
ยูเครนว่ามีพลเมืองจีนทำงานในโรงงานผลิตโดรนในรัสเซีย
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนกล่าวในวันอังคารว่า พลเรือนขาวจีนจำนวนหนึ่งกำลังทำงานอยู่ในโรงงานผลิตโดรนแห่งหนึ่งในรัสเซีย
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนกล่าวในวันอังคารว่า พลเรือนขาวจีนจำนวนหนึ่งกำลังทำงานอยู่ในโรงงานผลิตโดรนแห่งหนึ่งในรัสเซีย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า เขาจะไม่ใช้ไม้แข็งในการทำการค้ากับจีน และบอกว่าภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีนก็จะไม่สูงถึง 145 เปอร์เซ็นต์
นายอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน มีกำหนดเดินทางเยือนจีนในวันพุธ ซึ่งคาดจะเขาหยิบยกเรื่องการหารือประเด็นนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐ
กระทรวงต่างประเทศจีนกล่าววันนี้ว่า เมื่อไม่นานมานี้ จีนส่งคณะผู้แทนไปยังเมียนมาเพื่อเฝ้าติดตามการหยุดยิงที่จีนเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมากับกลุ่มต่อต้าน
จีนกล่าววันนี้เตือนบรรดาประเทศต่าง ๆ มิให้หาทางทำข้อตกลงทางเศรษฐกิจกับสหรัฐ ที่ส่งผลกระทบกับผลประโยขน์ของจีน
เครื่องบินโดยสารชองบริษัทโบอิ้ง ซึ่งสายการบินของจีนซื้อไว้ก่อนหน้านี้ ลงจอดที่ศูนย์การผลิตเครื่องบินของบริษัทโบอิ้ง
ปักกิ่ง 19 เม.ย.- จีนจัดแข่งวิ่งฮาล์ฟ-มาราธอน ระยะทาง 21 กิโลเมตรที่กรุงปักกิ่ง โดยมีหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์หรือฮิวแมนนอยด์ เข้าร่วมวิ่งแข่งด้วยเป็นครั้งแรกของโลก สำนักข่าวซีซีทีวีพลัสของทางการจีนรายงานว่า ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่หุ่นยนต์และคนลงวิ่งในเส้นทางเดียวกัน แต่แยกลู่วิ่งกัน โดยมีฮิวแมนนอยด์เข้าร่วมแข่ง 20 ตัวจากทีมต่าง ๆ ทั่วประเทศ เส้นทางวิ่งไม่ใช่ทางราบยาว แต่ถูกจัดให้มีสภาพภูมิประเทศที่หลากหลาย เพื่อท้าทายศักยภาพการเคลื่อนไหวและความยืดหยุ่นของฮิวแมนนอยด์ นอกจากนี้ยังจัดพื้นที่ให้หุ่นยนต์ได้พักเปลี่ยนแบตเตอรี่ถึง 8 จุดด้วยกัน แต่ละทีมได้ปรับแต่งหุ่นยนต์ของตนเองให้สามารถวิ่งได้ในระยะทางไกล เช่น ทำให้ทนสึกและเสียดทานได้มากขึ้น หรือทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานได้นานขึ้น และในท้ายที่สุดแล้วฮิวแมนนอยด์ที่เข้าเส้นชัยเป็นตัวแรกมีชื่อว่า เทียนกง อัลตร้า (Tiangong Ultra) วิ่งทำความเร็วได้ 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.-820(814).-สำนักข่าวไทย
โตเกียว 18 เม.ย.- นายจอร์จ กลาสส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำญี่ปุ่นคนใหม่ย้ำว่า สหรัฐและญี่ปุ่นจำเป็นต้องปรับกองกำลังกลาโหมของแต่ละประเทศให้อยู่ในแนวทางเดียวกัน ในยามที่จีนมีท่าทีที่แข็งกร้าวมากยิ่งขึ้น นายกลาสส์ ซึ่งเกิดในปี 2503 ได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำญี่ปุ่นคนที่ 32 โดยเคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำโปรตุเกสระหว่างปี 2560-2564 ในรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวขณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียวหรือท่าอากาศยานฮาเนดะในวันนี้ว่า รองประธานาธิบดีเจ ดี แวนซ์กล่าวขณะทำพิธีสาบานตนให้เขาเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เขาและภรรยากำลังจะไปรับหน้าที่ในญี่ปุ่นซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของสหรัฐ ในภูมิภาคที่มีความสำคัญมากที่สุดในโลก และในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด นายกลาสส์กล่าวว่า สหรัฐอยู่เคียงข้างญี่ปุ่นซึ่งอยู่ท่ามกลางเพื่อนบ้านที่แข็งกร้าวอย่างยิ่ง ทั้งรัสเซีย จีน และเกาหลีเหนือ ทั้ง 2 ประเทศจึงต้องทำงานร่วมกันในการปรับกองกำลังกลาโหมให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และจำเป็นต้องผลักดันประเทศอย่างจีนให้ถอยกลับไป เขากล่าวด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของพลเรือนอเมริกันและญี่ปุ่น และเรื่องการสร้างหลักประกันว่ากองทัพมีสิ่งสนับสนุนทุกอย่างในการรับมือกับภัยคุกคามจากจีน นายกลาสส์เคยกล่าวในการซักถามเพื่อรับรองการดำรงตำแหน่งโดยวุฒิสภาสหรัฐเมื่อเดือนมีนาคมว่า เขาจะกดดันให้ญี่ปุ่นออกค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นให้แก่กำลังพลสหรัฐที่ประจำการอยู่ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกำลังพลในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้รวมเรื่องนี้ไว้ในการเจรจาการค้าเรื่องภาษีกับญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นต้องการให้แยกประเด็นนี้ออกจากเรื่องการค้า.-814.สำนักข่าวไทย
พนมเปญ 18 เม.ย.- นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เห็นพ้องสร้างประชาคมจีน-กัมพูชาที่มีอนาคตร่วมกันในทุกสภาพการณ์ในยุคใหม่ พร้อมกำหนดให้ปี 2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวจีน-กัมพูชา สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสีเดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้เพื่อเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ โดยระหว่างการหารือของทั้งสองฝ่าย ผู้นำจีนกล่าวว่า จีนจะเปิดตลาดขนาดใหญ่ของจีนให้แก่กัมพูชา และจะนำเข้าสินค้าเกษตรคุณภาพสูงจากกัมพูชามากขึ้น ประธานาธิบดีสีกล่าวว่า จีนและกัมพูชาจะร่วมกันดำเนินมาตรการที่เข้มงวดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อปราบปรามการพนันออนไลน์และการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมอย่างจริงจัง พร้อมกับถือโอกาสนี้เรียกร้องให้จีนและกัมพูชาร่วมกันต่อต้านการกลั่นแกล้งฝ่ายเดียว ยึดมั่นในลัทธิพหุภาคีที่แท้จริง ต่อต้านการเผชิญหน้าแบบแบ่งฝักแบ่งฝ่าย และร่วมกันปกป้องสันติภาพและการพัฒนาของภูมิภาคที่ได้มาอย่างยากยิ่ง ซินหัวรายงานด้วยว่า ผู้นำทั้งสองประเทศได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานการแลกเปลี่ยนเอกสารความร่วมมือทวิภาคีมากกว่า 30 ฉบับ.-814.-สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 18 เม.ย.- ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า หากประเทศใดไม่ยอมทำข้อตกลงในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ สหรัฐก็จะเป็นฝ่ายทำข้อตกลงให้เอง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวระหว่างให้การต้อนรับนางจอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลีว่า หากประเทศใดไม่ต้องการทำข้อตกลงในการเจรจากับสหรัฐ สหรัฐก็จะเป็นฝ่ายทำข้อตลงให้กับประเทศเหล่านี้เอง เพราะเป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้น อย่างไรก็ดี สหรัฐต้องการฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายและพร้อมที่จะให้ความยุติธรรมกับทุกประเทศ และเมื่อถูกสื่อถามเรื่องนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางหรือเฟดวิพากษ์วิจารณ์นโยบายกำแพงภาษีของเขาว่าจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทำให้เกิดความไม่แน่นอน และอาจฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะชะงักงันและเงินเฟ้อสูงขึ้น ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า นายพาวเวลล์ตัดสินใจช้าเกินไปและไม่ยอมลดดอกเบี้ยทั้งที่ควรลด หากเขาบอกให้ลาออก นายพาวเวลล์ก็จะต้องออก อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า นายทรัมป์มีอำนาจที่จะปลดนายพาวเวลล์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีและรับรองโดยวุฒิสภาหรือไม่ นายพาวเวลล์ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดเมื่อปี 2561 โดยนายทรัมป์ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก และได้รับการต่ออายุสมัยรัฐบาลโจ ไบเดนเมื่อปี 2564 เขายืนยันว่า ไม่มีแผนจะลาออกก่อนครบวาระในเดือนพฤษภาคมปีหน้า ส่วนในการแถลงข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ส่งสัญญาณว่า อาจจะยุติการขึ้นภาษีตอบโต้กับจีน หลังจากตั้งกำแพงภาษีกับจีนไปจนถึงร้อยละ 245 ด้วยการกล่าวว่า ไม่ต้องการให้สินค้ามีราคาสูงขึ้นไปอีกเพราะเมื่อราคาแพงขึ้นถึงจุดหนึ่งประชาชนก็จะไม่ซื้อสินค้าแล้ว เขากล่าวว่า จีนได้ติดต่อมาและแสดงความหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงกันได้ แต่ก็ปฏิเสธที่จะบอกว่าการเจรจากับจีนจะเป็นไปในรูปแบบใด และจะมีการพบปะกันโดยตรงกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนหรือไม่.-816(814).-สำนักข่าวไทย
พนมเปญ 17 เม.ย.- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้เผยแพร่แถลงการณ์ฉบับลายลักษณ์อักษรขณะเดินทางถึงกัมพูชาในวันนี้ว่า ความสัมพันธ์จีน-กัมพูชา ได้ผ่านบททดสอบจากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกและยังคงแข็งแกร่งดังหินผา สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เดินทางถึงกรุงพนมเปญในวันนี้ เพื่อเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี กษัตริย์กัมพูชา ประธานาธิบดีสีได้เผยแพร่แถลงการณ์ฉบับลายลักษณ์อักษรที่ระบุว่า ความสัมพันธ์จีน-กัมพูชา ได้ผ่านบททดสอบจากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกและยังคงแข็งแกร่งดังหินผา โดยความสัมพันธ์ทวิภาคีนี้เกิดจากการหล่อหลอมบ่มเพาะของคณะผู้นำรุ่นเก่าของสองประเทศ แถลงการณ์ของผู้นำจีนระบุว่า จีนสนับสนุนกัมพูชาในการรักษาเอกราชเชิงยุทธศาสตร์ และถือว่ากัมพูชาเป็นพันธกิจสำคัญสูงในการทูตประเทศเพื่อนบ้าน เขาคาดหวังจะกระชับมิตรภาพและส่งเสริมความร่วมมือกับกัมพูชา เพื่อนำพาประโยชน์มาสู่ประชาชนของจีนและกัมพูชามากขึ้น รวมถึงมีส่วนส่งเสริมพลังบวกสู่สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและพื้นที่อื่นๆ เพิ่มขึ้น.-814.-สำนักข่าวไทย
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เดินทางถึงกรุงพนมเปญแล้วในวันนี้ เพื่อเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายของการตระเวณเยือน 3 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้