เมียนมาประกาศเกณฑ์ทหารคนหนุ่มสาวทุกคน

ย่างกุ้ง 11 ก.พ.- รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศเกณฑ์ทหารคนหนุ่มสาวทุกคน ในช่วงที่กำลังหาทางควบคุมกองกำลังติดอาวุธในหลายพื้นที่ของประเทศที่ต่อสู้เพื่อให้ได้อำนาจปกครองตนเองมากขึ้น สื่อทางการเมียนมารายงานว่า  ชายอายุ 18-35 ปี และหญิงอายุ 18-27 ปี จะต้องเป็นทหารรับใช้ชาติ 2 ปี ส่วนผู้มีอาชีพพิเศษ เช่น แพทย์ อายุไม่เกิน 45  ปีจะต้องเป็นทหาร 3 ปี และสามารถขยายเป็นสูงสุด 5 ปีได้ในช่วงเวลาที่ใช้สถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ในขณะนี้ โฆษกรัฐบาลเผยกับสื่อทางการว่า หน้าที่ในการปกปักและปกป้องประเทศชาติไม่ได้เป็นของทหารเท่านั้น แต่ได้ขยายไปถึงพลเมืองทุกคน จึงอยากให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายการเกณฑ์ทหารนี้อย่างภาคภูมิใจ เมียนมามีกฎหมายการเกณฑ์ทหารตั้งแต่ปี 2553 แต่ยังไม่เคยบังคับใช้จนกระทั่งปัจจุบัน ผู้ไม่ไปรับการเกณฑ์ทหารจะถูกจำคุกสูงสุด 5 ปี นักวิเคราะห์ชี้ว่า กองทัพเมียนมาหรือทัตมาดอว์ (Tatmadaw) กำลังมีปัญหาในการหาทหารไปสู้รบ และได้เริ่มบังคับบุคลากรที่ไม่ได้สู้รบออกไปยังแนวหน้า เมียนมาตกอยู่ในภาวะโกลาหลตั้งแต่กองทัพรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 และนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 กองทัพได้สูญเสียกำลังพลไปมากในการสู้รบกับกลุ่มชาติพันธุ์ 3 กลุ่มที่จับมือกันเป็นพันธมิตร รวมถึงกองกำลังเรียกร้องประชาธิปไตยที่จับอาวุธขึ้นสู้กับกองทัพ.-814.-สำนักข่าวไทย

เห็นชอบหลักการ ส่งเสริมกลุ่มชาติพันธุ์ได้รับสัญชาติไทย

“เสริมศักดิ์” เผย ครม.เห็นชอบหลักการกฎหมาย เตรียมส่งเสริมกลุ่มชาติพันธุ์ได้รับสัญชาติไทย ก่อนดูแลครบวงจร ดึงเป็น Soft Power ส่งเสริมการท่องเที่ยว

ทูตพิเศษอาเซียนคนใหม่ไปพบผู้นำเมียนมา

เนปิดอว์ 11 ม.ค.-สื่อทางการเมียนมารายงานวันนี้ว่า ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาได้ให้การต้อนรับทูตพิเศษอาเซียนคนใหม่ และหารือเรื่องความพยายามของเมียนมาในการสร้างหลักประกันให้แก่สันติภาพและเสถียรภาพของประเทศ หนังสือพิมพ์โกลบอลไลท์ออฟเมียนมารายงานว่า พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ประธานประธานสภาบริหารแห่งรัฐ ซึ่งเป็นรัฐบาลปัจจุบัน ได้ให้การต้อนรับนายอาลุนแก้ว กิตติคุน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของ สปป.ลาวในฐานะทูตพิเศษอาซียนคนใหม่ เนื่องจาก สปป.ลาวรับหน้าที่ประธานอาเซียนในปีนี้  ทั้ง 2 ได้หารือเรื่องความพยายามของรัฐบาลเมียนมาในการสร้างหลักประกันให้แก่สันติภาพและเสถียรภาพของเมียนมาและความปรองดองแห่งชาติ ผู้นำเมียนมากล่าวว่า รัฐบาลกำลังปฏิบัติตามฉันทามติ 5 ประการของอาเซียนที่ปรับให้สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานของสภาบริหารแห่งรัฐ เมียนมาเกิดเหตุรุนแรงอย่างไม่หยุดหย่อน นับตั้งแต่กองทัพรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และแทบไม่มีความคืบหน้าในการปฏิบัติตามฉันทามติที่อาเซียนและเมียนมาตกลงกันในเดือนเมษายนปีเดียวกัน ล่าสุดสถานการณ์รุนแรงยิ่งขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2566 เมื่อกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธหลายกลุ่มพร้อมใจกันโจมตีกองทัพด้วยการยึดที่ตั้งทางทหารและเมืองการค้าสำคัญบริเวณพรมแดนติดกับจีน.-814.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเมียนมาขอให้กลุ่มชาติพันธุ์ใช้การเมืองหาทางออก

ย่างกุ้ง 5 ธ.ค.- สื่อทางการเมียนมารายงานวันนี้ว่า พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่ายของเมียนมาเรียกร้องให้กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่กำลังสู้รบกับกองทัพทั่วประเทศ หาทางออกด้วยวิถีทางการเมือง หนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมารายงานว่า พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่ายเตือนว่า หากองค์กรติดอาวุธยังคงโง่เขลาต่อไป ผู้อาศัยในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องจะได้รับผลกระทบที่เลวร้าย ดังนั้นองค์กรเหล่านี้จึงต้องคำนึงถึงชีวิตของประชาชน และต้องหาทางแก้ไขปัญหาด้วยวิถีทางการเมือง เมียนมามีกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธมากกว่าสิบกลุ่ม ส่วนใหญ่ยึดครองดินแดนบริเวณชายแดน และสู้รบกับกองทัพตั้งแต่ประเทศได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 2491 กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ 3 กลุ่มจับมือกันเปิดฉากโจมตีที่ตั้งทางทหารทั่วรัฐฉาน ทางเหนือของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคมในปฏิบัติการ Operation1027 ยึดเมืองและแหล่งการค้าสำคัญบริเวณชายแดนด้านติดกับจีน สหประชาชาติคาดว่า มีพลเรือนมากกว่า 250 คน เสียชีวิตจากปฏิบัติการดังกล่าว และมีคนพลัดถิ่นทั่วเมียนมามากกว่า 500,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย

กลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมาโจมตีด่านความมั่นคงของรัฐบาล

กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธในเมียนมาโจมตีด่านของกองกำลังความมั่นคงทางตะวันตกของประเทศ ในขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมายังคงประสบความยากลำบากในการรับมือกับการโจมตี

กลุ่มชาติพันธุ์ในรัฐฉานปิดถนนไปจีน ทำสินค้าแพง

ย่างกุ้ง 11 พ.ย.- เหตุกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธในรัฐฉานจับมือกันโจมตีกองทัพเมียนมาและปิดถนนสายสำคัญไปยังจีน 2 สาย ทำให้การค้าข้ามพรมแดนหยุดชะงัก ส่งผลให้สินค้าราคาแพงขึ้น รัฐบาลขาดรายได้จากภาษี และขาดการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ การสู้รบในรัฐฉาน ทางเหนือของเมียนมาดำเนินมา 2 สัปดาห์แล้ว และทำให้มีคนพลัดถิ่นเกือบ 50,000 คนตามข้อมูลของสหประชาชาติ ชาวเมืองมูเซ (Muse) ที่มีพรมแดนติดกับจีนเผยว่า ไม่มีรถบรรทุกสินค้าเข้ามาตั้งแต่เริ่มมีการสู้รบเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ทั้งที่ปกติจะเข้ามาวันละหลายร้อยคันเพื่อนำผักผลไม้ไปจีนและนำเครื่องใช้ไฟฟ้า ยา สินค้าอุปโภคบริโภคกลับมาจากจีน โดยได้ยินเสียงยิงปืนใหญ่และยิงปืนปะทะอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ชาวเมืองล่าเสี้ยว (Lashio) ซึ่งอยู่ห่างออกไป 160 กิโลเมตรเผยว่า ได้รับผลกระทบจากการสู้รบเรื่องสินค้าราคาแพงขึ้น ข้าวสาร 1 กระสอบได้ปรับราคาขึ้นจาก 160,000 จ๊าต (ราว 2,766 บาท) เป็น 190,000 จ๊าต (ราว 3,284 บาท) หากการสู้รบยืดเยื้อ พวกเขาจะยิ่งลำบาก ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เมียนมาระบุว่า ช่วงเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 ด่านข้ามแดนมูเซและด่านข้ามแดนชินฉ่วยฮ่อ (Chinshwehaw) เป็นช่องทางการค้าข้ามพรมแดนของเมียนมามากกว่า […]

เหตุสู้รบในรัฐฉานทำคนพลัดถิ่นเกือบ 50,000 คน

ย่างกุ้ง 10 พ.ย.- สหประชาชาติหรือยูเอ็นแจ้งว่า เหตุกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธหลายกลุ่มจับมือกันเปิดฉากโจมตีกองทัพเมียนมาในรัฐฉาน ทางเหนือของเมียนมาตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อน ทำให้มีคนพลัดถิ่นแล้วเกือบ 50,000 คน สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมยูเอ็นหรือยูเอ็นโอซีเอชเอ (UNOCHA) แถลงว่า นับจนถึงวันที่ 9 พฤศจิกายน มีคนเกือบ 50,000 คนในรัฐฉานถูกบังคับให้ต้องพลัดถิ่น ขณะที่บริการอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ในเมืองล่าเสี้ยว เมืองใหญ่ที่สุดที่อยู่ทางตอนเหนือของรัฐฉานไม่สามารถใช้การได้ เป็นอุปสรรคต่อการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อีกทั้งยังมีมาตรการจำกัดการเดินทางและการใช้เงินสดที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของกลุ่มบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (Ta’ang National Liberation Army) หรือ ทีเอ็นแอลเอ กองทัพอาระกัน (Arakan Army) หรือ เอเอ และ กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (Myanmar National Democratic Alliance Army) หรือ เอ็มเอ็นดีเอเอ ซึ่งรวมตัวกันเป็นกลุ่มพันธมิตรภราดรภาพ (The Brotherhood Alliance) อ้างเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนว่า สามารถยึดฐานที่ตั้งของกองทัพเมียนมาในรัฐฉานได้สิบกว่าแห่ง และปิดเส้นทางค้าสำคัญกับจีน ยูเอ็นโอซีเอชเอเผยด้วยว่า มีคนอีก 40,000 […]

จีนไม่พอใจที่มีคนจีนได้รับผลกระทบจากการปะทะกันในเมียนมา

จีนแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง หลังจากที่ระบุว่า มีชาวจีนได้รับผลกระทบจากการปะทะกันทางตอนเหนือของเมียนมา ระหว่างกองทัพของรัฐบาลทหารกับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ

จีนเรียกร้องเมียนมาให้ร่วมมือรักษาเสถียรภาพชายแดน

เจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงของจีนกล่าวเรียกร้องให้เมียนมาร่วมมือในการรักษาเสถียรภาพที่ชายแดนระหว่างทั้งสองประเทศ หลังจากกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่รบกับรัฐบาลทหารเมียนมา สามารถยึดฐานที่มั่น

เมียนมาประกาศโต้กลับกลุ่มชาติพันธุ์ในรัฐฉาน

ย่างกุ้ง 3 พ.ย.- ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเผยว่า กองทัพจะโต้กลับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่บุกโจมตีในรัฐฉาน ทางเหนือของประเทศ ยึดเมือง และปิดเส้นทางการค้ากับจีน หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมารายงานวันนี้ว่า พล.อ. อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ ซึ่งเป็นชื่อของรัฐบาลทหารเมียนมาที่ตั้งขึ้นหลังการรัฐประหารปี 2564 กล่าวต่อสมาชิกสภาบริหารแห่งรัฐว่า รัฐบาลจะรุกโต้กลับกลุ่มติดอาวุธ หลังจากสมาชิกของกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอางหรือปะหล่อง (TNLA) โจมตีค่ายความมั่นคงท้องถิ่นและสำนักงานระดับจังหวัดในเขตปกครองตนเองโกก้างในรัฐฉานที่มีพรมแดนติดกับจีน ผู้นำเมียนมายังได้กล่าวหากองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA) ในรัฐคะฉิ่นที่อยู่ถัดขึ้นไปทางเหนือของรัฐฉานว่า โจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งและฐานทัพ พร้อมกับเตือนว่ากองทัพจะตอบโต้คืน กองทัพเมียนมาสู้รบกับกลุ่มชาติพันธุ์ในหลายพื้นที่ของในรัฐฉานมาตั้งแต่วันที่ 27 ตุาคม นักวิเคราะห์มองว่า เป็นการท้าทายกองทัพครั้งใหญ่ที่สุดนับจากการรัฐประหารครั้งล่าสุด โฆษกรัฐบาลทหารเผยเมื่อวันพุธว่า กองทัพได้สูญเสียการควบคุมเมืองชินฉ่วยฮ่อ (Chinshwehaw) ของรัฐฉาน เมืองนี้มีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนานหรืออวิ๋นหนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ขณะที่จีนเรียกร้องเมื่อวันพฤหัสบดีให้หยุดยิงทันทีในรัฐฉาน ซึ่งมีโครงการสร้างรางรถไฟเชื่อมในข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางหรือบีอาร์ไอ (BRI) ของจีน.-สำนักข่าวไทย

“พิธา” ร่วมพิธีผูกข้อมือเดือนเก้า ชาวปกาเกอะญอ แห่รับวัดแทบแตก

วัดแทบแตก ชาวปกาเกอะญอ รอรับ “พิธา” ร่วมพิธีผูกข้อมือเดือนเก้า เจ้าตัวทักทายภาษากะเหรี่ยง ลั่นยังไม่ผูกข้อมือขวัญก็มาเต็มแล้ว ยันจะเป็นนักการเมืองไม่ทอดทิ้งกลุ่มชาติพันธุ์ เหตุเป็นจุดแข็ง มั่นใจคงเส้นคงวา เดินหน้าผลักดันกฎหมาย

1 2 3 4
...