นักโทษ

รร.เซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการ 3มี.ค. -คุมประพฤติเปิดเวทีหาแนวทางเฝ้าระวังนักโทษคดีสะเทือนขวัญ ดันกฏหมายให้เป็นบุคคลอันตราย ติดอีเอ็มตลอดชีวิต ให้สังคมรู้ก่อนร่วมจับตาเฝ้าระวัง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดการสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง”การพัฒนาระบบการเฝ้าระวังการกระทำผิดซ้ำในชุมชน” ครั้งที่ 3 เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางปฏิบัติและผลักดันกฏหมาย เพื่อแก้ไขการกระทำผิดซ้ำในชุมชน โดยนายสมศักดิ์ มีนโยบายที่จะควบคุมดูแลผู้กระทำผิดในคดีสะเทือนขวัญ เช่น คดี ฆ่าข่มขืน คดีสังหารหมู่ ฆาตรกรต่อเนื่อง เป็นต้น ด้วยการพักการลงโทษให้ออกมาปรับตัวใช้ชีวิตล่วงหน้าก่อนพ้นโทษ 1-2ปี โดยให้ติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ตามตัว (EM) และวางระบบแจ้งสังคม ชุมชน ให้รู้ก่อนปล่อยพักโทษออกมา เพื่อเฝ้าระวังสอดส่อง เพราะกฏหมายปัจจุบัน หากผู้ต้องขังกลุมนี้พ้นโทษแล้ว ก็ไม่สามารถติดตามตัว เฝ้าระวังได้ ทำให้เกิดเหตุทำผิดซ้ำต่อเนื่องหลายคดี กระทรวงยุติธรรมจึงเป็นเจ้าภาพ เพื่อสร้างกลไก ให้มีกฎหมายยันทึกท้ายคำฟ้องให้ศาลสั่งเป็นบุคคลอันตรายแม้พ้นโทษแล้วก็ต้องให้ชุมชนจับตาและติดกำไลอีเอ็มตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะมีความเห็นแพทย์ว่าปลอดภัย ทั้งนี้ แต่ละปีมีนักโทษได้ปล่อยออกจากเรือนจำ 180,000 คนหรือเดือนละ 15,000 คนจึงไม่สามารถดูแลทั้งหมด ต้องแบ่งกลุ่มเฝ้าระวัง.-สำนักข่าวไทย

กระทรวงยุติธรรม 5 ก.พ.-ก.ยุติธรรม-อุตสาหกรรม เอ็มโอยูนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ หวังคืนคนดีสู่สังคมเต็มรูปแบบ สร้างความหวังให้ผู้ต้องขังมีอาชีพรองรับหลังพ้นโทษ ลด นำเข้าแรงงานต่างชาติ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อคืนคนดีสู่สังคมในระบบงานภาคนิคมอุตสาหกรรม ระหว่างกรมราชทัณฑ์ กับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้ต้องขังและผู้พ้นโทษเพื่อคืนคนดีสู่สังคม พัฒนาฝีมือแรงงานในเรือนจำให้เป็นแรงงานทางเลือก ทดแทนแรงงานที่ขาดแคลนในปัจจุบัน และไม่ต้องนำเข้าแรงงานต่างชาติ โครงการดังกล่าวนี้เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพ และมีการตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ชั่วคราวที่ เรือนจำชั่วคราวบ้านบึง จ.ชลบุรี เป็นเรือนจำนำร่อง มีการฝึกอาชีพงานอุตสาหกรรม เช่น เฟอร์นิเจอร์ งานโลหะ หัตถกรรมและเกษตรแปรรูป เป็นต้น นอกจากนี้จะเกิดการทำงานร่วมกันระหว่างนักออกแบบกับผู้ผลิต ผู้ค้า เพื่อให้ตรงความต้องการของตลาด ซึ่งปัจจุบันกระทรวงยุติธรรม มีไม้มีค่าที่ยึดมาจากเครือข่ายยาเสพติด ซึ่งมีความจำเป็นในเรื่องการออกแบบเพื่อขายและทำรายได้เข้าสู่กองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้พ้นโทษและนำเงินเหล่านั้นเข้าสนับสนุน นิคมอุตสาหกรรม มั่นใจโครงการนี้จะลดการกระทำผิดซ้ำด้วย.-สำนักข่าวไทย

กรมราชทัณฑ์ 27 พ.ย. –อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยืนยันส่ง 2 นักโทษชาวอิหร่านคดีวางระเบิดที่กรุงเทพกลับไปรับโทษประเทศบ้านเกิด เป็นไปตามสนธิสัญญาโอนตัว ส่วนนักโทษอีกคนได้รับพระราชทานอภัยโทษ จากกรณีสำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวทางการไทยได้ส่งกลับชาวอิหร่าน 3 คนที่ถูกจำคุกจากคดีวางระเบิดในกรุงเทพฯเมื่อปี 2555 โดยโยงว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล่อยตัวนักวิชาการสาวชาวออสเตรเลียที่เชี่ยวชาญด้านตะวันออกกลาง หลังถูกคุมตัวในอิหร่านเป็นเวลา 2 ปีในข้อหาจารกรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงในเรื่องนี้ว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ได้โอนตัว นายมาซูด เซดากัตซาเดห์ (Masoud Sedaghatzadeh) และซาเอด โมราดี (Saeid Moradi ผู้ต้องขังชาวอิหร่านกลับไปรับโทษยังบ้านเกิดของตนเอง ซึ่งเป็นไปตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องคำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษา ซึ่งการโอนตัวตามสนธิสัญญาดังกล่าวทางการไทยยังคงไว้ซึ่งอำนาจศาลในส่วนที่เกี่ยวกับคำพิพากษา หรือคำสั่งลงโทษที่ออกโดยศาลไทย หมายความว่า ทางการไทยยังคงมีอำนาจที่จะอภัยโทษ หรือลดโทษแก่นักโทษดังกล่าว และการโอนตัวไม่เหมือนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ส่วนผู้ต้องขังคนที่ 3 คือ นายโมฮัมหมัด คาซาเอ (Mohammad Khazaei)ได้รับพระราชทานอภัยโทษในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีสนธิสัญญาโอนตัวนักโทษเด็ดขาดระหว่างประเทศ รวมทั้งหมด 38 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศอิหร่านด้วย […]

กทม. 13 ส.ค.-คณะอนุกรรมการฯ–กรมราชทัณฑ์ ตั้งเป้า 6 เดือน ศึกษาแนวทางตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์แล้วเสร็จ มุ่งแก้ปัญหานักโทษล้นเรือนจำ พร้อมกลับสู่สังคม เล็งพื้นที่ภาคตะวันออกตั้งนิคมฯ นายโฆษิต สุวินิจจิต ประธานคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์กระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนาย กิตติพัฒน์ เดชะพหุล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ร่วมประชุมหารือถึงแนวทาง การออกแบบโครงสร้างการบริหารจัดการเรือนจำอุตสาหกรรมหรือเกษตรกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำ ลดความแออัด และพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังให้สามารถกลับคืนสู่สังคม ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางและเรือนจำกลางคลองเปรม โดยมีหน่วยงานภาคเอกชน คือบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ร่วมเดินทางมาศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนแนวคิดประเด็นการจัดหาแหล่งเงินทุนในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม และแหล่งเงินทุนสำหรับผู้พ้นโทษเพื่อประกอบอาชีพอิสระสำหรับดำรงชีวิตหลังพ้นโทษอย่างมีคุณภาพ ขณะเดียวกันคณะอนุกรรมการฯ ได้เข้าชมการประกอบอาชีพของผู้ต้องขัง ทั้งการทำขนมเพื่อจำหน่ายภายในและนอกเรือนจำ การทำผลิตภัณฑ์งานฝีมือกระถางต้นไม้รูปยักษ์จากไฟเบอร์กลาสที่ได้รับความสนใจมียอดสั่งซื้อ จากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก นายโฆษิต กล่าวว่า กรอบระยะเวลาในการศึกษาแนวทางการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ครั้งนี้อยู่ที่ 6 เดือน การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับนักโทษชั้นดีที่เหลือโทษ1-2 ปี ให้สามารถคืนสู่สังคมได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับผู้ต้องขังและป้องกันไม่ให้กลับเข้าสู่การกระทำผิดซ้ำอีก ต้องยอมรับว่ากฎหมายบางอย่างโดยเฉพาะ พ.ร.บ.วิชาชีพ มีข้อจำกัดที่ผู้ต้องขังที่พ้นโทษไม่สามารถกลับไปประกอบอาชีพได้ จึงทำให้เกิดเป็นวังวนในการทำผิดซ้ำมากถึงร้อยละ 30 ตนเชื่อว่าหากมีพื้นที่ที่ให้ผู้ต้องขังได้พัฒนาศักยภาพจะทำให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่และยังได้แรงงานที่มีฝีมือมีคุณภาพเพิ่มเติม ส่วนพื้นที่ที่ตั้งเป้าจัดตั้งทำนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์อยู่ระหว่างการ ศึกษา โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออก […]