เผยรัสเซียขู่จับกุม-ยึดทรัพย์บริษัทต่างชาติ

นิวยอร์ก 14 มี.ค.- หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลในสหรัฐรายงานว่า ทางการรัสเซียได้ข่มขู่บริษัทที่ต่างชาติที่คิดจะถอนตัวจากรัสเซียว่าจะถูกจับกุมและยึดทรัพย์สิน รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า อัยการรัสเซียได้แจ้งเตือนบริษัทต่างชาติทางโทรศัพท์ จดหมาย และด้วยตัวเอง ซึ่งประกอบด้วยโคคา-โคลา แมคโดนัลด์ พรอคเตอร์แอนด์แกมเบิล ไอบีเอ็ม และยัมแบรนด์ที่เป็นบริษัทแม่ของเคเอฟซีและพิซซ่าฮัท โดยขู่จะจับกุมผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล หรือยึดทรัพย์สิน รวมไปถึงทรัพย์สินทางปัญญา คำเตือนดังกล่าวทำให้บริษัทเป้าหมายอย่างน้อย 1 แห่งได้จำกัดการสื่อสารระหว่างธุรกิจในรัสเซียกับธุรกิจอื่น ๆ ทั้งหมดของบริษัท เพราะเกรงว่าอีเมลหรือข้อความระหว่างพนักงานอาจถูกดักตรวจสอบ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเผยว่า สนับสนุนให้แต่งตั้งผู้บริหารภายนอกเป็นผู้บริหารบริษัทต่างชาติในรัสเซีย แทนการใช้คำว่า “โอนกิจการเป็นของรัฐ” ขณะที่สำนักงานอัยการรัสเซียมีคำสั่งเมื่อวันศุกร์ให้ควบคุมเข้มงวดกับบริษัทที่ประกาศแล้วว่าจะระงับการทำธุรกิจในรัสเซีย โดยจะจับตาเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานให้เคร่งครัดมากยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียอาจยึดเครื่องบินถ้าต่างชาติยกเลิกสัญญาเช่า

มอสโก 10 มี.ค.- รัสเซียเผยแพร่เนื้อหาร่างกฎหมายที่สั่งให้สายการบินในประเทศจ่ายค่าเช่าเครื่องบินของต่างชาติเป็นสกุลเงินรูเบิลของรัสเซีย และห้ามเครื่องบินเหล่านี้ออกนอกประเทศ หากบริษัทต่างชาติเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาเช่า ร่างกฎหมายของกระทรวงคมนาคมรัสเซียระบุว่า สายการบินรัสเซียจะชำระค่าเช่าเครื่องบินให้แก่บริษัทต่างชาติเป็นสกุลเงินรูเบิลไปตลอดปี 2565 แต่หากบริษัทต่างชาติเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญา คณะกรรมการพิเศษของรัฐบาลจะเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะคืนหรือยึดเครื่องบินลำนั้นไว้ในรัสเซีย รัสเซียร่างกฎหมายดังกล่าวในขณะที่สายการบินต่าง ๆ ของรัสเซียต้องยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกชาติตะวันตกยึดเครื่องบิน ตามมาตรการคว่ำบาตรที่ชาติตะวันตกใช้ลงโทษรัสเซียที่รุกรานยูเครน ข้อมูลของไอบีเอกรุ๊ป (IBA Group) บริษัทที่ปรึกษาด้านการบินระบุว่า เครื่องบินพาณิชย์ในรัสเซียเป็นเครื่องบินเช่าอย่างน้อย 600 ลำ หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของที่ให้บริการทั้งหมด เฉพาะแอร์แคป (AerCap) บริษัทของไอร์แลนด์บริษัทเดียว ให้รัสเซียและยูเครนเช่าเครื่องบินมากถึง 152 ลำ มูลค่ารวม 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 82,753 ล้านบาท) มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกยังอายัดทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียในต่างประเทศ และบีบให้ทางการรัสเซียต้องหาทางจำกัดสกุลเงินต่างประเทศไหลออกนอกประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ต่างชาติแห่หนีจากฮ่องกงหลังทนมาตรการคุมเข้มโควิดไม่ไหว

ฮ่องกง 7 มี.ค.- ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในฮ่องกงมานานพากันย้ายออกจากฮ่องกง หลังจากต้องใช้ชีวิตอยู่กับมาตรการคุมเข้มโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้เป็นศูนย์ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีคนเดินทางออกจากฮ่องกงทั้งหมด 71,000 คน มากที่สุดนับตั้งแต่โควิดระบาด ในจำนวนนี้ 63,000 คนเป็นผู้พำนักอาศัยในฮ่องกง สตรีต่างชาติคนหนึ่งเผยว่า เตรียมเดินทางออกจากฮ่องกง สถานที่ที่เธอเรียกว่าบ้านมานานถึง 8 ปี เพราะเพื่อนสนิทพากันย้ายออกไปหมดแล้ว ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เธอตัดสินใจย้ายออกคือ กลัวถูกพรากจากลูก ๆ ทั้ง 3 คนที่เกิดในฮ่องกง เนื่องจากทางการสั่งให้ผู้พำนักอาศัยทั้ง 7 ล้าน 4 แสนคนต้องตรวจหาเชื้อภายในเดือนนี้ ผู้ติดเชื้อจะถูกแยกกักโรค และอาจทำให้คนในครอบครัวต้องพรากจากกัน ขณะที่ชายเยอรมันคนหนึ่งเผยว่า ตัดสินใจย้ายออกเพราะทางการฮ่องกงไม่มีกำหนดว่าจะยกเลิกมาตรการเมื่อใด บุตรสาวของเขาโตมาพร้อมกับมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่ลืมตาดูโลกเมื่อ 2 ปีก่อน มาตรการจำกัดการเดินทางของฮ่องกงกระทบหนักต่อคนทำงานชาวต่างชาติที่มีเกือบ 1 ใน 10 ของคนในฮ่องกงทั้งหมด เพราะผู้เดินทางเข้าฮ่องกงต้องจ่ายค่ากักตัวในโรงแรมราคาแพงนาน 2-3 สัปดาห์ ธุรกิจในฮ่องกงกำลังประสบปัญหาสมองไหล ขณะที่ค่าขนส่งสินค้าทางเรือเข้าฮ่องกงปรับขึ้น 2 เท่าใน 1 ปี […]

ออสเตรเลียจะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่จันทร์นี้

เมลเบิร์น 20 ก.พ.- ออสเตรเลียจะต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ หลังจากปิดพรมแดนประเทศมาเกือบ 2 ปี เนื่องจากอัตราการติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เริ่มลดลงและมีอัตราการฉีดวัคซีนสูง นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันแถลงข่าวที่ท่าอากาศยานนานาชาติเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรียในวันนี้ว่า การรอคอยสิ้นสุดลงแล้ว รอยเตอร์ระบุว่า การเปิดประเทศครั้งนี้สะท้อนว่า รัฐบาลออสเตรเลียได้เปลี่ยนมาใช้นโยบายมีชีวิตอยู่ร่วมกับโควิดและเร่งการฉีดวัคซีนเพื่อลดยอดผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยอาการหนัก ออสเตรเลียมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 2 ล้าน 7 แสนคน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนระบาดในปลายเดือนพฤศจิกายน และมีผู้เสียชีวิตไม่ถึง 5,000 คน เนื่องจากประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนครบโดสแล้วมากกว่าร้อยละ 94 โดยในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 16,600 คน และมีผู้เสียชีวิต 33 คน ส่วนใหญ่อยู่ใน 3 รัฐที่มีประชากรมากที่สุดได้แก่ นิวเซาท์เวลส์ วิกตอเรีย และควีนส์แลนด์ อย่างไรก็ดี ชาวต่างชาติจะแห่แหนกันกลับมาเที่ยวออสเตรเลียหรือไม่ยังต้องรอดูต่อไป รัฐบาลคาดหวังว่า การเปิดประเทศอย่างเต็มตัวจะช่วยให้ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวอีกครั้ง   ออสเตรเลียทยอยเปิดประเทศตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนด้วยการให้ชาวออสเตรเลียเดินเข้าออกได้เป็นกลุ่มแรก จากนั้นจึงอนุญาตให้นักเรียนต่างชาติและแรงงานบางกลุ่มเข้ามา และนับตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไปจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติเดินทางเข้ามา ผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วไม่ต้องกักตัว ส่วนผู้ยังฉีดไม่ครบต้องขอใบยกเว้นในการเดินทางและต้องกักตัวตามระเบียบของแต่ละรัฐและดินแดน.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ออสเตรเลียรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ในวันนี้ จำนวน 43 ราย ในขณะที่กำลังเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี

ญี่ปุ่นจะให้คนเข้าประเทศได้มากขึ้นตั้งแต่มีนาคม

โตเกียว 16 ก.พ.- แหล่งข่าวในรัฐบาลญี่ปุ่นเผยเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลเตรียมอนุญาตให้คนเข้าประเทศได้มากขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม และกำลังพิจารณายกเลิกมาตรการกักโรคอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แหล่งข่าวเผยว่า รัฐบาลกำลังพิจารณายกเลิกการกักโรคเป็นเวลา 7 วัน สำหรับผู้เข้าประเทศที่ไม่ได้มีถิ่นพำนักถาวรในญี่ปุ่น หากมีผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบและฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้ว และจะอนุญาตให้คนเดินทางมาจากต่างประเทศเข้ามาได้สูงสุดวันละ 5,000 คนตั้งแต่เดือนมีนาคม จากที่กำหนดไว้สูงสุดวันละ 3,500 คนตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนกำลังแพร่ระบาด มาตรการของญี่ปุ่นซึ่งเข้มงวดที่สุดเมื่อเทียบกับหลายประเทศในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำหรือจี 7 (G7) ถูกแวดวงธุรกิจและวิชาการทั้งในและต่างประเทศตำหนิว่า เข้มงวดมากเกินไป เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดนิวส์ของญี่ปุ่นคาดว่า นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ จะแถลงข่าวแจกแจงรายละเอียดในวันพฤหัสบดีนี้ นายฮิโรกาซุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยเมื่อวานนี้ว่า มีนักเรียนต่างชาติถือวีซ่าญี่ปุ่นมากถึง 150,000 คน ที่ยังไม่สามารถกลับมาเรียนได้ตั้งแต่ปลายปีก่อนเพราะมาตรการจำกัดของญี่ปุ่น และนับตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายนปีก่อนถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีคนเดินทางเข้าญี่ปุ่นรวมกันเพียง 6,000 คน แม้ว่ารัฐบาลอนุญาตให้เข้าได้สูงสุดวันละ 3,500 คนก็ตาม.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นอาจให้ต่างชาติเข้าได้ในเดือนมีนาคม

โตเกียว 13 ก.พ.- แหล่งข่าวเผยว่า ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาเรื่องผ่อนคลายคำสั่งห้ามชาวต่างชาติที่ไม่มีถิ่นพำนักอาศัยเข้าญี่ปุ่นได้ในเดือนมีนาคม หลังจากถูกนักวิชาการและนักธุรกิจตำหนิที่ใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อสกัดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน แหล่งข่าวเผยว่า มาตรการจำกัดทางพรมแดนที่ใช้มาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีก่อนจะสิ้นสุดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ตามกำหนด รัฐบาลเตรียมจะประกาศรายละเอียดขั้นตอนการผ่อนคลายในสัปดาห์หน้าเป็นอย่างเร็วที่สุด ขณะนี้กำลังพิจารณาเรื่องลดระยะเวลากักตัวสำหรับผู้ไม่มีถิ่นพำนักอาศัยที่ได้รับอนุญาตให้เข้าเป็นกรณีพิเศษจาก 7 วัน เหลือ 3-5 วันสำหรับผู้มีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบหรือมีใบรับรองการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และกำลังพิจารณาผ่อนคลายมาตรการที่จำกัดให้ชาวต่างชาติเข้าประเทศได้สูงสุดวันละ 3,500 คน ทั้งนี้ก่อนหน้าที่จะใช้มาตรการปัจจุบันญี่ปุ่นอนุญาตให้ต่างชาติเข้าประเทศได้สูงสุดวันละ 5,000 คน นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นเผยกับสื่อในวันเสาร์ว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องผ่อนคลายมาตรการจำกัด โดยจะคำนึงถึงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เรื่องเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน สถานการณ์การแพร่เชื้อทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงมาตรการจำกัดทางพรมแดนของประเทศอื่น ๆ หลังจากมีเสียงวิจารณ์จากนักวิชาการและนักธุรกิจชั้นนำว่า มาตรการจำกัดชาวต่างชาติเข้าประเทศทำให้นักศึกษาต่างชาติเปลี่ยนใจไปศึกษาต่อในประเทศอื่น เช่น เกาหลีใต้ และทำให้ญี่ปุ่นประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานเรื้อรัง.-สำนักข่าวไทย

ฟิลิปปินส์ให้ต่างชาติเข้าได้แล้วหลังห้ามมาเกือบ 2 ปี

มะนิลา 10 ก.พ.- ฟิลิปปินส์ยกเลิกคำสั่งห้ามนักเดินทางชาวต่างชาติเข้าประเทศแล้วตั้งแต่วันนี้ หลังจากห้ามมาเกือบ 2 ปี หวังฟื้นฟูธุรกิจการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง หลังจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนเริ่มลดลง นักเดินทางชาวต่างชาติจาก 157 ประเทศที่เข้าฟิลิปปินส์ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าจะสามารถเดินทางเข้าฟิลิปปินส์ได้อีกครั้ง และไม่ต้องกักตัว หากฉีดวัคซีนครบโดสและมีผลตรวจหาเชื้อไวรัสเป็นลบ นอกจากนี้รัฐบาลยังได้ยกเลิกระบบการจัดลำดับความเสี่ยงที่ห้ามผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดหนักด้วย เดิมฟิลิปปินส์กำหนดเปิดประเทศในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 แต่ต้องเลื่อนออกไปเพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนแพร่ระบาด ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มีไม่ถึงวันละ 1,000 คนในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นมากกว่า 39,000 คนในกลางเดือนมกราคม ก่อนทยอยลดลงเหลือ 3,600 คนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา  ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ยาวนานและใช้มาตรการจำกัดอย่างเข้มงวด หวังสกัดการระบาดที่ทำให้เศรษฐกิจถดถอยรุนแรงที่สุดนับจากคริสต์ทศวรรษหลังปี 1940 ทำให้อัตราว่างงานและหิวโหยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เฉพาะปีแรกของการระบาดมีคนในธุรกิจท่องเที่ยวตกงานมากกว่า 1 ล้านคน ขณะนี้ชาวฟิลิปปินส์เกือบ 110 ล้านคนฉีดวัคซีนครบโดสแล้วมากกว่า 60 ล้านคน และฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้วราว 8 ล้าน 2 แสนคน ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตเตือนระหว่างกล่าวทางโทรทัศน์เมื่อวันจันทร์ว่า ฟิลิปปินส์ยังไม่ผ่านพ้นวิกฤต ขอให้ผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนเร่งไปรับวัคซีนโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นจะติดเชื้อและเสียชีวิตได้.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นต้องมีคนทำงานต่างชาติ 4 เท่าถึงจะโตตามเป้าหมาย

โตเกียว 3 ก.พ.- หน่วยงานวิชาการในญี่ปุ่นชี้ว่า ญี่ปุ่นจะต้องมีคนทำงานชาวต่างชาติจำนวน 4 เท่าของปัจจุบันภายในปี 2573 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ หน่วยงานวิชาการหลายแห่ง รวมถึงหน่วยงานขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นหรือไจก้า ออกรายงานว่า ญี่ปุ่นต้องเพิ่มจำนวนคนทำงานชาวต่างชาติจาก 1 ล้าน 7 แสน 2 หมื่นคนในปัจจุบัน เป็น 6 ล้าน 7 แสน 4 หมื่นคนภายในปี 2573 หรือเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า เป็นการคำนวณตามสมมติฐานที่ว่า คนทำงานชาวญี่ปุ่นจะหายไปมากกว่าร้อยละ 10 ในช่วง 20 ปีข้างหน้า เนื่องจากจำนวนประชากรลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 โดยเมื่อปีที่แล้วมีเด็กเกิดใหม่เพียง 125 ล้านคน แต่คนวัยทำงานลดลงอย่างรวดเร็วเพราะอายุมากขึ้น ปัจจุบันญี่ปุ่นมีคนทำงานต่างชาติราวร้อยละ 2.5 ของแรงงานทั้งหมด ราวครึ่งหนึ่งมาจากเวียดนามและจีน รายงานคาดว่า คนทำงานจากกัมพูชาและเมียนมาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 20 ปีข้างหน้า แต่จะยังคงไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากญี่ปุ่นใช้ระบบคนเข้าเมืองที่เข้มงวดและให้วีซ่าพำนักระยะสั้น นอกจากนี้การที่ญี่ปุ่นไม่เปิดรับชาวต่างชาติเพื่อสกัดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 […]

บาหลีเตรียมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มแรกในรอบ 2 ปี

เดนปาซาร์ 3 ก.พ.- เกาะบาหลี แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของอินโดนีเซียจะต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมากับเที่ยวบินบินตรงเที่ยวแรกในรอบเกือบ 2 ปีในวันนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานการท่องเที่ยวของรัฐบาลที่บาหลีเผยว่า การูดา ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของอินโดนีเซียจะเดินทางจากกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นมาถึงเกาะบาหลีในช่วงบ่ายวันนี้ บนเครื่องมีชาวอินโดนีเซีย 6 คน และชาวต่างชาติ 6 คนที่เดินทางเข้ามาด้วยวีซ่านักธุรกิจ เนื่องจากระเบียบใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวยังไม่พร้อมใช้ในช่วงเวลาที่พวกเขามาถึง นักท่องเที่ยวซึ่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครบโดสแล้วจะต้องกักตัวที่โรงแรมหรือเรือลอยลำนอกชายฝั่งเป็นเวลา 5-7 วัน เกาะบาหลีเปิดรับนักท่องเที่ยวจากจีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์และอีกไม่กี่ประเทศตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม 2564 แต่ยังไม่มีเที่ยวบินโดยสารบินตรงมาเลยจนกระทั่งมีเที่ยวแรกในวันนี้ การท่องเที่ยวครองสัดส่วนเศรษฐกิจของเกาะบาหลีสูงถึงร้อยละ 54 มีชาวต่างชาติไปเยือน 6 ล้าน 2 แสนคนในปี 2562 ก่อนเกิดโควิด ขณะที่อินโดนีเซียทั้งประเทศมีชาวต่างชาติไปเยือนเพียง 1 ล้าน 6 แสนคนในปี 2564 ลดลงจากปี 2563 ถึงร้อยละ 61.57.-สำนักข่าวไทย

จีนจะเชิญ 150,000 คนเข้าดูโอลิมปิกปักกิ่งฤดูหนาว

ปักกิ่ง 3 ก.พ.- คณะผู้จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 เผยว่า จะเชิญแฟนกีฬาประมาณ 150,000 คนเข้าชมการแข่งขันที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 4-20 กุมภาพันธ์นี้ จีนได้ยกเลิกแผนการจำหน่ายตั๋วเข้าชมการแข่งขันให้แก่ชาวต่างชาติตั้งแต่ปีก่อน เพื่อสกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และนำโควต้าตั๋วดังกล่าวมาจัดสรรให้แก่ผู้อาศัยอยู่ในจีนเมื่อเดือนมกราคม โดยจะเชิญคนเข้าชมการแข่งขันตามสนามต่าง ๆ ในกรุงปักกิ่งและเมืองจางเจียโขว่ที่อยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเกือบ 200 กิโลเมตร ส่วนการแข่งขันตามสนามในเขตเหยียนชิ่งที่อยู่ภายในพื้นที่ปักกิ่งจะไม่ให้คนเข้าชม คณะผู้จัดการแข่งขันชี้แจงต่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากลหรือไอโอซี (IOC) ว่า คนดูที่ได้รับเชิญจะเป็นชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ นักการทูต และหุ้นส่วนทางการตลาด นอกจากนี้ยังจะเชิญเด็กนักเรียน คนท้องถิ่น และผู้สนใจในกีฬาฤดูหนาวมาร่วมชมการแข่งขันด้วย โดยจะขยายให้ครอบคลุมคนดูให้มากที่สุดและหลากหลายที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ ส่วนทีมคณะนักกีฬาและสื่อที่อยู่ในพื้นที่ปิดซึ่งแยกออกจากสาธารณชนก็จะได้ร่วมชมการแข่งขันเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

ฮ่องกงอาจเปิดพรมแดนต้นปี 2567 เสี่ยงทำต่างชาติหนี

ฮ่องกง 26 ม.ค.- หอการค้ายุโรปในฮ่องกงคาดว่า ฮ่องกงอาจเปิดพรมแดนอีกครั้งในต้นปี 2567 และเพราะการใช้มาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อย่างเข้มงวด อาจทำให้บริษัทและคนทำงานชาวต่างชาติหลั่งไหลออกนอกฮ่องกง และสั่นคลอนบทบาทของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางทางการเงินแห่งหนึ่งของโลก รอยเตอร์อ้างรายงานฉบับร่างของหอการค้ายุโรปในฮ่องกงที่ยังไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะว่า ประสิทธิภาพที่มีอยู่อย่างจำกัดของจีนในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิดขึ้นเอง บีบให้จีนต้องคงมาตรการจำกัดการเดินทางอย่างเข้มงวดต่อไป ฉากทัศน์ที่น่าจะเกิดขึ้นมากที่สุดคือ ฮ่องกงจะไม่เปิดพรมแดนจนกว่าจีนจะฉีดวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ที่พัฒนาขึ้นเองให้แก่ประชากร 1,400 ล้านคนแล้ว ซึ่งอาจรอจนถึงปลายปี 2566 หรือต้นปี 2567 หากเป็นเช่นนั้นจริงก็มีโอกาสที่บริษัทต่างชาติจะตบเท้าพากันย้ายออกจากฮ่องกง หอการค้ายุโรปในฮ่องกงคาดว่า ชาวต่างชาติอาจหลั่งไหลออกจากฮ่องกงมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และอาจมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ ในแง่ของการหลั่งไหลออกจากเมือง ๆ หนึ่งในภูมิภาคนี้ บริษัทข้ามชาติจะพากันย้ายทีมทำงานที่มุ่งจับตลาดจีนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ หรือย้ายทีมทำงานในภูมิภาคเอเชียไปยังสิงคโปร์หรือกรุงโซลของเกาหลีใต้ ฮ่องกงจะสูญเสียความน่าสนใจในฐานะศูนย์กลางธุรกิจสากล และการมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจจีนเติบโต ขณะเดียวกันการสูญเสียชาวต่างชาติที่มีความสามารถยังอาจสั่นคลอนโอกาสที่ฮ่องกงจะรักษาตำแหน่งสถานที่ที่มีมหาวิทยาลัยระดับโลกหลายแห่งเอาไว้ได้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

1 6 7 8 9 10 22
...