บรัสเซลส์ 25 มี.ค. – ผู้นำชาติตะวันตกประกาศสนับสนุนความช่วยเหลือด้านทหารและมนุษยธรรมให้แก่ยูเครน รวมถึงประณามการบุกโจมตียูเครนของรัสเซียว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน เนื่องจากยังมีพลเรือนหลายพันคนต้องหลบภัยอยู่ใต้ดินในเมืองมารีอูปอลที่ถูกรัสเซียปิดล้อมและทิ้งระเบิดถล่ม
บรรดาผู้นำขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือจี 7 และทวีปยุโรป ได้จัดประชุมสุดยอดผู้นำร่วมกันเป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดี โดยระบุว่า สถานการณ์ขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนถือเป็นเหตุรุนแรงที่สุดของทวีปยุโรปนับตั้งแต่สงครามคาบสมุทรบอลข่านในช่วงทศวรรษหลังปี 1990 ขณะที่นาโตประกาศแผนส่งกองทหารชุดใหม่ไปยัง 4 ประเทศในภูมิภาคยุโรปตะวันออกที่มีพรมแดนใกล้ยูเครน ส่วนสหรัฐและอังกฤษประกาศเพิ่มความช่วยเหลือให้แก่ยูเครน รวมถึงการใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมเพื่อกดดันรัสเซีย เช่น การประกาศคว่ำบาตรผู้หญิงคนหนึ่งที่รัฐบาลอังกฤษระบุว่าเป็นบุตรบุญธรรมของนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ออกมาไม่มีเรื่องที่เป็นข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนที่ให้คว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานของรัสเซียและกำหนดเขตห้ามบินเหนือประเทศยูเครน
ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ ชาติตะวันตกยังคงหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน และทั่วโลกยังคงจับตาการกระทำอันโหดร้ายของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ต่อชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ระบุว่า ประธานาธิบดีปูตินได้กระทำการล้ำเส้นจนเข้าขั้นป่าเถื่อนไปแล้ว ด้านรัฐบาลรัสเซียได้ออกมาตอบโต้การประชุมสุดยอดผู้นำของกลุ่มชาติตะวันตกว่า ชาติตะวันตกต้องโทษตัวเองที่ทำให้เกิดสงครามในยูเครนขึ้นจากการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ยูเครน ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เผยว่า มีผู้เสียชีวิตหลายพันรายนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตีเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และทำให้มีผู้อพยพออกนอกประเทศราว 3.6 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย