ผู้นำยูเครนแนะชาติตะวันตกแบนน้ำมันจากรัสเซียเต็มรูปแบบ

เคียฟ 7 เม.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน รู้สึกยินดีที่ชาติตะวันตกได้ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย แต่ระบุว่ามาตรการเหล่านี้ยังคงไม่เพียงพอ และต้องการให้ชาติตะวันตกสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ประธานาธิบดีเซเลนสกีแถลงผ่านคลิปวิดีโอล่าสุดว่า เขาขอเรียกร้องให้ชาติตะวันตกใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้นและสั่งห้ามการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันมากเป็นอันดับสามของโลกและส่งออกน้ำมันกว่าครึ่งไปยังทวีปยุโรป การที่ชาติตะวันตกประสบความล้มเหลวในการลงมติร่วมกันเพื่อสั่งห้ามค้าขายกับรัสเซียจะยิ่งทำให้มีชาวยูเครนเสียชีวิตมากขึ้น ทั้งยังระบุว่า รัสเซียมีรายได้เข้าประเทศเป็นกอบเป็นกำจากการส่งออกน้ำมันจนทำให้รัสเซียไม่เห็นความจำเป็นของการเจรจาเพื่อสันติภาพอย่างจริงจัง และเขาขอยืนกรานให้ใช้มาตรการตัดธนาคารของรัสเซียออกจากระบบการเงินระหว่างประเทศโดยสิ้นเชิง ในขณะเดียวกัน องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น จะเปิดประชุมในวันนี้เพื่อลงมติว่า ควรขับรัสเซียพ้นการเป็นสมาชิกของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) หรือไม่ หลังมีรายงานระบุว่ากองทัพรัสเซียสังหารพลเรือนยูเครนอย่างโหดร้ายทารุณในหลายเมืองของยูเครนที่รัสเซียยึดไว้ โดยมีสหรัฐเป็นผู้เสนอให้ใช้แนวทางนี้หลังได้รับหลักฐานที่ชี้ว่ากองทัพรัสเซียได้สังหารพลเรือนหลายร้อยรายในเมืองบูจา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างจดหมายที่ส่งถึงนักการทูตของประเทศสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่ระบุว่า หากมีประเทศใดในประเทศสมาชิกคณะมนตรีฯ ทั้ง 47 ประเทศที่ต้องการขับรัสเซียพ้นจากการเป็นสมาชิก รัสเซียจะขึ้นบัญชีประเทศเหล่านั้นเป็นประเทศที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซียทันที ขณะที่สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานอ้างแถลงการณ์ของหัวหน้าภารกิจสหประชาชาติของรัสเซียว่า หากประเทศสมาชิกลงมติขับรัสเซียพ้นจากการเป็นสมาชิกคณะมนตรีฯ กลุ่มชาติตะวันตกจะสามารถกำหนดแนวคิดและวิสัยทัศน์ด้านสิทธิมนุษยชนต่อประเทศอื่น ๆ ได้อย่างอิสระ ซึ่งจะส่งผลดีต่อกลุ่มชาติตะวันตกและผู้สนับสนุนที่เป็นพวกเดียวกันเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

VOA ส่งตรงจากสหรัฐ : กรุงมอสโกในบรรยากาศหลังมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจ

บรรยากาศในกรุงมอสโก หลังจากที่รัสเซียต้องเผชิญกับสารพัดมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจจากชาติตะวันตก และมุมมองของผู้คนในรัสเซียต่อความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนครั้งนี้

ชาติตะวันตกประณามการโจมตียูเครนของรัสเซียว่าป่าเถื่อน

บรัสเซลส์ 25 มี.ค. – ผู้นำชาติตะวันตกประกาศสนับสนุนความช่วยเหลือด้านทหารและมนุษยธรรมให้แก่ยูเครน รวมถึงประณามการบุกโจมตียูเครนของรัสเซียว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน เนื่องจากยังมีพลเรือนหลายพันคนต้องหลบภัยอยู่ใต้ดินในเมืองมารีอูปอลที่ถูกรัสเซียปิดล้อมและทิ้งระเบิดถล่ม บรรดาผู้นำขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือจี 7 และทวีปยุโรป ได้จัดประชุมสุดยอดผู้นำร่วมกันเป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดี โดยระบุว่า สถานการณ์ขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนถือเป็นเหตุรุนแรงที่สุดของทวีปยุโรปนับตั้งแต่สงครามคาบสมุทรบอลข่านในช่วงทศวรรษหลังปี 1990 ขณะที่นาโตประกาศแผนส่งกองทหารชุดใหม่ไปยัง 4 ประเทศในภูมิภาคยุโรปตะวันออกที่มีพรมแดนใกล้ยูเครน ส่วนสหรัฐและอังกฤษประกาศเพิ่มความช่วยเหลือให้แก่ยูเครน รวมถึงการใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมเพื่อกดดันรัสเซีย เช่น การประกาศคว่ำบาตรผู้หญิงคนหนึ่งที่รัฐบาลอังกฤษระบุว่าเป็นบุตรบุญธรรมของนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ออกมาไม่มีเรื่องที่เป็นข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนที่ให้คว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานของรัสเซียและกำหนดเขตห้ามบินเหนือประเทศยูเครน ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ ชาติตะวันตกยังคงหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน และทั่วโลกยังคงจับตาการกระทำอันโหดร้ายของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ต่อชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ระบุว่า ประธานาธิบดีปูตินได้กระทำการล้ำเส้นจนเข้าขั้นป่าเถื่อนไปแล้ว ด้านรัฐบาลรัสเซียได้ออกมาตอบโต้การประชุมสุดยอดผู้นำของกลุ่มชาติตะวันตกว่า ชาติตะวันตกต้องโทษตัวเองที่ทำให้เกิดสงครามในยูเครนขึ้นจากการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ยูเครน ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เผยว่า มีผู้เสียชีวิตหลายพันรายนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตีเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และทำให้มีผู้อพยพออกนอกประเทศราว […]

รัสเซียขู่ปิดท่อส่งก๊าซหากชาติตะวันตกแบนน้ำมันรัสเซีย

มอสโก 8 มี.ค.-รัสเซีย ระบุว่า อาจสั่งปิดท่อส่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ไปยังเยอรมนี หากชาติตะวันตกลงมติแบนการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของทางการรัสเซียว่า หากชาติตะวันตกตัดสินใจแบนการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย อาจทำให้ตลาดน้ำมันโลกได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นกว่าสองเท่าเป็น 300 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9,900 บาทต่อบาร์เรล ตลาดน้ำมันของยุโรปจะไม่สามารถหาน้ำมันมาทดแทนน้ำมันของรัสเซียได้ในทันที เนื่องจากการทำเช่นนั้นจะต้องใช้เวลานานหลายปีและจะทำให้ผู้ใช้น้ำมันต้องแบกรับภาระค่าน้ำมันที่แพงขึ้นอย่างมาก นายโนวัคยังระบุว่า หากชาติตะวันตกคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย รัสเซียก็อาจใช้มาตรการตอบโต้ในทันที โดยอาจสั่งปิดท่อส่งก๊าซ ‘นอร์ดสตรีม 1’ ไปยังเยอรมนี หลังจากที่เยอรมนีระงับการออกใบอนุญาตประกอบการของโครงการท่อส่งก๊าซ ‘นอร์ดสตรีม 2’ ของรัสเซียเมื่อเดือนที่แล้วเพื่อตอบโต้ที่รัสเซียประกาศรับรองเอกราช 2 ดินแดนในยูเครน ก่อนหน้านี้ สหรัฐได้หารือกับชาติพันธมิตรตะวันตกเกี่ยวกับการใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมที่เป็นไปได้เพื่อลงโทษรัสเซียที่นำกำลังทหารบุกโจมตียูเครน แต่เยอรมนีกับเนเธอร์แลนด์ได้คัดค้านแผนดังกล่าว ขณะนี้ สหภาพยุโรป หรืออียู ต้องพึ่งการนำเข้าก๊าซธรรมชาติร้อยละ 40 และน้ำมันร้อยละ 30 จากรัสเซีย ทั้งนี้ รัสเซียเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบมากเป็นอันดับสองของโลก.-สำนักข่าวไทย

ชาวรัสเซียขึ้นรถไฟไปฟินแลนด์หนีมาตรการคว่ำบาตร

เฮลซิงกิ 4 มี.ค.- ชาวรัสเซียแห่ขึ้นรถไฟไปฟินแลนด์ ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟเข้าสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) ที่เหลืออยู่เพียงเส้นทางเดียว และเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก รถไฟจากนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซียพาผู้โดยสารเต็มขบวนเดินทางมาถึงสถานีกรุงเฮลซิงกิของฟินแลนด์ สตรีชาวมอสโกคนหนึ่งเผยว่า การเดินทางในเวลานี้เป็นเรื่องยากมากเพราะทุกอย่างถูกยกเลิกหมด บริษัทรถไฟวีอาร์ของฟินแลนด์ที่ให้บริการรถไฟอัลเลโกร (Allegro) เชื่อมกรุงเฮลซิงกิกับนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กร่วมกับการรถไฟรัสเซียเผยว่า เส้นทางสายนี้มีคนจองเต็มไปอีกหลายวัน ให้บริการวันละ 2 เที่ยว ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 30 นาที ยอดผู้โดยสารเพิ่มขึ้นพรวดพราดตั้งแต่วันเสาร์ หลังจากรัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนได้ 2 วัน ผู้โดยสารมาพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระขนาดใหญ่เพื่อเดินทางต่อไปยังที่อื่น ด้านการรถไฟรัสเซียกำหนดเงื่อนไขว่า ผู้โดยสารจะต้องเป็นพลเรือนรัสเซียหรือฟินแลนด์เท่านั้น และต้องแสดงการตรวจลงตราหนังสือเดินทางหรือวีซ่า รวมถึงใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขนานที่อียูให้การรับรอง ไม่ใช่วัคซีนสปุตนิกที่ฉีดอย่างแพร่หลายในรัสเซีย.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียขึ้นดอกเบี้ยเป็น 20% สกัดค่าเงินรูเบิลอ่อนตัว

มอสโก 1 มี.ค. – ธนาคารกลางรัสเซียตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจากร้อยละ 9.5 เป็นร้อยละ 20 เพื่อรับมือปัญหาค่าเงินรูเบิลร่วง หลังชาติตะวันตกประกาศคว่ำบาตรตัดธนาคารรัสเซียออกจากตลาดการเงิน ธนาคารกลางรัสเซียขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจากร้อยละ 9.5 เป็นร้อยละ 20 ซึ่งเพิ่มขึ้นรวดเดียวถึงร้อยละ 10.5 หลังประสบปัญหาค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลงถึงร้อยละ 30 ที่เป็นผลมาจากการใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของชาติตะวันตก ก่อนกลับมาแข็งค่าขึ้น โดยอ่อนค่าอยู่ที่ร้อยละ 20 บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี มองว่า เงินรูเบิลที่อ่อนค่าลงอาจส่งผลกระทบต่ออำนาจการซื้อของสกุลเงินและทำให้เงินออมของชาวรัสเซียในธนาคารหมดไป ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกเมื่อวันจันทร์ด้วยการประกาศคำสั่งห้ามประชาชนโอนเงินออกนอกประเทศ ซึ่งรวมถึงการชำระหนี้ ส่วนตลาดหลักทรัพย์มอสโกจะยังคงปิดทำการซื้อขายในวันนี้เป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังนักลงทุนกระหน่ำเทขายหุ้นจนทำให้หุ้นร่วงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ก่อน ก่อนหน้านี้ อังกฤษ สหรัฐ และประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู ได้ประกาศตัดธนาคารรัสเซียออกจากตลาดการเงินของกลุ่มชาติตะวันตก โดยสั่งห้ามการทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารกลางรัสเซีย กองทุนรวมที่รัฐบาลรัสเซียเป็นเจ้าของ และกระทรวงการคลังของรัสเซีย. -สำนักข่าวไทย

“ปูติน” สั่งทัพนิวเคลียร์เตรียมพร้อม

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย มีคำสั่งยกระดับให้หน่วยทหารที่ดูแลเรื่องการยิงอาวุธนิวเคลียร์เตรียมพร้อมขั้นสูง อ้างชาติตะวันตกกำลังเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซีย

เผยตาลีบันอาจประกาศจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในวันนี้

กลุ่มตาลีบันอาจประกาศจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของอัฟกานิสถานได้อย่างเร็วสุดในวันนี้ โดยที่ระบอบการปกครองใหม่จะอยู่ภายใต้การเฝ้าจับตาตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากนานาชาติ หลังกลุ่มตาลีบันให้คำมั่นว่าจะปกครองอัฟกานิสถานด้วยความอดทนมากขึ้น โดยเฉพาะประเด็นสิทธิสตรี

ตะวันตกเตือนสนามบินคาบูลเสี่ยงเกิดก่อการร้ายสูง

สหรัฐเตือนฝูงชนให้ออกจากท่าอากาศยานคาบูลในอัฟกานิสถาน ขณะที่อังกฤษและออสเตรเลียอ้างว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการก่อการร้าย

อังกฤษระบุชาติตะวันตกถูกมองว่าอ่อนแอกรณีอัฟกานิสถาน

ลอนดอน 19 ส.ค. – อังกฤษระบุว่า ชาติปรปักษ์ เช่น รัสเซีย มองว่าชะตากรรมของอัฟกานิสถานหลังจบสิ้นสงคราม 20 ปีที่นำโดยสหรัฐแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอในการแก้ปัญหาของชาติตะวันตก ขณะที่กลุ่มตาลีบันเผยว่า มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 12 รายที่สนามบินคาบูลนับตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ นายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอังกฤษกล่าวกับบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ว่า สิ่งที่เขารู้สึกไม่สบายใจก็คือตอนนี้มีการจัดระเบียบโลกแล้ว แต่ชาติปรปักษ์กลับมองว่าการแก้ปัญหาของชาติตะวันตกแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ ทุกคนควรกังวลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพราะถ้าชาติตะวันตกไม่ยอมแก้ปัญหาและเกิดความแตกแยก ชาติปรปักษ์ เช่น รัสเซีย ก็จะยิ่งได้ใจ นายวอลเลซยังระบุว่า อังกฤษกำลังเตรียมลงทุนสร้างศูนย์อพยพนอกประเทศเพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้คนในกรณีที่พวกเขาเดินทางออกนอกอัฟกานิสถานไปยังประเทศอื่น ๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง ทั้งยังกล่าวทิ้งท้ายว่า กองกำลังของอังกฤษจะประจำการอยู่ที่สนามบินคาบูลต่อไปตราบใดที่กองทัพสหรัฐยังเป็นผู้ควบคุมสนามบิน ในขณะเดียวกัน กลุ่มตาลีบันและเจ้าหน้าที่ขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ยืนยันตรงกันว่า มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 12 รายบริเวณสนามบินคาบูลนับตั้งแต่กลุ่มตาลีบันบุกยึดกรุงคาบูลเมื่อวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ของกลุ่มตาลีบันที่ไม่เผยนามระบุว่า สาเหตุของการเสียชีวิตเกิดขึ้นจากกระสุนปืนหรือเหตุชุลมุนที่สนามบิน เขายังเตือนชาวอัฟกันที่ยังคงเบียดเสียดกันหน้าทางเข้าสนามบินคาบูลให้กลับบ้าน หากพวกเขาไม่มีสิทธิเดินทางตามกฎหมาย ทั้งยังระบุว่า กลุ่มตาลีบันไม่ต้องการทำร้ายผู้คนที่สนามบินคาบูล.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษเตือนตาลีบันจะต้องไม่ใช้อัฟกานิสถานโจมตีชาติตะวันตก

อังกฤษเตือนกลุ่มตาลีบันว่า จะต้องไม่มีการใช้อัฟกานิสถานเป็นฐานในการโจมตีก่อการร้าย และระบุว่าชาติตะวันตกต้องพยายามเข้าไปมีอิทธิพลในทางบวกกับกลุ่มตาลีบันที่เข้ายึดอำนาจการบริหารประเทศหลังจากสหรัฐถอนกำลังทหารออกไป

1 2 3
...