จีดีพี

จีดีพีจีนไตรมาส 2 โต 6.3% ต่ำกว่าคาดการณ์ คาดหลายเดือนจากนี้ เศรษฐกิจจีนยังชะลอตัว เพราะอุปสงค์ในประเทศและตลาดโลกยังต่ำ

ปักกิ่ง 13 มี.ค. – นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของจีน เผยว่า การทำให้เศรษฐกิจจีนในปี 2566 ขยายตัวตามเป้าหมายไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเศรษฐกิจจีนปัจจุบันมีฐานสูง และจะพยายามเป็น 2 เท่า เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย นายกรัฐมนตรีหลี่กล่าวในวันปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติในวันนี้ว่า การทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ในปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 5 ไม่ใช่เรื่องง่ายเนื่องจากเศรษฐกิจจีนมีฐานการขยายตัวที่สูง และจะต้องใช้ความพยายามเป็น 2 เท่า อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจจีนถือว่าเติบโตดีในช่วงเดือนแรก ๆ ของปีนี้ การที่จีนมีจำนวนประชากรมาก มีระบบการเงินแข็งแกร่ง มีความเข้มแข็งด้านสถาบัน ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวต่อไปได้ แม้จะมีการคาดการณ์ในแง่ร้ายเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกและมีความไม่แน่นอนระหว่างประเทศมากขึ้นก็ตาม นายกรัฐมนตรีหลี่ระบุว่า ขั้นตอนถัดไปของการขยายตัวทางเศรษฐกิจคือ การมุ่งให้ความสำคัญกับเสถียรภาพและการปรับปรุงความเป็นอยู่ของประชาชนในเชิงปฏิบัติให้มากขึ้น จีนมีขนาดเศรษฐกิจมากกว่า 23.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 804 ล้านล้านบาท) ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ เศรษฐกิจในปี 2565 ขยายตัวร้อยละ 3 ต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ร้อยละ 5.5 ส่วนเป้าหมายร้อยละ […]

ปักกิ่ง 4 มี.ค.- โฆษกสภาประชาชนแห่งชาติจีนหรือเอ็นพีซี (NPC) ระบุว่า จีนได้คงสัดส่วนของงบประมาณด้านกลาโหมไว้อย่างมีเสถียรภาพมาหลายปี โดยมีการเพิ่มเพียงเล็กน้อยและสมเหตุสมผล โฆษกเอ็นพีซีตอบข้อถามสื่อในวันนี้เรื่องงบประมาณด้านกลาโหมปี 2566 จะเพิ่มขึ้นมากเพียงใด และจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา ๆ มาหรือไม่ว่า งบประมาณด้านกลาโหมของจีนเมื่อคิดตามสัดส่วนของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ถือว่าคงที่มาหลายปี โดยมีการเพิ่มเพียงเล็กน้อยและสมเหตุสมผล การปรับปรุงกองทัพจีนให้ทันสมัยจะไม่เป็นภัยต่อประเทศใด แต่ไม่ขอเปิดเผยตัวเลขให้ทราบ ที่ผ่านมาจีนมักระบุว่า งบประมาณสำหรับการปกป้องประเทศมีสัดส่วนต่อจีดีพีค่อนข้างต่ำ แต่ผู้วิจารณ์ต้องการสร้างภาพจีนให้เป็นปีศาจที่เป็นภัยต่อสันติภาพโลก ตัวเลขงบประมาณด้านกลาโหมของจีนจะมีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการในงบประมาณแห่งชาติที่จะเปิดเผยในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งจะเป็นวันเริ่มต้นการประชุมประจำปี 2566 ของเอ็นพีซี และจะเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิดของประเทศเพื่อนบ้านจีน รวมถึงสหรัฐ เพราะเป็นมาตรวัดว่าจีนจะเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางทหารมากเพียงใด การประชุมประจำปีจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 13 มีนาคม โดยมีผู้แทนจากทั่วประเทศมาร่วมประชุม.-สำนักข่าวไทย

โตเกียว 1 ก.พ.- เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) กล่าวชมญี่ปุ่นที่มีแผนการจะเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมเป็น 2 เท่าว่า เป็นการสะท้อนว่าญี่ปุ่นมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มบทบาทด้านความมั่นคงในโลกที่เปราะบาง นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโตกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยเคโอในกรุงโตเกียวระหว่างเยือนญี่ปุ่นในวันนี้ว่า การที่ญี่ปุ่นหันมาให้ความสนใจเรื่องความมั่นคงทำให้ญี่ปุ่นเป็นมากกว่าหุ้นส่วนด้านสันติภาพ เขายินดีที่ญี่ปุ่นกำลังจัดเตรียมงบประมาณให้ถึงเกณฑ์ของนาโต ด้วยการจัดสรรงบกลาโหมไว้ที่ร้อยละ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศประเทศหรือจีดีพี (GDP) แสดงให้เห็นว่า ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับประเด็นความมั่นคงสากล เลขาธิการนาโตกล่าวด้วยว่า ในโลกที่อันตรายมากขึ้นนี้ ญี่ปุ่นสามารถพึ่งพานาโตได้ ที่ผ่านมาญี่ปุ่นกำหนดงบกลาโหมไว้ไม่เกินร้อยละ 1 ของจีดีพีมาหลายทศวรรษ แต่รัฐบาลนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ได้อนุมัติยุทธศาสตร์ความมั่นคงใหม่ในปี 2565 หนึ่งในนั้นคือการเพิ่มงบกลาโหมเป็นร้อยละ 2 ของจีดีพีภายในปีงบประมาณ 2570 ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากจีน เกาหลีเหนือ และสงครามรัสเซียในยูเครนกระตุ้นให้ประชาชนในญี่ปุ่นสนับสนุนการเพิ่มงบด้านทหาร.-สำนักข่าวไทย

ไทเป 18 ม.ค.- ไต้หวันแจ้งว่า เศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนหดตัวรายไตรมาสมากที่สุดนับจากวิกฤตการเงินโลกในปี 2552 สำนักงานงบประมาณ การบัญชีและสถิติของไต้หวันเปิดเผยตัวเลขเบื้องต้นในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ลดลงร้อยละ 0.86 จากไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 เป็นการลดลงครั้งแรกนับจากไตรมาสปี 2559 และหดตัวรายไตรมาสมากที่สุดนับจากวิกฤตการเงินโลกในปี 2552 อีกทั้งยังย่ำแย่กว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ในเดือนพฤศจิกายนว่า จีดีพีไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.52 สำนักงานฯ ระบุว่า แรงกดดันจากเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทั้งสองอย่างยังคงกดดันความต้องการบริโภคทั่วโลก นอกจากนี้สถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ระบาดมากขึ้นในจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไต้หวัน  ยังกระทบต่อการบริโภคและการผลิตด้วย ยอดส่งออกของไต้หวันในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ลดลงถึงร้อยละ 8.63 จากไตรมาสเดียวกันปี 2564 เฉพาะการส่งออกไปจีนและฮ่องกงลดลงมากถึงร้อยละ 15.6 ส่วนจีดีพีปี 2565 ทั้งปีคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.43 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.06.-สำนักข่าวไทย