อียูยกระดับคว่ำบาตร หลังรัสเซียบุกยูเครน
สหภาพยุโรป ยกระดับคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจรอบใหม่ต่อรัสเซีย อายัดทรัพย์สินของรัสเซียและระงับไม่ให้ธนาคารรัสเซียเข้าถึงตลาดการเงินยุโรป
สหภาพยุโรป ยกระดับคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจรอบใหม่ต่อรัสเซีย อายัดทรัพย์สินของรัสเซียและระงับไม่ให้ธนาคารรัสเซียเข้าถึงตลาดการเงินยุโรป
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียประกาศเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย พร้อมเตือนภาคธุรกิจเตรียมรับมือการโจมตีทางไซเบอร์
โตเกียว 23 ก.พ. – นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ลงนามรับรองเอกราชรัฐอิสระ 2 แห่งในยูเครน เมื่อวันอังคาร โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของยูเครน และฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศอย่างที่ไม่สามารถยอมรับได้ นายกรัฐมนตรีคิชิดะ เผยวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย เช่น การห้ามออกพันธบัตรรัสเซียในญี่ปุ่น คำสั่งอายัดทรัพย์สินของชาวรัสเซียเป็นรายบุคคล รวมถึงคำสั่งห้ามเดินทางเข้าญี่ปุ่นเป็นรายบุคคล และจะประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การกระทำของรัสเซียเป็นการทำลายอำนาจอธิปไตยของยูเครนและละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน ญี่ปุ่นขอประณามการกระทำดังกล่าวและเรียกร้องให้รัสเซียกลับไปใช้วิธีทางการทูตเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตในครั้งนี้ ญี่ปุ่นมองว่าสถานการณ์ระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังคงอยู่ในระดับรุนแรงและจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป นายกรัฐมนตรีคิชิดะ ยังระบุว่า หากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น เขาจะพิจารณาใช้มาตรการที่เป็นไปได้ทั้งหมด เพื่อลดผลกระทบต่อภาคธุรกิจและครัวเรือน ญี่ปุ่นจะยังคงประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือจี 7 และประชาคมโลก หากสถานการณ์ระหว่างรัสเซียกับยูเครนย่ำแย่ลง ญี่ปุ่นจะรีบหาทางออกมาตรการเพื่อรับมือต่อไปในอนาคต.-สำนักข่าวไทย
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ แถลงแจกแจงมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ และกล่าวถึงสถานการณ์ในยูเครนขณะนี้ว่า เป็นการเริ่มต้นการรุกรานของรัสเซีย
บรัสเซลส์ 22 ก.พ. – สหภาพยุโรป หรืออียู ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐบาลทหารเมียนมาเพิ่ม 22 คน และบริษัทอีก 4 แห่งที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา อียูระบุในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ได้ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐบาลทหารเมียนมาเพิ่ม 22 คน และบริษัทอีก 4 แห่งที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา ทำให้ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลทหารเมียนมา 65 รายที่ถูกอียูขึ้นบัญชีอายัดทรัพย์สินและระงับวีซ่า รวมถึงบริษัททั้งหมด 10 แห่งที่ถูกขึ้นบัญชีเดียวกันนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อน แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า กลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐบาลทหารเมียนมาที่ถูกคว่ำบาตรในครั้งนี้มีรายชื่อของคณะรัฐมนตรีกระทรวงการลงทุน กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงสารสนเทศ รวมถึงเจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งและสมาชิกระดับสูงของกองทัพเมียนมา นอกจากนี้ ยังมีรายชื่อของบริษัทพลังงานและเหมืองแร่ของรัฐบาลทหารเมียนมา 2 แห่ง และบริษัทเอกชนอีก 2 แห่งที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลทหารรวมอยู่ในบัญชีดังกล่าวด้วย อียูระบุว่า รู้สึกวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องในเมียนมาที่ยืดเยื้อจนส่งผลกระทบที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในระดับภูมิภาค และย่ำแย่ลงอย่างมากนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อเหตุรัฐประหาร ทั้งยังเน้นย้ำถึงข้อเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมายุติการสู้รบ หยุดใช้กำลังข่มเหงอย่างไม่เป็นธรรม และยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งหมดในทันที. -สำนักข่าวไทย
ลอนดอน 22 ก.พ. – รัฐบาลอังกฤษระบุว่า จะใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ตัดสินใจลงนามรับรองภูมิภาคที่แยกตัวจากยูเครนของกลุ่มกบฏทางตะวันออกของยูเครนให้เป็นรัฐอิสระ นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษ ยืนยันว่า อังกฤษจะประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในวันนี้ เพื่อตอบโต้ที่รัสเซียละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและโจมตีอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน ขณะที่พันธมิตรชาติตะวันตก เช่น สหรัฐ ฝรั่งเศส และสหภาพยุโรป ต่างออกแถลงการณ์ในลักษณะเดียวกันกับอังกฤษ โดยตำหนิการกระทำของประธานาธิบดีปูตินและยืนยันว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเช่นกัน ด้านบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี คาดการณ์ว่า มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวจะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างข้อจำกัดต่อบุคคลและองค์กรที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลรัสเซีย การลงนามรับรองภูมิภาคที่แยกตัวจากยูเครนของกลุ่มกบฏทางตะวันออกของยูเครนให้เป็นรัฐอิสระของประธานาธิบดีปูตินมีขึ้นก่อนที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ จะเป็นประธานจัดประชุมคณะทำงานตอบโต้ภาวะฉุกเฉินในเวลา 06.30 น. ของวันนี้ตามเวลาในอังกฤษ หรือตรงกับเวลา 13.30 น. ตามเวลาประเทศไทย โฆษกทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เผยว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดในยูเครนและการรับมือต่อสถานการณ์ในยูเครนของอังกฤษ เช่น การลงมติคว่ำบาตรรัสเซียในทันที. -สำนักข่าวไทย
เบอร์ลิน 13 ก.พ.- นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนีออกเดินทางไปยูเครนและรัสเซียแล้ว หวังช่วยคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียด หลังจากเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของตะวันตกเตือนว่า รัสเซียเตรียมบุกยูเครนในเร็ว ๆ นี้ นายกรัฐมนตรีชอลซ์จะเดินทางถึงกรุงเคียฟของยูเครนในวันจันทร์และกรุงมอสโกของรัสเซียในวันอังคารเพื่อพบกับผู้นำของทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ดี ก่อนออกเดินทางเขาได้เตือนรัสเซียด้วยการแถลงต่อวุฒิสภาเยอรมนีเมื่อวันศุกร์ว่า เยอรมนีมีหน้าที่สร้างความมั่นใจว่าจะสามารถป้องกันการเกิดสงครามในยุโรป จึงได้ส่งสารชัดเจนไปยังรัสเซียแล้วว่า การรุกรานทางทหารใด ๆ จะมีผลใหญ่หลวงต่อรัสเซีย เยอรมนีมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับพันธมิตร และขณะเดียวกันก็จะใช้โอกาสทั้งหมดเพื่อการเจรจาและทำให้เกิดความคืบหน้า นายกรัฐมนตรีชอลซ์ย้ำมาโดยตลอดเรื่องรัสเซียจะต้อง “จ่ายราคาแพง” หากรุกรานยูเครน แต่รัฐบาลของเขาปฏิเสธคำขอให้ส่งอาวุธร้ายแรงไปยังยูเครน และไม่เคยระบุชัดเจนว่าจะสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในเรื่องใด ทำให้ถูกวิจารณ์ทั้งในและต่างประเทศว่ามีความมุ่งมั่นที่จะเผชิญหน้ากับรัสเซียหรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ความลังเลของเยอรมนีส่วนหนึ่งอาจมาจากบทเรียนเมื่อครั้งเยอรมนีรุกรานยุโรปในสงครามโลกทั้งสองครั้ง ทำให้ผู้นำเยอรมนีหลังสงครามทุกคนเลือกใช้การตอบโต้ทางทหารเป็นทางเลือกสุดท้าย นอกจากนี้เยอรมนียังมีท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 เป็นเดิมพันสำคัญ เพราะสหรัฐขู่เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า หากรัสเซียรุกรานยูเครน รัสเซียจะไม่สามารถส่งออกก๊าซธรรมชาติผ่านท่อนี้ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จแต่ยังไม่เปิดดำเนินการ มาตรการนี้จะทำให้รัสเซียสูญเสียทางเศรษฐกิจ และจะทำให้เยอรมนีขาดแคลนก๊าซไปด้วย ขณะที่ประเทศอื่นในยุโรปไม่ได้รับผลกระทบมากนักเพราะมีแหล่งก๊าซจากที่อื่น.-สำนักข่าวไทย
เปียงยาง 8 ก.พ.- สมัชชาประชาชนสูงสุดหรือรัฐสภาของเกาหลีเหนือประกาศจะพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน ในขณะที่กำลังต่อสู้อย่างไม่ท้อถอยต่อมาตรการคว่ำบาตรจากนานาประเทศและการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า รัฐสภาได้เปิดการประชุมวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ เพื่ออนุมัติงบประมาณและร่างกฎหมายเรื่องการดูแลเด็กและการคุ้มครองชาวเกาหลีเหนือในต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีคิม ต็อกฮุน แถลงต่อรัฐสภาว่า ต้องการทำให้พื้นฐานของแผนเศรษฐกิจระยะ 5 ปีมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ด้วยการให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมโลหะและเคมี ปีที่แล้วเกาหลีเหนือเผชิญความยากลำบากและปัญหาซับซ้อนมากกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากกองกำลังปรปักษ์ยังคงใช้มาตรการคว่ำบาตร และเกิดวิกฤตสาธารณสุขโลก แต่เกาหลีเหนือจะต่อสู้อย่างไม่ท้อถอยเพื่อให้เศรษฐกิจประเทศเข้าสู่การพัฒนาครั้งใหม่ และยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชน เขาจะเพิ่มความพยายามในการฟื้นฟูการค้า และเพิ่มการผลิตธัญพืชเพื่อให้การปันส่วนอาหารกลับมาสู่ระดับปกติ โดยระบุว่า เนื้อสัตว์ ไข่ ผักผลไม้ เห็ด ผลิตภัณฑ์นม และพืชให้น้ำมันคืออาหารจำเป็นของประชาชน ด้านนายโก จงบอม รัฐมนตรีคลังเกาหลีเหนือแถลงรายละเอียดงบประมาณปีนี้ ที่รวมถึงการเพิ่มงบประมาณรายจ่ายในการรับมือกับโรคโควิด-19 ระบาดและการป้องกันการระบาดเร่งด่วนขึ้นร้อยละ 33.3 จากงบประมาณปีก่อน และจัดสรรงบประมาณร้อยละ 15.9 ให้แก่กลาโหม ซึ่งเป็นสัดส่วนเดียวกับเมื่อปีก่อน เคซีเอ็นเอรายงานด้วยว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือไม่ได้เข้าประชุมดังกล่าวที่มีนายโช รยง แฮ คนสนิทของเขาที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำรัฐสภาเป็นประธานการประชุม.-สำนักข่าวไทย
โตเกียว 26 ม.ค.- เอกอัครราชทูตยูเครนประจำญี่ปุ่นคาดหวังว่า ญี่ปุ่นจะแสดงบทบาทร่วมกับนานาชาติมากขึ้นเรื่องการหาทางคลี่คลายความตึงเครียดทางทหารระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และไม่คิดว่าความตึงเครียดนี้จะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ นายเซอร์กี คอร์ซันสกี เอกอัครราชทูตยูเครนประจำญี่ปุ่นกล่าวที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งญี่ปุ่นในกรุงโตเกียววันนี้ว่า เขาคาดหวังว่าญี่ปุ่นจะร่วมกับสมาชิกชาติอื่น ๆ ในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำหรือจี 7 (G7) หาทางแก้ไขความตึงเครียดดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางทหารและสนับสนุนการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยในยูเครนอย่างสันติ เขาเชื่อว่า ญี่ปุ่นสามารถมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นสมาชิกจี 7 ชาติเดียวที่อยู่ในเอเชีย และเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่คว่ำบาตรรัสเซีย หลังจากรัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนเป็นของตนในปี 2557 นอกจากนี้ยังเป็นที่น่ายินดีที่นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นและประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้หยิบยกสถานการณ์ยูเครนขึ้นหารือระหว่างการประชุมสุดยอดแบบเสมือนจริงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำญี่ปุ่นกล่าวด้วยว่า ไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ว่ายูเครนและรัสเซียจะทำสงครามกันเต็มรูปแบบ แต่อาจมีความขัดแย้งระดับท้องถิ่นหลายครั้ง ขอย้ำว่ายูเครนไม่คุกคามใคร และไม่เคยคิดโจมตีรัสเซีย ยูเครนยึดมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อการหาทางออกทางการทูต แต่ขณะเดียวกันชาวยูเครนก็มีความเด็ดเดี่ยวที่จะต่อสู้กับรัสเซียหากจำเป็น.-สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 26 ม.ค.- บริษัทขนาดใหญ่และกลุ่มธุรกิจเตือนรัฐบาลและสมาชิกสภาสหรัฐให้มีความรอบคอบ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรก่อผลเสียหายร้ายแรงต่อรัสเซีย หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียรุกรานยูเครน นายเจค โคลวิน ประธานสภาการค้าต่างประเทศแห่งชาติของสหรัฐซึ่งเป็นตัวแทนบรรษัทใหญ่ของสหรัฐที่ทำธุรกิจในรัสเซียกล่าวว่า รัฐบาลและรัฐสภาจะต้องมีรายละเอียดข้อมูลที่ถูกต้อง ในกรณีที่ต้องทำตามคำขู่เรื่องคว่ำบาตรรัสเซีย รายละเอียดดังกล่าวครอบคลุมเรื่องการพิจารณาถึงหลักการข้อยกเว้นความรับผิดและช่วงเวลาทยอยปิดตัว เพื่อให้ธุรกิจสามารถทำตามสัญญาและระเบียบที่มีอยู่ และการยกเว้นการคว่ำบาตรต่อเวชภัณฑ์ช่วยชีวิตและสิ่งจำเป็นด้านมนุษยธรรมอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับนโยบายที่มีมายาวนานของสหรัฐ ที่ปรึกษาสมาชิกรัฐสภาสหรัฐคนหนึ่งเผยว่า บริษัทพลังงานหลายแห่งได้เข้าพบสมาชิกรัฐสภาโดยตรง เรียกร้องให้มีช่วงเวลาทยอยปิดตัว เพื่อไม่ให้ทรัพย์สินของบริษัทต้องถูกริบ ในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงทางธุรกิจในรัสเซีย นายวิลเลียม ไรนช์ อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอธิบายว่า ปกติแล้วการคว่ำบาตรการส่งออกจะทยอยทำเป็นขั้นตอนเพื่อให้ธุรกิจมีเวลาปิดตัว หรือแน่ใจว่าสินค้าส่งออกไปถึงที่หมายแล้ว แต่ในกรณีนี้สหรัฐอาจทำแบบกะทันหันเพราะกำลังอยู่ท่ามกลางวิกฤต ส่วนหลักการข้อยกเว้นความรับผิดที่จะคุ้มครองธุรกิจไม่ให้ต้องรับผิดทางกฎหมายหากละเมิดมาตรการคว่ำบาตรนั้น จะเป็นไปได้ต่อเมื่อเข้าเกณฑ์บางอย่าง เช่น ยืนยันว่าสินค้าถูกขนส่งไปยังประเทศที่ถูกคว่ำบาตรโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยอาจส่งจากประเทศที่สาม ข้อมูลของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐระบุว่า สหรัฐมีการค้าสินค้าและบริการกับรัสเซียมูลค่าราว 34,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.15 ล้านล้านบาท) ในปี 2562.-สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 13 ม.ค.- รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรก หลังจากเกาหลีหนือทดสอบขีปนาวุธหลายครั้ง รวมถึงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง 2 ครั้งตั้งแต่ต้นเดือนนี้ กระทรวงคลังสหรัฐแถลงว่า จะใช้มาตรการลงโทษชาวเกาหลีเหนือ 6 คน ชาวรัสเซีย 1 คน และบริษัทรัสเซีย 1 แห่ง ด้วยการอายัดทรัพย์สินที่อยู่ในสหรัฐ และห้ามธุรกิจอเมริกันติดต่อข้องเกี่ยวด้วย เนื่องจากเป้าหมายทั้ง 7 รายนี้จัดหาสินค้าจากรัสเซียและจีนเพื่อใช้ในโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ มาตรการนี้มุ่งขัดขวางไม่ให้โครงการอาวุธของเกาหลีเหนือมีความคืบหน้าและมุ่งขัดขวางใม่ให้เกาหลีเหนือแพร่ขยายเทคโนโลยีด้านอาวุธ หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวแล้ว 6 ครั้งตั้งแต่เดือนกันยายนปีก่อน เป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) ที่ห้ามเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวและทดสอบนิวเคลียร์ สหรัฐยังได้เสนอให้ยูเอ็นเอสซีขึ้นบัญชีดำเป้าหมายที่เป็นบุคคล 5 คน แต่ต้องได้รับความเห็นชอบด้วยเสียงเอกฉันท์จากคณะกรรมการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของยูเอ็นเอสซี ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า สหรัฐยังคงยึดมั่นเรื่องเดินหน้าวิถีทางการทูตกับเกาหลีเหนือ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันมานี้ตอกย้ำความเชื่อของสหรัฐที่ว่า หากต้องการความคืบหน้าจำเป็นต้องใช้การเจรจา นายแอนโทนี รุกเจียโร ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการคว่ำบาตรในรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ไม่สามารถกดดันให้เกาหลีเหนือระงับโครงการนิวเคลียร์ทั้งที่มีการประชุมสุดยอดกันถึง 2 ครั้ง แสดงความเห็นต่อการที่รัฐบาลไบเดนใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่งเมือเดือนมกราคม 2564 ว่า เป็นการเริ่มต้นที่ดี และจำเป็นต้องเดินหน้ากดดันรัฐบาลนายคิม จองอึนของเกาหลีเหนือต่อไป.-สำนักข่าวไทย
ปักกิ่ง 29 ธ.ค.- จีนเสียดสีสหรัฐที่ยื่นขอวีซ่าให้เจ้าหน้าที่สหรัฐมาร่วมโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่กรุงปักกิ่งเป็นเจ้าภาพ ทั้งที่เคยประกาศจะคว่ำบาตรทางการทูตต่อการแข่งขันดังกล่าว โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวระหว่างแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐอ้างว่าจะไม่ส่งตัวแทนทางการทูตหรือตัวแทนเจ้าหน้าที่มาร่วมโอลิมปิกในเดือนกุมภาพันธ์ แต่อีกด้านหนึ่งกลับยื่นขอวีซ่าให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐ ไม่ว่าสหรัฐจะชี้แจงอย่างไร ความจริงก็แสดงให้เห็นอยู่แล้ว โฆษกจีนยังขอให้รัฐบาลสหรัฐหยุดใช้คำพูดและการกระทำผิด ๆ ที่อาจก่อกวนโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 หนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ในฮ่องกงรายงานเมื่อต้นเดือนนี้ว่า จีนยืนยันว่าได้รับคำร้องขอวีซ่าจากเจ้าหน้าที่สหรัฐที่เตรียมจะเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งจะเปิดฉากในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ รายงานระบุด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐได้ยื่นขอวีซ่าระยะเวลา 3 เดือนให้แก่บุคคล 18 คน ที่จะทำหน้าที่สนับสนุนการรักษาความปลอดภัยในการแข่งขัน.-สำนักข่าวไทย