เมลเบิร์น 20 ก.พ.- ออสเตรเลียจะต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ หลังจากปิดพรมแดนประเทศมาเกือบ 2 ปี เนื่องจากอัตราการติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เริ่มลดลงและมีอัตราการฉีดวัคซีนสูง
นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันแถลงข่าวที่ท่าอากาศยานนานาชาติเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรียในวันนี้ว่า การรอคอยสิ้นสุดลงแล้ว รอยเตอร์ระบุว่า การเปิดประเทศครั้งนี้สะท้อนว่า รัฐบาลออสเตรเลียได้เปลี่ยนมาใช้นโยบายมีชีวิตอยู่ร่วมกับโควิดและเร่งการฉีดวัคซีนเพื่อลดยอดผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยอาการหนัก ออสเตรเลียมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 2 ล้าน 7 แสนคน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนระบาดในปลายเดือนพฤศจิกายน และมีผู้เสียชีวิตไม่ถึง 5,000 คน เนื่องจากประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนครบโดสแล้วมากกว่าร้อยละ 94 โดยในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 16,600 คน และมีผู้เสียชีวิต 33 คน ส่วนใหญ่อยู่ใน 3 รัฐที่มีประชากรมากที่สุดได้แก่ นิวเซาท์เวลส์ วิกตอเรีย และควีนส์แลนด์ อย่างไรก็ดี ชาวต่างชาติจะแห่แหนกันกลับมาเที่ยวออสเตรเลียหรือไม่ยังต้องรอดูต่อไป รัฐบาลคาดหวังว่า การเปิดประเทศอย่างเต็มตัวจะช่วยให้ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวอีกครั้ง
ออสเตรเลียทยอยเปิดประเทศตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนด้วยการให้ชาวออสเตรเลียเดินเข้าออกได้เป็นกลุ่มแรก จากนั้นจึงอนุญาตให้นักเรียนต่างชาติและแรงงานบางกลุ่มเข้ามา และนับตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไปจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติเดินทางเข้ามา ผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วไม่ต้องกักตัว ส่วนผู้ยังฉีดไม่ครบต้องขอใบยกเว้นในการเดินทางและต้องกักตัวตามระเบียบของแต่ละรัฐและดินแดน.-สำนักข่าวไทย