อังกฤษว่าตาลีบันแตกต่างไปจากเดิม
กองทัพอังกฤษระบุวันนี้ว่า ทั่วโลกควรเปิดโอกาสให้กลุ่มตาลีบันจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในอัฟกานิสถาน และอาจพบว่าพวกเขากลายเป็นผู้ที่ใช้เหตุผลมากขึ้น
กองทัพอังกฤษระบุวันนี้ว่า ทั่วโลกควรเปิดโอกาสให้กลุ่มตาลีบันจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในอัฟกานิสถาน และอาจพบว่าพวกเขากลายเป็นผู้ที่ใช้เหตุผลมากขึ้น
เจ้าหน้าที่ของกลุ่มตาลีบันระบุวันนี้ว่า แกนนำกลุ่มตาลีบันจะเปิดเผยตัวต่อคนทั้งโลก และจะไม่ใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อนอยู่ในเงามืดเหมือนในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาอีกต่อไป
นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดาระบุว่า รัฐบาลแคนาดายังไม่มีแผนที่จะยอมรับกลุ่มตาลีบันเป็นรัฐบาลที่ชอบธรรมของอัฟกานิสถาน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ มีคะแนนนิยมเหลือเพียงร้อยละ 46 ในการสำรวจความคิดเห็นประชาชนอเมริกันล่าสุด ลดลงจากร้อยละ 53 ในการสำรวจครั้งก่อน และถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐ
คาบูล 17 ส.ค. – กลุ่มตาลีบันแถลงอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยึดกรุงคาบูลว่า พวกเขาต้องการความสัมพันธ์ที่สงบสุขกับประเทศอื่น ๆ และจะเคารพสิทธิสตรีภายใต้กรอบกฎหมายอิสลาม โฆษกของกลุ่มตาลีบันกล่าวว่า พวกเขาไม่ต้องการศัตรูทั้งในและนอกประเทศ สตรีในอัฟกานิสถานจะได้รับอนุญาตให้ทำงาน เข้าเรียน รวมถึงการเคลื่อนไหวในสังคม แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายอิสลาม กลุ่มตาลีบันระบุว่า นายอับดุล กานี บาราดาร์ หนึ่งในแกนนำและผู้ก่อตั้งกลุ่มตาลีบัน ได้เดินทางกลับมายังอัฟกานิสถานเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี ก่อนหน้านี้ นายบาราดาร์ถูกจับกุมในปี 2553 แต่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำในปี 2561 ตามคำขอของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เพื่อให้เขามีส่วนร่วมในการเจรจาสันติภาพ ทั้งนี้ ในช่วงที่กลุ่มตาลีบันปกครองอัฟกานิสถานในปี 2539-2544 พวกเขาได้นำกฎหมายชารีอะห์ของอิสลามมาใช้ ทำให้สตรีไม่มีสิทธิทำงาน และเด็กผู้หญิงไม่ได้รับอนุญาตให้ไปโรงเรียน นอกจากนี้ สตรีในอัฟกานิสถานยังต้องสวมผ้าคลุมแบบอิสลามตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าโดยเว้นเพียงดวงตาเมื่ออยู่นอกบ้าน และจะออกข้างนอกได้ก็ต่อเมื่อมีญาติผู้ชายอยู่ด้วยเท่านั้น ในขณะเดียวกัน สหรัฐและชาติตะวันตกเริ่มกลับมาเปิดเที่ยวบินอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตและพลเรือนอีกครั้งเมื่อวานนี้ หลังเกิดเหตุชุลมุนที่สนามบินคาบูลเมื่อวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐเผยว่า เที่ยวบินของกองทัพสหรัฐอพยพชาวอเมริกันออกจากกรุงคาบูลได้ราว 1,100 คนเมื่อวานนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษระบุว่า พวกเขาตกลงที่จะจัดการประชุมผ่านระบบออนไลน์ของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือจี […]
รัฐบาลเยอรมนีเผยวันนี้ว่า เที่ยวบินแรกของกองทัพเยอรมนีที่ลงจอดในสนามบินคาบูลนับตั้งแต่กลุ่มตาลีบันยึดกรุงคาบูล สามารถอพยพผู้คนมาได้เพียงแค่ 7 คน เนื่องจากเกิดเหตุชุลมุนขึ้นที่สนามบินดังกล่าว
อังกฤษเตือนกลุ่มตาลีบันว่า จะต้องไม่มีการใช้อัฟกานิสถานเป็นฐานในการโจมตีก่อการร้าย และระบุว่าชาติตะวันตกต้องพยายามเข้าไปมีอิทธิพลในทางบวกกับกลุ่มตาลีบันที่เข้ายึดอำนาจการบริหารประเทศหลังจากสหรัฐถอนกำลังทหารออกไป
เที่ยวบินของกองทัพที่ช่วยอพยพเจ้าหน้าที่การทูตและพลเรือนออกจากอัฟกานิสถานกลับมาทำการบินได้ตามปกติอีกครั้งในช่วงเช้ามืดวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้สลายฝูงชนหลายพันคนที่มารวมตัวกันบนลานบินเพื่อหนีออกนอกประเทศอย่างสิ้นหวังหลังกลุ่มตาลีบันยึดกรุงคาบูลได้แล้ว
เบอร์มิงแฮม 17 ส.ค. – มาลาลา ยูซาฟไซ เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพ ระบุว่า เธอรู้สึกวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน โดยเฉพาะความปลอดภัยของสตรีและเด็กผู้หญิง พร้อมเรียกร้องให้ผู้นำระดับโลกเร่งดำเนินการโดยด่วนเพื่อแก้สถานการณ์ดังกล่าว ยูซาฟไซ ชาวปากีสถานวัย 23 ปี กล่าวกับรายข่าวบีบีซี นิวส์ไนต์ ของบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ มีหลายสิ่งที่ต้องทำ และต้องดำเนินการอย่างกล้าหาญเพื่อปกป้องชาวอัฟกัน ขณะที่เธอกำลังพยายามติดต่อผู้นำระดับโลกหลายคนเพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากสถานการณ์ในอัฟกานิสถานเป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เร่งด่วนในตอนนี้ ซึ่งต้องได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุน ยูซาฟไซระบุเพิ่มเติมว่า เธอรู้สึกวิตกกังวลต่อสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน โดยเฉพาะความปลอดภัยของสตรีและเด็กผู้หญิง เธอได้พูดคุยกับนักเคลื่อนไหวจำนวนหนึ่งในอัฟกานิสถาน เช่น นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรี พวกเขาเล่าว่ากำลังวิตกกังวลเรื่องความไม่แน่ใจว่าชีวิตในอนาคตจะเป็นเช่นไร ยูซาฟไซยังกล่าวว่า เธอได้ส่งจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน ของปากีสถานเพื่อขอให้เขารับผู้ลี้ภัยชาวอัฟกันเข้าประเทศ และสร้างความมั่นใจว่าผู้ลี้ภัยทุกคนที่เป็นเด็กจะต้องได้รับการศึกษา ความปลอดภัย และการปกป้องเพื่อให้พวกเขามีอนาคตที่ดี ก่อนหน้านี้ ยูซาฟไซรอดชีวิตจากการถูกมือปืนชาวปากีสถานของกลุ่มตาลีบันยิงศีรษะในปี 2555 หลังจากที่เธอตกเป็นเป้าโจมตีจากโครงการต่อต้านคำสั่งห้ามผู้หญิงเข้ารับการศึกษา นอกจากนี้ เธอยังกลายเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่อายุ 11 ปีในฐานะนักเขียนที่ใช้นามแฝงให้กับบีบีซี โดยเขียนบล็อกเล่าเรื่องการใช้ชีวิตภายใต้การปกครองของกลุ่มตาลีบันในปากีสถาน ทั้งนี้ ยูซาฟไซได้ย้ายไปอังกฤษเพื่อเข้ารับการรักษาหลังถูกยิงที่ศีรษะ และเพิ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาปรัชญา […]
วอชิงตัน 17 ส.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐระบุว่า เขายังคงยืนยันอย่างหนักแน่นเรื่องการตัดสินใจถอนกองกำลังทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถาน พร้อมกับกล่าวโทษผู้นำการเมืองและความไม่เต็มใจสู้ของกองทัพอัฟกานิสถานว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มตาลีบันยึดอำนาจได้สำเร็จ ประธานาธิบดีไบเดนออกมาแถลงที่ทำเนียบขาวผ่านโทรทัศน์เป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นนับตั้งแต่กลุ่มตาลีบันประกาศยึดการปกครองอัฟกานิสถานว่า เขาโทษผู้นำการเมืองที่หลบหนีออกนอกประเทศและความไม่เต็มใจต่อสู้ของกองทัพอัฟกานิสถานที่ได้รับการฝึกโดยสหรัฐว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มตาลีบันยึดอำนาจการปกครองประเทศ เขายังเตือนผู้นำกลุ่มตาลีบันว่า จะต้องเผชิญกับพลังการทำลายล้างรุนแรง หากกลุ่มตาลีบันเข้าไปแทรกแซงการถอนกำลังทหารของสหรัฐ ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวเพิ่มเติมว่า เขาสนับสนุนการตัดสินใจถอนกำลังทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถานอย่างหนักแน่น หลังจากที่เขาเรียนรู้ว่าไม่เคยมีช่วงเวลาที่เหมาะสมในการถอนกำลังทหารสหรัฐตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ทั้งยังระบุว่า เขาได้เห็นภาพเหตุการณ์โกลาหลบางส่วนในกรุงคาบูลที่น่าสะเทือนใจ แต่ไม่ได้เริ่มสั่งอพยพผู้คนให้เร็วกว่านี้ เพราะประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ของอัฟกานิสถานไม่ต้องการให้มีการอพยพเป็นจำนวนมาก ประธานาธิบดีไบเดนยังกล่าวยอมรับว่า กลุ่มตาลีบันได้บุกยึดพื้นที่ของอัฟกานิสถานรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ การรุกคืบอย่างว่องไวของกลุ่มตาลีบันทำให้เจ้าหน้าที่ของสหรัฐประหลาดใจ เพราะคาดว่ากองทัพของอัฟกานิสถานจะขับไล่กลุ่มตาลีบันหรือยับยั้งพวกเขาไว้ได้เป็นเวลาหลายเดือน ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐกล่าวทิ้งท้ายว่า การตัดสินใจถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานเป็นผลมาจากที่เขาได้ให้คำมั่นกับกองทหารสหรัฐว่า จะไม่ขอให้ทหารสหรัฐเสี่ยงชีวิตต่อไปเพื่อสงครามที่ควรจะจบสิ้นมาตั้งนานแล้ว เขารู้ดีกว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่เขาขอน้อมรับทั้งหมดไว้เองดีกว่าที่จะส่งต่อการตัดสินใจนี้ให้ประธานาธิบดีคนต่อไป.-สำนักข่าวไทย
ปักกิ่ง 16 ส.ค. – จีนระบุวันนี้ว่า พร้อมกระชับความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมือกับอัฟกานิสถาน หลังกลุ่มตาลีบันได้ยึดอำนาจการปกครองอัฟกานิสถานแล้ว สำนักข่าว NDTV ของอินเดีย รายงานอ้างโฆษกหญิงของกระทรวงต่างประเทศจีนที่ระบุว่า กลุ่มตาลีบันได้แสดงความหวังหลายครั้งที่จะพัฒนาความสัมพันธ์อันดีกับจีน และต้องการให้จีนมีส่วนร่วมในการบูรณะและพัฒนาอัฟกานิสถาน จีนรู้สึกยินดีกับแนวทางดังกล่าว และเคารพสิทธิของประชาชนอัฟกันในการกำหนดชีวิตของตนได้อย่างอิสระ โดยที่จีนเต็มใจที่จะร่วมพัฒนาความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมือกับอัฟกานิสถานต่อไป โฆษกหญิงคนดังกล่าวยังเรียกร้องให้กลุ่มตาลีบันสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถถ่ายโอนอำนาจได้อย่างราบรื่น และรักษาคำมั่นที่จะจัดตั้งรัฐบาลอิสลามที่เปิดกว้างและครอบคลุม รวมทั้งรับรองความปลอดภัยของชาวอัฟกันและพลเมืองต่างชาติ ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า สถานทูตจีนประจำอัฟกานิสถานในกรุงคาบูล ยังคงเปิดทำการตามปกติ แม้รัฐบาลจีนได้สั่งอพยพพลเมืองจีนออกจากอัฟกานิสถาน เมื่อหลายเดือนก่อน ท่ามกลางสถานการณ์ความปลอดภัยที่เลวร้ายลง ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนเคยหวั่นเกรงว่า อัฟกานิสถานอาจกลายเป็นจุดรวมพลสำหรับชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ ที่มีแนวคิดแบ่งแยกดินแดนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน อย่างไรก็ดี ตัวแทนระดับสูงของกลุ่มตาลีบันได้พบปะกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน ที่เมืองเทียนจิน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เมื่อเดือนก่อน และให้คำมั่นว่า อัฟกานิสถานจะไม่ถูกใช้เป็นฐานทัพของกองกำลังติดอาวุธ ทำให้จีนยื่นมือสนับสนุนด้านเศรษฐกิจและการลงทุนเพื่อฟื้นฟูอัฟกานิสถาน. -สำนักข่าวไทย
ทาชเคนต์ 16 ส.ค.- เว็บไซต์ข่าวในอุซเบกิสถานรายงานว่า เครื่องบินทหารอัฟกันลำหนึ่งตกในพื้นที่ทางใต้สุดของอุซเบกิสถานที่ติดกับอัฟกานิสถาน เว็บไซต์ข่าว Gazeta.uz อ้างแหล่งข่าวและภาพที่ส่งต่อกันในแอปพลิเคชันสนทนาว่า เครื่องบินทหารอัฟกันตกในภูมิภาคซูร์คอนดาร์โย ทางใต้สุดของอุซเบกิสถานที่มีพรมแดนติดกับอัฟกานิสถาน พร้อมกับเผยแพร่ภาพถ่ายคณะเจ้าหน้าที่แพทย์กำลังดูแลชายคนหนึ่งที่สวมเครื่องแบบทหารอากาศ แหล่งข่าวเชื่อว่า ทหารอัฟกันอย่างน้อย 2 คนที่อยู่บนเครื่องบินลำนี้เช่นเดียวกันถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในเมืองเอกของภูมิภาคแล้ว ด้านสำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียอ้างกระทรวงกลาโหมอุซเบกิสถานว่า กำลังตรวจสอบรายงานเรื่องนี้อยู่ ข่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มตาลีบันบุกยึดกรุงคาบูลของอัฟกานิสถานได้เมื่อวันอาทิตย์ ขณะที่อุซเบกิสถานแจ้งในวันอาทิตย์ว่า ควบคุมตัวทหารอัฟกัน 84 นายที่ข้ามพรมแดนมาขอความช่วยเหลือทางการแพทย์.-สำนักข่าวไทย