วย

นักบินอวกาศหญิงคนแรกของซาอุฯ เตรียมปฏิบัติภารกิจในอวกาศ

ริยาด 14 ก.พ.- ซาอุดีอาระเบียเตรียมตัวส่งนักบินอวกาศหญิงคนแรกของประเทศขึ้นไปปฏิบัติภารกิจในอวกาศในปีนี้ สำนักข่าวเอสพีเอ (SPA) ของทางการซาอุดีอาระเบียรายงานว่า รียานา บาร์นาวี นักบินอวกาศหญิงคนแรกของประเทศวัย 33 ปีจะร่วมกับอาลี อัล-การ์นี นักบินอวกาศชายขึ้นไปปฏิบัติภารกิจแอกเซียม มิชชัน ทู (Axiom Mission 2) หรือเอเอ็กซ์ทู (Ax-2) เป็นเวลา 10 วันที่สถานีอวกาศนานาชาติหรือไอเอสเอส (ISS) ในฤดูใบไม้ผลินี้ โดยจะเดินทางไปด้วยยานอวกาศสเปซเอ็กซ์ดรากอน (SpaceX Dragon) ของบริษัทสเปซเอ็กซ์ ภายใต้การดูแลของบริษัทแอกเซียมสเปซ (Axiom Space) นอกจากนี้ยังจะมีผู้ที่เดินทางไปด้วยอีก 2 คน คือ เพ็กกี้ วิตสัน อดีตนักบินอวกาศหญิงขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐหรือนาซา วัย 63 ปีที่จะเดินทางไปไอเอสเอสเป็นเที่ยวที่ 4 และจอห์น ชอฟฟ์เนอร์ นักธุรกิจชาวอเมริกันที่จะทำหน้าที่นักบินของเที่ยวบินนี้ ยานอวกาศสเปซเอ็กซ์ดรากอนจะทะยานขึ้นจากศูนย์อวกาศเคนเนดีของนาซาในรัฐฟลอริดา ซาอุดีอาระเบียจะเป็นอาหรับประเทศที่ 2 ที่ส่งพลเรือนขึ้นสู่อวกาศ หลังจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออีเป็นอาหรับประเทศแรกที่ส่งพลเรือนขึ้นสู่อวกาศในปี 2562 แต่ชาวอาหรับมุสลิมคนแรกที่ได้ขึ้นสู่อวกาศคือ เจ้าชายสุลต่าน […]

ยานสำรวจดวงจันทร์ของนาซากลับสู่พื้นโลกแล้ว

ยานโอไรออน (Orion capsule) ของสำนักงานบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ หรือ นาซา เดินทางกลับถึงพื้นโลกแล้วเมื่อวานนี้

ยานสำรวจดวงจันทร์ของนาซาจะกลับสู่พื้นโลกวันนี้

ยานโอไรออน (Orion capsule) ของสำนักงานบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ หรือ นาซา กำลังเดินทางกลับสู่พื้นโลกในวันนี้ หลังจากโคจรใกล้ดวงจันทร์และสำรวจอวกาศในจุดที่ไม่เคยมียานอวกาศลำไหนเคยไปมาก่อน ซึ่งเป็นการทดสอบครั้งสุดท้ายก่อนที่จะนำมนุษย์อวกาศกลับไปเหยียบดวงจันทร์อีกครั้ง

จรวดยักษ์ของนาซาทะยานขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์แล้ว

ฟลอริดา 16 พ.ย.- จรวดที่ทรงพลังที่สุดขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐหรือนาซา (NASA) ทะยานจากฐานปล่อยขึ้นไปปฏิบัติภารกิจอาร์ทิมิสวัน (Artemis 1) ซึ่งเป็นภารกิจสำรวจดวงจันทร์แล้วในวันนี้ จรวดเอสแอลเอส (SLS) ความสูงเท่าตึก 32 ชั้นที่นาซาใช้เวลาพัฒนากว่าทศวรรษ ทะยานขึ้นจากฐานปล่อยที่ศูนย์อวกาศเคนเนดีในรัฐฟลอริดาเมื่อเวลา 01:47 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 13:47 น.วันนี้ตามเวลาไทย มีแรงขับจรวดมากเป็นประวัติการณ์ถึง 39 เมกะนิวตัน เพื่อนำยานโอไรอัน (Orion) ที่ไร้นักบินอวกาศไปยังดวงจันทร์ เป็นเที่ยวบินทดสอบสำหรับนำร่องเที่ยวบินที่จะมีนักบินอวกาศหญิงคนแรกและนักบินอวกาศผิวสีคนแรกขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ภายในกลางคริสต์ทศวรรษ 2020 หลังจากสหรัฐส่งนักบินอวกาศขึ้นไปบนดวงจันทร์ครั้งหลังสุดในช่วงปี 2512-2515 นาซาวาดหวังว่า จะสามารถตั้งถิ่นฐานมนุษย์และสถานีอวกาศดวงจันทร์เพื่อเตรียมการสำหรับภารกิจไปดาวอังคารในคริสต์ทศวรรษหลังปี 2030 ช่วงเวลานับถอยหลังปล่อยจรวดที่เริ่มตั้งแต่เวลา 01:04 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 13:04 น.วันนี้ตามเวลาไทย เป็นช่วงเวลาตื่นเต้นเนื่องจากทีมงานต้องแก้ไขปัญหาวาล์วรั่วที่ทำให้วิศวกรต้องระงับการปล่อยเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเหลวเข้าไปที่จรวดท่อนกลางเมื่อคืนวันอังคาร ทีมงานใช้เวลาแก้ไขที่ฐานปล่อยประมาณ 1 ชั่วโมงด้วยการไขสลักเกลียวให้แน่นขึ้น ยานโอไรอันทะยานขึ้นจากฐานปล่อยด้วยจรวดเพิ่มแรงส่งหรือบูสเตอร์ 2 ตัวและเครื่องยนต์ทรงพลัง 4 ตัวที่อยู่ใต้จรวดท่อนกลาง ก่อนที่จรวดท่อนกลางจะแยกตัวออกไปภายในไม่กี่นาที ขณะที่จรวดท่อนบนจะนำยานเข้าสู่เส้นทางไปดวงจันทร์ โดยต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะถึงจุดหมาย ยานโอไรอันจะไม่ลงจอดบนดวงจันทร์ แต่จะโคจรอยู่ห่าง ๆ ถัดจากด้านมืดของดวงจันทร์ออกไป […]

นาซาพร้อมส่งจรวดสำรวจดวงจันทร์หลังเลื่อนมา 3 ครั้ง

ฟลอริดา 16 พ.ย.- องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐหรือนาซา (NASA) พร้อมส่งจรวดสำรวจดวงจันทร์ขนาดใหญ่ทะยานขึ้นจากฐานปล่อยที่รัฐฟลอริดาในวันนี้ หลังจากเลื่อนการปล่อยมาแล้ว 3 ครั้ง นาซากำหนดเริ่มการปล่อยจรวดในภารกิจอาร์ทิมิสวัน (Artemis 1) ที่ศูนย์อวกาศเคนเนดีในเวลา 01:04 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 13:04 น. วันนี้ตามเวลาในไทย ท่ามกลางสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยราวร้อยละ 90 โดยจะดำเนินการตามกำหนดได้ หากแก้ไขปัญหาวาล์วรั่วที่ฐานปล่อยได้เรียบร้อย ภารกิจนี้เป็นเที่ยวบินทดสอบแบบไร้นักบินอวกาศ เป็นก้าวแรกของแผนการตั้งถิ่นฐานมนุษย์บนดวงจันทร์ และนำบทเรียนมาใช้เตรียมการสำหรับการเดินทางไปดาวอังคารในคริสต์ทศวรรษหลังปี 2030 นอกจากนี้ยังเป็นการกลับไปดวงจันทร์ครั้งแรกหลังจากนักบินอวกาศไปฝากรอยเท้าไว้เมื่อ 50 ปีก่อน และเป็นการปฏิบัติภารกิจครั้งแรกของจรวดเอสแอลเอส (SLS) ที่เป็นจรวดขนาดใหญ่สูงเทียบเท่าตึก 32 ชั้น และทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา นาซายืนยันว่า มีความเสี่ยงต่ำมาก หลังจากเฮอริเคนนิโคลพัดผ่านฐานปล่อยเมื่อสัปดาห์ก่อนและสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย หากจำเป็นก็อาจเลื่อนไปปล่อยในวันที่ 19 หรือ 25 พฤศจิกายน ภารกิจครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก คาดว่าจะมีคนเรือนแสนทั้งนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ไปรอชมการปล่อยจรวดบริเวณชายฝั่ง หลังจากที่ต้องเลื่อนการปล่อยมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมเพราะเซ็นเซอร์มีปัญหา ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ […]

สเปซเอ็กซ์นำนักบินอวกาศ 4 คนกลับโลกอย่างปลอดภัย

คณะนักบินอวกาศ 4 คน ที่เดินทางด้วยยานของบริษัทสเปซเอ็กซ์ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ หรือ ไอเอสเอส เดินทางกลับสู่พื้นโลกอย่างปลอดภัยเมื่อวานนี้ โดยแคปซูลของพวกเขาตกลงในมหาสมุทรแอตแลนติก นอกชายฝั่งฟลอริดาของสหรัฐ หลังจากไปปฎิบัติหน้าที่ในการวิจัยบนไอเอสเอสมานานเกือบ 6 เดือน ตั้งแต่ 27 เมษายนที่ผ่านมา

นาซาเผยยาน “DART” เปลี่ยนวงโคจรดาวเคราะห์น้อยสำเร็จ

วอชิงตัน 12 ต.ค. – องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ หรือ นาซา ระบุว่า ยานสำรวจชื่อ ‘ดาร์ต’ (Double Asteroid Redirection Test-DART) ที่นาซาส่งขึ้นไปชนดาวเคราะห์น้อยในเดือนกันยายน ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนวิถีวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ นาซาเผยเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ผลการติดตามวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย ‘ไดมอร์ฟอส’ (Dimorphos) ที่ถูกยานสำรวจดาร์ตพุ่งชนเมื่อวันที่ 26 กันยายนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ พบว่า การพุ่งชนดังกล่าวสามารถเปลี่ยนวิถีวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยไดมอร์ฟอสได้ และทำให้ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีวิถีโคจรเข้าใกล้ดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดใหญ่กว่าอีกดวงที่มันเป็นบริวารมากขึ้น รวมถึงทำให้วงโคจรของดาวเคราะห์น้อยไดมอร์ฟอสสั้นลง 32 นาที ขณะที่นายบิล เนลสัน ผู้อำนวยการของนาซา ระบุว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นจุดพลิกผันของการป้องกันโลกและมวลมนุษยชาติ ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่พล็อตในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ นาซาได้ส่งยานสำรวจดาร์ตขึ้นไปพุ่งชนดาวเคราะห์น้อยไดมอร์ฟอส ซึ่งมีรูปร่างคล้ายไข่ไก่ มีขนาดใหญ่เกือบเท่าสนามฟุตบอล และตั้งอยู่ห่างจากโลก 10.9 ล้านกิโลเมตร โดยเฝ้าติดตามผลของภารกิจในครั้งนี้จากศูนย์ปฏิบัติการฟิสิกส์ประยุกต์ (APL) ที่มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ในรัฐแมริแลนด์ของสหรัฐ ซึ่งเป็นสถานที่ออกแบบและสร้างยานอวกาศของนาซา โดยที่ยานสำรวจดาร์ต ซึ่งมีขนาดเกือบเท่าตู้เย็น ได้พุ่งชนดาวเคราะห์น้อยไดมอร์ฟอสด้วยความเร็ว 22,500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง […]

ยาน “DART” ของนาซา พุ่งชนดาวเคราะห์น้อยสำเร็จ

วอชิงตัน 27 ก.ย. – ยานสำรวจชื่อ ‘ดาร์ต’ (Double Asteroid Redirection Test-DART) ขององค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ หรือนาซา ได้พุ่งชนดาวเคราะห์น้อย ‘ไดมอร์ฟอส’ (Dimorphos) ด้วยความเร็ว 22,500 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อวันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐ ถือเป็นการจบภารกิจทดสอบการรับมืออุกกาบาตนอกโลกสำเร็จเป็นครั้งแรก นาซาเผยว่า ยานสำรวจดาร์ตได้พุ่งชนดาวเคราะห์น้อยไดมอร์ฟอสด้วยความเร็ว 22,500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่จุดเกิดเหตุพุ่งชนเกิดขึ้นในห้วงอวกาศที่อยู่ห่างจากโลกราว 9.6 ล้านกิโลเมตร ขณะที่นักวิทยาศาสตร์หลายรายคาดว่าแรงปะทะดังกล่าวจะทำให้ดาวเคราะห์น้อยไดมอร์ฟอสเปลี่ยนวงโคจนได้ แต่จะต้องใช้เวลาติดตามอีกหลายวันหรือสัปดาห์กว่าที่จะทราบว่าดาวเคราะห์น้อยดังกล่าวเปลี่ยนวงโคจรได้มากหรือน้อยเพียงใด ในขณะเดียวกัน นายบิล เนลสัน ผู้อำนวยการของนาซา ได้ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่พล็อตหนังอย่างที่เคยดูกัน เช่น อาร์มาเก็ดดอน หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อไทยว่า วันโลกาวินาศ ออกฉายปี 2541 เนื่องจากเดิมพันที่ใช้ในโลกแห่งความจริงนั้นมีมูลค่าสูงยิ่ง ทั้งนี้ ดาวเคราะห์น้อยไดมอร์ฟอสมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 160 เมตร อยู่ห่างจากโลกราว 9.6 ล้านกิโลเมตร และเป็นบริวารของดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่อีกดวงที่มีชื่อว่า ‘ดิดีมอส’ (Didymos) ดาวเคราะห์น้อยทั้งสองดวงได้โคจรรอบดวงอาทิตย์มาเป็นเวลาช้านานโดยไม่เป็นภัยต่อโลก ทำให้นาซาตัดสินใจเลือกดาวเคราะห์น้อยดังกล่าวมาใช้ทดสอบการพุ่งชนเพื่อเปลี่ยนวงโคจรไม่ให้พุ่งชนโลกในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 8
...